สองสัปดาห์หลังเริ่มบู้ตแคมป์
ด้วยการฝึกช่วงเช้าที่เป็นการฝึกพื้นฐานเช่นการวิ่ง วิดพื้น หรือซิตอัป และช่วงบ่ายที่เป็นการฝึกต่อสู้ด้วยไม้กระบองที่พันด้วยผ้าฝ้าย หรือไม่ก็ฝึกเทคนิควิชาอย่างเช่นการยิงธนู เมื่อแต่ละวันผ่านไปสีหน้าของเหล่าทหารใหม่ก็เริ่มเปลี่ยนไปตามเวลา
“ขานเลข—!!”
“หนึ่ง—!!”
“สอง—!!”
“สาม—!!”
“สี่—!!”
“ห้า—!!”
“ดี!!”
เมื่อเห็นทุกคนส่งเสียงดังก้อง เฮเลนาก็ยิ้มอย่างพึงพอใจ
ในช่วงแรกแค่ฝึกจบช่วงเช้าท่าทางเหมือนจะเป็นศพกันแล้ว แต่ในตอนนี้แม้จะจบการฝึกช่วงเช้าพวกเธอก็ยังมีแรงเหลือขนาดยืนเรียงแถวขานเลขกันได้อยู่ โดยที่เฮเลนาไม่ได้ลดประมาณการฝึกแม้แต่น้อย ในทางกลับกันมันเพิ่มขึ้นด้วยซ้ำไป
อาจเป็นเพราะถูกบั่นทอนจิตใจอย่างต่อเนื่องมาตลอดสองสัปดาห์หรืออย่างไรก็ไม่ทราบ แต่สีหน้าของแองเจลิกานั้นไม่มีความเป็นศัตรูหลงเหลืออยู่แล้ว
“เอาล่ะ เริ่มการฝึกยิงเป้า! เริ่มจากฟรองซัวส์ ยิงได้—!”
“ค่ะ!!”
ทุกคนถือธนูคนละคัน แต่เป้ายิงนั้นมีแค่อันเดียว ดังนั้นเพื่อเป็นการพักเหนื่อยไปในตัว การฝึกยิงธนูจึงเป็นการฝึกแบบเรียงตามลำดับทีละคน
ทว่าก็ไม่ใช่ว่าอีกสี่คนที่เหลือจะพักผ่อนอยู่เฉย ๆ แต่พวกเธอกำลังยืนตรงเตรียมพร้อมอยู่ด้านหลัง
ทุกคนเข้าใจตรงกันหมดแล้วว่า หากพูดคุยไร้สาระหรือนั่งลง เสียงด่าทอของเฮเลนาก็จะบินมาหาพร้อมการทำโทษวิดพื้นทันที
“ฮ่ะห์!!”
‘ฟิ้ว’ ศรที่ฟรองซัวส์ปล่อยออกไปเสียบเข้าที่เป้าฟาง
ในการฝึกยิงเป้านี้ ผู้ที่แสดงพัฒนาการมากที่สุดก็คือฟรองซัวส์ เธอมีอัตราความแม่นยำสูงที่สุดในหมู่ห้าคน และท่าร่างในการใช้ธนูก็ยังสวยงามที่สุดอีกด้วย ชวนให้นึกว่าเผลอ ๆ เธออาจมีอัตราความแม่นยำเทียบเท่ากับพลธนูที่ช่ำชองเลยก็เป็นได้
กล้ามเนื้อหลังที่ตั้งตรง สายตาที่เพ่งรวมไปยังจุดเดียว และปลายนิ้วที่ไม่คล้อยไหว กับสมาธิที่ไม่สั่นคลอน
ฟรองซัวส์ผู้ซึ่งเฮเลนาเคยนึกว่าแม้จะมีตำแหน่งในวังหลังเป็น ‘ผู้มีความสามารถ’ แต่ดันไม่มีความสามารถใด ๆ เลย กลับมีพรสวรรค์ในด้านนี้อย่างไม่ต้องสงสัย
“ดี!! ฝีมือดีมากฟรองซัวส์!”
“ขอบพระคุณค่ะ!”
“จงภูมิใจในพรสวรรค์ของตัวเองเถอะ! ต่อไปพยายามเล็งให้เข้าจุดอ่อนของศัตรูอย่างแม่นยำซะ! ศรที่เหลืออีกสามดอกจงยิงใส่หว่างคิ้ว ลำคอ และหัวใจ!”
“ค่ะ!”
ฟรองซัวส์จับลูกศรใหม่ขึ้นสาย ก่อนจะเล็งเป้าและยิงออกไป
แม้จะมีการแจกลูกศรให้คนละห้าดอก แต่ผู้ที่สามารถยิงเข้าเป้าได้ทั้งห้าดอกนั้น ตอนนี้มีแค่ฟรองซัวส์คนเดียว
และแม้เฮเลนาจะเป็นครูฝึกที่เข้มงวด แต่จุดที่ควรชมก็ต้องชม นอกจากนี้การเอ่ยปากชมให้ทหารใหม่คนอื่น ๆ เห็นยังเป็นการกระตุ้นความอยากแข่งขันกันได้อีกด้วย
ลูกศรอีกสามนัดของฟรองซัวส์นั้นยิงถูกมัดฟางทั้งหมด
เฮเลนาสั่งให้เล็งสามจุดคือหว่างคิ้ว ลำคอ หัวใจ แต่ดูเหมือนการยิงจู่โจมอย่างละเอียดเช่นนั้นมันจะยังยากเกินไปหน่อย ทว่าหากฝึกเช่นนี้ต่อไปเรื่อย ๆ เธอต้องพัฒนาขึ้นแน่
ฟรองซัวส์ถอนลูกศรที่ปักอยู่กับมัดฟางออก จากนั้นก็ไปยืนที่ท้ายแถว
และผู้ที่ออกมาเป็นรายถัดไปก็คือคลาริสซา
“เอาล่ะ! ลงมือเลยคลาริสซา!”
“ค ค่ะ!!”
“นั่นไม่ใช่มัดฟาง แต่เป็นศัตรูของเจ้า! จงยิงศรทั้งห้าดอกนี้ให้เข้าเป้าทั้งหมดให้ดูซิ!”
“ค่ะ!!”
เทียบกับท่าร่างชั้นตัวอย่างที่สวยงามของฟรองซัวส์แล้ว ท่าร่างของคลาริสซานั้นยังมีข้อผิดพลาด
สำหรับอัตราความแม่นยำ จากห้าดอกยิงถูกสักสองดอกก็ดีแล้ว อันที่จริงเป็นฟรองซัวส์ต่างหากที่ผิดปกติ อีกสี่คนที่เหลือรวมคลาริสซานั้นฝีมือไม่ได้แตกต่างกันมากเท่าไรนัก
คลาริสซาเล็งและยิงศรออกไปห้าดอก
ทว่าที่เข้าเป้ามัดฟางก็มีแค่สองดอกซึ่งยิงออกไปได้ดีเท่านั้น
“โดนแค่สองดอกเองนะ!”
“ขออภัยค่ะ!”
“ไปเก็บลูกศรมา แล้ววิดพื้นสามสิบครั้ง!”
“ค่ะ!!”
“ต่อไป!! แองเจลิกา!”
คลาริสซาไปเก็บลูกศร จากนั้นจึงหลบออกไปด้านข้างแล้วก็เริ่มวิดพื้น
มันมีธรรมเนียมว่าต้องวิดพื้นเท่ากับจำนวนศรที่ยิงพลาดคูณสิบนั่นเอง ในวันแรกที่เริ่มฝึกยิงธนูนั้นทุกคนแทบจะได้วิดพื้นห้าสิบครั้งกันทุกรอบ
แต่สำหรับในตอนนี้ ฟรองซัวส์นั้นไม่ได้วิดพื้นเลย ส่วนมาริเอลกับชาร์ลอตเตก็เริ่มลดจำนวนครั้งที่ต้องวิดพื้นลงไปได้แล้ว
“ค่า!!”
“สะโพกหย่อนไป! ตั้งสมาธิกว่านี้!”
“ค่ะ!!”
“นั่นคือศัตรูที่น่าชิงชัง! เกิดเจ้ายิงศรพลาดแล้วพวกพ้องโดนศัตรูสังหารไปจะทำอย่างไรเล่า! ปลิดชีพในดอกเดียวซะ!”
“ค่ะ!!”
เฮเลนาตั้งหน้าตั้งตาลับฝีมือการยิงธนูของพวกเธอไปเรื่อย ๆ เช่นนี้เอง
แองเจลิกายิงโดนสามดอก หลังจากไปเก็บลูกธนูเธอจึงถูกสั่งให้วิดพื้นยี่สิบครั้ง
ตามด้วยมาริเอล ที่โดนไปสิบครั้ง ส่วนชาร์ลอตเตก็โดนสามสิบครั้ง แล้วฟรองซัวส์ก็กลับมาเป็นหัวแถว
หลังจากฝึกจับคันธนูขึ้นสาย ปล่อยลูกศร แล้วก็วิดพื้นเช่นนี้วนเวียนไปสักพัก ก็เข้าสู่การฝึกถัดไป
“เอาล่ะ ต่อไป! วิชากระบอง!”
“ค่ะ!!”
“อันดับแรก เริ่มจากชาร์ลอตเตกับฟรองซัวส์!”
“ค่ะ!!”
เฮเลนาให้ชาร์ลอตเตกับฟรองซัวส์สองคนหยิบกระบองที่พันผ้าฝ้ายไว้ขึ้นมา จากนั้นก็สวมเกราะหมวกกันกระแทกที่ทำจากไม้ แล้วก็ให้ฟาดกระบองใส่กัน
ต่อให้กระบองจะพันผ้าฝ้ายไว้ แต่หากโดนศีรษะเข้าก็คงกระทบกระเทือนไม่น้อย ดังนั้นจึงต้องมีมาตรการเช่นนี้เผื่อไว้
“เอาแล้วนะเจ้าคะ!!”
“ค่ะ!!”
แล้วทั้งสองคนก็เริ่มฟาดกระบองต่อสู้กัน
แม้จะสัมผัสได้ถึงพรสวรรค์ด้านธนูจากฟรองซัวส์ แต่นอกนั้นแล้วก็เธอดูจะไม่มีพรสวรรค์เลย อย่างน้อยที่สุดหากเป็นวิชากระบองแล้ว ชาร์ลอตเตนั้นยังพัฒนาฝีมือได้ดีกว่า
อันที่จริงในการประลองเช่นนี้ ฟรองซัวส์มักจะเป็นฝ่ายล้มลงไปก่อนทุกครั้ง
“ฮ่า!!”
“แหง่ะ!!”
การโจมตีของชาร์ลอตเตฟาดถูกเกราะหมวก ทำให้ฟรองซัวส์ล้มไปทั้งแบบนั้น
เธอพยายามทำให้หัวหายมึน แล้วก็ฝืนลุกขึ้นมาอย่างเต็มที่
ทว่าการโจมตีนั้นคงสะเทือนสมองพอสมควร จึงเห็นได้ชัดว่าขาของเธอมันกำลังโงนเงนหนักทีเดียว
“ฟรองซัวส์! ชาร์ลอตเต! ถอยไปซะ!”
“ค่ะ!!”
“ต่อไป! คลาริสซากับแองเจลิกา! ออกมาข้างหน้า!”
“ค่ะ!!”
คลาริสซากับแองเจลิการับเกราะหมวกต่อจากฟรองซัวส์กับชาร์ลอตเต แล้วก็ออกมาต่อสู้ด้านหน้าเป็นคู่ถัดไป
ระหว่างที่มองดูทั้งสองคนสู้กัน เฮเลนาก็ส่งคำแนะนำในรูปแบบของเสียงตะคอกไปให้ด้วย
“คลาริสซา! ปวกเปียกแบบนั้นจะไปโค่นศัตรูได้รึ! ใส่แรงให้มากกว่านี้!”
“ค่ะ!!”
“แองเจลิกา! เปิดตาไว้ให้ดี! มองไปข้างหน้า! อย่าละสายตาจากอาวุธของศัตรู!”
“ค่ะ!!”
การประลองดำเนินต่อเนื่องไปอย่างดุเดือด
ทว่าฝ่ายที่ล้มไปก่อนก็คือแองเจลิกาซึ่งรับการโจมตีของคลาริสซาเข้าไปเต็ม ๆ ที่ด้านข้างศีรษะ ในวิชากระบองดูเหมือนคลาริสซาจะเหนือกว่าอยู่เล็กน้อยจริง ๆ ด้วย
‘อุ—’ แองเจลิกาพยายามยืนทั้งที่ขายังสั่น แต่ก็ไม่สามารถลุกขึ้นมาได้
“ดี!! คลาริสซา! แองเจลิกา! ถอยไปซะ!”
“ค่ะ!!”
“ต่อไป! มาริเอล! ออกมาข้างหน้าซะ!”
“ค่ะ!!”
ในวิชากระบอง มีแค่มาริเอลเท่านั้นที่พิเศษกว่าคนอื่น
เฮเลนาสัมผัสได้ก่อนจะเริ่มบู้ตแคมป์แล้วว่ามาริเอลนั้นมีพรสวรรค์ในวิชากระบอง ดังนั้นถึงเคยให้ทิฟฟานีมาเป็นคู่ซ้อมให้เธอด้วย
ทว่าพรสวรรค์ของมาริเอลนั้นกลับเหนือกว่าความคาดหมายของเฮเลนาเสียอีก มาริเอลฝีมือพัฒนาไปเสียจนชวนให้นึกว่าหากให้ถือกระบอง ต่อให้เจอกับอีกสี่คนพร้อมกันเธอก็อาจสู้ได้
ถึงขั้นที่ว่าหากให้ลองฝึกซ้อมต่อสู้กับเมห์เลียนา ก็อาจสู้ได้อย่างสูสีเลยก็เป็นได้
“เข้ามาเลย! มาริเอล!”
“ค่ะ!! เอาแล้วนะคะ!!”
“โอ้!!”
คู่ซ้อมของมาริเอลผู้นั้น ก็คือเฮเลนานั่นเอง
สำหรับกองอัศวินหมาป่าเงิน เฮเลนาได้สั่งไม่ให้เข้าใกล้สวนระหว่างอาคารชั่วคราว ดังนั้นผู้ที่จะสามารถเป็นคู่ต่อสู้ให้มาริเอลในที่นี้ได้ก็ไม่มีใครอื่นอีกนอกจากเธอ
ทว่าเฮเลนาก็ไม่ได้ออมมือแม้แต่น้อย และเล็งเป้าอย่างแม่นยำ
“ช้าไป!!”
“แหง่ก!!”
หวดพัดกระดาษใส่บนเกราะหมวกของมาริเอลอย่างเต็มเหนี่ยว