ตำนานวังหลังของพระชายาขาบู๊ – ตอนที่ 73 ช่วงเวลาหนึ่งในยามเช้า

ตำนานวังหลังของพระชายาขาบู๊

 

“อืม……”

 

เมื่อลืมตาตื่นเฮเลนาก็ยกร่างกายขึ้นมา

เมื่อคืนโดนฟาร์มาสแกล้งหยอกค่อนข้างมากทีเดียว ทว่าหลังจากประทับริมฝีปากแล้วฟาร์มาสก็หันไปทำงานเอกสารที่ค้างอยู่ทันที ส่วนเฮเลนาก็คิดว่า ‘คนเป็นจักรพรรดิคงมีงานยุ่งหลาย ๆ เรื่องสินะ’ แล้วก็ไปวิดพื้นอยู่ข้างหลังโดยไม่ได้ใส่ใจมากนัก

หลังฝึกฝนร่างกายได้จนถึงระดับนึงฟาร์มาสก็ยังทำงานไม่เสร็จอีก ดังนั้นเธอจึงบอกกล่าวสักคำสองคำ ก่อนจะล่วงหน้าเข้านอนไปก่อน

หลังจากนั้นฟาร์มาสนอนดึกแค่ไหนเธอก็ไม่รู้แล้ว

ทว่าดูจากใบหน้าของฟาร์มาสที่นอนหลับอยู่บนเตียงอีกเตียงหนึ่งแล้ว ก็คิดได้ว่าเขาคงทำงานอยู่จนดึกมากทีเดียว

 

“เชอะ……”

 

เธอทำปากบึนอยู่คนเดียว

แต่เดิมที่นี่ก็คือวังหลังและเฮเลนาก็เป็นสนมของฟาร์มาส ตัวตนของเฮเลนานั้นอยู่ในตำแหน่งที่ฟาร์มาสจะลงไม้ลงมือกับเธอได้ทุกเมื่อ แม้บางครั้งเธอเองก็เหมือนจะลืมเรื่องนั้นไปเหมือนกันก็เถอะ

ทว่าฟาร์มาสกลับไม่เคยทำอะไรกับเธอมากไปกว่าการจุมพิตเลย

 

มันก็ไม่ใช่ว่าเธออยากจะโดนทำอะไรอย่างว่าหรอกนะ

แต่ถึงกระนั้น การไม่โดนทำอะไรเลยมันก็ทำให้เสียความมั่นใจอยู่เหมือนกัน

บางทีหากเป็นฟาร์มาสล่ะก็ เฮเลนาอาจยอม—

 

“ไม่ได้ไม่ได้”

 

เธอส่ายหน้าพั่บ ๆ

แรกเริ่มเดิมทีการที่เฮเลนามาอยู่ในวังหลังก็มีเหตุมาจากความวุ่นวายทางการเมือง เพราะการปฏิบัติเสมือนเฮเลนาเป็นพระชายาเอกมันช่วยส่งผลอะไรสักอย่างนั่นเอง ตัวเฮเลนาเองไม่ได้มีความคิดอยากเป็นพระชายาเลยแม้แต่นิด

เธอเพียงแค่ได้รับการปฏิบัติเสมือนเป็นพระชายาในตอนนี้เพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวายทางการเมืองเท่านั้นเอง ต่อให้ฟาร์มาสจะกระซิบคำหวานให้เฮเลนาฟังมากมายขนาดไหนมันก็ไม่มีเหตุผลอื่นใดนอกจากนั้นเลย

ใช่แล้ว อย่างไรเสียเฮเลนาก็เป็นเพียงพระชายาชั่วคราว

เป็นแค่สิ่งแก้ขัดไปก่อนจนกว่าฟาร์มาสจะได้ครองรักกับบุคคลที่เหมาะสมจะเป็นพระชายาจริง ๆ เท่านั้น—

 

แม้นั่นจะทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจเหมือนมีอะไรทิ่มแทงในอกชอบกลก็เถอะ

 

“……เฮ้อ”

 

เธอถอนใจเบา ๆ

คนที่ทำให้เฮเลนาจิตใจปั่นป่วนถึงขนาดนี้ ตอนนี้ก็ยังนอนหลับไม่รู้เรื่องรู้ราวอยู่เลย เห็นแล้วรู้สึกหมั่นไส้อย่างบอกไม่ถูก

ถึงกระนั้น คิดมากไปมันก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา เฮเลนาจึงละทิ้งความคิดไปอีกครั้ง

และ—สิ่งที่จะทำก็คือการฝึกร่างกาย

 

เพราะต้องปลุกฟาร์มาสให้เร็วหน่อย ดังนั้นคงต้องรีบอุ่นร่างกายให้เสร็จโดยไว

ก่อนอื่นก็ลองทำท่าแรก ด้วยการนอนหงาย จากนั้นก็ยกขาขึ้นให้สุดแรง

เมื่อยกขาขึ้นไปจนเกือบจะอยู่ในแนวดิ่งแล้ว เธอก็ผ่อนมันลงมาอย่างช้า ๆ จากนั้นก็ยกกลับขึ้นไปเหมือนเดิมก่อนที่มันจะแตะพื้น—การออกกำลังท่านี้ซึ่งสร้างภาระให้กล้ามเนื้อหน้าท้องอย่างมาก ย่อมสามารถก่อให้เกิดประสิทธิผลอย่างมากได้ในเวลาอันสั้น

เธอกัดฟันทำมันซ้ำไปเรื่อย ๆ อย่างตั้งอกตั้งใจ

ภาระแบกรับที่เกิดกับหน้าท้องนั้นมันแทบจะกลายเป็นความเจ็บปวดไปแล้ว ทว่าเธอก็ยังไม่หยุดเคลื่อนไหว อันที่จริงหากมีใครมาช่วยกดขาเอาไว้ให้จะดีมากเลย ทว่าน่าเสียดายที่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลามาทำงานของอเลกเซีย

 

เมื่อเฮเลนาทำดราก้อนแฟล็กซ้ำไปได้ประมาณยี่สิบครั้งนั่นเอง

 

“มุ……”

 

ได้ยินเสียงดังเช่นนั้นแว่ว ๆ และพร้อมกันนั้นฟาร์มาสก็ขยับกายลุกขึ้น

เขายังตาปรือเหมือนง่วงนอนอยู่ แล้วก็กำลังใช้มือซ้ายมาขยี้ตา ดูเหมือนว่าจะยังนอนไม่พอกระมัง

ฟาร์มาสมุ่งไปยังสุขาทั้งที่ดวงตายังเบลอ ๆ แบบนั้น โดยตัดผ่านด้านข้างของเฮเลนาที่กำลังทำดราก้อนแฟล็กไป

ฝ่ายเฮเลนาก็มองส่งในขณะที่กำลังฝึกฝนร่างกายอย่างต่อเนื่องไม่เปลี่ยนแปลง

 

เมื่อกล้ามเนื้อหน้าท้องมาถึงขีดจำกัดเธอก็เอาขาลง

‘ฟู่ว’ เธอผ่อนลมหายใจพักหนึ่งที จากนั้นคราวนี้ก็เริ่มวิดพื้น

น่าเศร้าที่ไม่มีน้ำหนักถ่วง แต่เฮเลนาอยู่คนเดียวแบบนี้มันก็ช่วยไม่ได้ล่ะนะ จะไปบอกให้ฟาร์มาสที่เพิ่งตื่นนอนหมาด ๆ มาขี่หลังเธอก็คงไม่ได้

‘ฮึบฮึบ’ ในระหว่างที่เธอกำลังวิดพื้นอยู่ฟาร์มาสก็ออกมาจากสุขา ดวงตาของเขายังคงเบลอไม่โฟกัสอยู่เหมือนเดิม

เขาเดินตัดผ่านด้านข้างของเฮเลนาที่กำลังวิดพื้นกลับไปยังเตียงนอนเดิม จากนั้นก็นอนหลับไปอีกครั้ง

นึกว่าจะกล่าวทักทายกันสักคำซะอีก เฮเลนารู้สึกฉงนเล็กน้อย

 

หลังจากนั้นเมื่อวิดพื้นไปได้สองร้อยครั้ง สควอตสองร้อยครั้ง แล้วก็ดราก้อนแฟล็กเพิ่มไปอีกห้าสิบครั้ง ท้องฟ้าก็เริ่มสว่างขึ้นมามากแล้ว

‘น่าจะถึงเวลาต้องปลุกฟาร์มาสได้แล้วล่ะมั้ง’ เฮเลนาคิดได้ดังนั้นจึงไปต้มน้ำ

หากฟาร์มาสจะตื่นขึ้นมาก็ต้องเตรียมน้ำชาไว้ให้เขาก่อน

 

เมื่อกาต้มเริ่มมีไอน้ำร้อนออกมา เฮเลนาก็เข้าไปใกล้ยังเตียงนอนของฟาร์มาส

แม้เมื่อครู่เหมือนจะตื่นขึ้นมานิดหน่อยแต่ตอนนั้นก็คงยังหลับอยู่ครึ่งหนึ่งล่ะมั้ง แม้จะรู้สึกแย่นิดหน่อยที่ต้องปลุกเขาขึ้นมาอีกครั้งในสภาพนี้ แต่นี่ก็เป็นความต้องการของฟาร์มาสเอง

 

“ท่านฟาร์มาสคะ”

 

“อืม……”

 

“ท่านฟาร์มาส เช้าแล้วค่ะ ได้โปรดตื่นเถอะค่ะ”

 

ได้กลิ่นสุราจาง ๆ ดูเหมือนหลังจากเฮเลนาหลับไปเขาจะดื่มสุราสินะ

แม้กลิ่นมันจะไม่ได้แรงขนาดนั้น แต่หากกลิ่นยังเหลืออยู่จนถึงตอนนี้แปลว่าเมื่อคืนเขาอาจนอนดึกมากทีเดียว

จักรพรรดิผู้เยาว์คนนี้แบกรับหน้าที่รับผิดชอบเอาไว้บนสองบ่าของเขามากมายขนาดไหนกันนะ

 

“ท่านฟาร์มาส”

 

“อืม……อา ได้เวลาตื่นแล้วงั้นรึ”

 

“จะนอนต่ออีกสักครู่ไหมคะ? ไว้ถึงเวลาไปทำงานข้าค่อยปลุกอีกครั้ง”

 

“……ไม่ล่ะ ไม่เป็นไร”

 

เพราะเห็นว่าบางทีเขาอาจไม่ค่อยได้นอนเฮเลนาจึงกล่าวไปแบบนั้น ทว่าฟาร์มาสก็ปฏิเสธและลุกขึ้นมา

แม้จะดูตาปรือเหมือนกับคราวก่อนแต่ก็ดูมีสติชัดเจนมากกว่าเมื่อครู่ ถึงกระนั้นก็ยังดูไม่โฟกัสอยู่ดี

‘ฮ้าว’ ฟาร์มาสยืดตัวบิดขี้เกียจ

 

“โทษที ลำบากเจ้าซะแล้ว”

 

“ชงชาเอาไว้แล้วค่ะ”

 

“อืม……ไปล้างหน้าก่อน รอประเดี๋ยวนะ”

 

ฟาร์มาสลุกลงจากเตียง จากนั้นก็มุ่งไปยังอ่างล่างหน้า

หากได้เอาน้ำล้างหน้าแล้วสติเขาคงชัดเจนขึ้นมาบ้าง เฮเลนาเห็นดังนั้นจึงหยิบกาน้ำที่ต้มเอาไว้มาชงชาเตรียมไว้บนโต๊ะก่อน โดยเตรียมไว้สองชนิดคือชาซึ่งชงด้วยน้ำที่ต้มทิ้งไว้จนเย็นดื่มง่าย กับชาร้อนที่เพิ่งเดือดใหม่ ๆ

เธอก็ไม่อยากดื่มชาร้อน ๆ ทันทีหลังฝึกเสร็จเหมือนกัน

 

คราวนี้ฟาร์มาสมานั่งลงตรงเบื้องหน้าเฮเลนา ผิดจากเมื่อวันก่อนนู้น

เขานั่งตรงข้ามหันหน้าเข้าหากันเหมือนเมื่อวาน จากนั้นก็ดื่มชาเย็นล้างคอก่อน

 

“……ฟู่ว”

 

“เมื่อคืนดื่มสุราหรือคะ?”

 

“หืม……อา ดื่มก่อนนอนนิดหน่อยน่ะ เหม็นสุรางั้นรึ?”

 

“เปล่าค่ะ แค่ได้กลิ่นสุรานิดหน่อยเท่านั้นเอง”

 

“หมู่นี้ถ้าไม่มีสุรามันก็จะนอนไม่หลับน่ะ มีเรื่องให้คิดเยอะเป็นพิเศษ”

 

‘หึหึ’ ฟาร์มาสยิ้มเยาะพลางยักไหล่

แม้มันจะเป็นรอยยิ้มที่มีเหมือนมีความตำหนิตัวเองบางอย่าง แต่เขาคงกำลังแบกรับภาระหน้าที่อันหลักอึ้งถึงขนาดนั้นจริง ๆ นั่นแหละ

การแบกรับตำแหน่งจักรพรรดิของประเทศใหญ่โตอย่างจักรวรรดิกันเกรฟ—เฮเลนาไม่สามารถแม้แต่จะจินตนาการถึงมันได้ ทว่าเมื่อนึกว่าเพียงหนึ่งการกระทำของฟาร์มาสก็อาจมีผลกระทบถึงประชาชนทั้งหมด ภาระรับผิดชอบนั้นก็คงมากมายเหลือคณานับ

 

“ว่าไปแล้วเจ้าล่ะ พักนี้ไม่ได้ดื่มงั้นรึ?”

 

“……กำลังงดเว้นลงอยู่ค่ะ”

 

“บางครั้งปล่อยเนื้อปล่อยตัวบ้างก็ดีนะ เจ้าเวลาที่เมาสุราเองก็น่ารักดีแต่พักหลังนี้ไม่ได้เห็นเลย”

 

“อ่า……”

 

ไม่กล้าบอกว่าเพิ่งจะปล่อยเนื้อปล่อยตัวไปเมื่อวานซืนนี้เอง

ขอแค่เฮเลนาไม่พูด ฟาร์มาสก็คงไม่มีทางเดาได้ว่าเธอได้เมามายสุรากับบุตรีขุนนางอีกสามคนจนถึงขั้นหมดสติไป ก่อนหน้านี้เธอบอกไปแค่ว่าได้รับประทานหม้อไฟกันเท่านั้น

อีกอย่าง เพราะฟาร์มาสดันเคยเห็นเฮเลนาตอนเมาไปแล้วเธอถึงได้ต้องมางดสุราอยู่แบบนี้ ไม่สิ ถ้าไม่งดเว้นคงจะน่ากลัวเป็นแน่ บอกชื่อไม่ได้ว่าใครน่ากลัว แต่เป็นนางกำนัลติดห้องนี่แหละ

 

“แต่จะว่าไป สุราก็ไม่ค่อยดีจริง ๆ นั่นแหละนะ ทำเอาฝันแปลก ๆ เลย”

 

“ฝันร้ายหรือคะ?”

 

“เปล่าน่ะ……ก็ไม่เชิงว่าเป็นฝันร้ายนะ……”

 

ฟาร์มาสกอดอกเหมือนรู้สึกประหลาดใจ

จากนั้นก็จ้องมองมาที่เฮเลนา ก่อนจะเอียงคอเล็กน้อย

 

“เอาเถอะ ยังไงมันก็แค่ฝันน่ะ ไม่ใช่เรื่องใหญ่หรอก”

 

“เช่นนั้นหรือคะ”

 

“อีกอย่าง ถึงเป็นแค่ฝันแต่ก็นับว่าได้กำไรอยู่บ้าง ไม่น่านับเป็นฝันร้ายหรอกกระมัง แม้จะปฏิเสธไม่ได้ว่ามันดูห่างไกลจากความเป็นจริงไปหน่อยก็เถอะ”

 

ฟาร์มาสยักไหล่

เขาฝันแบบไหนกันแน่เฮเลนาก็สุดจะคาดเดา ทว่าเขาคงไม่อยากจะพูดถึงมันสักเท่าไหร่กระมัง

ซึ่งเฮเลนาก็ไม่รู้เลย

ว่าฝันแปลก ๆ ที่ฟาร์มาสเห็นนั้น

คือฝันที่ว่าเฮเลนากำลังยกขาขึ้นอย่างสุดแรงทั้งที่ยังใส่กระโปรง—จนเผยชั้นในอล่างฉ่างนั่นเอง

 

ตำนานวังหลังของพระชายาขาบู๊

ตำนานวังหลังของพระชายาขาบู๊

Status: Ongoing

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท