ยามเช้าตรู่
เฮเลนาตื่นและลุกขึ้นจากที่นอนก่อนตะวันขึ้น
ในชั่วขณะที่ตื่นขึ้นมานั้นเธอรู้สึกสับสนเล็กน้อยเพราะเห็นทัศนียภาพที่ไม่คุ้นเคย ก่อนจะนึกออกว่าเธอได้ย้ายเตียงมานอนอยู่ตรงหน้าประตู และเมื่อทอดสายตาออกไปก็พบได้ว่าศิษย์ทั้งห้ากำลังนอนหลับสนิทเหมือนตายกันเลยทีเดียว
คนที่นอนดิ้นหนักที่สุดดูเหมือนจะเป็นชาร์ลอตเต ซึ่งกำลังนอนอยู่ในท่าที่ไม่สมเป็นกุลสตรีเท่าไหร่นัก ในทางกลับกันคนที่นอนนิ่งที่สุดเห็นจะเป็นคลาริสซากระมัง ‘เห็นใบหน้าตอนนอนแบบนี้ทุกคนก็น่าเอ็นดูนะ’ เธอยิ้มออกมาเล็กน้อย แต่ก็ส่ายหน้าห้ามปรามตนเองไว้
เฮเลนาเป็นครูฝึก
กับห้าคนนี้แล้ว เธอต้องปฏิบัติด้วยอย่างเข้มงวดอยู่เสมอ
“เอาล่ะ”
ถึงกระนั้นตอนนี้ก็นับว่ายังเช้าเกินไปอยู่ดี
เพราะเฮเลนาได้นอนหลับพักผ่อนไปพร้อมกับทั้งห้าคน จึงไม่มีความง่วงหลงเหลือแม้แต่น้อยแล้ว เธอจึงตัดสินใจฝึกฝนร่างกายในส่วนของตนเองบ้าง ซึ่งเมื่อวานเธอไม่ได้ทำเพราะมัวแต่ชี้แนะให้ทั้งห้าคนอยู่เป็นส่วนใหญ่นั่นเอง
อันดับแรกเฮเลนาเปลี่ยนไปสวมชุดที่เคลื่อนไหวง่าย แล้วก็เริ่มวิดพื้น ซิตอัป ตามด้วยสควอต ส่งเสียง ‘ฮึบ ฮึบ’ จนเริ่มมีเหงื่อผุดขึ้นบนหน้าผาก และในระหว่างที่กำลังคิดว่า ‘พอเท่านี้ดีไหมนะ’ พลางซับหน้าผากเบา ๆ อยู่นั่นเอง ฟ้าข้างนอกก็เริ่มสว่างในที่สุด
การฝึกทหารใหม่ (บู้ตแคมป์) จากนรก—วันที่สองได้เปิดม่านขึ้นแล้ว
‘ซู้ดด’ เฮเลนาสูดลมหายใจลึก ๆ
เบื้องหน้าของเฮเลนาก็คือศิษย์ทั้งห้า—เหล่าบุตรีขุนนางที่กำลังนอนหลับเป็นตายพลางส่งเสียงกรนเบา ๆ
ยามเช้าของทหารนั้นมาถึงเร็วเสมอ และยิ่งเป็นทหารใหม่ก็ยิ่งต้องเร็วขึ้นไปอีก
“ทั้งหมด ตื่นนอน!!”
“ห้ะ!?”
“ฮี่ย์!?”
“เอ๋!?”
“หวา!?”
“ว้าย!?”
เสียงของเฮเลนานั้นดังยิ่ง โดยพื้นฐานผู้ที่จะนำทัพได้ก็ต้องรู้จักส่งเสียงดังอยู่แล้ว มิเช่นนั้นคงไม่สามารถสร้างขวัญกำลังใจให้เหล่าทหารได้
และเสียงนั้นของเฮเลนาก็ดังถึงขนาดทำให้เหล่าเด็กสาวที่หลับเป็นตายอยู่จนถึงเมื่อครู่ตื่นขึ้นมาได้ในพริบตาเลยทีเดียว
“อ อะไรกันเจ้าคะ……?”
“ง่วงอ่า……”
“ตื่นนอน! ทุกคนเปลี่ยนเป็นชุดฝึกซะ!”
“เอ๋……”
บรรดาศิษย์ที่ยังคงอยู่ในชุดนอนได้แสดงท่าทีงัวเงียให้เห็น
ทว่าเฮเลนาย่อมไม่ปล่อยให้นอนแบบนั้นอยู่ต่อไปได้
‘ป้าบ’ เธอฟาดพัดกระดาษใส่โซฟาเพื่อข่มขวัญ
“รีบเปลี่ยนชุดซะ!”
“ฮี่ย์! ค่ะ!!”
“โธ่ ไม่เอาแล้ว……”
“อุ……”
“เปลี่ยนเสร็จเมื่อไรก็มายืนเรียงแถว!”
ทุกคนลุกขึ้นมาอย่างเชื่องช้าก่อนจะเริ่มเปลี่ยนชุด
แองเจลิกานั้นช้าที่สุดและยังมีสีหน้าไม่พอใจด้วย คงเป็นเพราะในฐานะราชนิกุลแล้วเธอได้รับการเลี้ยงดูมาอย่างไร้ซึ่งความลำบากใด ๆ กระมัง
เฮเลนาฟาดพัดกระดาษโดยไม่พูดไม่จา แล้วก็เขม่นใส่ด้วยความตั้งใจข่มขวัญยิ่งขึ้นไปอีก
เพียงแค่นั้นก็ทำให้แองเจลิการ้อง ‘อึ๋ย!’ แล้วก็รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างรวดเร็ว
เมื่อทุกคนเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็มายืนเรียงแถว
อันที่จริง ในการฝึกทหารใหม่ตามปกติหลังจากตื่นนอนและเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วจะต้องมีการเก็บเตียงให้เรียบร้อยด้วย แต่เพราะโดนอเลกเซียบอกมาว่า “ได้โปรดอย่าแย่งงานพวกข้าไปเลยค่ะ” การเก็บเตียงก็เลยปล่อยให้เป็นหน้าที่ของบรรดานางกำนัลไป
“ขานเลข—!”
“หนึ่ง—!”
“สอง—!”
“สาม—!”
“สี่—!”
“ห้า—!”
“ดีมาก!”
แม้ใบหน้าจะยังดูมีความง่วงนอนหลงเหลืออยู่บ้าง แต่ก็ยังส่งเสียงได้ดีกว่าตอนเช้าของเมื่อวาน
คงจดจำการฝึกเมื่อวานทั้งวันกันได้อยู่สินะ ดังนั้นพวกเธอถึงได้เรียนรู้แล้วว่าจะแข็งข้อกับเฮเลนาไม่ได้
“เช่นนั้นก็มาเริ่มการฝึกกัน! ทุกคนไปรวมพลกันที่สวน!”
“ค่ะ!!”
เฮเลนาเคลื่อนย้ายเตียงของตนเองเพื่อเปิดทางเข้าออก
อย่างไรเสียก็คงต้องย้ายเตียงกลับที่เดิมในตอนกลางคืนอยู่ดี ดังนั้นเธอจึงแค่เลื่อนมันออกไปให้พ้นทางเท่านั้น ก่อนเดินประกบหลังของทั้งห้าคนและมุ่งหน้าไปยังสวนระหว่างอาคาร
แองเจลิกานั้นชำเลืองมองด้านหลังอยู่เป็นระยะ แต่พอสบตากับเฮเลนาก็หน้ายู่ไป
บางทีเธอคงตั้งใจไว้ว่าหนีไประหว่างทางกระมัง แน่นอนว่าเฮเลนาไม่ปล่อยให้มีโอกาสเช่นนั้นหรอก
และแล้วเมื่อมาถึงที่สวน ทั้งห้าก็ยืนเรียงแถวกันโดยไม่ต้องสั่ง
เฮเลนาเริ่มด้วยการไปยืนต่อหน้าห้าคนนั้น
“เอาล่ะ เริ่มกายบริหารยืดกล้ามเนื้อ! ขยับร่างกายตามข้า!”
“ค่ะ!!”
ต่อให้เป็นการฝึกทหารใหม่ แต่ในตอนแรกก็ต้องเริ่มจากการทำกายบริหารก่อน
ขยับร่างกายเบา ๆ เพื่อให้ร่างกายมีความยืดหยุ่นที่จำเป็นต่อการฝึกหนักซึ่งกำลังจะตามมา
หลังจากกายบริหารยืดกล้ามเนื้อกันไปได้สักพักจนร่างกายเริ่มอุ่นขึ้นทั้งตัวแล้ว
“ต่อไปเราจะวิ่งเบา ๆ กัน! ให้ฟรองซัวส์เป็นหัวแถว วิ่งไปทางทิศใต้ของสวน!”
“ค่ะ!!”
“เริ่มได้!!”
ฟรองซัวส์ คลาริสซา มาริเอล ชาร์ลอตเต แองเจลิกา ตามลำดับ ออกวิ่งไปตามทางตัดผ่านสวนระหว่างอาคารวนรอบวังหลังซึ่งเพิ่งจะสร้างเสร็จหมาด ๆ เมื่อไม่กี่วันนี้เอง
มันเป็นเส้นทางวิ่งที่มีลักษณะเป็นรูปตัว U โดยที่ปลายทางแต่ละด้านมีการถางพื้นที่ไว้ให้กว้างกว่าปกติเล็กน้อย แม้จะน่าเสียดายที่ไม่ใช่ลู่วิ่งซึ่งวิ่งวนไปได้อย่างต่อเนื่อง แต่หากวิ่งไปถึงทางตันแล้วเลี้ยวกลับมาทั้งแบบนั้นก็คงพอทดแทนกันได้
เฮเลนาตามประกบไปด้านหลังของแองเจลิกาอีกทอดหนึ่ง พลางจับตามองทั้งห้าอย่างใกล้ชิด
อันที่จริงจะให้เฮเลนาวิ่งนำหน้าก็ได้ แต่คงไม่มีใครที่วิ่งตามความเร็วของเธอได้ทันกระมัง ความเร็วของเหล่าศิษย์ในตอนนี้หากมองจากมุมของเธอแล้วมันยังเหมือนการเดินเร็ว ๆ เท่านั้นเอง
“อย่าวิ่งอืดอาด! ออกแรงกันหน่อย!”
“ค่ะ!!”
“ถึงทางตันแล้วเลี้ยวกลับไปตามทางที่มา ไปทางสวนระหว่างอาคาร!”
“ค่ะ!!”
เมื่อฟรองซัวส์ไปถึงทางตันครั้งแรก เธอก็เลี้ยวกลับมาทั้งแบบนั้น
นี่คือทางวิ่งซึ่งเฮเลนาอยากได้มาตลอดตั้งแต่ตอนแรกที่ตัดสินใจจัดการฝึกอบรบให้ฟรองซัวส์ เธอมองดูคอร์สวิ่งนี้ที่สร้างขึ้นมาได้เพราะกองอัศวินหมาป่าเงินทุกคนแล้วก็ยิ้มเล็กน้อยในขณะที่วิ่งไปด้วย
จากนั้นขบวนที่มีฟรองซัวส์เป็นหัวแถวก็กลับมาถึงสวนระหว่างอาคารอีกครั้ง
“ต่อไป วิ่งคอร์สตรงกันข้าม!”
“ค่ะ!!”
วิ่ง
วิ่ง
วิ่ง
แล้วก็วิ่ง
เมื่อผ่านสวนระหว่างอาคารเป็นรอบที่ห้า หรือก็คือวิ่งไปถึงทางตันเป็นรอบที่สิบแล้ว ทุกคนก็เริ่มมีอาการเหนื่อยอย่างเห็นได้ชัด
ในชีวิตที่ผ่านมาพวกเธอแทบไม่เคยได้วิ่งกันเลย ดังนั้นจะเริ่มออกอาการหลังจากวิ่งเป็นระยะทางเท่านี้ก็ไม่แปลกอะไร
“แฮ่ก แฮ่ก……”
“ฮี่ย์……”
“ฮืด ฮาด……”
“เอาล่ะ!!”
ในตอนที่กำลังอยู่บนส่วนทางตรงที่ยาวที่สุด
เฮเลนาก็ได้ส่งเสียงขึ้น ซึ่งทำให้พวกเธอก็รู้สึกยินดีขึ้นมาเล็กน้อย
‘คงพอเท่านี้แล้วสินะ’ –ในชั่วขณะที่เหล่าบุตรีขุนนางกำลังนึกโล่งใจอยู่นั่นเอง
“แองเจลิกา! เร่งความเร็ว! แซงฟรองซัวส์ไปอยู่หัวแถวซะ!”
“เอ๋—!?”
“ห้ามปฏิเสธ! ไป!!”
“อึ๋ย!!”
เมื่อทำท่าจะฟาดพัดกระดาษ แองเจลิกาก็มีสีหน้าหวาดกลัวแล้วก็รีบวิ่งไปทันที
หากมองจากมุมของเฮเลนาแล้ว แน่นอนว่ามันเชื่องช้าเหลือเกิน ทว่าก็ยังเป็นความเร็วที่มากกว่าคนอื่นอยู่เล็กน้อย
แองเจลิกาวิ่งแซงฟรองซัวส์ขึ้นไปยังหัวแถว แล้วเธอก็กลายเป็นหัวแถวไปทั้งแบบนั้น
“ต่อไปชาร์ลอตเต! ไปหัวแถว!”
“อ อะไรกันเนี่ยเจ้าคะ—!”
“ไป—!!”
“ไม่เอาแล้วเจ้าค่ะ—!!”
แม้จะตะโกน ‘ม่ายยยยย’ ไปพลาง แต่ชาร์ลอตเตก็เร่งความเร็วขึ้นไปยังหัวแถว
จากนั้นเฮเลนาให้ทุกคนได้โอกาสทำแบบเดียวกัน
แทนที่จะวิ่งต่อเนื่องไปเฉย ๆ หากผสมผสานการเร่งความเร็วแบบนี้เข้าไปด้วยมันก็จะเป็นการฝึกที่ดียิ่งขึ้น
และแล้ว เมื่อวิ่งกลับมาถึงสวนระหว่างอาคารเป็นรอบที่สิบ เธอจึงให้หยุด
“เอาล่ะ!! พอแค่นั้น!!”
“ฮี่ย์……”
ฮืด ฮาด
ทั้งห้าหอบหายใจทรุดตัวลงไปโดยที่มีเฮเลนามองดูอยู่ห่าง ๆ
เอาเป็นว่าช่วงเช้าตรู่พอแค่นี้ก่อนแล้วกัน
“ต่อไป พักเหนื่อยแล้วก็มากินอาหารเช้ากัน! อเลกเซีย!”
“ค่ะ”
เหล่านางกำนัลหกคนซึ่งเตรียมพร้อมรออยู่ใกล้สวนระหว่างอาคารได้ช่วยกันจัดโต๊ะและเก้าอี้โดยมีอเลกเซียเป็นผู้นำ
จากนั้นจานอาหารก็ได้รับการนำมาจัดวางราวกับเป็นเรื่องปกติธรรมดา เป็นสำรับยามเช้าตามปกติทั่วไป
‘แฮ่ก แฮ่ก’ เหล่าเด็กสาวที่ยังหอบหายใจอยู่ได้พากันนั่งลงบนเก้าอี้เหล่านั้นทีละคน
และเมื่อได้เห็นสำรับเช้าที่เรียงรายอยู่นั้น ก็แสดงสีหน้าหม่นหมองออกมา
“เช่นนั้นก็เริ่มมื้อเช้าได้! กินเหลือหนึ่งคนวิดพื้นเพิ่มร้อยครั้ง!”
“อ๊า—!! ปัดโธ่—!!”
“ไม่น้า—!”
เหล่าศิษย์เริ่มกินอาหารเช้ากันอย่างสิ้นหวัง
ในการฝึกทหารใหม่ปกติแล้วจะต้องมีการกำหนดเวลาในการกินด้วย แต่ไปบังคับถึงขนาดนั้นก็คงจะไม่ดี เฮเลนาจึงให้พวกเธอได้กินกันตามอัธยาศัย
ส่วนฟรองซัวส์ก็ยังกินหง่ำ ๆ เช่นเคยอย่างไม่มีทีท่าว่าความอยากอาหารจะลดลงเลย ดูเหมือนเธอจะมีลักษณะนิสัยที่กินอาหารได้ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์แบบไหนก็ตาม
“เอ่อ ท่านเฮเลนาคะ……ขอถามอะไรหน่อยได้ไหมคะ?”
“มีอะไรรึคลาริสซา”
“ได้ยินมาว่าการฝึกนี้จะใช้เวลาหนึ่งเดือนน่ะค่ะ……”
“อื้ม”
“เมื่อผ่านหนึ่งเดือนไปได้……มันจะมีอะไรหรือคะ?”
“หืม?”
เมื่อได้ฟังคำถามของคลาริสซา เฮเลนาก็ขมวดคิ้ว
การฝึกทหารใหม่นั้น เมื่อจบลงก็จะได้เป็นทหารเต็มตัว และผู้ที่ผ่านการฝึกทหารใหม่ก็จะได้ไปประจำการตามกองทัพต่าง ๆ
ทว่า ที่แห่งนี้คือวังหลัง
ต่อให้จบหลักสูตรการฝึกทหารใหม่แล้ว พวกเธอก็ไม่มีที่ไหนให้ไปต่อเป็นพิเศษ
“อืม……”
“ม ไม่เป็นไรค่ะ ข้าแค่สงสัยเฉย ๆ น่ะค่ะ เอ่อ……!”
“ไม่หรอก ว่าไปแล้วข้าก็ไม่ได้คิดไว้จริง ๆ”
หากรู้ว่าก้าวข้ามไปได้แล้วมีอะไรรออยู่ คนเราก็จะมีความกระตือรือร้นมากขึ้น
หากยกเว้นฟรองซัวส์ซึ่งมีเป้าหมายในการเป็นภรรยาที่คู่ควรกับบาร์โตโลเมอยู่แล้ว อีกสี่คนก็ไม่ได้มีเป้าหมายอะไรเป็นพิเศษ
บางทีเฮเลนาอาจต้องช่วยคิดหาอะไรสักอย่าง
“เช่นนั้น……นั่นสินะ หากพวกเจ้าสามารถก้าวข้ามหนึ่งเดือนนี้ไปได้ ข้าจะเตรียมรางวัลอะไรสักอย่างไว้ให้แล้วกัน”
“รางวัล……หรือคะ?”
“อา อย่างเช่นคลาริสซา สำหรับเจ้า……จะหาโอกาสให้ได้เจอกับพี่ชายข้าเป็นไง”
“จะพยายามอย่างสุดชีวิตเลยค่ะ!!”
ดูเหมือนนั่นจะทำให้มีกำลังใจกว่าที่คิดไว้ซะอีกแฮะ
พลังใจของคลาริสซาพุ่งกระฉูดอย่างเห็นได้ชัด ราวกับมีไฟลุกพรึ่บขึ้นมาในดวงตาเลยทีเดียว
ถึงเฮเลนาจะไม่เข้าใจว่าไอ้ซิสค่อนคนนั้นมันมีอะไรให้หลงไหลถึงขนาดนั้นก็เถอะ
“ท ท่านเฮเลนาคะ! แล้วข้าล่ะ!”
“อ่า จะคิดเผื่อไว้ให้คนที่เหลือด้วย ตั้งตารอไว้ให้ดี แล้วก็ก้าวข้ามหนึ่งเดือนนี้ให้ดูซะสิ”
“ค่ะ!!”
การใช้ไม้อ่อนสลับไม้แข็งบ้างเป็นเรื่องสำคัญ
แต่ถึงกระนั้นก็ตาม
“ร รางวัล……จากท่านพี่หญิง……!”
เฮเลนาก็ยังอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหนาวสันหลังกับสายตาอันร้อนแรงที่มาริเอลส่งมาให้เธออยู่ดี