“เอาเถอะ……ยังไงก็ขอบคุณสำหรับความทุ่มเทเมื่อวานนะ เฮเลนา”
“ไม่หรอกค่ะ ไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย ต้องขอบคุณท่านที่ให้ข้าได้ถอนตัวออกจากงานก่อนนะคะ”
“ก็ดูเจ้าเหนื่อยล้าพอสมควรเลยนี่นะ ได้พักผ่อนดีแล้วหรือยัง?”
“ค่ะ หลังจากนั้นก็กลับห้องแล้วก็หลับไปทันทีเลยค่ะ”
ก่อนอื่นเฮเลนาก็พูดคุยแลกเปลี่ยนวาจากับฟาร์มาสเช่นนั้น ในขณะที่เข้าใจตรงกันว่าจะทำเหมือนไม่ได้เห็นท่าทีเมื่อครู่ของเกรเดีย
เฮเลนาเองก็ไม่ได้อยากเห็นรสนิยมพรรค์นั้นของผู้บังคับบัญชาที่เคยเคารพเหมือนกัน และหากมองจากมุมของฟาร์มาส เกรเดียก็เป็นข้ารับใช้ที่ไว้วางใจได้มากที่สุดแม้กระทั่งในตอนนี้ ดังนั้นเขาคงยิ่งไม่อยากเห็นกว่าเธออีกกระมัง
‘ต่างคนต่างทำเป็นไม่เห็นไปซะน่าจะดีที่สุด’ พวกเขาคิดเหมือนกันโดยที่ไม่ต้องเอ่ยออกมา
“ว่าแต่ว่า เป็นชุดที่น่ารักน่าเอ็นดูจริง ๆ นะ”
“……นี่ข้าไม่ได้เลือกเอง แต่เป็นนางกำนัลค่ะ”
“โฮ่ นางกำนัลติดห้องที่ชื่ออเลกเซียน่ะรึ”
“ค่ะ เธอคอยสนับสนุนข้าเป็นอย่างดี……แต่ในทางกลับก็มีบางครั้งที่กลั่นแกล้งกันแบบนี้ ต้องให้ท่านฟาร์มาสเห็นภาพไม่น่ามองซะแล้ว……”
“พูดอะไรกันน่ะ ตอนนี้เรากำลังไตร่ตรองอยู่เลยนะว่าควรจะตบรางวัลให้นางกำนัลดีไหม”
“……กล่าวล้อเล่นแล้วค่ะ”
อยากให้เลิกไตร่ตรองจากใจจริง
หากมีการตบรางวัลจากการเลือกชุดแปลก ๆ ให้เฮเลนาใส่ขึ้นมา จากนี้ไปเธอคงได้สวมชุดตามที่อเลกเซียเลือกไปตลอดแน่ ๆ
เอาแค่วันนี้วันเดียวก็แทบจะเต็มกลืนอยู่แล้ว ถ้าเกิดต้องเจอแบบนี้ทุกวันล่ะก็ ขอทีเถอะ จริง ๆ นะ
“เอาเถอะ เรื่องนั้นก็แค่พูดเล่นนั่นแหละ แต่ก็เหมาะจริง ๆ นา”
“……เช่นนั้น หรือคะ?”
“อืม ปกติแล้วความงดงามของเฮเลนาจะโดดเด่น แต่ชุดในวันนี้ทำให้ความน่ารักโดดเด่นขึ้นมาแทน ราวกับสาวน้อยไร้เดียงสาเลยล่ะ”
“……โปรดอย่าหยอกล้อเช่นนั้นกับสตรีที่อายุมากกว่าตั้งสิบปีเลยค่ะ”
“เราตั้งใจจะชมแท้ ๆ”
ฟาร์มาสยักไหล่
เฮเลนารู้สึกเขินอายซะจนมองหน้าฟาร์มาสไม่ติด หากจะให้เห็นในชุดแบบนี้ล่ะก็ สู้ให้เห็นในชุดชั้นในยังจะน่าอาย……ก็ไม่น้อยกว่ากันอ่ะ จะแบบไหนก็น่าอายทั้งนั้นแหละ
ก่อนอื่นเธอก็ตัดสินใจเสิร์ฟน้ำชาให้ฟาร์มาสก่อน ตั้งใจว่าจะเสิร์ฟชาที่ต้มและทิ้งให้เย็นเหมือนทุกที แต่พอคิดอีกทีวันนี้ก็มีเวลาเหลือเฟือ เธอจึงเสิร์ฟเป็นชาร้อน ๆ แทน
‘ฟู่ว ฟู่ว’ ฟาร์มาสใช้ลมหายใจเป่าชาให้เย็นลง พลางจิบมันเข้าปาก
“วังหลังมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปรึไม่?”
“คะ?”
“เพราะเราพาเจ้าไปออกงานพิธีไว้อาลัยครบรอบหนึ่งปี ราชสำนักจึงวุ่นวายขึ้นมาเล็กน้อยน่ะ พวกที่เคยประจบโนลด์ลุนด์ ตอนนี้ต่างพากันเข้าหาแอนตันไม่หยุดเลยทีเดียว ดูเหมือนว่าการพาเจ้าไปออกงานมันจะมีผลมากกว่าที่เราคิดไว้อีก”
“เช่นนั้นหรือคะ”
“ใช่ แม้ที่ผ่านมาจะมีข่าวลือว่าเรารักใคร่โปรดปรานเจ้า แต่ก็ยังมีคนจำนวนมากที่คิดว่ายังไงซะมันก็แค่ข่าวลือน่ะนะ ยังมีบางลือว่าเป็นแค่การรักใคร่โปรดปรานเพื่อบังหน้าเท่านั้นด้วย อย่างเลวร้ายที่สุดก็ดูเหมือนจะถึงขั้นลือว่าเรานิยมบุรุษเลยด้วยซ้ำไป”
“แหม……”
ก็จริงอยู่ว่าเหล่าโฉมงามได้ถูกรวบรวมมายังวังหลังเป็นเวลาเกือบจะหนึ่งปีแล้ว
แต่ฟาร์มาสกลับไม่เคยไปเยือนนางสนมคนใดเลยจนกระทั่งเฮเลนาเข้าวังมา
การที่ฟาร์มาสไม่ได้รักใคร่โปรดปรานสตรีที่รวบรวมมาเพื่อเขาเลยแม้แต่คนเดียว มันก็คงช่วยไม่ได้ที่จะมีข่าวลือแบบนั้นเกิดขึ้น
“ทว่า เมื่อเราได้เปิดตัวเจ้าอย่างเต็มที่ในพิธีไว้อาลัยครบรอบหนึ่งปีความเข้าใจของพวกนั้นก็เริ่มเปลี่ยนไปแล้วล่ะ แล้วทางวังหลังล่ะเป็นอย่างไรบ้าง?”
“อ่า จะว่าไปแล้ว……”
ที่เธอนึกออกก็มีพวกแคทลียา
จู่ ๆ ก็มาพูดเรื่องฝักฝ่ายอะไรไม่รู้ นึกดูแล้วบางทีนั่นอาจเป็นผลมาจากการที่ราชสำนักเบื้องหน้ากำลังสับสนวุ่นวายอยู่ก็เป็นได้
“ท่านฟาร์มาสรู้จักคุณหนูที่ชื่อว่าแคทลียา แลมเบิร์ตไหมคะ?”
“……บุตรสาวคนรองของเคานต์แลมเบิร์ตงั้นรึ ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกว่าเป็น ‘ผู้งามสง่า’ ใช่ไหมนะ?”
“ค่ะ กล่าวตามตรงแล้ว วันนี้ตอนเที่ยงเธอได้เข้ามาพูดคุยกับข้าน่ะค่ะ”
“อย่าไปฟังเชียวล่ะ ทางนั้นเองก็เป็นเครือญาติของโนลด์ลุนด์เช่นกัน แม้จะเป็นญาติที่ห่างกว่าชาร์ลอตเตแต่ก็ยังมีความเกี่ยวข้องกันอยู่ไม่น้อย บางทีที่เข้ามาหาเจ้าก็อาจเป็นคำสั่งของเจ้านั่นก็เป็นได้”
ฟาร์มาสกล่าวตัดบทออกมาเช่นนั้นอย่างไร้เยื่อใย
ดูเหมือนที่เฮเลนาทำให้เธอกลัวจนหนีไปจะเป็นการกระทำที่ถูกต้องแล้วแฮะ อเลกเซียเองก็คงจะรู้เรื่องนั้นอยู่แล้วถึงได้บอกว่าไม่มีปัญหาอะไรสินะ
“เธอคนนั้นเข้ามาหาด้วยเรื่องอะไรล่ะ?”
“เรื่องนั้น……เธอพาคนอื่นที่ไม่รู้ว่าเป็นเพื่อนของเธอหรือเปล่ามาด้วยสิบห้าคน……แล้วก็บอกว่าอยากจะเข้าฝักฝ่ายของข้าน่ะค่ะ”
“อย่างนี้นี่เอง เป้าหมายคือการแกล้งทำเป็นประจบเจ้าเพื่อเข้าใกล้กระมัง บางทีโนลด์ลุนด์มันอาจจะแอบเตรียมยาพิษมาไว้แล้วก็เป็นได้”
“……เช่นนั้นหรือคะ?”
แต่ถ้าจำไม่ผิด เวลาจะเข้าวังหลังมันน่าจะมีการตรวจค้นร่างกายเพื่อจำกัดการนำเข้าอาวุธหรือของอันตรายนี่นา
จะสามารถหลุดรอดการตรวจค้นแล้วนำเอายาพิษเข้ามาได้ด้วยงั้นหรือ
“พยายามหลีกเลี่ยงการติดต่อพบปะกับบรรดาคนที่อยู่รอบตัว ‘สนมฟ้าจันทรา’ เข้าไว้เถอะ ไม่รู้ว่าทำไมแต่เจ้าพวกนั้นมันเชี่ยวชาญเรื่องการแอบนำของต้องห้ามเข้ามาในวังหลังมาก ก่อนที่เจ้าจะเข้าวังสักเล็กน้อยเคยเกิดเหตุวุ่นวายจากการฆ่ากันด้วยยาพิษด้วย แม้จะไม่มีหลักฐานชัดเจนก็ตามที”
“เช่นนั้นหรือคะ!?”
“ใช่ หากพิจารณาจากหลักฐานในเชิงรูปการณ์แล้ว ‘ผู้งามสง่า’ ก็น่าสงสัยอยู่ แต่สุดท้ายก็สรุปว่าหลักฐานไม่เพียงพอ บวกกับแพทย์ประจำวังตัดสินว่าเป็นการป่วยตาย เราจึงไม่สามารถสั่งให้สอบสวนอะไรไปได้มากกว่านั้นน่ะ”
“มีเรื่องแบบนั้นด้วย……”
ดูเหมือนจะเป็นกลุ่มคนที่อันตรายกว่าที่คิดไว้ซะอีก
สมมุติว่าเฮเลนาไปตกลงยอมรับฝักฝ่ายอะไรนั่น แล้วก็สนิทสนมกันจนสามารถนั่งพักดื่มชาด้วยกันได้ขึ้นมา เธออาจโดนผสมชาพิษลงในน้ำชาก็เป็นได้
เมื่อได้ฟังคำของเฮเลนา ฟาร์มาสก็ทำหน้าย่นเหมือนกัดแมลงขมเข้าไป
“หลังจากนั้นเราก็จัดให้มีการตรวจค้นร่างกายเข้มงวดกว่าเดิมแล้ว และตอนนี้ก็มีกองอัศวินหมาป่าเงินมาตรวจตราในฐานะหน่วยคุ้มกันวังหลังอยู่ด้วย ดังนั้นคงไม่สามารถนำสิ่งของต้องห้ามเข้ามาได้ง่ายดายนัก……แต่อย่างไรก็อย่าประมาทเล่า”
“รับทราบแล้วค่ะ”
“อืม ขอโทษด้วยนะที่ต้องทำให้ลำบาก……มีเรื่องอื่นเปลี่ยนแปลงไปอีกหรือไม่?”
เรื่องอื่นที่เปลี่ยนแปลงไป
ถ้าจะให้พูดก็คงเป็นพฤติกรรมแปลก ๆ ของ ชาร์ลอตเตกระมัง ไม่รู้ทำไมมาร่ำเรียนวิชาแบบครูพักลักจำอยู่ตรงโถงทางเดิน ไม่เข้าใจเหตุผลลึกซึ้งเหมือนกัน
แอนตันเองก็เคยบอกให้เธอระวังชาร์ลอตเตเอาไว้ ดังนั้นก็ควรรายงานเรื่องนี้ด้วยรึเปล่านะ
ทว่า
“……ไม่ค่ะ ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ”
“งั้นรึ งั้นก็ดีแล้ว”
เธอตัดสินใจว่าคงไม่มีความจำเป็นต้องรายงาน
บางทีชาร์ลอตเตอาจจะแค่อยากแข็งแกร่งขึ้นก็เป็นได้ และหากมีผู้แข็งแกร่งเพิ่มขึ้นเฮเลนาเองก็ยินดี
ฟาร์มาสพยักหน้าเหมือนกับว่าสบายใจแล้ว จากนั้นก็เอนหลังพิงโซฟา
“แต่ก็น่าลำบากใจนะเนี่ย”
“……มีอะไรงั้นหรือคะ?”
“ตอนแรกก็รู้สึกไม่ชินอยู่บ้าง แต่ยิ่งดูไปแล้วเจ้าในชุดนี้ก็น่ารักจริง ๆ นั่นแหละ อยากจะไปเรียกศิลปินวาดภาพที่เก่งที่สุดในอาณาจักรมา แล้วก็ให้วาดเก็บเอาไว้เดี๋ยวนี้เลยล่ะ”
“ม ไม่หรอกค่ะ นั่นมัน……”
“ทว่าก็ไม่อยากให้ศิลปินที่เรียกมาได้เห็นตัวเจ้าด้วยเหมือนกัน ความหึงหวงของผู้ชายใจแคบนี่มันช่างน่ากลัวโดยแท้”
“……”
รู้สึกว่าแก้มมันร้อนผ่าวแดงแจ๋ขึ้นมา
ไม่ว่าเมื่อไหร่ฟาร์มาสก็มักจะเย้าหยอกเฮเลนาอย่างตรงไปตรงมาและไม่ทันตั้งตัวแบบนี้เสมอ
เธอเองก็อยากทำใจให้ชินได้เสียที แต่ไม่ว่าผ่านไปแค่ไหนก็ไม่รู้สึกว่ามันจะชินขึ้นมาได้เลยสักนิด
“เฮเลนาเอ๋ย”
“ค ค่ะ……”
“ทั้งการแต่งกายที่น่ารัก หรืออากัปกริยาที่น่าเอ็นดู หากเป็นต่อหน้าเรา เราย่อมอนุญาต ทว่าอย่าได้ยิ้มแย้มเช่นนั้นให้กับชายอื่นเชียวล่ะ ไม่เช่นนั้นก็ไม่รู้ด้วยแล้วว่าชายขี้หึงหวงคนนี้จะไปทำอะไรกับเจ้าผู้ชายคนนั้นบ้าง”
ฟาร์มาสรู้อยู่แล้วหรือเปล่านะ
ว่าคำพูดหวาน ๆ ที่ทำให้หัวใจของเฮเลนาเต้นแรงและสั่นสะท้านเช่นนี้
ทุกครั้งที่ได้รับฟัง มันทำให้เฮเลนาเกิดความรู้สึกที่ไม่สามารถสงบใจได้เลย
และในขณะเดียวกันมันก็เป็นความรู้สึกดี ๆ ที่เธอก็ไม่ได้รังเกียจเสียทีเดียวเช่นกัน