ตำนานวังหลังของพระชายาขาบู๊ – ตอนที่ 105

ตำนานวังหลังของพระชายาขาบู๊

 

‘เปรี๊ยะ ๆ’

ชาร์ลอตเตกับมาริเอล จ้องเขม่นใส่กันราวกับจะมีประกายไฟกระจายออกมา

เฮเลนาเองก็ไม่รู้ละเอียดนัก แต่ได้ยินมาว่าสองคนนี้เคยมีเรื่องกันมาตั้งแต่ก่อนเธอจะเข้าวังหลังแล้ว ครั้งสุดท้ายที่ได้ยินทั้งสองคนสนทนากันเป็นเรื่องเป็นราวน่าจะเป็นเมื่อสักพักมาแล้วในสวนระหว่างอาคาร ในวันที่เธอได้รับดาบเล่มนี้มาจากฟาร์มาสกระมัง

ตอนนั้นเฮเลนายังคิดว่ามาริเอลเป็นคนที่เธอต้องระวังอยู่เลย—

 

“มาทำอะไรหรือเจ้าคะ? พระสนมฟ้าดารา”

 

“เรื่องนั้นอิฉันต้องเป็นฝ่ายถามมากกว่านะคะ พระสนมฟ้าจันทรา”

 

“ทางนี้ถามก่อนเจ้าค่ะ ตอบมาซะสิ”

 

“ไม่ใช่ธุระอิฉันที่ต้องไปตอบอะไรท่านนี่คะ หัดสงบคำบ้างซะเถอะ”

 

สถานการณ์ตึงเครียด

ใช้คำนั้นน่าจะเหมาะสมกระมัง

มาริเอลกับโซฟีนา

ชาร์ลอตเตกับเอสเทล

ไม่ว่าทางไหนก็มีจุดที่เหมือนกันคือสาวใช้ที่ยืนอยู่ข้างหลังกำลังถอนหายใจอย่างเอือมระอาทั้งคู่

 

“ว่าแต่ว่า……กระบองนั่น อย่าบอกนะคะว่าพระสนมฟ้าจันทราก็รู้วิชากระบองด้วย?”

 

“อึก……น นี่มันไม่ใช่นะเจ้าคะ”

 

“ถือกระบองมายังสวนระหว่างอาคารที่ท่านพี่หญิงกำลังฝึกฝนอยู่เช่นนี้……แบบนี้นี่เอง แปลว่าพระสนมฟ้าจันทราเองก็อยากรับการฝึกโดยตรงจากท่านพี่หญิงเหมือนกันสินะคะ”

 

“……ป เปล่านะเจ้าคะ ดิฉันก็แค่คิดว่าต้องออกกำลังกายบ้างเท่านั้นแหละเจ้าค่ะ”

 

“เป็นเช่นนี้เอง ไม่ทราบว่ามาเข้าใกล้ท่านพี่หญิงด้วยวัตถุประสงค์อันใด แต่หากอยากได้รับการชี้แนะจากท่านพี่หญิงโดยตรงก็ต้องมีความอุตสาหะอย่างแท้จริงด้วยนะคะ ท่านน่ะมีความตั้งใจจะฝึกจริง ๆ งั้นรึ?”

 

“อุ……”

 

เมื่อฟังคำจากมาริเอล ชาร์ลอตเตก็หงอไปเล็กน้อย

ไอ้การที่เถียงไม่ออกแบบนี้ ก็แปลว่าวางแผนอะไรอยู่จริง ๆ หรือเปล่านะ

 

“มาเข้าใกล้ท่านพี่หญิงแบบนี้คิดจะทำอะไรกันแน่คะ?”

 

“ม ไม่ได้วางแผนอะไรอยู่ทั้งนั้นแหละเจ้าค่ะ!”

 

“จะจริงน่ะหรือ อิฉันได้ยินได้ฟังมาเหมือนกันนะคะ ว่าคนที่ลงมือทำร้ายท่านลิเลียนหนึ่งในเก้าสนมเอกตำแหน่ง ‘ผู้เลอค่า’ น่ะคือฝ่ายของท่านใช่ไหมเล่า”

 

“—!”

 

เรื่องราวเริ่มขยับไปในทิศทางที่เฮเลนาไม่รู้เรื่องด้วยแล้ว

ดูเหมือนว่าจะเป็นเหตุการณ์ลอบสังหารที่เกิดขึ้นก่อนเฮเลนาเข้าวังหลัง ซึ่งฟาร์มาสเคยพูดถึงก่อนหน้านี้—ผู้ถูกกระทำในคราวนั้นคงเป็นกุลสตรีที่ชื่อว่าลิเลียนกระมัง

‘เรื่องนี้เห็นทีจะพลาดไม่ได้แฮะ’ เฮเลนาเงี่ยหูฟังทั้งสองคนที่กำลังเขม่นกันอยู่ต่อไป

 

“น นั่นมัน……! ด ดิฉันไม่ได้ทำอะไรเลยนะเจ้าคะ!”

 

“ถึงตัวท่านไม่ได้ทำอะไร แต่ก็ได้ยินมาว่าเป็นฝีมือของฝ่ายท่านนะคะ”

 

“พ แพทย์ประจำวังก็ได้ตัดสินว่าเกิดจากอาการป่วยนะเจ้าคะ!”

 

“แต่การที่แพทย์ประจำวังคนนั้นเป็นคนใกล้ชิดของใต้เท้าอำมาตย์แผ่นดินโนลด์ลุนด์นั่นแหละค่ะ ที่น่าสงสัยที่สุด”

 

 

มาริเอลกล่าวพลางเหลือบตามองชาร์ลอตเต

เมื่อเจอกับสายตาของมาริเอลเช่นนั้น ชาร์ลอตเตเองก็ดูตื่นตระหนกอย่างยิ่ง

ทว่า—มันเป็นแบบนั้นจริง ๆ น่ะหรือ

เฮเลนาเอียงคออย่างฉงนใจ

 

“ตราบเท่าที่ตาอิฉันยังดำอยู่* จะไม่ปล่อยให้แตะต้องท่านพี่หญิงได้หรอกค่ะ”

 

(*TL: เป็นสำนวนที่หมายถึง ‘ตราบเท่าที่ยังมีชีวิตอยู่’)

 

“ตาท่านเป็นสีน้ำเงินนี่เจ้าคะ!”

 

“มันเป็นคำอุปมาค่ะ แค่นี้ก็ไม่เข้าใจหรือ?”

 

เมื่อเห็นมาริเอลหัวเราะ ‘หึๆ’ อย่างดูแคลนชัดเจน ชาร์ลอตเตก็จ้องกลับอย่างเดือดดาล

ทว่าในด้านศึกน้ำลายดูเหมือนมาริเอลจะเหนือกว่าอย่างมาก

 

“ท ท่านเองก็ถือกระบองอยู่เหมือนกันนี่เจ้าคะ! คิดจะมาทำอะไรที่นี่กันแน่!”

 

“อิฉันฝากตัวเป็นลูกศิษย์ของท่านพี่หญิงอยู่ ช่วงนี้กำลังเรียนวิชากระบองสนุกเลยค่ะ”

 

“ด ดิฉันเองก็……!”

 

‘อึ่ก’ ชาร์ลอตเตยั้งปากไปด้วยตนเอง

ไม่รู้ว่ากำลังจะพูดอะไรออกมา แต่ดูเหมือนเจ็บใจอย่างมากทีเดียว

 

“อุ๊ยแหม ท่านเองก็ อะไรหรือคะ?”

 

“ฮึ่มม……!”

 

“หรือจะพูดว่าท่านเองก็อยากจะเรียนวิชากระบองจากท่านพี่หญิงอย่างจริงจังเหมือนกัน?”

 

“ฮึ้ยย……! พูดมากไปกว่านี้ก็ไม่จบไม่สิ้นซะทีเจ้าค่ะ”!

 

‘ฟึ่บ’ ปลายกระบองของชาร์ลอตเตได้ถูกชี้ไปทางมาริเอล

เทียบกับบ่ายเมื่อวันก่อนแล้ว ท่าร่างของเธอดูเข้ารูปเข้ารอยกว่าเดิมไม่น้อยเลยทีเดียว

 

“พระสนมฟ้าดาราน่ะ กำลังร่ำเรียนวิชากระบองจากพระสนมฟ้าสุริยาอยู่ใช่ไหมเจ้าคะ! เช่นนั้นก็มาประลองกับดิฉันสิ!”

 

“แหม ๆ ……คิดจะประลองกับอิฉันหรือคะ?”

 

“แน่นอนเจ้าค่ะ! ไม่แพ้หรอกนะเจ้าคะ!”

 

“เช่นนั้นก็ย่อมได้ อิฉันเองก็ขอสู้อย่างสุดฝีมือเช่นกันค่ะ!”

 

“ช้าก่อน”

 

พอเห็นว่ามันจะกลายเป็นการต่อสู้จริงจังไปแล้ว เฮเลนาจึงอดไม่ได้ที่จะต้องเข้าห้ามปราม

มาริเอลนั้นมีพรสวรรค์ในด้านวิชากระบอง เรื่องนั้นเฮเลนาเองก็ยอมรับ แม้แต่ทิฟฟานีก็ยอมรับเช่นกัน

ทว่ามาริเอลที่เพิ่งจะเริ่มฝึกวิชากระบองมาได้ไม่กี่วันก็ยังนับว่าเป็นมือใหม่อยู่ ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่อาจนับว่าอยู่ในระดับที่สามารถมาฝึกซ้อมต่อสู้จริงแบบนี้ได้

การที่เธอสามารถฝึกซ้อมกับทิฟฟานีได้นั้น ก็เป็นเพราะทิฟฟานีได้ออมมือให้เพื่อสอนวิธีต่อสู้กับมาริเอลนั่นเอง

 

ส่วนชาร์ลอตเตเองก็เพิ่งจะเริ่มฝึกกระบวนท่าพื้นฐานของวิชากระบองไปเมื่อวานนี้ตอนบ่ายเท่านั้นเอง

เพียงแค่นั้นไม่มีทางก้าวหน้าจนสามารถนำมาใช้ต่อสู้ได้หรอก

การฝึกฝนมันคือสิ่งที่ต้องสั่งสมไปทุกวันจึงจะสามารถกลายเป็นพลังให้เราได้ต่างหาก

 

“มาริเอล ลดกระบองลงซะ”

 

“เอ๋……ค ค่ะ ท่านพี่หญิง”

 

“พระสนมฟ้าจันทรา……อ่า ช่างมันละ คุณหนูชาร์ลอตเต เธอเองก็อยากเรียนวิชากระบองรึ?”

 

“ด ดิฉัน……”

 

“ถ้าอยากเรียนจริงๆ ข้าก็จะฝึกให้ จะฝึกให้ใหม่ตั้งแต่ต้นจนกลายเป็นทหารเต็มตัวเลย แต่ถ้าไม่มีความตั้งใจจะทำเช่นนั้นก็จงทิ้งอาวุธไปเสีย”

 

“อึก……!”

 

ชาร์ลอตเตจ้องเขม่นเฮเลนาด้วยแววตาแหลมคม

ทว่าแน่นอนว่าการจ้องระดับนี้ สำหรับเฮเลนาแล้วก็เหมือนโดนกระต่ายมาเหยียบเงา ไม่เจ็บไม่คันอะไรทั้งสิ้น ดูอย่างไรก็ไม่ต่างอะไรจากสัตว์ตัวเล็ก ๆ ที่กำลังกระเสือกกระสนดิ้นรนเท่านั้นเอง

 

“จ จะฝึกเจ้าค่ะ……!”

 

“งั้นก็จับกระบองขึ้นมาซะ มาฝึกหวดลมกับข้า”

 

“เช่นนั้น ท่านพี่หญิงคะ”

 

“แม้จะนอกเหนือความคาดหมายไปหน่อย แต่ก็มาฝึกด้วยกันทั้งสองคนนั่นแหละ ข้าน่ะไม่ได้สอนวิชากระบองเพื่อจะให้ทั้งสองคนมาโต้เถียงกันเหมือนเด็กน้อยแบบนั้นหรอกนะ”

 

‘ฟู่ว’ เธอผ่อนลมหายใจเบา ๆ

ดูเหมือนจะยอมหยุดทะเลาะกันได้สักที ถึงกระนั้นก็ชัดเจนว่าต่างฝ่ายต่างไม่ได้มีความรู้สึกดี ๆ ให้กันสักนิด

แบบนี้ถ้าไม่ดัดนิสัยของชาร์ลอตเตเสียใหม่ทั้งหมดก็คงจะไม่ไหวแน่ ๆ

 

“เอาเถอะ……อันดับแรก ฟาดลงตามแนวกึ่งกลาง ฝึกไปพร้อมกันข้าง ๆ ข้านี่แหละ”

 

“เข้าใจแล้วค่ะ”

 

“ฮึ”

 

