บทที่ 743 ฉางโซ่วกลับสู่ภูเขา เสือดำเยี่ยมเยียนสหาย (3)
แผนการในความคิดที่ดีที่สุดก็คือ ให้เหล่าปีศาจเริ่มสร้างแรงกดดันต่อศาลสวรรค์และชูธงกบฏต่อสวรรค์เอง จากนั้นจึงจะมีเหตุผลและเป็นสมเหตุผลที่เขาจะจัดการเก็บเกี่ยวบุญด้วยตัวเอง
หากเปรียบเทียบความแข็งแกร่งและมรดกของเผ่าปีศาจในยามนี้ กับของเผ่าพันธุ์มนุษย์ทั้งมวลนั้น เผ่าปีศาจยังด้อยกว่าเผ่าพันธุ์มนุษย์มากนัก
ทว่าเมื่อเทียบกับศาลสวรรค์ที่เพิ่งก่อตั้งขึ้นแล้ว ก็ไม่อาจดูเบาพวกมันได้เลย
จากนั้นหลี่ฉางโซ่วก็นับเรื่องต่างๆ ที่เขาต้องจัดการในอีกไม่กี่สิบปีข้างหน้า
ศาลสวรรค์ได้คัดเลือกกองทหาร ทำแผนสังสารวัฏให้สำเร็จเสร็จสิ้น กำหนดเป้าหมายไปที่ลู่หยา ปกป้ององค์เง็กเซียน และเทพมารดาอย่างลับๆ และให้ศิษย์น้องหญิงของเขาเข้าใจถึงถึงความยากลำบากและภัยอันตรายต่างๆ ของโลก…
ตามหลักแล้ว เขาจะไม่คิดเริ่มวางแผนเรื่องเหล่านี้ก่อน
ตามกำหนดเวลาในช่วงเวลาของมหาทัณฑ์สวรรค์ปราบดาเทพ เขาก็ได้ปรากฏตัวขึ้นในดินแดนเทวะทักษิณแล้ว และเขายังได้รับการปกป้องจากพี่สาวข่งเชวี่ยน แค่กๆ สหายเต๋าข่งเชวี่ยนอีกด้วย
หลี่ฉางโซ่วเพียงต้องใช้เวลาของเขาและเตรียมการติดตามผลตามจังหวะของเขาเองเท่านั้น เขาไม่จำเป็นต้องกังวลอะไร
คนขาดสติ และคนช่างกังวล เป็นศัตรูตัวฉกาจของความมั่นคงที่สุด!
ต่อไปจากนี้ เขาจะพูดคุยกับศิษย์น้องหญิงโหย่วฉินก่อน แล้วดูว่า นางฝึกบำเพ็ญไปถึงขั้นใดแล้ว
ก่อนที่นางจะไปที่ศาลสวรรค์ เขาจะพยายามอย่างสุดกำลังเพื่อยกระดับฐานพลังของนางให้ไปสู่ขอบเขตเซียนเทียน
ใช่แล้ว… ข้ายังต้องจัดเตรียมการแสดงเพื่อให้โหย่วฉิน และเทพวารีแห่งศาลสวรรค์ได้กลายเป็นสหายกันอย่างเป็นทางการ
ด้วยวิธีนี้ ข้าก็จะสามารถให้ส้นเท้าและพื้นหลังที่แข็งแกร่งพอแก่นางได้
เพราะอย่างไรเสีย นางก็เป็นศิษย์น้องหญิงที่ไปศาลสวรรค์เพื่อช่วยเขา แน่นอนว่า เขาไม่อาจปฏิบัติไม่ดีต่อนางได้
“ผู้อาวุโส… ท่านผู้อาวุโส ท่านอยู่ที่นั่นหรือไม่?”
“หือ?”
หลี่ฉางโซ่วเลิกคิ้วขึ้น จากนั้นเขาก็เพ่งจิตสนใจส่วนใหญ่ มุ่งเน้นไปที่ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ที่ซ่อนตัวอยู่ที่พรมแดนระหว่างดินแดนเทวะทักษิณและดินแดนเทวะบูรพา
เขาแผ่ขยายสัมผัสเซียนรับรู้ของเขาออกไปและจับจ้องไปที่เคหาสน์ถ้ำของคู่รักเสือดำ
ในขณะนั้น ปีศาจน้ำ เหมียวเหมี่ยว กำลังเดินไปเดินมาที่หน้าถ้ำโดยถือยันต์หยกที่หลี่ฉางโซ่วมอบให้นางไว้ก่อนหน้านี้
เกิดเรื่องอันใดขึ้นที่นี่?
ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ของหลี่ฉางโซ่วลุกขึ้นยืนและตรวจสอบดูรูปลักษณ์ของเขา
หลังจากยืนยันแน่ใจได้แล้วว่า เขากำลังเผยรูปลักษณ์ของนักพรตเต๋าชราต่อคู่รักเสือดำแล้ว เขาก็รีบขี่เมฆพุ่งไป
สัมผัสเซียนรับรู้ของเขาตรวจจับได้ว่า ในขณะนี้ เสือดำกำลังหลับสนิทอยู่บนโต๊ะหินในถ้ำ
มีไหสุราเซียนอยู่รอบกายเขาสองไห และเห็นได้ชัดว่า เป็นฮูหยินของเขาที่ทำให้เขาเมา
สถานการณ์เช่นนี้ ภาพเหตุการณ์นี้…
หากเสือดำเห็นเช่นนี้ เขาคงคิดว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นระหว่าง “นักพรตเต๋าชราลู่หยา” กับปีศาจน้ำ เหมียวเหมี่ยว!
เมื่อเขามาถึงถ้ำ หลี่ฉางโซ่วก็ถามด้วยใบหน้านิ่งๆ ว่า “เหตุใดเจ้าถึงรีบตามหาข้า?
แล้วเหตุใดเจ้าถึงทำให้สามีของเจ้าเมา?”
ปีศาจน้ำโค้งคารวะให้และรีบตอบกลับว่า “สองสามวันมานี้ สามีของข้าคิดถึงท่านผู้เป็นเซียนแห่งสำนักบำเพ็ญเต๋าเจี๋ย เขายังถึงกับบอกว่าอยากไปเกาะเต่าทอง
จากนั้นข้าก็ถามเขาว่าเกิดอันใดขึ้น เขาก็บอกว่า เมื่อไม่นานมานี้ เขาคิดถึงสหายเก่าที่เกาะเต่าทองและอยากไปเยี่ยมเขา
เกาะเต่าทองเป็นสถานที่เต๋าแห่งสำนักบำเพ็ญเต๋าเจี๋ย มีเหล่าปรมาจารย์มากมายอยู่ที่นั่น ทว่าพวกเราเป็นเพียงปีศาจน้อยสองตนเท่านั้น
แล้วพวกเราจะกล้าไปเยือนที่นั่นได้อย่างไร? หากพวกเราเกิดไปล่วงเกินปรมาจารย์คนใดเข้า เช่นนั้นแล้ว พวกเราจะไม่เดือดร้อนแย่หรือ?
ผู้อาวุโส ท่านช่วยเกลี้ยกล่อมสามีของข้าได้หรือไม่?”
“ไม่เป็นไรหรอก” หลี่ฉางโซ่วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและขมวดคิ้ว “หากเขาอยากไปที่นั่น ก็ให้เขาไปเถิด”
ปีศาจน้ำขมวดคิ้วมุ่น และถามเบาๆ ว่า “ไม่เป็นไรหรือ?”
“แน่นอน ไม่มีอะไร” หลี่ฉางโซ่วดูรำคาญใจเล็กน้อย “เจ้ากับเขาเป็นสามีภรรยากัน พวกเจ้าทั้งสองคนควรจะหารือกันในเรื่องนี้เอง ข้าไม่ได้ขังพวกเจ้าเอาไว้ที่นี่
ข้าเพียงแค่รู้สึกว่าปากของสหายเต๋าเสือดำนั้น เป็นความสามารถที่สำคัญยิ่งสำหรับเผ่าปีศาจ ดังนั้นข้าจึงดูแลพวกเจ้ามาก
เหล่าเซียนบนเกาะเต่าทองนั้นล้วนมีเหตุผลและพูดจาไพเราะ หากสามีของเจ้าไม่ได้ปดเจ้า บางที เจ้าก็อาจจะได้รับผลประโยชน์บางอย่างบนเกาะเต่าทอง
จงอย่าได้รู้สึกต่ำต้อยเพราะภูมิหลังของเจ้าเป็นเผ่าปีศาจ แม้ตอนนี้เผ่าปีศาจจะไม่มีความสามารถทำอะไรได้ แต่มันก็เคยรุ่งโรจน์ในสมัยโบราณมาก่อน”
ปีศาจน้ำอดจะรู้สึกไม่สบายใจไม่ได้ นางกระซิบว่า “หากเขาไป ถึงอย่างไรข้าก็จะไม่ไป…”
“นี่เป็นเรื่องระหว่างพวกเจ้าสองสามีภรรยา” หลี่ฉางโซ่วโบกมือ และกล่าวว่า “ข้ายังมีเรื่องสำคัญบางอย่างที่ต้องทำ และจะไม่อยู่ที่นี่นาน เรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ หึ”
กล่าวจบ หลี่ฉางโซ่วก็ขี่เมฆจากไป ปีศาจน้ำอยากจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็ลังเล ทว่านางก็ทำได้เพียงโค้งคำนับและส่งเขาจากไปเท่านั้น
หลังจากถอนหายใจเบาๆ ออกมาแล้ว ปีศาจน้ำก็หันหลังกลับไปที่เคหาสน์ถ้ำ จากนั้นนางก็แบกเสือดำไปที่เตียงและเปิดใช้ค่ายกลคุ้มกันเคหาสน์ถ้ำ
เสือดำจะไปเกาะเต่าทองเพื่อเยี่ยมสหายหรือ?
มันจะก่อให้เกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ต่อมหาทัณฑ์สวรรค์ปราบดาเทพเยี่ยงใดกัน?
หลี่ฉางโซ่วครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง เขาสังหรณ์ใจเล็กน้อยว่า หากเสือดำเคลื่อนไหว มันจะสามารถปลุกปั่นโลกบรรพกาลได้อย่างแน่นอน
แต่เขาก็สามารถฉวยโอกาสนี้จัดการกับลู่หยาได้…
ความคิดของหลี่ฉางโซ่วยังคงขยายออกไปเรื่อยๆ แล้วดวงตาของเขาก็หรี่ลงช้าๆ พร้อมกับค่อยๆ คลี่ยิ้มออกมาทีละน้อย
……
สามวันต่อมา เสือดำก็ออกไปจากถ้ำจริงๆ
มันซ่อนตัวไปตลอดทางจนถึงทะเลบูรพา และมุ่งหน้าตรงไปยังเกาะเต่าทองที่ริมทะเลบูรพา
ทันทีที่เสือดำเคลื่อนไหว ศาลสวรรค์ก็ออกประกาศล่าปีศาจไปยังดินแดนเทวะทั้งห้าเพื่อไล่ตามล่าเศษซากของศาลปีศาจโบราณ นักพรตเต๋าลู่หยา โดยมีเหตุผลระบุเอาไว้ในตอนหลัง
ในประกาศได้กล่าวระบุเหตุผลว่า นักพรตเต๋าลู่หยามีสมบัติเวทที่เป็นภัยคุกคามต่อความสมดุลแห่งสวรรค์และปฐพี และจำเป็นต้องจับตัวลู่หยาและนำกลับสู่สวรรค์ให้เร็วที่สุด…
ทว่าเมื่อมีประกาศนี้ออกไป บรรดาสำนักเซียนมนุษย์ในดินแดนเทวะมัชฌิมาต่างก็มีปฏิกิริยาตอบสนองกันน้อยมาก และแทบไม่สนใจมันเลย
แม้ศาลสวรรค์จะเริ่มผงาดขึ้นมาแล้ว แต่ก็ยังขาดอิทธิพลมากเกินไป และไม่เป็นที่สนใจนัก พวกเขายังไม่มีการบรรยายถึงจ้าวผู้ปกครองแห่งอาณาจักรทั้งสาม
ทว่าเมื่อเผ่าปีศาจทั้งหมดได้ยินเรื่องนี้ พวกมันก็ก่นด่าสาปแช่งศาลสวรรค์ก่อน จากนั้นจึงค่อยจับประเด็นหลัก
นักพรตเต๋าลู่หยามีสมบัติที่เป็นภัยคุกคามต่อความสมดุลของแห่งสวรรค์และปฐพี!
นั่นไม่เลว?
ปรมาจารย์เผ่าปีศาจหลายตนต่างก็รู้สึกกดดันในศีรษะทันที และเหล่าปีศาจที่ชายแดนของดินแดนเทวะต่างๆ ก็ล้วนมีใจคักคึกฮึกเหิม
เหล่าปีศาจโบราณที่เพิ่งเกิดได้ไม่นานก็ออกมาจากภูเขาทีละตัวรอให้องค์รัชทายาทชูมือขึ้น!
ครั้นเมื่อตัวการร้ายในประกาศรู้ข่าวในเวลาต่อมา ทั้งหัวอีกาของเขาก็มึนงง
………………………………………………………………..