หลังจากที่เเฟนทิ้งผมไป จู่ๆสาวที่สวยที่สุดในโรงเรียนก็ลากคอผมไปที่บ้านซะงั้น – ตอนที่ 3 พากลับบ้าน (1)

หลังจากที่เเฟนทิ้งผมไป จู่ๆสาวที่สวยที่สุดในโรงเรียนก็ลากคอผมไปที่บ้านซะงั้น

[“…เเย่ที่สุด”]

ผมยืนอยู่หน้าร้านคาราโอเกะ

ถ้ามีผู้ชายเเพร่ข่าวลือว่าผมพา ฟุตาบะ เรย์นะ กลับบ้าน ผมไม่อยากจะนึกถึงจํานวนศัตรูที่ผมจะเจอที่โรงเรียนเลย

[“งั้น นายพาฉันไปบ้านของนายได้มั้ย?”]

ฟุตาบะ พูดอย่างใจเย็นจากนั้นเธอเอนตัวพร้อมกับหน้าอกอันอวบอิ่มเเสนยั่วยวนมาพิงกับเเขนของผม

[“จะพาไปได้ไงเล่า!”]

[“งั้นพวกเราไปโรงเเรมกันไหม?”]

[“ไม่ไปหรอก…ไม่ได้มีเงินเยอะขนาดนั้นซะด้วย”]

ขณะที่ผมลองล้วงดูเงินในกระเป๋ากางเกง ถึงกับต้องร้อง “อ๊ะ” ออกมา

[“ฉันลืมจ่ายส่วนแบ่งค่าคาราโอเกะไปเลย…”]

ผมวิ่งหนีออกมาโดยไม่ทันคิด ทําให้ผมลืมไปสนิท

ผมควรจะกลับไปที่นั่นเพื่อไปจ่ายเงินไหมนะ?

สถานที่ที่ผู้ชายสองคนได้รับผลกระทบทางจิตใจจากปากฟุตาบะ

[“ไม่เป็นไรหรอก คุณทานากะบอกว่าเขาเลี้ยงหน่ะ”]

[“งั้นเหรอ?”]

ถึงผมจะเป็นผู้ร่วมจัดงานนี้ขึ้นมาเเต่มาให้ผู้หญิงเลี้ยงมันดูเเปลกๆ…

ไม่สิ โชคดีที่ผมพาฟุตาบะออกมาจากสถานที่เเห่งนั้นเเละหวังว่าทานากะกับโชวจะไปได้สวย

คิดซะว่าเป็นรางวัลล่ะกัน

[“…เเล้วเธออยู่ท่านี้อีกนานไหม?”]

[“ทําไมล่ะ?”]

[“มันน่าอายไงเล่า!”]

หน้าอกอันอวบอิ่มของฟุตาบะกําลังสัมผัสกับเเขนของผม ทําให้จิตใจผมไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

ผมไม่สามารถอธิบายความรู้สึกออกมาเป็นคําพูดได้ เเต่มันรู้สึกดี ตัวเธอมีกลิ่นหอมเย้ายวนใจเเละถ้ายังเป็นเเบบนี้ต่อไปเรื่อยๆผมคิดว่าผมอาจคุมตัวเองไม่อยู่เเน่ๆ

อย่าลืมว่าเธอเป็นสาวที่สวยที่สุดในโรงเรียน

ผมสงบสติอารมณ์ไม่ได้เมื่ออยู่ใกล้ๆกับสิ่งๆนี้

ตอนที่ผมถูกเธอจูบเข้าให้ มันกระทันหันเกินไปจนผมทําอะไรไม่ถูก เเต่ในตอนนี้เพียงเเค่นึกถึงช่วงเวลานั้นขึ้นมาก็ทําให้หัวใจผมก็เต้นรัว

[“…งั้นเหรอ นายอายที่จะอยู่เคียงข้างฉันสินะ…”]

ฟุตาบะ รู้สึกเสียใจเเละพูดด้วยนํ้าเสียงอ่อนลง ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยนํ้าตาที่กําลังไหลรินออกมา

[“เอ๊ะ ฉันไม่ได้หมายความว่าเเบบนั้นสักหน่อย…”]

[“ชินเซย์…เกลียดฉันหรอ?”]

จู่ๆ เธอก็เรียกชื่อผมออกมา

เมื่อรวมกับสายตาเจ้าเล่ห์ของเธอฟุตาบะที่มองมาให้ผม ทําให้เธอรู้สึกน่ารักขึ้นมาทันทีทันใด

ไม่มีผู้ชายคนไหนที่จะเกลียดการถูกรักจากสาวสวยอย่างฟุตาบะหรอก

ถ้าให้ว่ากันตามตรงตอนนี้ อารมณ์ของผมรู้สึกไม่ค่อยคงที่สักเท่าไหร่หลังจากเลิกกับเรียไป

เเม้ว่าผมพยายามสงบสติอารมณ์ เเต่ฟุตาบะก็ไม่หยุดทําตัวน่ารําคาญใส่ผม

[“มะ ไม่ได้เกลียดสักหน่อย…”]

[“งั้น นายจะพาฉันกลับบ้านใช่ไหม?”]

[“เอ่อ…”]

[“งืออ…ชินเซย์ใจร้าย…”]

[“มะ..ไม่สักหน่อย”]

ลําบากเข้าเเล้ว ดูเหมือนผมจะใจอ่อนเป็นพิเศษเมื่อผู้หญิงพยายามทําตัวออดอ้อน

[“ถ้าเกิดว่านายไม่พาฉันไปที่กลับบ้าน พรุ่งนี้คงรู้สินะว่าจะเกิดอะไรขึ้นที่โรงเรียน?”]

ทันใดนั้น นํ้าเสียงของฟุตาบะก็ดูหนักขึ้นซึ่งเป็นการขู่เบาๆ

เเขนของผมถูกบีบรัดเเน่นขึ้นเเละเธอนําหน้าอกมาทับเเขนผม

เเกล้งร้องไห้งั้นหรอ?

การที่เธอไม่พูดเจาะจงว่าจะเกิดอะไรขึ้นที่โรงเรียนในวันพรุ่งนี้ ทําให้ผมรู้สึกหวั่นกลัวมากเข้าไปอีก

ผมไม่อยากจะคิดถ้าฟุตาบะเเฉเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ที่โรงเรียน

จากสถานการณ์ก่อนหน้านี้ ก่อนที่ผมจะออกมาจากบาร์คาราโอเกะ ผมรู้ว่ามันสายไปเเล้วเเต่ผมต้องการที่จะไม่ให้เรื่องนี้มันบานปลายไปมากกว่านี้

[“กะ…ก็ได้ เเต่ไปบ้านฉันไม่ได้นะ”]

[“ทําไมล่ะ?”]

[“ระหว่างทางกลับบ้าน อาจบังเอิญไปเจอเรียที่อาศัยอยู่ระเเวกนั้นก็ได้หน่ะ”]

ยังไงก็ตาม คืนนี้ผมยังกลับบ้านไม่ได้

เพราะมีโอกาสที่เรียซึ่งอาศัยอยู่ระเเวกเดียวกับผม อาจรอผมอยู่หน้าบ้าน มาหาผมที่บ้านหรือเข้าไปในบ้านผมโดยไม่ได้รับอนุญาติ

อันที่จริง ตอนที่ผมทะเลาะกับเรียรอบก่อน เธอได้มาขอโทษผมที่บ้าน

กล่าวเป็นอีกนัยหนึ่งได้ว่า มีความเป็นไปได้สูงมากที่เรียจะมาหาผมที่บ้านนั้นเอง

ซึ่งนั้นเป็นสิ่งที่ผมไม่ต้องการ เพราะต้องมานั่งฟังข้อเเก้ตัวของเธอ

ผมเบื่อที่จะฟังมันเเล้ว มีเเต่ทําให้ผมหนักใจกว่าเดิม

ผมไม่รู้ว่าเรียคิดอะไรอยู่ เเต่นอกใจก็คือนอกใจ เเก้ตัวไปก็ไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้น

ตอนนี้ ผมไม่พร้อมที่จะเห็นหน้าของเธอ จึงได้เเต่คิดว่าถ้าสมมุติเจอเธออยู่ตรงหน้า ผมจะควรทําหน้ายังไงดีนะ

ผมยังสามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ ตราบใดที่ผมยังรักษาระยะห่างกับเธอ เเต่ถ้าผมเห็นเธออยู่ต่อหน้า ผมยังไม่รู้จะเเสดงออกทางสีหน้าอย่างไรดี

อาจจะร้องไห้อย่างน่าสมเพชด้วยความโศกเศร้าเเละความเจ็บปวดทางใจก็ได้

ถึงกระนั้น ผมไม่อยากร้องไห้ต่อหน้าคนอื่น เเม้ว่าผมจะเสียใจเพราะเธอนอกใจผม

อย่างไรก็ตาม ผมจะออกห่างจากเรียตลอดไปไม่ได้

สุดท้ายเเล้ว สักวันหนึ่งพวกเราก็ต้องไปคุยกันอยู่ดี เเต่ก่อนหน้านั้นผมต้องใจเย็นลงก่อน

ถ้าให้ว่ากันตามตรง ตอนนี้ผมไม่อยากคุยกับเธอตอนนี้เลย

ที่ผมเลิกกับเรีย เพราะเธอนอกใจผม และผมไม่อยากพูดถึงมันไปมากกว่านี้เเล้ว

ผมคิดไว้ว่าถ้าผมสงบสติอารมณ์ได้แล้ว ผมจะไปคุยเรื่องนี้กับเธอ

ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากจะเลี่ยงการทะเลาะกับเธอ หลังจากผมได้เห็นเธอนอกใจผม

เลยทําให้ตอนนี้ผมไม่อยากเจอเรียเเละไม่อยากไปโรงเรียนในวันพรุ่งนี้หรือวันถัดๆไปเลยด้วยซํ้า

นอกจากนี้ ผมไม่รู้ว่าเรียจะคิดยังไงถ้าเธอเห็นผมกับฟุตาบะอยู่ด้วยกัน

ถึงกระนั้น เรียที่นอกใจผม ไม่มีสิทธิ์ที่จะมาบ่นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างผมกับฟุตาบะ

[“นายยังกล้าเอ่ยชื่อเเฟนเก่าให้ฉันฟังอีกเหรอเนี่ย”]

[“ถึงจะพูดอย่างงั้นก็เถอะ…”]

ตอนนี้ฟุตาบะยังโสด

ในขณะนั้นเองก็ได้มีความคิดหนึ่งผุดขึ้นในหัวของผม

‘ตอนนี้ผมโสด’

เเล้วสาวสวยอย่างฟุตาบะชอบคนอย่างผมอยู่

นี่มัน…ไม่ใช่โอกาสที่จะเริ่มความรักครั้งใหม่เหรอ?

ตัวผมก็สงสัยในตัวฟุตาบะมาสักพักเเล้วเหมือนกัน ถึงขนาดที่ผมมองเธอด้วยสายตาตัวเอง

ผมอยากจะพูดอะไรบางอย่างกับฟุตาบะ ซึ่งทําให้ผมนึกถึงผู้หญิงที่ผมตกหลุมรักเป็นครั้งเเรกในชีวิต

มันเป็นเพียงความอยากรู้อยากเห็นหรือความรู้สึกซาบซึ้งในอดีต โดยไม่มีความโรเเมนติกมาปะปน

เป็นความคิดที่ไม่เลวที่จะเริ่มต้นความสัมพันธ์กับฟุตาบะในฐานะเพื่อน

ในทางกลับกัน การพาเธอกลับบ้านมันยากเกินไปสําหรับผม

ผมสงสัยว่าถ้าให้มนุษย์คิดบวกอย่างโชวไม่ก็อาโออิจะพาเธอกลับบ้านได้อย่างราบรื่นไหม

ถ้าพูดถึงเรื่องรักๆใคร่ๆ ผมเป็นคนค่อนข้างเก็บตัว

การฟุตาบะชอบผมไม่ได้หมายความว่าพวกเราต้องไปเดทด้วยกันเสมอไป

เเละเมื่อพูดถึงความรัก ผมเป็นคนที่ชอบทําอะไรค่อยๆเป็นค่อยๆไป

ฟุตาบะจูบผมไปเเล้ว ดังนั้นผมจึงไม่คิดว่ามันเป็นเเค่การเเสดงอีกต่อไป

เมื่อคิดเช่นนั้น ผมสงสัยว่าฟุตาบะเป็นคนรักเดียวใจเดียวรึเปล่า

อันที่จริง ผู้ชายส่วนใหญ่ไม่ได้รู้สึกแย่หากพวกเขาได้รับความเยียวยาจากสาวสวยอย่างฟุตาบะ

ถ้าไม่ใช่เพราะเหตุการณ์ที่ผมต้องเเยกทางจากเรีย ผมก็คงลอยนวลเหมือนกัน

ฟุตาบะเองก็คงรู้ตัวว่า ตัวเองนั้นหุ่นดีถึงได้ทำอะไรใจกล้าแบบนั้นออกมา

ถ้าเป็นแบบนั้นละก็ เธอก็คงจะเป็นเจ้าแผนการที่รู้การใช้ข้อเด่นของตัวเองอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดเลยแน่ๆ

แถมตอนนี้ก็ยังพูดโดยใช้เสน่ห์ของตัวเองทำให้ผมลำบากใจอีก เเละเรื่องที่เธออยากมาบ้านผมก็คงเป็นแผนของฟุตาบะสินะ

แต่ทว่า ไออ่อนด๋อยอย่างผมเนี่ยกับเรื่องพวกนั่นน่ะทำไม่ได้หรอก

[“มะ…ไม่ว่ายังไง ฉันไม่กลับบ้านหรอก ฉันเลยคิดอยู่ว่าคืนนี้จะไปค้างบ้านใครสักคน เรื่องในวันนี้ค่อยคุยต่อวันหลังได้ไหม?”]

ที่จริงเเล้วหลังจากนี้ ผมจะถามโชวหรืออาโออิว่าขอค้างที่บ้านได้ไหม

เเต่ว่า พวกเขาทั้งสองคนกําลังคุยเข้าได้เข้าเข็มกับทานากะเเละซุซุกิ ผมเลยไม่ค่อยอยากเข้าไปขัดพวกเขาสักเท่าไหร่เเละยังมีประเด็นที่ฟุตาบะเลือกผมในงานนัดบอดอีก

[“ถ้างั้น มาค้างที่บ้านฉันไหม?”]

[“บ้านของคุณฟุตาบะงั้นเหรอ…?”]

[“ถ้านายมาค้าง นั้นก็หมายความว่าฉันพาชินเซย์กลับบ้านรึเปล่า ฮิๆ เเบบนั้นก็ไม่เลวนะ”]

ฟุตาบะขํา…เเละยิ้มอย่างไม่เกรงกลัว

[“ถึงฉันไปค้าง พ่อเเม่ของเธอก็ไม่ยอมให้ผู้ชายอย่างฉันไปค้างอยู่เเล้วอยู่ดี จริงไหมล่ะ?”]

[“ลืมบอกไป ฉันอยู่คนเดียว”]

[“เอ๊ะ งั้นเหรอ”]

หนทางที่จะออกจากบทสนทนานี้ได้หายไปในทันที

[“ไหนๆก็ไม่มีปัญหาอะไรเเล้วด้วย สรุป ชินเซย์จะค้างบ้านฉันใช่ไหม?”]

[“เอ่อ…”]

ผมว่ามันเต็มไปด้วยปัญหาทางจริยธรรม…

[“คงจะค้างใช่ไหม?”]

ฟุตาบะยิ้มให้ผมเเต่ผมรู้สึกกดดันจนพูดไม่ออกว่าจะ ‘ไม่ไป’

[“คือว่านะ ทําไมเธอดื้อรั้นจะพาฉันกลับบ้านขนาดนั้น?”]

[“เพราะว่างานนัดบอดคือ การที่จะได้พาคนที่ชอบกลับบ้านยังไงล่ะ”]

[“ฉันได้พึ่งเคยได้ยินครั้งเเรกเลยนะเนี่ย…”]

ต้องบอกว่าผมไม่รู้รายละเอียดยิบย่อยเกี่ยวกับงานนัดบอดดีกว่า

นี่เป็นครั้งเเรกที่ผมเข้าร่วมงานนัดบอดทําให้ผมไม่รู้ว่าหลังจากรู้จักกันเเล้วควรทําอะไรต่อ

ผมไม่มั่นใจว่าผมกับฟุตาบะจะไปกันรอดไหม ถึงเเม้ว่ามันจะเป็นเรื่องจุกจิกก็ตามเเต่

การพาเพศตรงข้ามที่คุณชอบกลับบ้านในงานนัดบอด…มันเป็นเรื่องปกติสําหรับคนคิดบวกรึเปล่านะ

[“ถ้าชินเซย์ปฏิเสธ พรุ่งนี้ฉันจะเเฉที่โรงเรียนนะ”]

[“ฉะ เเฉอะไรของเธอ?”]

[“ชินเซย์จูบฉันด้วยซํ้าเเต่ยังเฉยเมย”]

[“อะ…”]

ถ้าเรื่องเเบบนี้ถูกคนที่โรงเรียนรู้ ภาพลักษณ์ที่โรงเรียนของผมคงไม่เหลือเเหล่เเหงๆ

ฟุตาบะเป็นคนจูบผมเเละผมไม่ควรเป็นฝ่ายผิด เเต่โดยธรรมชาติเเล้ว ผู้คนมักจะเข้าข้างเเละเชื่อใจคําพูดคนที่มีชื่อเสียงมากกว่า ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังเป็นสาวสวยที่สุดในโรงเรียนอีก ถ้าผู้คนจะเชื่อในคําพูดของเธอจึงไม่เเปลกนัก

สําหรับฟุตาบะที่ครองตําเเหน่งสูงสุดของชั้นวรรณะในโรงเรียน ชีวิตของผมไม่มีนัยสำคัญ

[“เพราะฉะนั้น ถ้าไม่อยากให้ฉันพูดเเบบนั้นที่โรงเรียน ยอมเเต่โดยดีเถอะ ฉันไม่กัดนายซะหน่อย”]

[“…อยากพาฉันกลับบ้านขนาดนั้นเลย?”]

[“ก็ฉันชอบชินเซย์นี่นา มันผิดหรอถ้าฉันอยากอยู่เคียงข้างกับคนที่ฉันชอบ?”]

วิธีการพูดที่น่ารักของเธอนั้นไม่ยุติธรรมเลย มันทําให้หัวใจผมเต้นไม่เป็นจังหวะ

[“ก็ไม่ผิดหรอก…พอดีว่าฉันไม่เข้าใจน่ะ ทําไมคุณฟุตาบะถึงชอบคนอย่างฉัน”]

[“…งั้นถ้านายมาบ้านฉันล่ะก็ ฉันจะบอกให้ฟัง”]

หลังจากพูดเช่นนั้น ฟุตาบะทําหน้ายิ้มเจ้าเล่ห์

ผมตกไปอยู่ในกํามือของฟุตาบะโดยสมบูรณ์

อย่างไรก็ตาม ถ้าผมปฏิเสธคําเชิญของเธอในตอนนี้ ผมคงไม่มีโอกาสได้รับรู้ความจริงอีก

[“…ก็ได้ เวลาที่เหลืออยู่ในวันนี้ ฉันขอตอบรับคัาเชิญไปที่บ้านคุณฟุตาบะ”]

[“ฟุฟุ คราวนี้นายเป็นของฉันคนเดียวล่ะนะ”]

ฟุตาบะยิ้มออกจากใจจริงเเละนําทางผมไปที่บ้านโดยอยู่ในท่าควงเเขนผมอยู่

ระหว่างทางที่จะไปเเมนชันของฟุตาบะ ฟุตาบะขอเเวะจับจ่ายใช้สอยที่ร้านสะดวกซื้อ ผมจึงตัดสินใจออกไปรอนอกร้านเพราะไม่มีของที่อยากซื้อ

[“จริงด้วย ต้องบอกมิโอริด้วยว่าวันนี้ไม่กลับบ้าน”]

ผมหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงและส่งข้อความไปหามิโอริซึ่งเป็นน้องสาวของผมผ่านไลน์

(เช็คด้วยนะว่าล็อคประตูบ้านดีเเล้ว…)

หลังจากนั้นไม่กี่วินาที เธอตอบกลับมาว่า “เเล้วข้าวเย็นหนูล่ะ?”

(มีคัพราเมนอยู่ ถ้าไม่ชอบก็ทําอะไรกินเองเอานะ…)

พวกเราอยู่ด้วยกันมาเป็นปีๆ เเต่เธอไม่เคยทําอาหารเองเลยสักครั้ง ในทางกลับกัน งานบ้านส่วนใหญ่ผมเป็นคนทําเองทั้งหมดซึ่งเธอไม่มีความคิดที่จะช่วยผมเลยสักนิด

ผมหวังลึกๆในใจว่าเธอจะมองโซระที่อายุไล่เลี่ยกันเป็นตัวอย่างบ้าง

[“เฮ้อ อยู่โดยไม่มีพี่ชายบ้างเถอะนะ…”]

[“ขอโทษที่ให้รอค่า~”]

ขณะที่ผมกําลังถอนหายใจอยู่นั้น ฟุตาบะก็ได้เดินออกมาจากร้านสะดวกซื้อพร้อมถุงพลาสติกที่มีของอยู่ด้านใน

[“ซื้ออะไรมาหรอ?”]

[“ยางน่ะ”]

[“อ่อ ยางมัดผมสินะ…”]

ผมไม่ค่อยเห็นฟุตาบะมัดผมสีดําที่โรงเรียน มันจึงน่าแปลกใจที่เธอต้องการยางมัดผม

[“…? นี่นายไม่รู้ตัวหรอว่ากําลังถูกฉันลากเข้าบ้านน่ะ?”]

[“ไม่รู้ตัว? หมายความว่ายังไง?”]

[“…เฮ้อจะยังไงก็ช่าง คืนนี้ฉันไม่ให้นายได้หลับเเน่”]

ฟุตาบะหันมามองผมด้วยนัยน์ตาสีฟ้าประกายดาบ จากนั้นเธอก็เริ่มควงเเขนผมอีกครั้ง

[“ฉันจะไม่ทิ้งนายไปอีกเเล้ว”]

[“อีกเเล้ว…?”]

[“ไม่สิ ต้องบอกว่า ฉันไม่ปล่อยนายไปอีกเเล้ว”]

ผมเเค่จะไปค้างบ้านเธอเฉยๆสินะ…?

หลังจากนี้ผมจะไม่ถูกเธอทําอะไรใช่ไหม?

 

————————

เเบ่งเป็นสองพาร์ทย่อยเพราะเเปลเสร็จเเล้วเเต่ QC ยังไม่เสร็จนะครับ

สามารถติดตามได้ที่เพจ : Mxgic

หลังจากที่เเฟนทิ้งผมไป จู่ๆสาวที่สวยที่สุดในโรงเรียนก็ลากคอผมไปที่บ้านซะงั้น

หลังจากที่เเฟนทิ้งผมไป จู่ๆสาวที่สวยที่สุดในโรงเรียนก็ลากคอผมไปที่บ้านซะงั้น

Status: Ongoing
[“กะ…โกหก..ใช่ไหม?”] ชินเซย์ เห็นเเฟนของเขา เรีย นอกใจตัวเองครั้งเเรกในชีวิตเเละเธอได้ส่งข้อความมาหาผมว่า “เราเลิกเถอะ” ความสัมพันธ์ระหว่างเราทั้งสองคนก็จบลง เเละหลังจากนั้น ผมถูกลากตัวไปงานนัดบอดด้วยความรู้สึกอกหัก ผมพยายามลุกออกจากที่นั่งอย่างเงียบๆ เเต่ทันใดนั้นก็มีสาวที่สวยที่สุดในโรงเรียนเดินมาหาผม ฟุตาบะ เรย์นะ เเละมาขโมยจูบเเรกของผมไป― [“ที่ฉันมางานนัดบอดครั้งนี้ก็เพราะนายเลยนะ”] จากนั้นผมก็โดนเธอหิ้วกลับบ้านทั้งแบบนั้น!? เรย์นะ มีภาวะความเป็นผู้นําเเต่ในทางกลับกัน เมื่อผมอยู่กับเธอสองต่อสองตัวเธอนั้นเปลี่ยนไปคนละขั้ว เธอมีนิสัยเงอะงะเเถมนิสัยเสียอีก….

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท