แม้คำประกาศของมาริเอลจะนอกเหนือความคาดหมายเกินไป แต่จะละเลยการฝึกอบรมก็ไม่ได้
ดังนั้นเฮเลนาจึงปล่อยคำกล่าวนั้นไหลผ่านไปเฉย ๆ แล้วเริ่มการฝึกต่อไปเลย
“ขานเลข—!!”
“หนึ่ง—!!”
“สอง—!!”
“สาม—!!”
“สี่—!!”
“ห้า—!!”
“ดี!!”
เมื่อเฮเลนาตะโกนให้ขานเลข พวกเธอจะต้องขานเลขเรียงตามลำดับ เริ่มจากแองเจลิกา ฟรองซัวส์ คลาริสซา ชาร์ลอตเต แล้วก็มาริเอล โดยไม่เกี่ยงทั้งนั้นว่าจะอยู่ในสถานการณ์เช่นไร
เหมือนอย่างเช่นตอนนี้
ที่เบื้องหน้าของเฮเลนา ทั้งห้าคนกำลังเอาหลังชนกำแพงและงอเข่าย่อตัวลงจนเกือบจะเป็นมุมฉาก—หรือก็คือกำลังอยู่ในสภาพนั่งเก้าอี้ลมนั่นเอง
เห็นได้ชัดว่าขาของทุกคนกำลังสั่นหงึก ๆ
แรกเริ่มเดิมทีพวกเธอก็เป็นบุตรสาวขุนนางกันทุกคน ย่อมไม่มีประสบการณ์ฝึกร่างกายเช่นนี้มาก่อนอยู่แล้ว ดังนั้นจึงมีจำนวนกล้ามเนื้อที่ต้องฝึกฝนมากขึ้นตามตัว
แม้ตอนนี้แรงกายของพวกเธอจะยังเรียกไม่ได้ว่าสมบูรณ์แบบ แต่การทรมานแล้วทรมานอีกนี่แหละที่จะสร้างกล้ามเนื้อที่แข็งแรงบึกบึนยิ่งขึ้นไปได้
“อ อา……”
“ใครอนุญาตให้พักได้คลาริสซา!”
“ม ไม่ไหวแล้วค่ะ……”
“คนข้าง ๆ พยุงไว้ซะ!”
คลาริสซาที่ทรุดลงไปก็ได้ฟรองซัวส์กับชาร์ลอตเตที่อยู่ข้าง ๆ ช่วยพยุงให้ลุกขึ้นมา
ทั้งสองคนนั้นเองก็คงใกล้จะถึงขีดจำกัดแล้วเหมือนกันกระมัง ระหว่างที่พยุงสีหน้าจึงฉายแววเจ็บปวดรวดร้าวไปด้วย
มีเสียงหอบหายใจดังมาให้ได้ยิน รวมทั้งมีเหงื่อไหลย้อยตามผิวขาวผ่องของพวกเธอ
ทว่าเฮเลนาก็ไม่ยอมให้มันจบแค่นี้
“คลาริสซา”
“ค ค่ะ!!”
“เกลียดข้าหรือเปล่า”
“ร เรื่องนั้น ข้าไม่……!!”
“ว่ามาตามตรงเถอะ หากอยากจะหนีออกไปข้าก็ไม่ห้ามหรอก ทว่าก็จงดูแคลนตนเองไปชั่วชีวิตเถอะ ว่าเป็นคนที่ยอมแพ้กับการฝึกเพียงแค่นี้น่ะนะ”
“อุ……!”
คลาริสซาจ้องมาที่เฮเลนาด้วยแววตาที่แฝงความเจ็บแค้นใจ
แม้จะเห็นท่าทีเช่นนั้นของคลาริสซาแล้ว แต่เฮเลนาก็ยังเลือกที่จะกล่าววาจากดดันอย่างเข้มงวดออกไป
“เอาล่ะ! ยืนขึ้น!”
“ค่ะ!!”
“ต่อไป ยืนตรง!”
ทั้งห้าคนคลายจากท่าเก้าอี้ลมและเปลี่ยนเป็นยืนตรง
เห็นได้ชัดว่ามีความรู้สึกโล่งอกกันพอสมควร ที่ได้ปลดภาระจากขาของตนเองเสียที
หากสร้างภาระให้มากเกินไป มันจะกลายเป็นว่าพรุ่งนี้พวกเธอจะลุกกันไม่ขึ้นแทน การรักษาสมดุลตรงนี้ไว้ให้พอดีนับว่ายากทีเดียว
ต่อหน้าทั้งห้าคนที่ยืนแถวตรง เฮเลนาก็ยืนกอดอก
และ—ไม่พูดอะไรเลย
“……”
“……”
ช่วงเวลาที่เฮเลนาผู้ยืนอยู่นิ่งไม่เคลื่อนไหวและทั้งห้าคนได้แต่จดจ้องซึ่งกันและกัน
‘นี่กำลังจะทำอะไรกันแน่นะ’ ดูออกได้ว่าพวกเธอกำลังสงสัยเช่นนั้น
“ข ขอกล่าวอะไรหน่อยได้ไหมคะ!!”
“ไม่อนุญาต!”
มาริเอลกล่าวขึ้นมา แต่เฮเลนาก็ปัดตกไปทันที
ท่าทางมาริเอลคงจะรู้สึกตัวแล้วกระมัง ส่วนพวกที่เหลือดูเหมือนจะยังไม่เข้าใจ
ว่าหลังจากทรมานขาจัดเต็มแล้วมายืนตรงแบบนี้
การรักษาการทรงตัวเอาไว้นั้น—มันทำได้ยากมากทีเดียว
“อุ……!”
“ฮี่……!”
พวกเธอค่อย ๆ เสียการทรงตัวไปตามลำดับเริ่มจากคนที่แรงน้อยที่สุดก่อน
การถูกสั่งให้ยืนตรงอยู่นิ่ง ๆ มันก็มีความยากของมันอยู่
เมื่อมีเฮเลนาจับตามองอยู่ต่อหน้าเช่นนี้ ทั้งห้าคนจะล้มไปก็ไม่ได้ จะก้าวขาไปไหนก็ไม่ได้ ได้แต่อดทนต่อไปด้วยใจร้อนรน
“ขานเลข—!!”
“หนึ่ง—!!”
“สอง—!!”
“สาม—!!”
“สี่—!!”
“ห้า—!!”
“ดี!!”
และเผลอเมื่อไรเฮเลนาก็จะออกคำสั่งให้ส่งเสียงกันเช่นนั้นทันที
โดยเฉพาะแองเจลิกาที่ต้องพูดเป็นคนแรก เธอมองเฮเลนาด้วยความชิงชังแทบไม่วางตาเลยทีเดียว
ไม่ว่าเมื่อไรการฝึกทหารใหม่ก็เป็นเช่นนี้เสมอ
ครูฝึกนั้น ยิ่งถูกเหล่าทหารใหม่เกลียดชังได้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งดี
เอาล่ะ จะให้ทำอะไรต่อไปดีนะ—เฮเลนาครุ่นคิดพลางมองดูทั้งห้าคนที่กำลังยืนตรงกันอยู่
หากทรมานช่วงล่างมากเกินไป มันอาจส่งผลเสียในวันรุ่งขึ้นได้
สำหรับพวกเธอซึ่งพลังกายยังไม่สมบูรณ์ดี สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้ก็คือการเสริมสร้างพลังกาย
ถ้างั้นตรงนี้ใช้การฝึกที่รู้สึกเหมือนเล่มเกมกันเล็กน้อยอาจจะดีก็เป็นได้
“เอาล่ะ!! พักได้!!”
“แฮ่ก……!”
คนที่ล้มไปก่อนใครเพื่อนก็คือคลาริสซา
และตามไปติด ๆ ก็คือแองเจลิกา ฟรองซัวส์ ชาร์ลอตเต ซึ่งพากันทิ้งตัวลงนั่ง
ส่วนมาริเอลซึ่งเรี่ยวแรงสมบูรณ์มากที่สุดในกลุ่มก็เช็ดเหงื่อเม็ดโตด้วยชายผ้าพลางหย่อนก้นนั่งลงเช่นกัน
การฝึกโดยไม่ให้พักเลยนั้นมันเป็นเรื่องล้าสมัยไปแล้ว
ต้องพักเหนื่อยอย่างเหมาะสม และต้องรักษาระดับน้ำในร่างกายให้พอเหมาะด้วย หากเกิดอาการขาดน้ำขึ้นมามันจะส่งผลเสียต่อการฝึกได้
อนึ่ง เธอได้บอกกับอเลกเซียไว้แล้วว่าให้ช่วยเตรียมพร้อมเรียกแพทย์ประจำวังมาได้ทุกเมื่อหากมีอะไรเกิดขึ้น
แต่ละคนก็พักผ่อนพลางดื่มน้ำกันไป
ภายในกลุ่มนี้ คนที่แรงกายน้อยที่สุดคงจะเป็นแองเจลิกากระมัง ทว่าดูเหมือนเธอจะเคลื่อนไหวร่างกายอยู่ได้เพราะความโกรธแค้นที่มีต่อเฮเลนาล้วน ๆ ส่วนอีกทางหนึ่ง ฟรองซัวส์นั้นฝึกอยู่ได้ด้วยความมุนามะตั้งใจเพียงอย่างเดียว กล่าวได้ว่าใช้พลังใจก้าวข้ามพลังกายนั่นเอง
ทว่าสำหรับคลาริสซา แต่เดิมทีเธอไม่ได้มีกะใจอยากจะฝึกมากขนาดนั้น ดังนั้นถึงได้ใกล้จะยอมแพ้อยู่รอมร่อเช่นนี้เอง
ส่วนชาร์ลอตเตก็น่าแปลกใจที่ยังตามการฝึกมาได้อยู่ บางทีอาจมีบางอย่างเป็นแรงผลักดันให้เธออยากฝึกอยู่ก็เป็นได้
ส่วนมาริเอล……แม้แต่ตอนนี้ก็ยังมองมาด้วยสายตาร้อนแรงแบบแปลก ๆ เฮเลนาจึงเลือกที่จะทำเป็นไม่สนใจดีกว่า
“เอาล่ะ! ลุกขึ้น!!”
“ค่ะ!!”
“ทุกคนเรียงแถวหน้ากระดาน! ออกหมัดตรงพร้อมกับนับจำนวนครั้งตามลำดับ เริ่มจากแองเจลิกา!”
“ค่ะ!”
“หมัดตรงด้านขวาห้าร้อยครั้ง! ปฏิบัติ!”
“หนึ่ง—!!”
‘ฮึบ ๆ’ ทั้งห้าคนเริ่มออกหมัด
คลาริสซานั้นมีสีหน้าว่าไม่อยากขยับตัวอีกแล้ว แต่เธอคงจะทนทำได้อยู่เพราะนี่เป็นการออกหมัดตรงซึ่งเคยฝึกอยู่ทุกวัน ในทางกลับกัน แองเจลิกากับชาร์ลอตเตนั้นดูสับสนกันพอสมควร ทว่าก็พยายามลอกเลียนแบบคนข้าง ๆ ไปได้ แม้ท่าร่างจะมีจุดที่ควรแก้ไขปรับปรุงอยู่ แต่สำหรับตอนนี้ได้เท่านี้ก็ดีแล้วกระมัง
เมื่อเวลาผ่านไปความเฉียบคมของการออกหมัดก็ลดลงตามลำดับ แต่เรื่องนี้ก็คงกล่าวโทษพวกเธอไม่ได้
แต่แรกเริ่มเดิมทีขีดจำกัดพลังกายที่แต่ละคนสามารถมีได้มันก็ไม่เท่ากันอยู่แล้ว
มาริเอลนั้นเทียบกับทุกคนในห้องนี้แล้ว เธอมีร่างกายสูงใหญ่เป็นรองแค่จากเฮเลนา และก็มีอายุมากที่สุดไล่เลี่ยกับชาร์ลอตเตด้วย เทียบกันแล้วแองเจลิกาที่เด็กที่สุดนั้นเพิ่งจะอายุเพียงสิบสองปี ต่อให้เปรียบเทียบฟรองซัวส์ก็ยังตัวเล็กที่สุดอยู่ดี
ในเมื่อทั้งห้าคนที่แตกต่างกันเช่นนี้ ย่อมไม่มีทางแสดงผลลัพธ์เช่นเดียวกันได้หรอก
เช่นนั้นแล้วจะประเมินผลได้อย่างไรน่ะรึ
สำหรับวิธีนั้น—
“แองเจลิกา! ตั้งใจออกหมัดให้มากกว่านี้!”
“ค ค่ะ!!”
“หมัดปวกเปียกเช่นนั้นจะไปโค่นศัตรูได้ยังไง! ถ้าอยากจะตายในสนามรบขนาดนั้นงั้นข้าช่วยฆ่าทิ้งให้ตอนนี้เลยเอาไหม! ถ้าไม่เอาก็ตั้งใจทำให้สุดกำลังซะ!”
“ค่ะ!!”
นั่นก็คือการบังคับให้ใช้แรงออกมาอย่างเต็มที่นั่นเอง
หากหย่อนยานหรือออมแรงเอาไว้ เฮเลนาก็จะตะคอกใส่ทันที ในทางกลับกัน สำหรับคลาริสซาที่แม้จะยืนโงนเงนแล้วแต่ก็ยังตั้งใจอย่างเอาเป็นเอาตาย เธอจึงไม่พูดว่าอะไร
อย่างที่กล่าวไปเมื่อตอนแรก
ว่าเฮเลนานั้นยุติธรรม
การปฏิบัติกับทุกคนอย่างเท่าเทียมปราศจากความลำเอียงคือหน้าที่ของครูฝึก
“หนึ่งร้อย!!”
“ดี!! ตามด้วยออกหมัดซ้ายร้อยครั้ง! ปฏิบัติ!!”
“หนึ่ง!!”
จังหวะนั้น เฮเลนาก็ปล่อยให้พวกเธอฝึกกันพลางทอดสายตาออกไปอีกทาง
เมื่อจบการออกหมัดตรงก็คงใกล้เที่ยงพอดี บางทีอีกฟากของประตูนั้นคงจะมีพวกสาวใช้มารวมตัวกันอยู่แล้วก็เป็นได้
และก็จะต้องให้ทั้งห้าคนนี้ที่เหนื่อยจากการออกกำลังกายในแบบที่ไม่คุ้นเคยได้รับประทานอาหารกัน
ทว่า หากให้กินง่าย ๆ แบบนั้นมันก็ไม่สนุกน่ะสิ
“ยี่สิบห้า!!”
“ชาร์ลอตเต! ใส่แรงให้มากกว่านี้!”
“ยี่สิบหก—!!”
“แองเจลิกา! มีแรงแค่นั้นรึไง! ถ้ายังมีแรงร้องไห้เจ็บใจก็ออกแรงให้มากกว่านี้!”
“ยี่สิบเจ็ด—!!”
“อย่าเหลิงไปมาริเอล! คิดว่าข้าไม่ได้มองอยู่รึไง! ถ้าอู้เดี๋ยวก็เพิ่มจำนวนหรอก!”
“ยี่สิบแปด—!!”
เหล่าบุตรีขุนนางขยับกายอย่างเอาเป็นเอาตาย เหงื่อแตกพลั่กพลางหอบหายใจแฮ่ก ๆ
เป็นภาพที่ดูแล้วก็อดสงสัยไม่ได้ว่าที่แห่งนี้มันคือวังหลังจริงหรือ
“หนึ่งร้อย!!”
“ดี!!”
แม้ทั้งห้าคนจะมีสีหน้าเหนื่อยล้าอย่างถึงที่สุดแล้ว แต่ก็ไม่มีใครที่ล้มตัวนั่งลงไป
ห้ามพักหากเฮเลนาไม่อนุญาต—จากเหตุการณ์ที่ผ่านมาคงทำให้พวกเธอคงจะเข้าใจถึงเรื่องนั้นได้แล้วกระมัง
เฮเลนายืนตะหง่านอย่างมั่นคงต่อหน้าศิษย์ทั้งห้าคน
“เช่นนั้นก็ได้เวลามื้อเที่ยงแล้ว! ทว่า!!”
จากนั้นสิ่งที่เธอนำออกมาก็คือถุงกระสอบมีบางอย่างดิ้นพล่านไม่หยุดอยู่ภายใน
ภายในถุงที่มัดปิดปากไว้อย่างดีนั้นแน่นอนว่าเป็น—งู
แม้มันจะตัวใหญ่พอสมควรแต่ก็เป็นพันธุ์ที่ไม่มีพิษ ต่อให้ถูกกัดก็แค่เป็นแผลเล็กน้อยแต่ไม่มีอันตรายถึงชีวิต
ทีแรกกะไว้ว่าเดี๋ยวจะเอาไปจัดเลี้ยงเป็นอาหาร แต่วันนี้ก็นับว่าได้โอกาสดีเหมือนกัน
“ทั้งห้าคนจงร่วมมือกัน! จะเป็นใครก็ได้! หากจับเจ้าตัวนี้ได้ทุกคนก็จะได้มื้อเที่ยง!”
“เอ๋……?”
เฮเลนาคลายปากถุงกระสอบที่มัดแน่นออก
แล้วก็ปล่อยงูตัวใหญ่ที่อยู่ในนั้นออกไป—สู่ภายในห้อง
“เริ่มได้!!”
“กรี๊ดดดดดดดดดดดด!?”
ในพริบตานั้นเอง
เสียงหวีดร้องของทั้งห้าคนก็ได้ก้องกังวานไปทั่วห้องของเฮเลนา