ตำนานวังหลังของพระชายาขาบู๊ – ตอนที่ 48 งานเลี้ยงน้ำชาอันสงบสุข

ตำนานวังหลังของพระชายาขาบู๊

 

“ตอนนั้นเองท่านบาร์โตโลเมก็กล่าวออกไปค่ะ!—หากบอกว่า ‘ขุนศึกหมีน้ำเงิน’ ผู้นี้มีความผิดก็ย่อมได้ คิดจะลงโทษข้าคนนี้สินะ? เช่นนั้นข้าก็จะขออาละวาดขัดขืนสักหน่อย นั่นสินะ หากสามารถเตรียมกำลังพลมาได้สักหนึ่งกรมก็เชิญเลย……ค่ะ—! ช่างสง่างามเหลือเกินจนใจของข้ามันเต้นรัวไม่หยุดเลยค่ะ!”

 

“เอ่อ……ฟรองซัวส์ เรื่องนั้นคราวก่อนก็ฟังไปแล้ว……”

 

“เปล่าประโยชน์ค่ะพระสนมฟ้าสุริยา ข้าเองก็ได้ฟังมาเกินยี่สิบรอบแล้วค่ะ”

 

“……งั้นรึ”

 

เฮเลนาจิบชาที่ฟรองซัวส์ได้นำมาเสิร์ฟให้คำหนึ่งแล้วถอนใจ

งานเลี้ยงน้ำชาที่เริ่มขึ้นอย่างสงบสุขนั้น หากตัดข้อที่ว่าฟรองซัวส์คอยจะเอาแต่พูดถึงบาร์โตโลเมอย่างเร่าร้อน มันก็ดำเนินไปอย่างราบรื่น

ขนมจากร้านสำหรับราชวงศ์ที่ฟรองซัวส์ได้รับมาจากใครก็ไม่รู้นั้นตอนนี้ก็ว่างเปล่าไปเป็นที่เรียบร้อย มันช่างอร่อยสมกับที่ได้ชื่อว่าเป็นร้านสำหรับราชวงศ์ แล้วก็เหมาะสมกับราคาเป็นอย่างยิ่ง นับว่าโชคดีที่ได้ลิ้มรส

อย่างน้อยมันก็เป็นของสมบูรณ์แบบขนาดที่เวลาไปกินขนมอื่น ๆ คงจะรู้สึกไม่พอใจไปอีกสักพักเลยทีเดียว

 

“ดังนั้น! ข้าก็เลย! เป็นห่วงมากค่ะ! ว่าท่านบาร์โตโลเมจะมีคนรักหรือเปล่าน่ะ!”

 

“แต่ข้าว่าไม่ต้องกังวลหรอกนะ”

 

“แต่ว่า! เขาออกจะเป็นชายที่วิเศษขนาดนั้นนะคะ!”

 

“ไม่สิ……สำหรับฟรองก็คงเห็นเป็นแบบนั้นอยู่หรอกนะ แต่ว่า……”

 

“ข้าเองก็คบหากับเขามานานในฐานะเพื่อนร่วมงานในกองทัพ แต่ก็เพิ่งจะเคยได้ยินคนที่บอกว่าท่านบาร์โตโลเมเป็นชายที่วิเศษครั้งแรกนี่แหละ”

 

“ค คบหา!? คบหาดูใจกันอยู่หรือคะ!?”

 

“ไม่ใช่ ให้ตายสิ……ฟรองซัวส์เนี่ย พอเป็นเรื่องบาร์โตโลเมแล้วสายตาแคบสุด ๆ เลยนะ”

 

‘เฮ้อ’ เฮเลนาถอนใจแรง ๆ

ไอ้ความใสซื่อบริสุทธิ์มันก็ดี แต่บางครั้งก็ชวนให้คิดว่าเอาแต่มองบาร์โตโลเมมากไปหรือเปล่านะ นี่เป็นนิสัยเสียของฟรองซัวส์เลย

ทว่า เมื่อได้ฟังเฮเลนากล่าวเช่นนั้น ฟรองซัวส์ก็ไหล่ตก

 

“แต่ว่า ข้ากังวลใจค่ะ……!”

 

“งั้นรึ? แต่ข้าว่าต่อให้ไม่ต้องกังวลก็ไม่น่ามีศัตรูหัวใจหรอกนะ”

 

“ไม่ค่ะ! ท่านบาร์โตโลเมน่ะ แม้หน้าตาจะน่ากลัวแต่ท่านก็มีเหตุผลและอ่อนโยนนะคะ! ข้าอดไม่ได้! ที่จะเป็นกังวลค่ะ!”

 

“ฮืม……”

 

เฮเลนาไม่เข้าใจความกังวลของฟรองซัวส์เลยสักนิด

แต่ไหนแต่ไร สถานการณ์ปัจจุบันบาร์โตโลเมที่อยู่ในสนามรบก็คงไม่ได้ไปคบหากับสตรีที่ไหนอยู่แล้ว แม้โดยส่วนใหญ่ของกองทัพแล้ว ทหารตั้งแต่ชั้นแม่ทัพอย่างวิกเตอร์หรือลุดวิกจนถึงพลทหารชั้นเลวทั่วไปจะใช้งานโรงคณิกากันเป็นปกติ แต่บาร์โตโลเมนั้นเป็นคนจริงจังขนาดไม่เที่ยวสนุกในตอนกลางคืนแบบนั้นด้วยซ้ำ

จำได้ว่าเคยถามเจ้าตัวครั้งหนึ่งเหมือนกันว่าทำไมไม่ไปซื้อกินบ้าง เขาก็ตอบมาแบบคนจริงจังว่า “ไม่มีสตรีคนใดที่เห็นหน้าข้าแล้วไม่หวาดกลัว ข้าไม่คิดว่าข้าต้องการความสุขเพียงชั่วคืนถึงขนาดที่จะมอบความกลัวให้คนอื่นหรอก”

พูดในทางกลับกันก็เป็นบุรุษที่วางใจได้ว่าคงจะไม่ไปมีชู้ที่ไหน

 

ตอนนั้นเอง เฮเลนาก็นึกได้

แม้จะไม่สามารถพูดเรื่องของฟาร์มาสโดยละเอียดได้ แต่หากเป็นเพียงข้อมูลที่จะทำให้ฟรองซัวส์สบายใจได้ก็คงพอได้รับการให้อภัยอยู่กระมัง

 

“ฟรองซัวส์”

 

“ค่ะ!”

 

“เมื่อวันก่อน ตอนที่ฝ่าบาทมาเยือนห้องของข้า ข้าได้บอกเรื่องของฟรองซัวส์ไปแล้วน่ะ”

 

“ม ไม่จริง!? แบบนี้ความบริสุทธิ์ของข้าก็!”

 

“ไม่ ไม่ได้หมายถึงแบบนั้น”

 

จะว่าไปวิธีพูดของเฮเลนาก็แย่จริง ๆ

ปกติแล้ว หากพูดถึงนางสนมคนอื่นในวังหลัง ก็เหมือนกับเป็นการบอกว่าให้จักรพรรดิไปหาผู้หญิงคนนั้นสิ และฟรองซัวส์ก็ไม่ได้ต้องการความรักใคร่โปรดปรานของฟาร์มาสเลย

ดังนั้นเธอก็เลยวิตกกังวลขนาดนี้สินะ

 

“หมายถึงเรื่องที่ฟรองซัวส์มีความเคารพรักท่านบาร์โตโลเมอยู่น่ะ”

 

“ห้ะ!? พระสนมฟ้าสุริยาคะ! หากบอกเช่นนั้นกับฝ่าบาท มีหวังฟรอง……!”

 

“ไม่ใช่หรอก คุณหนูคลาริสซา ไม่ได้บอกไปด้วยความหมายแบบนั้น ก็แค่เป็นการคาดการณ์ถึงเรื่องหลังจากที่วังหลังแห่งนี้ถูกยุบน่ะนะ”

 

“ย ยุบวังหลังหรือคะ!?”

 

ฟรองซัวส์มีรอยยิ้มดีใจอย่างชัดเจน

ทว่าอีกทางหนึ่งคลาริสซากลับส่งสายตาที่เคลือบแคลงสงสัยเล็กน้อยมาให้

 

“หมายความว่าอย่างไรหรือคะ พระสนมฟ้าสุริยา”

 

“ก็ไม่สามารถบอกโดยละเอียดได้หรอกนะ แต่ดูเหมือนในปัจจุบันฝ่าบาทจะไม่คิดรักใคร่โปรดปรานนางสนมคนอื่นนอกจากข้า ดังนั้นเมื่อวันก่อนข้าจึงลองถามดูว่าหลังจากตบแต่งชายาเอกแล้วเขาจะทำอย่างไรต่อไปกับวังหลังน่ะ”

 

“โอ้! ข ขอไต่ถามได้หรือไม่คะ!?”

 

“ก็ไม่มีปัญหาหรอกมั้ง ดูเหมือนในอนาคตฝ่าบาทคิดที่จะยุบวังหลังไปเสีย แล้วก็ทราบว่าผู้ที่เข้าวังหลังมาจะถูกสังคมตัดสินว่าได้ต้องมือของฝ่าบาทไปแล้ว ดังนั้นพระองค์จึงกล่าวว่าหลังจากยุบวังหลังไปแล้วจะจัดหาสามีที่เหมาะสมให้กับเหล่าสนมน่ะ”

 

“แบบนั้นก็ช่วยได้มากเลยทีเดียวค่ะ ข้าเองก็ไม่รู้ว่าออกไปจากวังหลังแล้วจะหาสามีได้ยังไงเหมือนกัน”

 

คลาริสซาพยักหน้าอืมอืม

ไม่ว่าความเป็นจริงจะเป็นอย่างไร ความบริสุทธิ์ของบุตรีขุนนางก็เป็นเรื่องสำคัญ แม้จะมีบางคนที่เสียมันไปกับการเล่นไฟในชั่วคืนเดียว แต่นั่นก็เป็นเรื่องที่ไม่ได้เปิดเผยอย่างเป็นทางการ ขอแค่เจ้าตัวกับคู่ขาปิดปากไว้ให้สนิทก็จบเรื่องแล้ว

ทว่า เมื่อมีข้อเท็จจริงอย่างเป็นทางการว่า “เคยเข้าวังหลัง” แม้จะไม่เคยต้องมือของฝ่าบาทอย่างแท้จริงก็จะถูกตัดสินว่าสูญเสียความบริสุทธิ์ไปแล้ว

หากเป็นเช่นนั้นคงลำบากในการหาสามีอย่างแน่นอน

 

“ช เช่นนั้น ข้าก็!”

 

“ฝ่าบาทได้ให้สัญญาแล้ว ว่าจะให้แม่ทัพบาร์โตโลเมเป็นสามีของฟรองซัวส์น่ะ”

 

“โอ้! ขอบพระคุณในความเมตตาของฝ่าบาทค่ะ!”

 

“ทว่าในสถานการณ์ปัจจุบัน ดูเหมือนฝ่าบาทเองก็ยังไม่สามารถตบแต่งชายาเอกได้ในทันที ดังนั้นจึงไม่สามารถให้ฟรองซัวส์ออกจากวังหลังไปได้ในเร็ววันนี้ ได้โปรดเข้าใจด้วยเถอะนะ”

 

“เรื่องนั้นก็แน่นอนอยู่แล้วค่ะ! ไม่สิ! คิดว่าแบบนี้อาจดีกว่าด้วยซ้ำที่ข้าจะได้มีเวลาฝึกฝน!”

 

ฟรองซัวส์กำหมัดแน่น

ดูเหมือนพรุ่งนี้เธอก็ตั้งใจจะตะลุยฝึกฝนร่างกายเหมือนเดิม

 

“รอก่อนนะคะท่านบาร์โตโลเม! ฟรองจะเป็นภรรยาที่เหมาะสมคู่ควรกับท่านบาร์โตโลเมให้ดูค่ะ!”

 

“ภรรยาที่คู่ควร……คิดจะทำอะไรเหรอฟรอง?”

 

“จะให้ท่านเฮเลนาช่วยขัดเกลาให้ตั้งแต่พรุ่งนี้ไปค่ะ!”

 

“……หา?”

 

ดูเหมือนมันจะเป็นคำพูดที่ไม่คาดคิดสุด ๆ คลาริสซาจึงพูดไม่ออกแล้วก็หันมามองเฮเลนา

แม้จะรู้สึกลังเลเล็กน้อยกับสายตาแบบนั้น แต่เฮเลนาก็กอดอกแล้วตอบออกไปอย่างชัดเจน

 

“ฟรองซัวส์น่ะเป็นศิษย์ข้า”

 

“ท่านเฮเลนาคือท่านอาจารย์ของข้าค่ะ!”

 

“ไหงมันกลายเป็นแบบนั้นไปได้เล่า!?”

 

คลาริสซาตะโกนด้วยเสียงดังเล็กน้อย

และในเวลาเดียวกัน เฮเลนาเองก็รู้สึกสงสัยเหมือนกัน

 

ว่ามันมีอะไรน่าตกใจตรงไหนกันนะ

 

 

 

หลังจากนั้น งานเลี้ยงน้ำชาที่สงบสุขตั้งแต่เริ่มจนจบก็สิ้นสุดลง เมื่อใกล้ถึงเวลาอาหารเย็นพวกเธอก็ตัดสินใจจะแยกย้ายกัน

ฟรองซัวส์เองก็ยังยิ้มอยู่ตลอดหลังจากเริ่มเห็นหนทางที่จะได้แต่งงานกับบาร์โตโลเมในอนาคต คลาริสซาเองก็พลอยยิ้มไปด้วย และเฮเลนาที่ได้พูดคุยกับทั้งสองคนก็รู้สึกสบายใจ

 

“เช่นนั้นแล้ว ท่านเฮเลนาคะ! พรุ่งนี้ตอนเช้า! ขอความกรุณาด้วยนะคะ!”

 

“ข้าเองก็คิดว่าจะขอเข้าร่วมด้วยเบา ๆ เช่นกันค่ะ พักนี้รู้สึกว่าควรออกกำลังกายบ้างเหมือนกัน”

 

“อา งั้นทั้งสองคน เจอกันที่สวนระหว่างอาคารตอนเช้านะ”

 

หลังจากกล่าวนัดหมายกัน เฮเลนาก็กลับมายังห้องของตนเอง

วันนี้มีเรื่องให้กล่าวรายงานกับฟาร์มาสเยอะแยะเลย เธอรู้สึกตื่นเต้นในใจ

 

เรื่องที่เธอเริ่มฝึกสอนฟรองซัวส์ อย่างน้อยก็ควรจะบอกไว้สินะ แล้วก็ควรจะบอกเรื่องคณหนูคลาริสซาไว้สักคำด้วยเหมือนกัน

แล้วก็ยังมีเรื่องของทิฟฟานีอีก หากเธอที่เป็น “ขุนศึกหมาป่าเงิน” มาอยู่ที่วังหลังแบบนี้ก็มีโอกาสที่แนวหน้าการรบจะเลวร้ายลงได้ ถึงท่านพี่ริกฮาร์ดจะเป็นทหารที่มีฝีมือจึงอาจไม่ต้องกังวลมากก็ได้ก็เถอะ

หลังจากนั้น ก็ควรจะบอกเรื่องที่เฮเลนามีแฟนคลับลึกลับไว้ด้วยดีกว่า ไม่รู้ว่าไอ้สมาคมปริศนานั่นมันจะมีอิทธิพลอย่างไรบ้าง แม้เฮเลนาไม่รู้แต่ฟาร์มาสอาจจะรู้ก็ได้

เป็นกลุ่มคนที่เฮเลนาเองก็ไม่รู้จะทำยังไงด้วยดีเหมือนกัน

 

หลังจากทานอาหารเย็นอันเย็นชืดเสร็จ เธอก็ถูกจับอาบน้ำเหมือนเป็นตุ๊กตา

บางครั้งบางคราว เธอก็นึกไปเรื่อยเปื่อยว่า ‘หากพูดแบบนี้ฟาร์มาสจะหัวเราะไหมนะ’ แล้วยิ้มอยู่คนเดียวในขณะที่รอคอย

 

ทว่า

 

ในคืนนั้น ฟาร์มาสก็ไม่ได้มาเยือนเลย

 

ตำนานวังหลังของพระชายาขาบู๊

ตำนานวังหลังของพระชายาขาบู๊

Status: Ongoing

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท