ชิอินะ เรีย หรือก็คือตัวฉันที่ถูกชินเซย์ทิ้ง ทําให้เมื่อวานตาปิดไม่ลงเลยทั้งคืน วันเวลาผ่านไป เเสงตะวันของวันถัดไปก็มาถึง
เมื่อฉันลองมองตัวเองผ่านกระจกในห้องน้ำ ปรากฏว่ามันเป็นใบหน้าที่ดูไม่ได้เลย
[“เรีย…เป็นอะไรไป? ขอบตาของลูกคลํ้าเหมือนหมีเเพนด้าเลย มีอะไรเกิดขึ้นรึเปล่า?”]
แม่ซึ่งไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นพูดกับฉันอย่างใจอกใจดี
ฉันได้เเต่ตอบกลับไปด้วยความรู้สึกที่สิ้นหวังว่า “ไม่มีอะไรหรอกค่ะ เเม่”
โดยปกติ ฉันมักจะมัดผมเป็นทรงหางม้าเบี่ยงข้าง แต่วันนี้ฉันไม่มีอารมณ์ที่จะมัดเเบบนั้น
ฉันรู้สึกไม่อยากอาหาร เเละรู้สึกพะอืดพะอมเมื่อพยายามจะกินอะไรสักอย่าง
วันนี้ฉันก็ไม่ได้ทําข้าวกล่องไว้กินตอนเที่ยงอีกเช่นเคย จนกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว
เพราะฉันไม่รู้จะทําให้ใครกิน
ฉันออกจากบ้านเเละเดินทางไปโรงเรียนทั้งที่ยังรู้สึกหิวโหยอยู่ตั้งแต่เมื่อคืน
ฉันอยากไปพบและคุยกับชินเซย์ให้รู้เรื่อง นั่นคือทั้งหมดที่ฉันอยากทำในตอนนี้
เมื่อวาน ฉันคิดไตร่ตรองอยู่หลายครั้งว่า จะไปหาชินเซย์ที่บ้าน
เเต่สุดท้ายเเล้ว ฉันก็ไม่ได้ไปหาเขา
ฉันอดคิดไม่ได้ว่าชินเซย์อาจจะปฏิเสธฉัน
เมื่อฉันมาถึงโรงเรียนเเล้ว ฉันรีบเดินไปที่ห้องน้ำหญิงและเข้าไปในห้องทําธุระส่วนตัว
ฉันยังไม่พร้อมที่จะเผชิญหน้าที่ห้องเรียนและไปเจอหน้ากับชินเซย์
ฉันไม่พร้อมที่จะไปเจอหน้ากับใครก็ตาม เเม้ว่าจะเป็นคนรู้จักก็ตามเเต่
ถ้าให้พูดถึงเพือนที่ฉันเเละชินเซย์ต่างรู้จักกันดีก็มีเเค่ พี่น้องตระกูลทาคานาชิ
ฉันไม่รู้ว่าทั้งคู่รับรู้ถึงเหตุการณ์นี้รึเปล่าว่าเกิดอะไรขึ้น
เเต่ ด้วยความรู้สึกผิด ไม่มีทางที่ฉันจะทําตัวปล่อยปะละเลยได้
ฉันเปิดกระจกพับขึ้นมาในห้องธุระส่วนตัวในห้องนํ้า
ถึงฉันจะไม่มีอารมณ์สักเท่าไหร่ แต่อย่างน้อยฉันก็ตัดสินใจแต่งหน้า
ริมฝีปากที่เเห้งสากกับรอยคลํ้าใต้ตาไม่ว่ามองยังไงมันก็ให้ความรู้สึกดูไม่ได้สุดๆ
ฉันแต่งหน้าได้ไม่เนี๊ยบเหมือนที่เคยเเต่งเป็นประจํา
[“ถ้าไปเจอในสภาพนี้ คงจะโดนชินเซย์เกลียดเอา…”]
ฉันชอบแต่งหน้าสไตล์ฉูดฉาด เพราะอยากให้หน้าดูเงียบขรึม
เเต่ ถ้าเเต่งเเบบนั้นไปขอโทษชินเซย์ก็ไม่ใช่เรื่องสักเท่าไหร่นัก
สุดท้ายเเล้ว มันคงจะดีกว่าถ้าไม่แต่งหน้าฉูดฉาดในเวลาแบบนี้สินะ?
ปิดรอยคลํ้าใต้ตาด้วยคอนซีลเลอร์¹ เเละทาลิปสติกตามริมฝีปากให้ทั่ว…
¹ : คอนซีลเลอร์ เป็นเครื่องสําอางที่ถูกออกแบบมาเพื่อการปกปิดเฉพาะจุด เช่น รอยสิว รอยคล้ำใต้ตา รอยดํา เเละอื่นๆ
ฉันกําลังจะทาคอนซีลเลอร์ใต้ตา เเต่จู่ๆ ก็มีความคิดชั่วขณะหนึ่งเข้ามาในหัว ทําให้ต้องหยุดชะงักกลางคัน
ฉันคิดว่า เมื่อคืนนี้ชินเซย์คงจะนอนไม่หลับเหมือนกัน เเน่นอนว่าฉันเป็นต้นเหตุ
เเล้ว ฉันยังทําตัวเองให้ดูดีอีกเนี่ยนะ……
[“เฮ้อ…นี่ตัวฉันทําอะไรอยู่เนี่ย”]
ขณะที่ฉันพึมพำกับตัวเองอย่างสิ้นหวัง ก็มีใครบางคนเข้ามาในห้องน้ำ
[“งานนัดบอดเมื่อวานประสบความสําเร็จอย่างใหญ่หลวงเลย ว่ามั้ย!”]
[“อืม”]
ฉันได้ยินสองสาวคุยกันอย่างครื้นเครง
เจ้าของของเสียงนี้…น่าจะเป็นคุณทานากะกับคุณซุซุกิสินะ
พวกเธอเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ชายเพราะความน่ารักของพวกเธออย่างกับเหมือนดาราไอดอล
[“ฉันนัดเดทกับอาโออิคุงในวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ด้วยล่ะ!”]
[“เอ๋ ถามจริง!?”]
[“จริงซิ๊! เเล้ว…เมงุมิกับทาคานาชิคุงเป็นยังไงบ้างหลังจากนั้น?”]
[“คือเรื่องนั้น…ดูเหมือนว่าโชวคุงจะชอบคุณฟุตาบะน่ะ…”]
[“ล้อเล่นปะเนี่ย! เหนือคาด…เเต่ก็ไม่ได้ขนาดนั้น ถ้าเป็นคุณฟุตาบะคนนั้นอ่ะนะ”]
โชวกับซาโต้คุงไปงานนัดบอดเมื่อวานนี้นี่เอง
โชวเป็นที่นิยมตั้งแต่ช่วงม.ต้นเเล้วก็ไม่ได้ประหลาดใจอะไร แต่ที่น่าประหลาดใจคือซาโต้ซึ่งถูกสาวๆปฏิเสธมานับครั้งไม่ถ้วนกลับได้รับความนิยม
คุณฟุตาบะที่เธอพูดถึงน่าจะเป็น…ฟุตาบะ เรย์นะ คนนั้นสินะ
เธอเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดในโรงเรียน ทั้งฉลาด ทั้งเก่งกาจด้านกีฬา และเป็นคนที่สมบูรณ์เเบบอย่างไร้ที่ติ
มีผู้ชายหลายคนไปสารภาพรักกับคุณฟุตาบะ แต่สุดท้ายเเล้วพวกเขาก็ต้องจบลงด้วยการถูกปฏิเสธ
เลยทําให้มีข่าวลือว่าคุณฟุตาบะไม่สนใจเรื่องรักๆใคร่ๆ
การที่คุณฟุตาบะไปงานนัดบอดเนี่ย
เเสดงว่าไปหาใครบางคนที่งานรึเปล่านะ
ไม่สิ ตอนนี้ไม่ใช่เวลากังวลเรื่องชีวิตรักๆของคนอื่น
ฉันกับชินเซย์──
[“ไหนๆก็เข้าประเด็นนี้เเล้ว ว่าเเต่ เเล้วคุณฟุตาบะไปไกลเเค่ไหนหลังจากพาอาซาฮิโอกะคุงไปที่บ้านล่ะ?”]
…เอ๋? เมื้อกี้ ว่าไงนะ…
[“เอ่อ…คุณฟุตาบะดูเหมือนจะเป็นพวกเข้าหาก่อน ส่วนอาซาฮิโอกะคุงก็ดูอ่อนไหวเวลาถูกรุกเข้าใส่น่ะ…”]
…ไม่ผิดเเน่…ถ้าเป็นชินเซย์ การไปเเจมกับพรรคพวกอย่างโชวคงไม่ใช่เรื่องเเปลกอะไร
เเต่…ถ้ามันเป็นเรื่องจริงก็เเปลว่าชินเซย์ที่ชอบฉันอยู่เเล้ว เเต่กลับรีบไปหาไปหาผู้หญิงคนอื่น เเบบนั้นมัน…
[“ไม่ใช่ว่าต้องกลับกันหรอกเหรอ? เพราะฝ่ายพากลับบ้านควรเป็นอาซาฮิโอกะคุงมากกว่า”]
[“ฉันไม่คิดเเบบนั้นนะ”]
ฉันอยากให้สิ่งที่ฉันได้ยินนั้นไม่เป็นโกหก
เเต่…จากที่ทั้งสองคนคุยกันอยู่ ดูเหมือนจะเป็นเรื่องจริง
หัวใจของฉันเริ่มเต้นเเรงขึ้นเรื่อยๆ
[“เเปปนะ ฉันได้ไลน์จากอาโออิคุง”]
[“เขาพิมพ์มาว่าไง?”]
[“ความลับจ๊ะ!”]
[“เอ๋~ บอกหน่อยน้า!”]
เสียงของพวกเขาห่างออกไปเล็กน้อย จากนั้นฉันได้ยินเสียงประตูห้องน้ำปิด
[“ทําไม…ถึงเป็นเเบบนี้ได้…”]
ฉันกุมหัวเเละย่อตัวลง
[“ทําไงดี ทําไงดี…”]
ความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับชินเซย์อาจจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมเเล้วไม่ได้
[“…ต้องรีบเข้าเรียนเเล้วสิ…”]
มีเรื่องในใจอีกเยอะเเยะเลย เเต่ต้องเข้าเรียนเเล้ว
ฉันต้องไปที่ห้องเรียนเเละไปเจอชินเซย์เพื่อที่จะพิสูจน์ว่าเรื่องที่ผู้หญิงที่พูดมาเมื้อกี้เป็นความจริงไหม
ในขณะที่ฉันกําลังเปิดประตูห้องทําธุระส่วนตัวนั้น ฉันเกือบจะไปชนเข้ากับคนๆหนึ่งที่พยายามเดินผ่านไป
[“อุ๊ย ขอโทษนะคะ”]
[“อ๊ะ ฉันสิต้องขอโทษ──”]
ขณะที่ฉันกําลังขอโทษ ฉันกลืนคําพูดนั้นลงคอ
เพราะคนๆนั้น──เป็นคนที่ฉันคิดอยู่ในใจมากที่สุดยังไงล่ะ…
[“เรามาคุยกันซักหน่อยดีกว่าค่ะ คุณชิอินะ เรีย”]
จากนั้น คุณฟุตาบะก็ยิ้มอย่างเงียบๆ
รอยยิ้มนั้น มันดูเหมือนเป็นรอยยิ้มประกาศชัยชนะกับฉัน
[“…จะคุยในนี้ก็กระไรๆอยู่ เรามาเปลี่ยนที่คุยกันดีกว่า”]
คุณฟุตาบะพาฉันขึ้นมาบนดาดฟ้า
ประตูชั้นดาดฟ้าถูกล็อคเพราะเป็นพื้นที่ห้ามสําหรับนักเรียน แต่คุณฟุตาบะกลับสะเดาะกลอนมันได้อย่างง่ายดายโดยการใช้กิ๊บที่เธอหยิบออกมาจากกระเป๋าเสื้อ
[“ช่วยเก็บไว้เป็นความลับด้วยนะ”]
คุณฟุตาบะยิ้มอย่างซุกซน ฉันจึงพยักหน้าตอบเธอ
เมื่อขึ้นไปบนดาดฟ้าเเล้ว ฉันเบียดเสียดกับคุณฟุตาบะ
[“นี่ คุณฟุตาบะ ฉันมีเรื่องอยากจะถามก่อนหน้านั้น”]
[“ว่ายังไงคะ?”]
[“…เธอพาชินเซย์กลับไปที่บ้านนี่หมายความว่ายังไง?”]
[“เเสดงว่าได้ยินที่คุยเมื่อกี้สินะ ให้ตายสิ สองคนนั้นปากเบาจริงๆ เเล้วยังสร้างเรื่องให้ฉันอีก”]
[“อย่านอกเรื่อง ตอบคําถามฉันมา”]
[“เเน่นอนว่ามันเป็นเรื่องจริง ฉันพาชินเซย์ที่ถูกเธอหักหลังกลับมาที่บ้านของฉันเองล่ะ”]
[“ว่า…”]
คุณฟุตาบะพูดด้วยใบหน้าที่ชัดเจน จนทําให้ฉันก็พูดไม่ออก
[“จะว่าไป…ชินเซย์ก็ทําตัวน่ารักเป็นเหมือนกันสินะตอนอยู่บนเตียง เธอรู้รึเปล่าว่าเขาทําตัวไม่ถูกเลยตอนสาวรุกเนี่ย?”]
ฉันที่โดนยั่วยุด้วยวิธีง่ายๆเเบบนี้มันจึงทําให้ความโกรธในตัวฉันพลุ่งพล่าน
[“กล้าพูดออกมาหน้าด้านๆได้ไงว่า เเย่งเเฟนของฉันไปห๊ะ…เเย่ที่สุด!”]
[“อย่าเข้าใจผิดไปสิ เเต่ชินเซย์ในตอนนี้เขาไม่ใช่เเฟนของเธอเเล้วนะ? ก็เธอเป็นคนทิ้งชินเซย์เองนี่นา?”]
[“นะ นั้นมัน…”]
[“ก่อนอื่นเลยเธอคงไม่ยอมรับสินะว่าตัวเองไม่ได้นอกใจ”]
คุณฟุตาบะพูดด้วยนํ้าเสียงเย็นชาเเละค่อยๆหรี่ดวงตาลง
[“ก็ฉันไม่ได้นอกใจจริงๆหนิ! ชินเซย์จะเข้าใจเองถ้าเขาได้ฟังคําอธิบายของฉัน ส่วนคุณฟุตาบะก็จะกลายเป็นเเค่ขยะข้างทางเท่านั้นเเหละ!”]
[“ไม่ได้นอกใจ งั้นเหรอ? นั้นเธอพูดจากใจจริงรึเปล่า?”]
[“เเน่นอนสิ อยากมีปัญหาหรอ?”]
[“…เฮ้อ ไม่อยากจะเชื่อเลยที่เธอไม่สํานึกเลยสักนิดเนี่ย คนอย่างเธอไม่ควรอยู่เคียงข้างชินเซย์เลยสักนิด”]
คุณฟุตาบะพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาพลางถอนหายใจ
[“คุณฟุตาบะที่เป็นคนนอกไม่มีสิทธิ์มาพูดกับฉันเเบบนั้นสักหน่อย! เพราะนี่เป็นปัญหาระหว่างฉันกับชินเซย์!”]
[“น่าเสียดายหน่อยนะ เเต่ตอนนี้ฉันเป็นเเฟนกับชินเซย์เเล้ว เพราะฉะนั้น หลังจากนี้ช่วงอย่ามายุ่งกับเเฟนฉันจะได้ไหม?”]
ฉันชักอารมณ์เสียที่เธอคุยโวเรื่องชินเซย์ของฉัน ทั้งๆที่เธอยังไม่เคยได้ออกเดทกับเขาเลยสักครั้ง
[“…ไม่ ฉันทําเเบบนั้นไม่ได้ เพราะฉันต้องไปอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานให้ชินเซย์ฟังหลังจากนี้”]
[“เเต่วันนี้เขาไม่ได้มาโรงเรียนนะ ฉันว่าเขาคงไม่ได้บอกเธอสิท่า”]
คุณฟุตาบะทําหน้าประหลาดใจใส่ฉันเล็กน้อย
[“งั้นฉันจะไปหาชินเซย์ที่บ้านตอนนี้เลย”]
[“ชินเซย์อยู่ที่บ้านฉันนะ เธอรู้หรอว่าบ้านฉันอยู่ที่ไหน?”]
[“ไม่ว่ายังไงสักวันชินเซย์ก็ต้องมาโรงเรียนอยู่ดี เธอจะให้ฉันหลีกเลี่ยงเขาไปตลอดน่ะมันไปไม่ได้หรอกนะ”]
ชินเซย์ไม่ใช่คนขาดเรียนโดยไร้ซึ่งเหตุผล
สักวันหนึ่ง เขาจะต้องปรากฏตัวต่อหน้าฉันเเละฉันจะโน้มน้าวเขาเอง
ถ้าเป็นเเบบนั้น ชินเซย์คงกลับมาหาฉันอย่างเเน่นอน
[“ถ้างั้น ฉันจะเตรียมที่ไว้ให้เธอคุยกับชินเซย์ก็เเล้วกัน เเล้วจะขอบคุณมากเลยถ้าเธอไม่ไปติดต่อกับชินเซย์โดยที่ไม่ได้รับอนุญาติจากฉันอ่ะนะ”]
ฉันไม่เข้าใจว่าทําไมเธอถึงต้องเฝ้ามองจนถึงปลายทางให้ได้
แต่มันไม่ใช่ความคิดที่เเย่ซะทีเดียวที่จะโน้มนาวชินเซย์ให้กลับมาเป็นของฉันต่อหน้าคุณฟุตาบะเหมือนกับที่เอาชินเซย์ไปจากฉัน
[“ได้สิ จะว่าไป…คุณฟุตาบะเเสร้งทําตัวเป็นเเฟนของเขาอยู่สินะ”]
[“เเน่นอนอยู่เเล้ว นั้นเพราะฉันไม่เหมือนใครบางคนที่นอกใจเเละทิ้งเขาไว้ ฉันน่ะเป็นเเฟนของชินเซย์อย่างเเท้จริงเลยเเหละ”]
มันทำให้ฉันชวนหงุดหงิดทุกครั้งที่เธอพยายามยั่วโมโหฉัน ฉันจะเอาชินเซย์กลับมาเป็นของฉันอย่างแน่นอน
[“…ฉันไม่ได้ตั้งใจที่จะนอกใจนะ”]
ฉันจ้องกลับไปที่คุณฟุตาบะโดยไม่พยายามที่จะซ่อนอารมณ์ของตัวเอง
[“งั้นก็เเปลว่า คุณชิอินะไม่รู้ตัวเองสินะ ว่าสิ่งที่ตัวเองทําคือการนอกใจ?”]
[“ถ้าชินเซย์คิดว่าฉันจงใจที่นอกใจตัวเขามันก็อีกเรื่อง…เเต่ถ้าฉันไปเล่าเหตุกาณ์ตอนนั้นให้เขาฟัง เขาอาจจะกลับตัวกลับใจก็ได้”]
[“ไปเล่าเหตุกาณ์ให้เขาฟังเนี่ย เธอไปจะเเก้ตัวกับเขายังไงกันเเน่นะ?”]
ฉันลงไปจากดาดฟ้าโดยไม่สนใจคําพูดคําจาของคุณฟุตาบะ
—————-
ติดตามผู้เเปลได้ที่ FB : Mxgic ลงข่าวสารเกี่ยวกับนิยายโดยเฉพาะ