และแล้วก็เริ่มการฝึก

เฮเลนาเพียงแค่ฝึกกระบวนท่าพื้นฐานเหมือนที่เคยทำมา ไม่ได้มีการประกบสอนเหมือนเมื่อช่วงเช้า ซึ่งเธอเองก็ได้บอกมาริเอลไปแล้วด้วยว่านี่เป็นการฝึกของเธอเอง ดังนั้นจะไม่สามารถช่วยดูให้ได้มากนัก

พวกเธอยืนเรียงกันฝึก แม้มันจะเป็นภาพแปลก ๆ ที่เฮเลนาใช้ดาบใหญ่ส่วนอีกสองคนใช้กระบองก็ตามที

‘วืด วืด’ เสียงหวดดาบและกระบองได้ดังสะท้อนไปในสวนระหว่างอาคาร

 

จากนั้นการฝึกก็ดำเนินต่อไปอยู่พักหนึ่ง

แม้ภาระน้ำหนักที่แบกรับของเฮเลนาจะโหดกว่าอีกสองคนมาก แต่ผู้ที่หมดแรงก่อนกลับเป็นชาร์ลอตเต และในเวลาไล่เลี่ยกันการเคลื่อนไหวของมาริเอลเองก็เริ่มทื่อไปเนื่องจากความเหนื่อยล้า

‘งั้นประมาณนี้ก็ได้มั้ง’ เฮเลนาจึงตัดสินใจพักก่อนด้วยเช่นกัน

 

“เอาล่ะ พักกันสักหน่อย”

 

“……เช่นนั้นสาวใช้ของดิฉันจะชงน้ำชาให้นะเจ้าคะ เอสเทล!”

 

“รับทราบแล้วค่ะ”

 

เมื่อได้ฟังคำของชาร์ลอตเต เอสเทลก็พยักหน้ารับแล้วเริ่มชงน้ำชา

ทีแรกกะจะวานให้อเลกเซียช่วยทำ แต่ชาร์ลอตเตเองก็รู้จักเอาใจใส่ในแบบของเธอเหมือนกันกระมัง

 

“อุ๊ยแหม พระสนมฟ้าจันทรา มีใบชาระดับที่จะทำให้อิฉันพึงพอใจด้วยหรือคะ?”

 

“……หนวกหูเจ้าค่ะ ใบชามันไม่ได้ตัดสินกันที่ราคาเสียหน่อย”

 

“แหม เรื่องนั้นมันก็ไม่แน่หรอกนะคะ ใบชาน่ะอย่างไรใช้ของชั้นสูงก็น่าจะดีกว่า……”

 

“มาริเอล”

 

“……เอาเถอะ แบบนั้นก็ได้ค่ะ”

 

เฮเลนากล่าวห้ามสั้น ๆ กับมาริเอลที่เริ่มจะพูดจาถากถางชาร์ลอตเตขึ้นมาอีกแล้ว

ถ้ายังจะทะเลาะกันแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ ล่ะก็ สู้อย่าให้มาฝึกพร้อมกันเลยอาจดีกว่าก็เป็นได้

แต่ว่า—

 

“……ฮืม”

 

ก่อนอื่นเธอก็ค่อย ๆ ลองจิบชาที่เอสเทลชงมาให้ พลางพยักหน้าอย่างใช้ความคิด

ชาร์ลอตเตนั้นยังเด็กนัก และยังอารมณ์ร้อน ซ้ำร้ายยังมีความเอาแต่ใจ นิสัยเช่นนี้คงจำเป็นต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อฝึกดัดสันดานเสียใหม่

อีกทางหนึ่ง มาริเอลเองหมู่นี้แม้จะเริ่มเคลื่อนไหวได้ดีขึ้นแล้ว แต่ดูเหมือนจิตใจของเธอจะยังไม่เติบโตเท่าไรนัก เช่นนั้นก็คงจำเป็นต้องฝึกเพื่อดัดนิสัยด้วยเหมือนกัน

ซึ่งก็หมายความว่า

 

“……จัดบูทแคมป์ให้ชาร์ลอตเตด้วยเลยก็แล้วกัน”

 

แม้ว่าเจ้าตัวยังไม่ทันได้ยินยอมรับรู้อะไรด้วยเลยสักนิด

แต่นั่นก็คือวินาทีที่การเข้าร่วมบูทแคมป์ของ ‘สนมฟ้าจันทรา’ ชาร์ลอตเต เอียนส์เวิร์ธ ได้ถูกตัดสินไปเรียบร้อยแล้ว

 

ตำนานวังหลังของพระชายาขาบู๊

ตำนานวังหลังของพระชายาขาบู๊

Status: Ongoing

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท