หลังจากที่เเฟนทิ้งผมไป จู่ๆสาวที่สวยที่สุดในโรงเรียนก็ลากคอผมไปที่บ้านซะงั้น – ตอนที่ 8 เดทไปกับความรู้สึกที่แผ่ซ่านของเธอ

หลังจากที่เเฟนทิ้งผมไป จู่ๆสาวที่สวยที่สุดในโรงเรียนก็ลากคอผมไปที่บ้านซะงั้น

[“รุ่นพี่อาซาฮิโอกะ เป็นอะไรไปหรอคะ~? เห็นนั่งเหม่อตั้งเเต่เมื่อกี้เเล้ว”]

ผมกําลังนั่งพักจากการซ้อมฟุตบอลในช่วงเช้าของวันเสาร์อยู่ที่ขอบสนาม โดยที่มีโซระคอยคุยกับผมอยู่

[“หืม? นี่ฉันเหม่อไปหรอ?”]

[“ใช่สิคะ ราวกับว่าจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว มีอะไรเกิดขึ้นหรอคะ~?”]

[“ตอนนี้น่ะไม่มีหรอก…เเต่หลังจากนี้มีเเน่ๆหล่ะ”]

[“เอ๋~ มีอะไรหรอคะ~? อยากรู้จังเลยค่ะ~ “]

โซระถามผมด้วยสีหน้าสงสัย

[“ตอนบ่ายนี้…ฉันมีไปเดทกับเรย์นะน่ะ”]

เมื่อผมพูดเช่นนั้นออกไปทําให้ผมรู้สึกโล่ง เเละโซระมองมาที่ผมอย่างเบื่อหน่าย

[“อะ อะไรของเธอ? มีอะไรไม่พอใจ?”]

ถ้าผมไปบอกกับสมาชิกผู้ชายคนอืนที่อยู่ในชมรมเราว่า “วันนี้ตอนบ่ายฉันจะไปเดทกับฟุตาบะ เรย์นะ” มันคงจะเป็นการรนหาที่ตายดีๆ เเต่ผมไม่เข้าใจว่าทําไมโซระถึงดูไม่พอใจสักเท่าไหร่

[“ก็~ รุ่นพี่ยังไม่ได้ไปเดทกับฉันที่คาเฟ่เเมวเลยด้วยซํ้า เเต่กลับไปเดทกับรุ่นฟุตาบะก่อนซะงั้นนี่นา…”]

โซระก้มหน้าลง เเละเตะพื้นเบาๆราวกับกําลังน้อยใจ

เธอยังไม่ยอมเเพ้กับการเดทที่คาเฟ่เเมวอีกหรอเนี่ย…รักเเมวขนาดไหนเนี่ย

[“โอเค เข้าใจเเล้ว ถ้าเธออยากไปคาเฟ่เเมวมากขนาดนั้นล่ะก็ ไว้ฉันพาเธอไปครั้งหน้านะ”]

[“เอ๊ะ…พูดจริงหรอคะ~!?”]

โซระที่ดูตื่นเต้นมากกระโดดตัวไปรอบๆอย่างไร้เดียงสา เเละกระโจนเข้ามาเหมือนกระต่าย

ส่วน สมาชิกคนอื่นในชมรมซึ่งอยู่ห่างออกไปเเต่ไม่ไกลมาก กําลังจ้องมองดูลูกเเตงโมสองลูกเด้งขึ้นลงไปมา

ในขณะที่ โชว ซึ่งเป็นพี่ชายของโซระ นั่งจ้องมองสมาชิกในชมรม…เเละนี่ก็คือชีวิตประจําวันของชมรมฟุตบอลของเรา

[“เย้~! สัญญาเเล้วนะคะ รุ่นพี่!”]

[“อืม ฉันขอสัญญาเลย เเต่ว่า…”]

ผมสบตากับโชวที่ดูเหมือนอยู่ในอาการวิตกกังวล

[“ต้องมีโชวติดไปด้วยนะ”]

[“ถ้าเป็นเเบบนั้้น มันก็ไม่ใช่เดทสิค๊า~!”]

เสียงร้องคร่ำครวญของโซระดังก้องไปทั่วพื้นที่อันกว้างใหญ่

 

 

มิโอริเข้ามาทักทายผมที่ประตู เมื่อผมกลับบ้านหลังจากการทํากิจกรรมชมรมช่วงเช้าเสร็จ

[“ยินดีต้อนรับกลับบ้านค่ะพี่ ว่าเเต่ วันนี้กลับมาเร็วจังนะ โดดกิจกรรมเเล้วไปเล่นกับสาวอีกเเล้วหรอ?”]

มิโอริถามกึ่งเเซวกับผมด้วยความหงุดหงิด อาจเป็นผลมาจากการที่ผมไปค้างบ้านผู้หญิงเมื่อวันก่อน

ไม่สิ เธออาจจะถามจริงจังก็ได้

[“ป่าว ตอนบ่ายไม่มีกิจกรรมชมรมน่ะ”]

[“อย่างงั้นเหรอ เเสดงว่าตอนบ่ายพี่ว่างสินะคะ? เรามาเล่นเกมด้วยกันดีไหม?”]

มิโอริถือคอนโซลเกมเเบบพกพาที่มือ เป็นไปได้ว่าเธอเล่นเกมตั้งเเต่เเหกขี้ตา

[“พี่ไม่เหมือนเธอนะที่ว่างอยู่ตลอด ส่วนตอนบ่ายพี่ต้องไปทําธุระต่อ”]

[“เป็นไปได้ไหมว่า…พี่กลัวเเพ้หนูอีกเลยจะชิ่งหนี? เมื่อวันก่อนพี่ทําเป็นปากเก่ง เเต่สกิลเพลย์กลับไม่ได้เรื่องเลย”]

[“อย่ามาซํ้าเติมพี่ด้วยการเอาตอนพี่เล่นเกมครั้งเเรกสิฟร๊ะ! พี่จะไปเดทน่ะเเน่นอนว่ากับเเฟน!”]

[“…ไปเดทในวันหยุดเนี่ย…ดูเป็นคนมีฐานะเข้ามาในทันทีเลยนะ พี่เนี่ย”]

มิโอริพึมพําด้วยนํ้าเสียงไม่จริงใจ

[“คนมีฐานะนั้นรวมถึงคนที่ไม่ยอมออกไปข้างนอกเเละเอาเเต่เล่นเกมเเต่เช้าด้วยนะ”]

[“คนนั้นคือใครกันน้า? อย่างน้อยหนูเชื่อว่าตัวเองไม่ใช่คนที่ทําอะไรเเบบนั้น”]

[“พูดออกมาจากปากใครเนี่ย…”]

มิโอริกลับไปที่ห้องของตัวเอง เเละปัดป้องคําพูดของผมด้วยการหันหลังให้

[“…เอาล่ะ เราเองก็ต้องไปเตรียมตัวล่ะสิ”]

หลังจากอาบน้ำเสร็จ ผมก็ได้เปลี่ยนเสื้อผ้าและแต่งตัวอยู่หน้ากระจก

แว็กซ์ผมบางๆและชโลมน้ำหอมคู่ใจ

ผมออกจากบ้านหลังจากใส่รองเท้าผ้าใบที่เพิ่งซื้อมาสดๆร้อนๆ

ผมเดินไปทางที่ผมมักใช้ไปโรงเรียน เดินข้ามสะพานเเละสะพานลอยจนไปอยู่อีกฝั่งหนึ่งเเละผ่านบริเวณตึกที่เรียงกันเเถว

เเละเเล้วบริเวณย่านคนพลุกพล่านก็ได้ปรากฏให้เห็น

เรย์นะนัดไว้ที่หน้าโรงภาพยนตร์เล็กๆในย่านดาวน์ทาวน์

ดูเหมือนว่าผมจะมาถึงก่อนเธอหนึ่งก้าว เพราะยังไม่เห็นเรย์นะอยู่เเถวนี้

ผนังด้านนอกของโรงภาพยนตร์ถูกตกเเต่งไปด้วยโปสเตอร์ของภาพยนตร์ที่กำลังเข้าฉายอยู่ รวมถึงหนึ่งในภาพยนตร์โรแมนติกที่เรย์นะพูดถึงเมื่อวันก่อน

[“คงจะมาดูเรื่องนี้สินะ…”]

เรย์นะที่บอกก่อนหน้านี้ว่าวันที่เรามาดูหนังจะต้องเป็นวันที่สนุกสนานอย่างเเน่นอน มันจึงเดาเรื่องที่เธอจะให้ผมดูได้ไม่ยากนัก

ผมไม่มีอะไรทําระหว่างรอเรย์นะ จึงไปดูรายชื่อนักเเสดงไปพลางๆ

[“ขอโทษที่ให้รอนานนะ ชินเซย์”]

ผมได้ยินคนเสียงที่ดูสดใสเรียกชื่อผมอย่างเเผ่วเบา

เมื่อผมหันหน้าไปก็ได้พบกับเรย์นะยืนยิ้มที่มุมปาก

ชุดวันพีชสีดําลายจุดถูกคลุมด้วยเสื้อคาร์ดิเเกนสีซากุระ เเละยังมีกระเป๋าสะพายสีเเดงสด

เเต่งหน้าด้วยอายแชโดว์¹ เเละทาปากด้วยให้ดูมันวาวด้วยลิปกลอส²

¹ อายเเชโดว์ (Eyeshadow) คือ เครื่องสำอางค์ที่ใช้ปัดทาบนเปลือกตาใต้คิ้ว เพื่อให้เกิดมิติความลึกของตาในแต่ละข้าง นอกจากนั้นแล้วยังทำให้ดูแล้วเด่น มีเสน่ห์อีกด้วย

² ลิปกลอส (Lip Gloss) คือ เครื่องสําองค์จําพวกลิปสติกที่ช่วยให้เรียวปากสดใสน่ามองยิ่งขึ้น เพราะมีลักษณะที่สวยฉํ่า มันวาว

โดยปกติเรย์นะมักจะไม่เเต่งหน้า ซึ่งมันทําให้ผมเเยกเเยะได้ว่านั้นคือหน้าสดหรือไม่

เเต่เสน่ห์เเบบผู้ใหญ่ของเรย์นะนั้นดูน่าดึงดูดกว่า

[“ฉันก็เพิ่งมาถึงเอง ไม่ต้องคิดมากหรอก”]

[“ดูเป็นการเเลกเปลี่ยนบทสนทนาที่ดีเนอะ”]

เรย์นะหัวเราะเบาๆ เเละเข้ามาหากอดเเขนผม

ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา มันกลายเป็นที่ประจําของเรย์นะโดยสมบูรณ์

[“นี่ ชินเซย์ ก่อนที่เราจะเริ่มเดทกัน ไม่ใช่ว่ามีอะไรต้องพูดกันฉันหรอ?”]

[“วันนี้เรย์นะดูน่ารักมากเลยล่ะ”]

[“ฟุฟุ ขอบคุณนะ”]

ค่อยยังชั่ว ดูเหมือนว่าผมจะสอบผ่าน

ผมรู้ว่าต้องชมเธอก่อนออกเดท เเต่นั่นไม่ใช่ทางเลือกที่ถูกต้องเสมอไป

ครั้งหนึ่งในอดีต เมื่อผมชมเรียก่อนออกเดท เธอกลับตะคอกใส่ผมว่า “ไม่เห็นจะน่ารักตรงไหนเลย”

มันช่างน่าเศร้าใจที่ฝ่ายชายต้องมาเอาอกเอาใจเธอ เเม้ว่าพวกเขาจะหงุดหงิดอยู่ในใจด้วยเหตุผลที่ไม่สมเหตุสมผลก็ตาม

[“งั้น เราไปเดทกันเถอะ ชินเซย์”]

[“อืม นั่นสินะ”]

เมื่อเข้าไปในโรงหนัง พวกเราต่อเเถวเพื่อที่จะซื้อตั๋วที่เครื่องขายตั๋วก่อน

เนื่องจากวันนี้เป็นวันหยุด จึงทําให้มีผู้ปกครองเเละเด็กหลายกลุ่มรวมถึงคู่รักไม่กี่คู่มาต่อเเถวซื้อตั๋ว

ข้างหน้าเราคือกลุ่มของเด็กผู้ชายม.ต้นที่กําลังคุยกันอย่างสนุกสนานเกี่ยวกับหนังบู๊สุดฮิตที่พวกเขากําลังจะได้ดู

ผมยิ้มให้เเก่พวกเด็กๆ เเละเเล้วก็ถึงคราวของพวกเรา

[“…เอ๋?”]

ผมรู้สึกเอะใจเมื่อเห็นเรย์นะเริ่มใช้งานหน้าจอทัชสกรีน

เรย์นะเลือกเรื่องที่เป็นหนังบู๊ที่เด็กม.ต้นพูดถึงเมื่อครู่

[“เอ่อ คือว่า…เรย์นะชอบหนังบู๊หรอ?”]

[“ก็บอกได้ไม่เต็มปากหรอกว่าชอบ…ไม่สิ ไม่ชอบเลย”]

เรย์นะใช้นิ้วเลื่อนรายชื่อหนังบนหน้าจอด้วยสีหน้าเย็นชา

[“ไม่ชอบเหรอ!? เเล้วทําไมถึงเลือกเรื่องเเนวนั้นล่ะ?”]

[“ก็พอฉันลองหาข้อมูลดูในเน็ต มันบอกว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังที่ผู้ชายอยากดูมากที่สุดในปีนี้น่ะ”]

ผมเกือบจะหัวเสียเมื่อเรย์นะเเสดงความมั่นอกมั่นใจออกมากับสิ่งที่ตัวเองเลือก

ผมไม่สามารถพูดให้เธอฟังได้ว่านี่ไม่ใช่เเนวที่เราอยากดูในเดทครั้งเเรก เเต่เธอก็ยังอุตส่าห์เลือกหนังเรื่องนี้มาเพราะหวังว่าผมจะชอบมัน

ก็อย่างที่ทุกคนรู้กัน การมาดูหนังบู๊มันไม่ใช่ฟิลของการเดทเลยสักนิด

[“งั้น ราคาเด็กม.ปลายสองใบ ส่วนที่นั่งฉันขอเป็นคนเลือกนะ”]

[“…ดะ…เดี๋ยวก่อน เรย์นะ”]

ผมรีบหยุดมือของเรย์นะที่กําลังเลื่อนหน้าจออยู่

ผมต้องพยายามให้ดีที่สุดเพื่อหลีกเลี่ยงความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นซึ่งก็คือ การดูหนังบู๊ในเดทครั้งเเรก

[“อะไรหรอ?”]

[“หนังบู๊มันก็ดูน่าสนใจอยู่หรอก เเต่เรย์นะไม่ได้ตั้งใจที่จะดูหนังโรเเมนติกที่พูดถึงเมื่อวันก่อนหรอ?”]

[“…บอกตามตรงก็อยากดูนะ เเต่สําหรับผู้ชายเเล้วหนังบู๊น่าจะสนุกกว่าหนังโรเเมนติกไม่ใช่หรอ?”]

ผมดีใจที่เธอให้ความสําคัญกับผมเป็นอันดับเเรก เเต่ถ้านั่นทําให้เรย์นะรู้สึกไม่สนุกด้วย มันก็ไม่มีความหมายที่จะดูอะไรเเบบนั้น

เเน่นอนว่า มีคนประเภทที่ดูหนังบู๊ที่ตัวเองไม่ค่อยสนใจเเละพบว่ามันดูน่าสนใจอย่างน่าประหลาดใจ…

เเต่เมื่อดูจากพฤติกรรมที่ดูเย็นชาของเรย์นะเเล้ว มันอาจทําให้ความสัมพันธ์ของพวกเราพัฒนาต่อไปไม่ได้

[“ไม่เสมอไปหรอก ส่วนตัวฉันชอบดูหนังโรเเมนติกมากกว่า”]

[“ถ้าชินเซย์อยากดู ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอก…”]

[“เอาล่ะ ตัดสินใจเเล้วสินะ”]

ผมยุได้อย่างสมบูรณ์เเบบเเละจบลงด้วยการดูหนังโรเเมนติก

เมื่อเราเข้าไปในโรงหนัง การฉายหนังก็ได้เริ่มขึ้น เรย์นะซึ่งนั่งอยู่ข้างๆจับมือกับผม

เธอค่อยๆนํามือสอดเข้ามาในร่องมือของผมเเละกําเเน่น

ผมมองไปยังหน้าจอที่มืดมิด รู้สึกถึงการปรากฏตัวของเรย์นะ

[“ฉันว่าเรื่องนี้สนุกดีนะ เเละองค์ประกอบตลกขบขันรวมอยู่ในสถานที่ต่างๆด้วย”]

คําพูดเเรกของเรย์นะหนังจากหนังจบลงคือความพึงพอใจอย่างหนึ่ง

ผมสงสัยว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าพวกเราไปดูหนังเเอคชั่นที่ตัวเรย์นะไม่ได้สนใจ

[“พระเอกกับนางเอกดูน่ารักทั้งคู่เลยเนอะ”]

[“เเต่เรย์นะน่ารักกว่านะ”]

[“…เป็นอะไรของนาย? นายไม่รู้ด้วยซํ้าว่าตัวเองพูดอะไรออกมา ฉันไม่ตลกนะ”]

เรย์นะทําปากบูดเบี้ยว

[“ถ้าฉันชมนางเอกหรือนักเเสดงหญิง เธอจะทําอะไรฉัน?”]

[“…หืม อยากรู้หรอ?”]

[“มะ ไม่เป็นไรดีกว่า”]

เมื่อพูดเช่นนั้น ดวงตาของเรย์นะได้มืดสนิท เเละผมก็ยกมือขึ้นในท่าทางยอมจํานน

หลังจากออกจากโรงหนัง พวกเราตัดสินใจเเวะสตาร์บัค

ภายในร้านไม่ได้เเออัดมากนัก พวกเราจึงตรงไปที่เคาน์เตอร์ที่มีบริกรอยู่

[“ยินดีต้อนรับครับ จะรับอะไรดีครับ”]

ขณะที่ผมกําลังดูเมนูเเละพลางคิดไปด้วยว่าจะสั่งอะไรดี เรย์นะก็ขอได้สั่งเครื่องดื่มก่อนราวกับว่าเธอคิดไว้เเล้วว่าจะสั่งอะไร

[“ดาร์กมอคค่าแฟรบปูชิโน่นมถั่วเหลืองใส่วานิลลาไซรัปเเล้วโรยด้วยจาวาชิป หนึ่งเเก้วค่ะ”]

เรย์นะท่องชื่อเครื่องดื่มที่ยาวอย่างกับคาถาร่ายเวทย์ได้อย่างลื่นไหล

[“ดาร์กมอคค่าแฟรบปูชิโน่นมถั่วเหลืองใส่วานิลลาไซรัปเเล้วโรยด้วยจาวาชิปนะครับ  ไม่ทราบว่ารับเป็นไซส์ไหนดีครับ?”]

[“ไซส์ M ค่ะ”]

[“…ขออภัยด้วยครับคุณลูกค้า ทางร้านเรามีเเค่ไซส์ Short Tall Grande เเละ Venti ³ ครับ…”]

³ เป็นขนาดเเก้วของทางสตาร์บัคโดยเรียงจาก Short (เล็กสุด; 8 oz) Tall (เล็ก; 12 oz) Grande (กลาง; 16 oz) เเละ Venti (ใหญ่; 20 oz)

[“Short…? Tall…?”]

[“ทางร้านเรามีเพียงสี่ไซส์นี้เท่านั้นครับ…”]

[“เข้าใจเเล้วค่ะ… งั้น เอาเป็น…”]

เรย์นะที่ดูทําตัวสบายชิวๆ เมื่อครู่ ก็เริ่มตื่นตระหนก หรือว่า…นี่เป็นครั้งเเรกที่เรย์นะสั่งสตาร์บัค?

[“สงสัยเป็นการเรียกขนาดเเบบต่างประเทศสินะ…? ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย…”]

ดูเหมือนว่าข้อสันนิษฐานของผมจะถูกต้อง เรย์นะบิดศีรษะไปมา

[“จะว่าไป เเก้วนี้มีวิปครีมใส่อยู่ด้วย…ถ้าไม่ใส่วิปครีมได้ไหมนะ…? การที่เเก้วนี้เป็นมีช็อกโกแลตซอสด้วยเเสดงเราขอให้เขาใส่ได้สินะ…?”]

สิ่งที่เรย์นะสั่งไปก่อนหน้าคือการสั่งเครื่องดื่มเเบบปรับเเต่งเองได้ในระดับหนึ่ง

เเต่ว่าเธอกลับไม่รู้วิธีปรับเเต่งมัน ซึ่งดูเหมือนว่าเธอได้จดจําชื่อสูตรเครื่องดื่มได้จากทางเน็ต

เรย์นะเริ่มพึมพําเเละวิตกกังวล ผมอดไม่ได้ที่จะเป็นห่วงเธอจึงตัดสินใจเข้าไปช่วย

[“ขอโทษนะครับ ไซส์ขอเป็น Tall ครับ เเล้วก็ขอเป็นช็อกโกแลตซอสไม่ใส่วิปครีมเเทน เเบบนี้โอเคไหม เรย์นะ?”]

[“อะ เอ๊ะ…อืม โอเคเเล้ว”]

หลังจากสั่งของเรย์นะได้อย่างลุล่วงเเล้ว ผมก็สั่งเครื่องดื่มตามฤดูกาลให้กับตัวเอง

เเล้วก็รอรับเครื่องดื่มที่เคาน์เตอร์

[“…พูดซะคล่องเชียว ฉันนึกสงสัยจังว่ามาที่นี่กับคุณชิอินะกี่ครั้งเเล้ว?”]

เรย์นะถามผมขณะที่เธอหันหน้าหนี เเละเอาเเก้มไปเเนบกับเคาน์เตอร์

[“ถ้ามาบ่อยๆเดี๋ยวมันก็คล่องเองเเหละ เเต่ผิดคาดนะเนี่ย ที่ครั้งนี้เป็นครั้งเเรกของเรย์นะ”]

[“คาเฟ่สไตล์เเบบนี้ไม่ใช่สถานที่ที่อยากมากับคู่รักเหรอ? ฉันคิดเเบบนั้นเลยเก็บโอกาสเอาไว้จนกว่าจะมีเเฟนน่ะ”]

[“เห งั้นหรอกเหรอ”]

[“…ชินเซย์ ยังอยากทําเพื่อฉัน เเบบที่ฉันอยากทํากับคนรักต่อไปใช่ไหม?”]

[“ฉันจะทําสุดความสามารถเเล้วกัน”]

เรย์นะหันมายิ้มด้วยความพอใจ

หลังจากรับเครื่องดื่ม พวกเรามุ่งหน้าไปยังโต๊ะสองที่นั่ง

[“นี่คือ…เครื่องดื่มชื่อยาวๆที่ฉันกับชินเซย์สั่งด้วยกันในเดทครั้งเเรกสินะ…!”]

เรย์นะดูประทับใจเเละดวงตาของเธอเป็นประกายต่อหน้าเครื่องดื่ม

[“ถึงมันจะเป็นเครื่องดื่มที่พนักงานทําก็เถอะนะ”]

[“ไม่ต้องไปกังวลเกี่ยวกับรายละเอียดยิบย่อยหรอก”]

เรย์นะที่ดูอารมณ์ดี กําลังดื่มเครื่องดื่มที่ดูหรูหราผ่านหลอด จากนั้นร้อง ‘เอ๊ะ’ ทําหน้าราวกับว่าเธอสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง

[“หืม? มีอะไรรึเปล่า?”]

[“เอ…เปล่านะ? ไม่มีอะไร”]

เมื่อเธอพูดเช่นนั้น สายตาของเรย์นะมุ่งตรงไปมาที่เครื่องดื่มของผม

[“…”]

ขณะที่ผมดื่มเครื่องดื่ม เรย์นะมักจะมองที่มือของผมอย่างเงียบๆ และผมก็อดไม่ได้ที่จะตรวจสอบความตั้งใจของเธอ

[“นี่ เรย์นะ? ฉันดื่มไม่ลงนะถ้าเธอเอาเเต่จ้องมาเนี่ย”]

[“กะ ก็จริง ขอโทษนะ”]

[“หรือว่าเธออยากลองหรอ?”]

ผมทําทีชี้ไปที่เครื่องดื่ม เรย์นะก็ได้พยักหน้าออกมาอย่างเขินอาย

[“หายากนะเนี่ย ที่เรย์นะอยากได้ของคนอื่นเนี่ย”]

[“ก็…ฉันอ่านเจอในนิตยสารว่า ถ้ามาสตาร์บัคกับแฟน ควรเเชร์เครื่องดื่มกันน่ะ…”]

เรย์นะทําหน้ามุ่ยเเละเงยหน้าขึ้นมามองผม

เธอมักจะร่าเริงเเละดูเป็นผู้ใหญ่ เเต่เธอดูน่ารักมากจริงๆในสถานการณ์เเบบนี้

[“อย่างนี้นี่เอง ได้สิ เรามาเเลกกัน”]

[“จะดีหรอ?”]

[“เมื่อกี้เธอพูดเองไม่ใช่รึไง?”]

[“…ฟุฟุ ก็จริง”]

 

 

ผมเเลกเครื่องดื่มกับเรย์นะ เเละจิบเล็กน้อย ซึ่งรสชาติมันหวานอย่างเหลือเชื่อ

หวานจนยากที่จะดื่มมันให้หมดได้ด้วยตัวคนเดียว

[“อันนี้ ช็อคโกเเลตเยอะมากเลย…”]

[“คราวหน้าฉันคงจะไม่ใส่ช็อคโกเเลตซอสเพิ่มเเล้วล่ะ”]

ในขณะที่กําลังดื่มดําอยู่กับเครื่องดื่ม พวกเราก็มาคุยกันต่อในหัวข้อหนังที่เราเพิ่งดูไป

[“ฉากที่พระเอกโดนเหวี่ยงไปมาเพราะความเห็นเเก่ตัวของนางเอก ทําเอารู้สึกถึงความใกล้ชิดกันมากเลย”]

[“นั้นสิ ว่าเเต่ทําไมกันนะ”]

[“ไหนๆก็เข้าเรื่องนี้เเล้ว ว่าเเต่ปกติเรย์นะดูหนังโรเเมนติกรึเปล่า?”]

[“ถึงเห็นฉันเป็นเเบบนี้ ฉันเป็นถึงเเฟนหนังโรเเมนติกเลยนะจะบอกให้”]

[“งั้นหรอ?”]

[“ฉันได้ค้นคว้าวิธีเข้าถึงชินเซย์ โดยอิงจากหนังโรเเมนติกเนี่ยเเหละ”]

ในโรงเรียนมีปากเสียงกันว่าเรย์นะไม่สนใจเรื่องรักๆใคร่ๆ

ผมอาจเป็นคนเดียวก็ได้ที่รู้ด้านไม่คาดถึงของเธอ

[“ดังนั้น คําตอบที่เธอได้หลังจากการค้นคว้าคือ อยากจะจูบตอนไหนก็จูบ?”]

[“ไม่ใช่เเบบนั้นหรอก ตอนนั้นมัน เเอดลิบ⁴ ต่างหาก”]

⁴ เเอดลิบ (Ad Lib) คือการเเสดงหรือพูดอย่างไม่ได้มีการเตรียมการมาก่อน หรือภาษาเข้าใจง่ายคือ ด้นสด เเสดงสด

[“…ศัพท์เฉพาะทางการวิจัยงั้นเหรอ…?”]

[“ถึงฉันจะพูดให้ฟังไปก็คงไม่มีประโยชน์หรอกมั้ง”]

[“เอ๋…”]

[“มันไม่มีเหตุผลที่ต้องอธิบายด้วยสิ เพราะฉันได้ชินเซย์มาเเล้ว อ๊ะ เดี๋ยวฉันมาเเปปนึงนะ”]

[“อืม เข้าใจเเล้ว”]

เรย์นะไปเข้าห้องนํ้าพร้อมกับกระเป๋าเครื่องสําอางค์ในมือ ในเมื่อที่ไม่มีใครให้คุยด้วยผมจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาระหว่างรอ

ผมค้นหาหนังบู๊ที่เเปะอยู่บนโปสเตอร์ก่อนหน้านี้และได้พบว่าหนังเรื่องนี้ได้รับการจัดอันดับสูงเนื่องจากผู้คนจำนวนมากให้ความสนใจ ดังนั้นจึงเป็นความคิดที่ไม่เลวที่จะไปดูกับเรย์นะในครั้งต่อไป

[“ไม่สิ เรย์นะไม่ได้สนใจเรื่องนี้ซะด้วย ล้มเลิกเเผนการดีกว่าไหมเนี่ย…?”]

ขณะที่ผมกำลังคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ กระเป๋าสะพายที่เรย์นะเเขวนไว้กับเก้าอี้ก็เสียการทรงตัวและล้มลงไปข้างหน้าพร้อมเสียงดังกระหึ่ม

[“งานเข้าเเล้ว ของกระเด็นเต็มเลย…”]

หนังสือหลายเล่มกระเด็นออกมาจากกระเป๋าพร้อมกับโทรศัพท์สีดำของเรย์นะ

ผมลุกขึ้นจากที่นั่งและเก็บของที่ตกอยู่บนพื้น

[“นิตยสารสําหรับหญิงสาวช่วงวัยรุ่นสินะ…”]

ซึ่งนิตยสารมีชื่อว่า ‘เเผนการเดทสําหรับฤดูกาลนี้’ เเละเเต่ละเล่มเต็มไปด้วยกระดาษโน้ตจํานวนมากเเปะไว้อยู่

ผมลองพลิกดูด้านในและพบกับเส้นมาร์คเกอร์อยู่เเทบทุกที่

[“เรย์นะดูจะจริงจังกับเเผนการเดทครั้งนี้เป็นมากเลยสินะ”]

เป็นเรื่องปกติรึเปล่าที่เรย์นะ ซึ่งเป็นหญิงสาวที่มีพรสวรรค์ที่สุดในชั้นเรียน ทํากับนิตยสารเหมือนหนังสืออ้างอิงเนี่ย

ผมเก็บรวบรวมหนังสือที่เกลื่อนกลาดอยู่บนพื้นกับโทรศัพท์ของเรย์นะที่ตั้งภาพหน้าจอล็อคเป็นใบหน้าของผมขณะนอนหลับเพื่อนํามันเอาไปใส่ในกระเป๋าเหมือนเดิม จากนั้นก็นํากระเป๋าไปวางไว้บนเก้าอี้ เเละรอเวลาที่เธอกลับมา

[“หลังจากนี้เราทําอะไรดี?”]

[“มันเเน่อยู่เเล้ว ตอนจบมันก็ต้อง ‘มาที่บ้านฉันไหม?’ สิ”]

ผมไม่รู้ว่าเธอไปเรียนมาจากไหน เรย์นะพูดออกมาด้วยสีหน้าเรียบเฉย

พวกเราเดินออกมาจากคาเฟ่ ย่านดาวน์ทาวน์ซึ่งมีผู้คนเริ่มพลุกพล่านขึ้นเรื่อยๆเมื่อยามอาทิตย์อัสดง มุ่งหน้าไปยังถนนเส้นหลัก เเละเมื่อพิจารณาดูจากระยะทางจากที่นี่ไปยังเเมนชันที่เรย์นะอาศัยอยู่ พบว่ามันค่อนข้างไกล

ถนนสายยาวสายนี้จะถูกประดับประดาไฟอย่างมีสีสันในฤดูหนาวเเละยังมีทิวทัศน์ยามคํ่าคืนที่สวยงาม

แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้ ยังเป็นเพียงต้นไม้และพุ่มไม้หนาทึบเพื่อเตรียมการสำหรับฤดูร้อน

ผมสงสัยว่าฤดูหนาวจะมาถึงเร็วๆนี้หรือเปล่า เเต่จู่ๆ เรย์นะที่จับมือผมอยู่ก็ดึงผมไปยังข้างถนน

[“นี่ เรย์นะ? ทางนี้มันทางอ้อมไม่ใช่หรอ?”]

[“ไม่เป็นไรหรอก ทางนี้เเหละ”]

[“ข้างหน้านี้มีอะไรอยู่งั้นหรอ?”]

[“ไม่มีหรอก เเต่ฉันเเค่อยากไปสักที่ที่คนไม่เยอะน่ะ”]

หลังจากนั้นไม่นานนัก เรย์นะก็หยุดอยู่กับที่ท่ามกลางพื้นที่โล่งไร้ผู้คนเเละหันกลับมาหาผม

[“ตรงนี้ดีไหมนะ…?”]

เรย์นะมองไปรอบๆเพื่อตรวจสอบว่าจะไม่มีอะไรรบกวนเธอ

[“ถึงจะถามเเบบนั้นก็เถอะ เเต่ช่วยบอกได้ไหมว่าเรามาทําอะไรในที่เเบบนี้?”]

[“ที่จริงเเล้ว…ฉันวางเเผนที่จะเซอร์ไพรส์นายตอนที่ไฟโรงหนังดับลง เเต่ฉันไม่อยากจะไปขัดจังหวะความสุขในการดูของนายในตอนนั้น”]

วางเเผนที่จะเซอร์ไพรส์? ผมไม่รู้ว่าเธอหมายความว่าอะไร

[“ฉันเลยคิดว่าค่อยเซอร์ไพรส์ตอนกลับบ้านเเล้วกันเเต่…ฉันทนไม่ไหวเเล้ว”]

[“เดี๋ยวก่อนเรย์นะ เธอหมายถึงอะไร?”]

[” ‘ฉันสงสัยว่าฉันจะได้รางวัลเล็กๆน้อยๆ สําหรับการทํางานหนักวันนี้ไหมน้า~’ นั่นเเหละคือสิ่งที่ฉันหมายถึง”]

เรย์นะหลับตาทั้งสองข้างยืนเขย่งเท้า เเละเหยียดตัวให้สูงขึ้นเล็กน้อย

 

————

 

ติดตามผู้เเปลได้ที่ FB : Mxgic

ปล.1 ส่วนตัวไม่เคยสั่ง Starbuck เเบบ Custom เลยไม่ค่อยรู้สักเท่าไหร่เกี่ยวกับลําดับการเรียก ขออภัยเเฟนๆด้วยนะครับ ปกติกินเเต่ของถูก (อเมซอน) ฮา

ปล.2 บทต่อไปอาจจะลงวันพุธ (ถ้าเสร็จทัน)

หลังจากที่เเฟนทิ้งผมไป จู่ๆสาวที่สวยที่สุดในโรงเรียนก็ลากคอผมไปที่บ้านซะงั้น

หลังจากที่เเฟนทิ้งผมไป จู่ๆสาวที่สวยที่สุดในโรงเรียนก็ลากคอผมไปที่บ้านซะงั้น

Status: Ongoing
[“กะ…โกหก..ใช่ไหม?”] ชินเซย์ เห็นเเฟนของเขา เรีย นอกใจตัวเองครั้งเเรกในชีวิตเเละเธอได้ส่งข้อความมาหาผมว่า “เราเลิกเถอะ” ความสัมพันธ์ระหว่างเราทั้งสองคนก็จบลง เเละหลังจากนั้น ผมถูกลากตัวไปงานนัดบอดด้วยความรู้สึกอกหัก ผมพยายามลุกออกจากที่นั่งอย่างเงียบๆ เเต่ทันใดนั้นก็มีสาวที่สวยที่สุดในโรงเรียนเดินมาหาผม ฟุตาบะ เรย์นะ เเละมาขโมยจูบเเรกของผมไป― [“ที่ฉันมางานนัดบอดครั้งนี้ก็เพราะนายเลยนะ”] จากนั้นผมก็โดนเธอหิ้วกลับบ้านทั้งแบบนั้น!? เรย์นะ มีภาวะความเป็นผู้นําเเต่ในทางกลับกัน เมื่อผมอยู่กับเธอสองต่อสองตัวเธอนั้นเปลี่ยนไปคนละขั้ว เธอมีนิสัยเงอะงะเเถมนิสัยเสียอีก….

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน