ตำนานวังหลังของพระชายาขาบู๊ – ตอนที่ 120

ตำนานวังหลังของพระชายาขาบู๊

 

ซากศพกระจัดกระจาย

วลีนั้นคงจะเหมาะสมกับสถานการณ์นี้ที่สุดแล้วกระมัง

 

“ให้ตายสิ……”

 

บัดนี้ได้ล่วงเลยเวลาสำรับเที่ยงมานานมากจนเกือบจะถึงเวลาสำรับเย็นอยู่แล้ว แองเจลิกากับฟรองซัวส์ได้ล้มพับไปเรียบร้อย คลาริสซากับชาร์ลอตเตหอบหายใจอยู่ในท่าคลานสี่ขา ส่วนมาริเอลก็กำลังยืนพิงกำแพงอยู่อย่างอ้อนล้า

และที่กลางห้องก็คือเจ้างูที่กำลังแลบลิ้นแผล่บ ๆ ราวกับกำลังล้อเลียนพวกเธอทุกคนอยู่ก็ไม่ปาน

 

แม้จะใช้เวลาตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น แต่งูตัวนี้ก็ยังหนีรอดอยู่ได้โดยไม่มีถูกจับเลยสักครั้ง

อย่างไรก็ตาม เพราะว่ามีเฮเลนาคอยยืนขวางประตูเข้าออก และหน้าต่างเองก็อยู่สูงพอสมควร มันจึงไม่สามารถหนีออกไปนอกห้องได้

 

“แฮ่ก แฮ่ก……”

 

“ม ไม่ไหวแล้วค่ะ……”

 

“งู ไม่เอางูแล้ว……”

 

ทั้งห้าออกปากร้องไห้คร่ำครวญกันต่อไป

อาจเป็นเพราะออกกำลังที่ไม่คุ้นเคยในช่วงเช้า แล้วยังต้องอดสำรับเที่ยง หนำซ้ำยังต้องมาเจออะไรอย่างการจับงูเป็นครั้งแรกอีก จิตใจของพวกเธอจึงหมดสิ้นสภาพกันแล้ว อนึ่ง เฮเลนาผู้เป็นครูฝึกเองก็อดสำรับเที่ยงด้วยเช่นกัน เธอไม่ทำอะไรที่ไร้ยางอายอย่างการได้กินอาหารอยู่คนเดียวหรอก

ทว่า ขืนเป็นแบบนี้ต่อไปก็คงไม่ได้เตรียมสำรับเย็นกันเสียที

ต่างจากเฮเลนาซึ่งต่อให้ไม่กินอะไรวันสองวันในสมรภูมิก็ไม่เป็นไร พวกเธอคงไม่เคยมีประสบการณ์ต้องอดอาหารกันมาก่อนเลยด้วยซ้ำ

การให้ได้ลิ้มรสความหิวโหยถึงที่สุดมันยังเป็นหัวข้อการฝึกอบรมหลังจากนี้ไป

 

“เฮ้อ ช่วยไม่ได้นะ”

 

เจ้างูกำลังแลบลิ้นข่มขวัญ

สำหรับเหล่าบุตรีขุนนางซึ่งถูกงูตัวนั้นไล่กวดเหมือนเป็นของเล่นมาอย่างต่อเนื่อง บางทีพวกเธอคงไม่อยากจะเห็นภาพงูอีกแล้วด้วยซ้ำกระมัง

 

ทว่า

‘ควับ’ เฮเลนาคว้างูตัวนั้นขึ้นมาอย่างง่ายดาย

และในสภาพที่คว้าตรงบริเวณคองูเพื่อไม่ให้มันกัดอยู่ เธอก็จับมันใส่กลับเข้าไปในถุงกระสอบซึ่งวางทิ้งไว้ตรงมุมห้อง แล้วก็มัดปิดปากถุง

เจ้างูกลับไปอาละวาดอยู่ภายในกระสอบอีกครั้ง

 

“เอ๋……”

 

“ทำไมถึงจับได้ง่ายแบบนั้น……”

 

“ไม่อยากจะเชื่อเลยเจ้าค่ะ……”

 

“กับแค่งูยังโดนมันหยอกเล่นถึงขนาดนี้ น่าเวทนากันซะจริง”

 

‘เฮ้อ’ เฮเลนาถอนหายใจคำโตพลางยักไหล่

ในความเป็นจริงแล้ว งูตัวนี้เองก็อยู่ในสภาพที่ไม่ได้กินอะไรมาพักใหญ่แล้ว เทียบกับตอนที่เฮเลนาจับมันมาแล้วการเคลื่อนไหวของมันจึงอ่อนกำลังลงไปมาก เห็นได้ชัดจากการที่เธอใช้มือคว้าลำคอมันได้อย่างง่ายดาย

ทั้งที่เป็นเช่นนั้นแท้ ๆ เธอกลับไม่นึกเลยว่าเหล่าศิษย์จะใช้เวลากันมากถึงเพียงนี้

 

ทว่าการฝึกด้วยงูเองก็นับว่าเป็นไอเดียที่ไม่เลวนัก

อย่างเช่น อันที่จริงคลาริสซานั้นควรจะถึงขีดจำกัดของพลังกายไปแล้ว แต่พอถูกงูไล่ตามก็ยังพยายามหนีอย่างเอาเป็นเอาตาย นับเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับคำกล่าวที่ว่าพลังใจสามารถก้าวข้ามพลังกายเลยล่ะ

ถึงแม้เฮเลนาลองดูดี ๆ แล้วจะรู้สึกว่างูมันก็ออกไปทางน่าเอ็นดูแท้ ๆ อย่างเช่นดวงตากลม ๆ ใส ๆ นั่นน่ะ

 

“เอาล่ะ งั้นก็มากินมื้อเย็นกัน อเลกเซีย!”

 

“ค่ะ ท่านเฮเลนา”

 

อเลกเซียซึ่งคงจะรออยู่ที่อีกฟากของประตูมาตลอดได้ตอบขึ้นเช่นนั้นแล้วก็เปิดประตูออก

สำรับเย็นของเฮเลนาได้รับการเข็นมาในรถเข็นสีเงิน ต่อจากนั้นเหล่าสาวใช้อย่างเอสเทลหรือโซฟีนาก็นำสำรับเย็นเข้ามาเช่นกัน

อนึ่ง ผู้ที่นำส่วนของแองเจลิกามาก็คืออิซาเบล ดูเหมือนเธอจะทำหน้าที่เป็นนางกำนัลเฉพาะกิจให้กระมัง

จากนั้นบรรดานางกำนัลก็เตรียมโต๊ะ และจัดวางสำรับเย็นบนโต๊ะนั้น

ทุกคนได้รับอาหารแบบเดียวกันหมด เฮเลนาก็ไม่เคยเห็นสำรับอาหารของกุลสตรีนางอื่นมาก่อน แต่ดูเหมือนจะไม่มีการแบ่งแยกตามบรรดาศักดิ์สินะ

 

“เอาล่ะ งั้นก็มากินกันเลย อาหารคือต้นทุนที่ช่วยเสริมสร้างร่างกายนะ”

 

ว่าแล้วเฮเลนาก็เริ่มรับประทานก่อน

เป็นอาหารที่แม้รสชาติจะใช้ได้แต่ก็เย็นชืดหมดแล้วตามเคย นับว่ายังดีที่มีชาร้อน ๆ ซึ่งอเลกเซียช่วยชงให้อยู่

‘หง่ำ ๆ’ เฮเลนากินอาหารไปตามปกติ ทว่าในทางกลับกัน—

 

“……”

 

“……”

 

“……”

 

“……”

 

มีอยู่สี่คนที่นั่งมองสำรับเย็นโดยไม่ขยับ

มีเพียงคนเดียวที่กินหงับ ๆ อย่างกระปรี้กระเปร่าคือฟรองซัวส์ โดยคลาริสซานั้นนั่งมองอาหารพลางถอนหายใจอย่างชัดเจน ชาร์ลอตเตก็ทำหน้ายู่พลางเอามือป้องปาก มาริเอลหลับตาลงอย่างอ้อนล้า ส่วนแองเจลิกาก็เอาแต่นั่งใจลอย

มีปัญหาอะไรกันแน่นะ

 

“ค คือว่า! ทุกคนคะ! มารับประทานกันเถอะค่ะ!”

 

“……ทำไมเธอยังกินลงอยู่น่ะฟรอง”

 

แม้ฟรองซัวส์จะพยายามให้กำลังใจ แต่ทั้งสี่คนก็ยังไม่เคลื่อนไหว

ในทางกลับกัน คลาริสซากลับมองฟรองซัวส์ที่กินได้เหมือนกับไม่อยากจะเชื่อ

 

“เอ๊ะ ท ทำไมเหรอคะ!?”

 

“……คลื่นไส้เจ้าค่ะ”

 

“ไม่ไหวค่ะ……”

 

“โธ่ ไม่เอาแล้ว……”

 

ดูเหมือนพวกเธออ่อนล้าถึงขีดสุดจนกินอะไรไม่ลงกันนั่นเอง

สำหรับเฮเลนาแล้ว หากอยู่ในสมรภูมิ มีโอกาสกินดี ๆ เมื่อไรก็ต้องกิน ดังนั้นอาการกินอะไรไม่ลงเช่นนี้จึงเป็นเรื่องที่เธอคาดไม่ถึงอยู่เหมือนกัน

ทว่าหากไม่กินก็จะเป็นปัญหาเอาได้ เพราะอาหารคือต้นทุนของร่างกายและยังส่งผลถึงความกระปรี้กระเปร่าในวันพรุ่งนี้ด้วย

 

“กินซะ ทุกคน”

 

“……”

 

“หากมีคนที่กินเหลือหนึ่งคน ก็จะเพิ่มจำนวนครั้งที่วิดพื้นหลังอาหารเย็นไปอีกหนึ่งร้อยครั้ง”

 

“รับประทานแล้วเจ้าค่ะ! แค่รับประทานก็พอใช่ไหมเจ้าคะ!!”

 

“อุ่……ท ทานค่ะ”

 

“จะไม่เหลือเลยค่ะ……”

 

“ม่ายน้า……”

 

ทั้งที่อาหารจัดว่าเป็นความสุขของชีวิตอย่างหนึ่งแท้ ๆ แต่ดูเหมือนสำหรับทั้งสี่มันจะเป็นเพียงความทุกข์ทรมานไปเสียแล้ว

เมื่อเห็นทั้งสี่ที่แม้จะอิดออดแต่ก็เริ่มลงมือกินกันอย่างช้า ๆ เฮเลนาก็วางใจและกลับไปกินอาหารของตนต่อเช่นกัน

 

“……ทั้งที่ฉันเกลียดผักแท้ ๆ”

 

“ได้โปรดรับประทานด้วยเถอะค่ะ! ถ้าไม่รับประทานจะโดนเพิ่มจำนวนวิดพื้นนะคะ!”

 

“ปกติแล้วถ้าฉันบอกให้เอาออก คนครัวก็จะเอาออกให้นี่นา! แต่นี่กลับ……!”

 

“รับประทานให้หมดเจ้าค่ะ ดิฉันไม่อยากวิดพื้นเพราะเธอนะเจ้าคะ”

 

“รู้แล้วน่า! อย่ามาสั่งฉันนะ!”

 

‘ฮึ่ม’ แองเจลิกาหายใจฟึดฟัด แต่ก็ยอมกินผักอย่างไม่เต็มใจนัก

คิดถูกจริง ๆ ที่ให้ทุกคนรับผิดชอบร่วมกัน วิธีที่ดีที่สุดที่จะให้ทุกคนเกิดความสามัคคีปรองดองก็คือการรับผิดชอบร่วมกันนั่นเอง

 

“หากไม่มีใครกินเหลือ การฝึกวันนี้ก็จะจบลงเพียงเท่านี้”

 

“จะไม่ให้เหลือเด็ดขาดเลยค่ะ!”

 

“ค่ะ!! จะรับประทานอย่างถวายชีวิตเลยค่ะ!”

 

“ไม่เอาแล้วเจ้าค่ะ!”

 

“ทำไมต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย……”

 

ทุกคนเรียกแรงฮึด ค่อย ๆ เร่งความเร็วในการกินขึ้นไป

จนในที่สุดฟรองซัวส์ซึ่งเริ่มกินมาแต่แรกก็กินจนหมด แล้วก็พ่นลมหายใจออกมาอย่างพึงพอใจ

 

“กินเสร็จแล้วทุกคนก็ไปอาบน้ำกันซะ หลังจากนั้นก็ไปรอที่เตียงของตนเอง”

 

“ค่ะ!! คุณแคลร์คะ!”

 

“ค่า กำลังเตรียมอยู่ค่า”

 

แคลร์ สาวใช้ผู้พูดจาติดสำเนียงยานคาง ได้เตรียมถังใส่น้ำร้อนและเข้าไปยังห้องอาบน้ำกับฟรองซัวส์

ต่อจากนั้นมาริเอลเองก็กินอาหารเสร็จ แล้วก็ตามฟรองซัวส์เข้าไปยังห้องอาบน้ำพร้อมกับโซฟีนาสาวใช้ของตน

ห้องอาบน้ำนั้นกว้างพอสมควร เข้าไปพร้อมกันสามคนก็ยังพอไหวอยู่กระมัง

 

“อุ๊ยตาย คุณฟรอง……ซ่อนรูปนะคะเนี่ย”

 

“ว้าย!! จ จับตรงไหนกันคะ! คุณมาริเอล!”

 

ไอ้การที่พักหลังมานี้มาริเอลกำลังมุ่งหน้าไปในทิศทางอันแปลกประหลาดชอบกลนั้น มันเป็นแค่เรื่องที่เฮเลนาคิดไปเอง เธอเลือกที่จะเชื่อเช่นนั้น

จากนั้นเมื่อทั้งสองคนออกจากห้องอาบน้ำ อีกสามคนที่เหลือก็กินเสร็จ แล้วก็ทยอยกันเข้าไปพร้อมกับสาวใช้ของแต่ละคน เป็นครั้งแรกที่เฮเลนาได้เห็นสาวใช้สูงวัยอย่างโบนันซาด้วย จากที่ได้ฟังมาดูเหมือนว่าเธอจะทำงานรับใช้ในตระกูลเคานต์เออเนมันน์มาตั้งแต่ก่อนที่คลาริสซาจะเกิดเสียอีก

หลังจากนั้นก็ถึงคิวของเฮเลนาเข้าไปอาบพร้อมกับอเลกเซีย แล้วก็เปลี่ยนเป็นชุดนอนกลับมา

 

ซึ่งก็พบว่า แองเจลิกาได้เอนกาย นอนหลับไปเรียบร้อยแล้ว

 

“ฟรองซัวส์”

 

“ค ค่ะ!!”

 

“ก่อนหน้านี้ ข้าได้บอกว่าให้ไปรอที่เตียงใช่ไหม”

 

“ใช่ค่ะ!!”

 

“ข้าว่าข้าไม่ได้บอกให้นอนหลับได้นะ”

 

“คุณแองเจลิกา ได้โปรดตื่นเถอะค่ะ!! ยังพักไม่ได้ค่ะ!!”

 

“ตื่นเดี๋ยวนี้ค่ะ!! อย่าแข็งข้อกับท่านพี่หญิงไปกว่านี้เลยนะคะ!”

 

“งือ……ไม่ เอา……”

 

“ตื่นสิเจ้าคะ!! ดิฉันไม่อยากโดนเพิ่มโทษอะไรเพราะเธอนะเจ้าคะ!!”

 

“ขอร้องล่ะตื่นเถอะ—!!”

 

โดนทั้งสี่คนช่วยกันรุมปลุก แองเจลิกาจึงลุกขึ้นมาพลางขยี้ตาอย่างงัวเงีย

อันที่จริงเฮเลนากะว่าจะให้พักผ่อนกันอยู่แล้ว ทว่าจะปล่อยคนที่ไม่เชื่อฟังคำสั่งไว้เฉย ๆ มันก็ไม่ถูกต้องนัก

‘เอาล่ะ’ เฮเลนาหันไปทางเตียงนอนของตนเอง

 

“ถ้างั้น อเลกเซีย”

 

“ค่ะ พรุ่งนี้จะจัดการฝึกที่ไหนหรือคะ?”

 

“พรุ่งนี้จะฝึกในสวนระหว่างอาคารทั้งวัน แล้วก็มีของที่อยากให้เจ้าช่วยเตรียมด้วย”

 

“รับทราบค่ะ”

 

เฮเลนาบอกสิ่งของที่ต้องการกับอเลกเซีย เนื่องจากวันพรุ่งนี้จะต้องทำการฝึกด้านจิตใจรวมถึงด้านเทคนิควิชา อเลกเซียเมื่อได้ฟังก็พยักหน้ารับคำ จากนั้นบรรดาสาวใช้โดยมีอเลกเซียเป็นผู้นำก็กล่าว “ราตรีสวัสดิ์” ก่อนจะพากันถอนตัวจากไป

ในเวลาเดียวกันนั้นเอง เฮเลนาก็ได้หามเตียงของตนมาวางไว้ตรงหน้าประตูเข้าออก ด้วยตัวคนเดียว

 

“เอ๊ะ เอ๋……”

 

“กะว่าถ้าหลับกันหมดจะหนีไปแท้ ๆ……”

 

“อย่านะคะคุณแองเจลิกา!”

 

ปิดผนึกทางเข้าออกเรียบร้อย ส่วนหน้าต่างก็ไม่ได้มีช่องกว้างพอให้คนผ่านได้อยู่แล้ว

หมายความว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะหนีออกไปจากห้อง

สีหน้าของแองเจลิกาเปลี่ยนเป็นสิ้นหวังอย่างเห็นได้ชัด

 

“เอาล่ะ ทุกคนพักผ่อนได้”

 

“ค่ะ!!”

 

โคมไฟในห้องได้ถูกดับลง ให้ความมืดเข้าปกคลุมแทน

และแล้วหลักสูตรฝึกทหารใหม่ (บู้ตแคมป์) จากนรกในวันแรกก็ได้จบลงในที่สุด

 

ตำนานวังหลังของพระชายาขาบู๊

ตำนานวังหลังของพระชายาขาบู๊

Status: Ongoing

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท