หลังจากที่เเฟนทิ้งผมไป จู่ๆสาวที่สวยที่สุดในโรงเรียนก็ลากคอผมไปที่บ้านซะงั้น – ตอนที่ 6 เเฟนเก่า VS เเฟนใหม่

หลังจากที่เเฟนทิ้งผมไป จู่ๆสาวที่สวยที่สุดในโรงเรียนก็ลากคอผมไปที่บ้านซะงั้น

ชิอินะ เรีย หรือก็คือตัวฉันที่ถูกชินเซย์ทิ้ง ทําให้เมื่อวานตาปิดไม่ลงเลยทั้งคืน วันเวลาผ่านไป เเสงตะวันของวันถัดไปก็มาถึง

เมื่อฉันลองมองตัวเองผ่านกระจกในห้องน้ำ ปรากฏว่ามันเป็นใบหน้าที่ดูไม่ได้เลย

[“เรีย…เป็นอะไรไป? ขอบตาของลูกคลํ้าเหมือนหมีเเพนด้าเลย มีอะไรเกิดขึ้นรึเปล่า?”]

แม่ซึ่งไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นพูดกับฉันอย่างใจอกใจดี

ฉันได้เเต่ตอบกลับไปด้วยความรู้สึกที่สิ้นหวังว่า “ไม่มีอะไรหรอกค่ะ เเม่”

โดยปกติ ฉันมักจะมัดผมเป็นทรงหางม้าเบี่ยงข้าง แต่วันนี้ฉันไม่มีอารมณ์ที่จะมัดเเบบนั้น

ฉันรู้สึกไม่อยากอาหาร เเละรู้สึกพะอืดพะอมเมื่อพยายามจะกินอะไรสักอย่าง

วันนี้ฉันก็ไม่ได้ทําข้าวกล่องไว้กินตอนเที่ยงอีกเช่นเคย จนกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว

เพราะฉันไม่รู้จะทําให้ใครกิน

ฉันออกจากบ้านเเละเดินทางไปโรงเรียนทั้งที่ยังรู้สึกหิวโหยอยู่ตั้งแต่เมื่อคืน

ฉันอยากไปพบและคุยกับชินเซย์ให้รู้เรื่อง นั่นคือทั้งหมดที่ฉันอยากทำในตอนนี้

เมื่อวาน ฉันคิดไตร่ตรองอยู่หลายครั้งว่า จะไปหาชินเซย์ที่บ้าน

เเต่สุดท้ายเเล้ว ฉันก็ไม่ได้ไปหาเขา

ฉันอดคิดไม่ได้ว่าชินเซย์อาจจะปฏิเสธฉัน

เมื่อฉันมาถึงโรงเรียนเเล้ว ฉันรีบเดินไปที่ห้องน้ำหญิงและเข้าไปในห้องทําธุระส่วนตัว

ฉันยังไม่พร้อมที่จะเผชิญหน้าที่ห้องเรียนและไปเจอหน้ากับชินเซย์

ฉันไม่พร้อมที่จะไปเจอหน้ากับใครก็ตาม เเม้ว่าจะเป็นคนรู้จักก็ตามเเต่

ถ้าให้พูดถึงเพือนที่ฉันเเละชินเซย์ต่างรู้จักกันดีก็มีเเค่ พี่น้องตระกูลทาคานาชิ

ฉันไม่รู้ว่าทั้งคู่รับรู้ถึงเหตุการณ์นี้รึเปล่าว่าเกิดอะไรขึ้น

เเต่ ด้วยความรู้สึกผิด ไม่มีทางที่ฉันจะทําตัวปล่อยปะละเลยได้

ฉันเปิดกระจกพับขึ้นมาในห้องธุระส่วนตัวในห้องนํ้า

ถึงฉันจะไม่มีอารมณ์สักเท่าไหร่ แต่อย่างน้อยฉันก็ตัดสินใจแต่งหน้า

ริมฝีปากที่เเห้งสากกับรอยคลํ้าใต้ตาไม่ว่ามองยังไงมันก็ให้ความรู้สึกดูไม่ได้สุดๆ

ฉันแต่งหน้าได้ไม่เนี๊ยบเหมือนที่เคยเเต่งเป็นประจํา

[“ถ้าไปเจอในสภาพนี้ คงจะโดนชินเซย์เกลียดเอา…”]

ฉันชอบแต่งหน้าสไตล์ฉูดฉาด เพราะอยากให้หน้าดูเงียบขรึม

เเต่ ถ้าเเต่งเเบบนั้นไปขอโทษชินเซย์ก็ไม่ใช่เรื่องสักเท่าไหร่นัก

สุดท้ายเเล้ว มันคงจะดีกว่าถ้าไม่แต่งหน้าฉูดฉาดในเวลาแบบนี้สินะ?

ปิดรอยคลํ้าใต้ตาด้วยคอนซีลเลอร์¹ เเละทาลิปสติกตามริมฝีปากให้ทั่ว…

¹ : คอนซีลเลอร์ เป็นเครื่องสําอางที่ถูกออกแบบมาเพื่อการปกปิดเฉพาะจุด เช่น รอยสิว รอยคล้ำใต้ตา รอยดํา เเละอื่นๆ

ฉันกําลังจะทาคอนซีลเลอร์ใต้ตา เเต่จู่ๆ ก็มีความคิดชั่วขณะหนึ่งเข้ามาในหัว ทําให้ต้องหยุดชะงักกลางคัน

ฉันคิดว่า เมื่อคืนนี้ชินเซย์คงจะนอนไม่หลับเหมือนกัน เเน่นอนว่าฉันเป็นต้นเหตุ

เเล้ว ฉันยังทําตัวเองให้ดูดีอีกเนี่ยนะ……

[“เฮ้อ…นี่ตัวฉันทําอะไรอยู่เนี่ย”]

ขณะที่ฉันพึมพำกับตัวเองอย่างสิ้นหวัง ก็มีใครบางคนเข้ามาในห้องน้ำ

[“งานนัดบอดเมื่อวานประสบความสําเร็จอย่างใหญ่หลวงเลย ว่ามั้ย!”]

[“อืม”]

ฉันได้ยินสองสาวคุยกันอย่างครื้นเครง

เจ้าของของเสียงนี้…น่าจะเป็นคุณทานากะกับคุณซุซุกิสินะ

พวกเธอเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ชายเพราะความน่ารักของพวกเธออย่างกับเหมือนดาราไอดอล

[“ฉันนัดเดทกับอาโออิคุงในวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ด้วยล่ะ!”]

[“เอ๋ ถามจริง!?”]

[“จริงซิ๊! เเล้ว…เมงุมิกับทาคานาชิคุงเป็นยังไงบ้างหลังจากนั้น?”]

[“คือเรื่องนั้น…ดูเหมือนว่าโชวคุงจะชอบคุณฟุตาบะน่ะ…”]

[“ล้อเล่นปะเนี่ย! เหนือคาด…เเต่ก็ไม่ได้ขนาดนั้น ถ้าเป็นคุณฟุตาบะคนนั้นอ่ะนะ”]

โชวกับซาโต้คุงไปงานนัดบอดเมื่อวานนี้นี่เอง

โชวเป็นที่นิยมตั้งแต่ช่วงม.ต้นเเล้วก็ไม่ได้ประหลาดใจอะไร แต่ที่น่าประหลาดใจคือซาโต้ซึ่งถูกสาวๆปฏิเสธมานับครั้งไม่ถ้วนกลับได้รับความนิยม

คุณฟุตาบะที่เธอพูดถึงน่าจะเป็น…ฟุตาบะ เรย์นะ คนนั้นสินะ

เธอเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดในโรงเรียน ทั้งฉลาด ทั้งเก่งกาจด้านกีฬา และเป็นคนที่สมบูรณ์เเบบอย่างไร้ที่ติ

มีผู้ชายหลายคนไปสารภาพรักกับคุณฟุตาบะ แต่สุดท้ายเเล้วพวกเขาก็ต้องจบลงด้วยการถูกปฏิเสธ

เลยทําให้มีข่าวลือว่าคุณฟุตาบะไม่สนใจเรื่องรักๆใคร่ๆ

การที่คุณฟุตาบะไปงานนัดบอดเนี่ย

เเสดงว่าไปหาใครบางคนที่งานรึเปล่านะ

ไม่สิ ตอนนี้ไม่ใช่เวลากังวลเรื่องชีวิตรักๆของคนอื่น

ฉันกับชินเซย์──

[“ไหนๆก็เข้าประเด็นนี้เเล้ว ว่าเเต่ เเล้วคุณฟุตาบะไปไกลเเค่ไหนหลังจากพาอาซาฮิโอกะคุงไปที่บ้านล่ะ?”]

…เอ๋? เมื้อกี้ ว่าไงนะ…

[“เอ่อ…คุณฟุตาบะดูเหมือนจะเป็นพวกเข้าหาก่อน ส่วนอาซาฮิโอกะคุงก็ดูอ่อนไหวเวลาถูกรุกเข้าใส่น่ะ…”]

…ไม่ผิดเเน่…ถ้าเป็นชินเซย์ การไปเเจมกับพรรคพวกอย่างโชวคงไม่ใช่เรื่องเเปลกอะไร

เเต่…ถ้ามันเป็นเรื่องจริงก็เเปลว่าชินเซย์ที่ชอบฉันอยู่เเล้ว เเต่กลับรีบไปหาไปหาผู้หญิงคนอื่น เเบบนั้นมัน…

[“ไม่ใช่ว่าต้องกลับกันหรอกเหรอ? เพราะฝ่ายพากลับบ้านควรเป็นอาซาฮิโอกะคุงมากกว่า”]

[“ฉันไม่คิดเเบบนั้นนะ”]

ฉันอยากให้สิ่งที่ฉันได้ยินนั้นไม่เป็นโกหก

เเต่…จากที่ทั้งสองคนคุยกันอยู่ ดูเหมือนจะเป็นเรื่องจริง

หัวใจของฉันเริ่มเต้นเเรงขึ้นเรื่อยๆ

[“เเปปนะ ฉันได้ไลน์จากอาโออิคุง”]

[“เขาพิมพ์มาว่าไง?”]

[“ความลับจ๊ะ!”]

[“เอ๋~ บอกหน่อยน้า!”]

เสียงของพวกเขาห่างออกไปเล็กน้อย จากนั้นฉันได้ยินเสียงประตูห้องน้ำปิด

[“ทําไม…ถึงเป็นเเบบนี้ได้…”]

ฉันกุมหัวเเละย่อตัวลง

[“ทําไงดี ทําไงดี…”]

ความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับชินเซย์อาจจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมเเล้วไม่ได้

[“…ต้องรีบเข้าเรียนเเล้วสิ…”]

มีเรื่องในใจอีกเยอะเเยะเลย เเต่ต้องเข้าเรียนเเล้ว

ฉันต้องไปที่ห้องเรียนเเละไปเจอชินเซย์เพื่อที่จะพิสูจน์ว่าเรื่องที่ผู้หญิงที่พูดมาเมื้อกี้เป็นความจริงไหม

ในขณะที่ฉันกําลังเปิดประตูห้องทําธุระส่วนตัวนั้น ฉันเกือบจะไปชนเข้ากับคนๆหนึ่งที่พยายามเดินผ่านไป

[“อุ๊ย ขอโทษนะคะ”]

[“อ๊ะ ฉันสิต้องขอโทษ──”]

ขณะที่ฉันกําลังขอโทษ ฉันกลืนคําพูดนั้นลงคอ

เพราะคนๆนั้น──เป็นคนที่ฉันคิดอยู่ในใจมากที่สุดยังไงล่ะ…

[“เรามาคุยกันซักหน่อยดีกว่าค่ะ คุณชิอินะ เรีย”]

จากนั้น คุณฟุตาบะก็ยิ้มอย่างเงียบๆ

รอยยิ้มนั้น มันดูเหมือนเป็นรอยยิ้มประกาศชัยชนะกับฉัน

[“…จะคุยในนี้ก็กระไรๆอยู่ เรามาเปลี่ยนที่คุยกันดีกว่า”]

คุณฟุตาบะพาฉันขึ้นมาบนดาดฟ้า

ประตูชั้นดาดฟ้าถูกล็อคเพราะเป็นพื้นที่ห้ามสําหรับนักเรียน แต่คุณฟุตาบะกลับสะเดาะกลอนมันได้อย่างง่ายดายโดยการใช้กิ๊บที่เธอหยิบออกมาจากกระเป๋าเสื้อ

[“ช่วยเก็บไว้เป็นความลับด้วยนะ”]

คุณฟุตาบะยิ้มอย่างซุกซน ฉันจึงพยักหน้าตอบเธอ

เมื่อขึ้นไปบนดาดฟ้าเเล้ว ฉันเบียดเสียดกับคุณฟุตาบะ

[“นี่ คุณฟุตาบะ ฉันมีเรื่องอยากจะถามก่อนหน้านั้น”]

[“ว่ายังไงคะ?”]

[“…เธอพาชินเซย์กลับไปที่บ้านนี่หมายความว่ายังไง?”]

[“เเสดงว่าได้ยินที่คุยเมื่อกี้สินะ ให้ตายสิ สองคนนั้นปากเบาจริงๆ เเล้วยังสร้างเรื่องให้ฉันอีก”]

[“อย่านอกเรื่อง ตอบคําถามฉันมา”]

[“เเน่นอนว่ามันเป็นเรื่องจริง ฉันพาชินเซย์ที่ถูกเธอหักหลังกลับมาที่บ้านของฉันเองล่ะ”]

[“ว่า…”]

คุณฟุตาบะพูดด้วยใบหน้าที่ชัดเจน จนทําให้ฉันก็พูดไม่ออก

[“จะว่าไป…ชินเซย์ก็ทําตัวน่ารักเป็นเหมือนกันสินะตอนอยู่บนเตียง เธอรู้รึเปล่าว่าเขาทําตัวไม่ถูกเลยตอนสาวรุกเนี่ย?”]

ฉันที่โดนยั่วยุด้วยวิธีง่ายๆเเบบนี้มันจึงทําให้ความโกรธในตัวฉันพลุ่งพล่าน

[“กล้าพูดออกมาหน้าด้านๆได้ไงว่า เเย่งเเฟนของฉันไปห๊ะ…เเย่ที่สุด!”]

[“อย่าเข้าใจผิดไปสิ เเต่ชินเซย์ในตอนนี้เขาไม่ใช่เเฟนของเธอเเล้วนะ? ก็เธอเป็นคนทิ้งชินเซย์เองนี่นา?”]

 

[“นะ นั้นมัน…”]

[“ก่อนอื่นเลยเธอคงไม่ยอมรับสินะว่าตัวเองไม่ได้นอกใจ”]

คุณฟุตาบะพูดด้วยนํ้าเสียงเย็นชาเเละค่อยๆหรี่ดวงตาลง

[“ก็ฉันไม่ได้นอกใจจริงๆหนิ! ชินเซย์จะเข้าใจเองถ้าเขาได้ฟังคําอธิบายของฉัน ส่วนคุณฟุตาบะก็จะกลายเป็นเเค่ขยะข้างทางเท่านั้นเเหละ!”]

[“ไม่ได้นอกใจ งั้นเหรอ? นั้นเธอพูดจากใจจริงรึเปล่า?”]

[“เเน่นอนสิ อยากมีปัญหาหรอ?”]

[“…เฮ้อ ไม่อยากจะเชื่อเลยที่เธอไม่สํานึกเลยสักนิดเนี่ย  คนอย่างเธอไม่ควรอยู่เคียงข้างชินเซย์เลยสักนิด”]

คุณฟุตาบะพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาพลางถอนหายใจ

[“คุณฟุตาบะที่เป็นคนนอกไม่มีสิทธิ์มาพูดกับฉันเเบบนั้นสักหน่อย! เพราะนี่เป็นปัญหาระหว่างฉันกับชินเซย์!”]

[“น่าเสียดายหน่อยนะ เเต่ตอนนี้ฉันเป็นเเฟนกับชินเซย์เเล้ว เพราะฉะนั้น หลังจากนี้ช่วงอย่ามายุ่งกับเเฟนฉันจะได้ไหม?”]

ฉันชักอารมณ์เสียที่เธอคุยโวเรื่องชินเซย์ของฉัน ทั้งๆที่เธอยังไม่เคยได้ออกเดทกับเขาเลยสักครั้ง

[“…ไม่ ฉันทําเเบบนั้นไม่ได้ เพราะฉันต้องไปอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานให้ชินเซย์ฟังหลังจากนี้”]

[“เเต่วันนี้เขาไม่ได้มาโรงเรียนนะ ฉันว่าเขาคงไม่ได้บอกเธอสิท่า”]

คุณฟุตาบะทําหน้าประหลาดใจใส่ฉันเล็กน้อย

[“งั้นฉันจะไปหาชินเซย์ที่บ้านตอนนี้เลย”]

[“ชินเซย์อยู่ที่บ้านฉันนะ เธอรู้หรอว่าบ้านฉันอยู่ที่ไหน?”]

[“ไม่ว่ายังไงสักวันชินเซย์ก็ต้องมาโรงเรียนอยู่ดี เธอจะให้ฉันหลีกเลี่ยงเขาไปตลอดน่ะมันไปไม่ได้หรอกนะ”]

ชินเซย์ไม่ใช่คนขาดเรียนโดยไร้ซึ่งเหตุผล

สักวันหนึ่ง เขาจะต้องปรากฏตัวต่อหน้าฉันเเละฉันจะโน้มน้าวเขาเอง

ถ้าเป็นเเบบนั้น ชินเซย์คงกลับมาหาฉันอย่างเเน่นอน

[“ถ้างั้น ฉันจะเตรียมที่ไว้ให้เธอคุยกับชินเซย์ก็เเล้วกัน เเล้วจะขอบคุณมากเลยถ้าเธอไม่ไปติดต่อกับชินเซย์โดยที่ไม่ได้รับอนุญาติจากฉันอ่ะนะ”]

ฉันไม่เข้าใจว่าทําไมเธอถึงต้องเฝ้ามองจนถึงปลายทางให้ได้

แต่มันไม่ใช่ความคิดที่เเย่ซะทีเดียวที่จะโน้มนาวชินเซย์ให้กลับมาเป็นของฉันต่อหน้าคุณฟุตาบะเหมือนกับที่เอาชินเซย์ไปจากฉัน

[“ได้สิ จะว่าไป…คุณฟุตาบะเเสร้งทําตัวเป็นเเฟนของเขาอยู่สินะ”]

[“เเน่นอนอยู่เเล้ว นั้นเพราะฉันไม่เหมือนใครบางคนที่นอกใจเเละทิ้งเขาไว้ ฉันน่ะเป็นเเฟนของชินเซย์อย่างเเท้จริงเลยเเหละ”]

มันทำให้ฉันชวนหงุดหงิดทุกครั้งที่เธอพยายามยั่วโมโหฉัน ฉันจะเอาชินเซย์กลับมาเป็นของฉันอย่างแน่นอน

[“…ฉันไม่ได้ตั้งใจที่จะนอกใจนะ”]

ฉันจ้องกลับไปที่คุณฟุตาบะโดยไม่พยายามที่จะซ่อนอารมณ์ของตัวเอง

[“งั้นก็เเปลว่า คุณชิอินะไม่รู้ตัวเองสินะ ว่าสิ่งที่ตัวเองทําคือการนอกใจ?”]

[“ถ้าชินเซย์คิดว่าฉันจงใจที่นอกใจตัวเขามันก็อีกเรื่อง…เเต่ถ้าฉันไปเล่าเหตุกาณ์ตอนนั้นให้เขาฟัง เขาอาจจะกลับตัวกลับใจก็ได้”]

[“ไปเล่าเหตุกาณ์ให้เขาฟังเนี่ย เธอไปจะเเก้ตัวกับเขายังไงกันเเน่นะ?”]

ฉันลงไปจากดาดฟ้าโดยไม่สนใจคําพูดคําจาของคุณฟุตาบะ

 

—————-

ติดตามผู้เเปลได้ที่ FB : Mxgic ลงข่าวสารเกี่ยวกับนิยายโดยเฉพาะ

หลังจากที่เเฟนทิ้งผมไป จู่ๆสาวที่สวยที่สุดในโรงเรียนก็ลากคอผมไปที่บ้านซะงั้น

หลังจากที่เเฟนทิ้งผมไป จู่ๆสาวที่สวยที่สุดในโรงเรียนก็ลากคอผมไปที่บ้านซะงั้น

Status: Ongoing
[“กะ…โกหก..ใช่ไหม?”] ชินเซย์ เห็นเเฟนของเขา เรีย นอกใจตัวเองครั้งเเรกในชีวิตเเละเธอได้ส่งข้อความมาหาผมว่า “เราเลิกเถอะ” ความสัมพันธ์ระหว่างเราทั้งสองคนก็จบลง เเละหลังจากนั้น ผมถูกลากตัวไปงานนัดบอดด้วยความรู้สึกอกหัก ผมพยายามลุกออกจากที่นั่งอย่างเงียบๆ เเต่ทันใดนั้นก็มีสาวที่สวยที่สุดในโรงเรียนเดินมาหาผม ฟุตาบะ เรย์นะ เเละมาขโมยจูบเเรกของผมไป― [“ที่ฉันมางานนัดบอดครั้งนี้ก็เพราะนายเลยนะ”] จากนั้นผมก็โดนเธอหิ้วกลับบ้านทั้งแบบนั้น!? เรย์นะ มีภาวะความเป็นผู้นําเเต่ในทางกลับกัน เมื่อผมอยู่กับเธอสองต่อสองตัวเธอนั้นเปลี่ยนไปคนละขั้ว เธอมีนิสัยเงอะงะเเถมนิสัยเสียอีก….

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน