ตำนานวังหลังของพระชายาขาบู๊ – ตอนที่ 76 มุ่งหน้าสู่งานพิธี

ตำนานวังหลังของพระชายาขาบู๊

 

คืนวันนั้นฟาร์มาสไม่ได้มาเยือน

ถึงกระนั้นก็ไม่ใช่ว่าไม่มาโดยไม่บอกกล่าว เพราะได้มีการฝากแจ้งมายังอเลกเซียล่วงหน้าแล้ว โดยบอกว่ามีหลายเรื่องต้องทำเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับพิธีไว้อาลัยครบรอบหนึ่งปีในวันรุ่งขึ้น เขาจึงไม่สามารถมาได้

ดังนั้นเฮเลนาจึงไม่ได้คิดอะไรเป็นพิเศษ หลังอาหารเย็นก็ฝึกร่างกายเรียกเหงื่อกายเบา ๆ จากนั้นก็เข้านอน

 

แล้วเธอก็ตื่นเช้ามาก่อนตะวันขึ้นก่อนจะฝึกร่างกายเบา ๆ เหมือนทุกครั้ง จากนั้นต้อนรับอเลกเซียตามปกติก่อนจะรับประทานอาหารเช้า

เมื่อรับประทานเสร็จ เธอก็ลุกขึ้นเพื่อเตรียมจะไปดำเนินการฝึกช่วงเช้าให้กับศิษย์สามคนเหมือนเช่นเคยในวันนี้

 

“ท่านเฮเลนาคะ วันนี้มีกำหนดการเข้าร่วมพิธีไว้อาลัยครบรอบหนึ่งปีนะคะ”

 

“หืม……อา ก็ได้ยินมาแล้วล่ะ”

 

“เช่นนั้น ท่านกำลังคิดจะไปไหนหรือคะ?”

 

“เปล่าน่ะ ก็ว่าจะไปฝึกให้สามคนนั้นเหมือนทุกทีไง……”

 

เมื่อได้ฟังคำตอบของเฮเลนา อเลกเซียก็ถอนหายใจอย่างไม่คิดปิดบัง

ความรู้สึกส่วนใหญ่ที่แสดงออกมาในสีหน้าของเธอก็คือ “กะแล้วเชียว” พฤติกรรมของเฮเลนามันดูออกง่ายขนาดนั้นเชียวรึ

 

“พิธีไว้อาลัยในวันนี้กำหนดว่าจะจัดขึ้นตั้งแต่เวลาเที่ยงตรงนะคะ”

 

“ใช่……แต่กว่าจะถึงเที่ยงก็ยังมีเวลาอยู่นี่นา”

 

“เช่นนั้นท่านคิดจะไปร่วมพิธีไว้อาลัยครบรอบหนึ่งปีของจักรพรรดิองค์ก่อนที่จัดโดยประเทศชาติในชุดเดรสซอมซ่……เคลื่อนไหวง่ายนั่นน่ะหรือคะ?”

 

‘อุ’ เฮเลนาพูดไม่ออก

เธอไม่ได้คิดเรื่องชุดไว้เลย อันที่จริงในงานพิธีทางการแบบนั้นเฮเลนาเองก็ไม่รู้ว่าควรจะแต่งกายแบบไหนดี

เมื่อเห็นท่าทีเช่นนั้นของเฮเลนา อเลกเซียก็ได้แต่กุมขมับเบา ๆ

 

“มีกำหนดการว่าอีกไม่นานฝ่าบาทพระพันปีลูเครเซียกับหัวหน้านางกำนัลอิซาเบลจะมาหาค่ะ”

 

“……งั้นรึ”

 

“ค่ะ แน่นอนว่ามาเพื่อเตรียมเครื่องแต่งกายให้ท่านเฮเลนาค่ะ”

 

“……”

 

ลึกในใจแล้วรู้สึกว่ายุ่งยากน่ารำคาญอยากจะหนีไปให้พ้น ๆ แต่คงทำแบบนั้นไม่ได้

อย่างน้อยที่สุดหากลูเครเซียจะมา เธอก็ต้องอยู่ต้อนรับในสภาพที่พร้อมที่สุด

 

“จำสิ่งที่ฝ่าบาทพระพันปีลูเครเซียสอนได้อยู่ไหมคะ?”

 

“……อา ก็โดยคร่าว ๆ ล่ะนะ”

 

ช่วงบ่ายเมื่อวานเป็นการตรวจสอบการเต้นครั้งสุดท้าย พร้อมกับการสอนเกี่ยวกับมารยาทการวางตัวของเฮเลนาในงานพิธีและงานราตรี

แม้จะมีเรื่องยุ่งยากหลายอย่างแต่เธอก็พอจะจดจำได้ทั้งหมดแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นหากจวนตัวจริง ๆ ก็แค่ขอให้ฟาร์มาสช่วยก็ได้มั้ง

แต่เดิมฟาร์มาสเองก็รู้ว่าเธอไม่เคยเข้าร่วมงานพิธีพวกนี้อยู่แล้ว คนฉลาดอย่างฟาร์มาสน่าจะช่วยเหลือเฮเลนาได้ในหลาย ๆ เรื่อง

 

ตอนนั้นเองก็มีเสียงเคาะประตู ‘ก๊อกก๊อก’

 

“ค่ะ”

 

“พระสนมฟ้าสุริยา ฝ่าบาทพระพันปีลูเครเซียเสด็จมาแล้วค่ะ”

 

“กรุณารอสักครู่นะคะ”

 

อเลกเซียตอบรับและเปิดประตู

และพร้อมกันนั้นผู้ที่เข้าห้องมาก็คือลูเครเซียที่มาพร้อมกับอิซาเบล

 

“ในที่สุดวันนี้ก็มาถึงแล้วนะจ๊ะ หนูเฮเลนา”

 

“ขอบพระคุณท่านลูเครเซียที่อุตส่าห์สละเวลามาชี้แนะทั้งที่น่าจะยุ่งนะคะ”

 

“ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ หวังว่าเธอจะวางตัวได้ดีนะ”

 

จากนั้นเมื่อลูเครเซียโบกมือให้สัญญาณ อิซาเบลก็นำกล่องไม้ออกมา

กล่องที่ค่อนข้างใหญ่ถูกวางลงบนพื้นแล้วก็เปิดออก

ภายในนั้น—คือชุดเดรสสีชาดที่งดงาม

 

“ของขวัญจากฝ่าบาทจักรพรรดิค่ะ รับสั่งว่าให้สวมชุดนี้ในงานราตรีวันนี้”

 

จากนั้น อิซาเบลก็ได้รับกล่องไม้อีกใบมาจากนางกำนัลที่อยู่ด้านหลัง

กล่องนี้ต่างจากกล่องที่มีชุดเดรส มันเป็นกล่องที่ทำให้รู้สึกถึงสถานะอันสูงส่ง เพียงแค่ตัวกล่องก็คงมีราคาเท่ากับค่ากินอยู่หนึ่งเดือนของสามัญชนแล้วกระมัง

และสิ่งที่อยู่ภายในกล่องนั้นก็คือ—

 

“อันนี้คือชุดทางการของชายาเอกน่ะ อาจจะดูยุ่งยากน่ารำคาญไปหน่อย แต่อย่างไรในพิธีการพวกนี้ก็ต้องสวมชุดทางการเข้าร่วมนั่นแหละ”

 

มันคือชุดเดรสสีขาวที่มีการประดับตกแต่งมากซะจนรู้สึกว่าเกินพอดี

แทนที่จะเป็นชุดซึ่งประดับตกแต่งซะจนรุ่มร่ามแบบนี้เฮเลนากลับชอบชุดเดรสสีชาดที่เรียบง่ายมากกว่า ทว่าในเมื่อชุดเดรสขาวนี้เป็นชุดทางการ เธอก็จำเป็นต้องใส่มันไปออกงานพิธี

ถึงแม้ชุดเดรสแบบนี้ดูยังไงก็มันไม่เหมาะกับเฮเลนาก็ตาม—

 

“เอาล่ะ ลองสวมดูก่อนดีกว่า แต่คิดว่าสัดส่วนน่าจะพอดีอยู่แล้วล่ะนะ”

 

“ค ค่ะ……”

 

พร้อมกับคำกล่าวของลูเครเซีย เฮเลนาก็ได้ถอดชุดเดรสที่เคลื่อนไหวง่ายออก เหลือเพียงชุดชั้นใน

แม้ให้เธอสวมเองจะเร็วกว่ามาก แต่เฮเลนาซึ่งอย่างน้อยก็เป็นบุตรีขุนนางและยังได้รับการปฏิบัติเสมือนพระชายาย่อมไม่ได้รับอนุญาตให้ทำเช่นนั้น เธอได้แต่ยอมปล่อยให้อเลกเซียกับอิซาเบลช่วยกันสวมเดรสให้เธออย่างว่าง่าย

แม้จะไม่ชินเอาเสียเลย แต่แม้แต่เรื่องนี้เธอก็แค่ต้องอดทนไปจนว่าฟาร์มาสจะควบคุมราชสำนักได้เท่านั้น

 

ทว่าลูเครเซียที่ได้เห็นเฮเลนาเปลี่ยนชุดเสร็จแล้วก็ต้องกลืนน้ำลายอึกใหญ่

 

“……ย ยอดไปเลยนะจ๊ะ”

 

“คะ?”

 

“ก็สั่งให้เอาคอร์เซ็ตมาเผื่อด้วยอยู่หรอก……แต่ดูเหมือนจะไม่ต้องใช้แล้วล่ะ มันดูไม่มีทางรัดให้แน่นไปกว่านี้ได้อีกแล้วน่ะ”

 

“ง งั้นหรือคะ?”

 

“จ้ะ กล้ามท้องแบ่งเป็นกี่ลูกเนี่ย……”

 

ก็จริงอยู่ที่ว่าร่างกายของเธอมันฝึกมามากกว่าคนอื่น แต่มันต้องตกใจขนาดนั้นด้วยรึ เฮเลนารู้สึกฉงน

แม้เฮเลนาจะไม่รู้ แต่ความจริงแล้วในงานพิธีหรืองานราตรีแบบนี้ เป็นธรรมดาที่บุตรีขุนนางจะผูกคอร์เซ็ตไว้รอบเอวเพื่อให้ดูผอมบางขึ้น และก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะต้องพึ่งพาสาวใช้สองคนในการช่วยกันรัดมันให้แน่นที่สุด

ในบรรดาบุตรีขุนนางเหล่านั้นบางคนถึงกับมีอาการเลือดคั่งเพราะสาเหตุนี้เลยด้วยซ้ำ

 

ทว่าเอวของเฮเลนาที่เค้นแล้วเค้นอีกผ่านการขัดเกลามาจนแทบไม่สามารถรัดด้วยคอร์เซ็ตได้อีกแล้ว

และเพราะฝึกฝนร่างกายอยู่เป็นประจำ เอวของเธอจึงผอมบางเป็นรูปทรงในอุดมติของหญิงสาว

หากตัดเรื่องที่ว่ามันเป็นกล้ามเนื้อทั้งนั้นออกไปล่ะก็นะ

 

เฮเลนาได้ถูกจับสวมชุดทางการของพระชายาเหมือนเป็นตุ๊กตาแต่งตัว

เมื่อได้เห็นเฮเลนาที่เปลี่ยนชุดจนเรียบร้อยแล้ว ลูเครเซียก็ปรบมือ

 

“อืม เหมาะมากเลยจ้ะ หนูเฮเลนา”

 

“……เช่นนั้น หรือคะ”

 

“จ้ะ ฉันรับรองให้เลย เอาล่ะที่เหลือก็แค่รอให้ฟาร์มาสมาถึงล่ะนะ หนูเฮเลนายังจำที่สอนเมื่อวานได้เรียบร้อยดีอยู่ใช่ไหม?”

 

“ค่ะ ก็ได้อยู่……”

 

ไม่ใช่ว่าเธอจำทุกสิ่งทุกอย่างได้ทั้งหมดเป็นอย่างดี ทว่าอย่างน้อยก็คงพอจำมันไปจนจบวันนี้ได้อยู่

ที่เหลือหากไม่มีอะไรเหนือความคาดหมายก็คงไม่มีปัญหา

 

ทว่านี่เป็นชุดที่ค่อนข้างหนักทีเดียว

เพราะเฮเลนาฝึกฝนร่างกายเป็นประจำอยู่แล้วความหนักแค่นี้ก็เลยไม่เป็นปัญหา แต่หากเป็นบุตรีขุนนางทั่วไปอาจรู้สึกเจ็บไหล่เจ็บเอวขึ้นมาบ้างก็ได้

โดยเฉพาะบริเวณไหล่ มันมีเครื่องประดับเยอะเกินไปจนแทบขยับแขนไม่ได้ อดไม่ได้ที่จะรู้สึกขยาดกับชุดนี้ซึ่งแค่จะดื่มชาก็ท่าทางจะลำบากแล้ว

ถึงกระนั้นหากยังฝืนขยับก็ชวนให้คิดว่าตรงไหล่ชุดมันอาจจะขาดได้อีก

ยิ่งเป็นพละกำลังของเฮเลนาด้วยแล้วก็มั่นใจได้เลยว่ามันจะต้องขาดแน่ ๆ

 

เธออยู่ในสภาพสวมชุดที่ไม่อาจผ่อนคลายได้เลยแบบนั้น พลางดื่มชาที่อเลกเซียชงให้ และรอคอย

จากนั้น—ประตูก็ถูกเคาะ

 

“ทำให้เจ้าต้องรอแล้ว สนมฟ้าสุริยาของเรา”

 

ที่อยู่ตรงนั้นคือฟาร์มาสที่มาพร้อมกับเกรเดีย

เป็นครั้งแรกเลยที่ได้พบกันในช่วงกลางวันแบบนี้ ทว่าการไปปรากฏตัวในงานพร้อมกับฟาร์มาสก็คงเป็นหนึ่งในหน้าที่การวางตัวในฐานะพระชายา

 

“กำลังรออยู่เลยค่ะ ฝ่าบาท”

 

“อืม เตรียมตัวพร้อมแล้วนะ?”

 

“เพราะฟาร์มาสมาช้า ก็เลยมีเวลาพอจะดื่มชากันหลังจากเตรียมตัวเสร็จเลยนะ”

 

“งั้นต้องขออภัยด้วยครับเสด็จแม่ เอาล่ะ ยื่นมือมาสิ เฮเลนา”

 

“ค ค่ะ”

 

เธอจับมือของฟาร์มาสซึ่งยื่นมาให้

เพราะกลัวหากขยับมั่ว ๆ แล้วชุดมันจะขาด เธอจึงเคลื่อนไหวอย่างระมัดระวังมาก

 

“เช่นนั้นฝากจัดการที่เหลือด้วยนะครับเสด็จแม่”

 

“จ้ะ วางใจเถอะ”

 

“ไปกันเถอะเฮเลนา”

 

เธอก้าวออกจากห้องพร้อมกับฟาร์มาส

เป็นธรรมดาว่างานพิธีไว้อาลัยครบรอบหนึ่งปีย่อมต้องจัดขึ้นที่ใดสักแห่งในนครหลวง

ซึ่งหมายความว่าเธอจะต้องออกไปภายนอกวังหลังนั่นเอง

 

“อา……”

 

เธอมุ่งไปพร้อมกับฟาร์มาส สู่ปากทางเข้าซึ่งได้ผ่านเข้ามาเมื่อวันแรกที่เข้าวังหลัง

ที่ตรงนั้นซึ่งเคยคิดว่าคงจะไม่สามารถออกมาได้อย่างน้อยก็อีกหลายปี

เฮเลนาเดินผ่านมันไปพร้อมกับฟาร์มาส มุ่งหน้าสู่ราชสำนักซึ่งอยู่ถัดไปจากนี้

สถานที่ซึ่งเธอกำลังจะมุ่งไปต่อจากนี้ คืองานพิธีที่จัดในฐานะประเทศ มีแม้แต่บุคคลสำคัญจากต่างชาติมาเยือนกันอย่างมากมาย

 

งานพิธีไว้อาลัยครบรอบหนึ่งปีของดีลจักรพรรดิองค์ก่อน กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว—

 

ตำนานวังหลังของพระชายาขาบู๊

ตำนานวังหลังของพระชายาขาบู๊

Status: Ongoing

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท