“ฮึ่ม—……”
แองเจลิกา ดีล ลูเครเซีย กันเกรฟ ครางออกมาเบา ๆ ระหว่างที่กำลังมองดูภาพเบื้องหน้า—มองดูคนสองคนซึ่งก็คือฟรองซัวส์กับมาริเอลกำลังต่อสู้กันด้วยหมัดอยู่ในสวนระหว่างอาคาร
หลังจากสิ้นสุดการฝึกพลังกายพื้นฐานในช่วงเช้า ช่วงบ่ายก็เป็นการฝึกอบรมศิลปะการต่อสู้ และการฝึกแรกของวันนี้ก็คือการต่อสู้ด้วยมือเปล่า
คู่แรกนั้นเป็นแองเจลิกากับคลาริสซามาต่อสู้กัน ซึ่งก็น่าเสียดายที่เธอเป็นฝ่ายแพ้ ในการฝึกอบรมการต่อสู้มือเปล่าชาร์ลอตเตนั้นเก่งกว่าคนอื่นอย่างท้วมท้น รองลงมาเป็นมาริเอล และสุดท้ายก็จะน่าเป็นฟรองซัวส์ แองเจลิกา คลาริสซา ที่อยู่ในระดับพอ ๆ กันนี่แหละ
มันก็ไม่ใช่ว่าเธอเจ็บใจอะไรเป็นพิเศษที่แพ้หรอกนะ หากคู่ต่อสู้เป็นฟรองซัวส์หรือคลาริสซาก็มีชนะบ้างแพ้บ้าง หากคู่ต่อสู้เป็นมาริเอลเธอก็ยังชนะได้แบบหนึ่งในห้าครั้งอยู่
ทว่าเรื่องที่น่าเจ็บใจนั้นมีเพียงอย่างเดียว
คือการที่แองเจลิกาไม่มีเรื่องอะไรที่โดดเด่นเลย
“ฮ่ะ—!!”
“ขึ่ก—!!”
ต่อหน้าของเธอ ฟรองซัวส์กำลังล้มลงไป
ไม่ว่าจะยังไงเพราะมาริเอลกับชาร์ลอตเตมีอายุมากที่สุดไล่เลี่ยกัน พวกเธอจึงมีรูปร่างที่สูงใหญ่เมื่อเทียบกันในกลุ่มห้าคน มันไม่ใช่ว่าแองเจลิกาจะใช้อายุเป็นข้ออ้าง แต่ถึงอย่างไรมาริเอลเทียบกับแองเจลิกาก็มีความห่างของอายุถึงสี่ปี หรือเทียบกับฟรองซัวส์แล้วก็ยังห่างถึงสามปี จะแข็งแกร่งกว่าพวกเธอมันก็เหมาะสมและทำใจยอมรับได้
ทว่า ความแข็งแกร่งที่แท้จริงของมาริเอลนั้นอยู่ที่วิชากระบอง
หากเป็นเรื่องวิชากระบองแล้ว มาริเอลนั้นชำนาญจนถึงขั้นที่เฮเลนาเองก็ยอมรับ อย่างแองเจลิกานั้นเทียบไม่ติดแม้แต่ปลายเท้าเลย
ใช่
นอกจากแองเจลิกาแล้ว ทุกคนต่างก็มีทักษะความชำนาญอะไรสักอย่างกันหมด
ชาร์ลอตเตมีศิลปะการต่อสู้มือเปล่า
มาริเอลมีวิชากระบอง
ฟรองซัวส์มีศิลปะการยิงธนู
คลาริสซามีศิลปะการขี่ม้า
ส่วนแองเจลิกานั้น ไม่มีอะไรเลย
ตัวเธอที่เป็นเช่นนั้น มันช่างน่าเศร้า ชวนขมขื่น แล้วก็น่าหงุดหงิดด้วย
“ดี!! ต่อไป!! ชาร์ลอตเต!”
“เจ้าค่ะ!!”
คราวนี้เป็นการต่อสู้มือเปล่าระหว่างชาร์ลอตเตกับเฮเลนา
แม้แองเจลิกาจะพยายามตั้งใจมองแต่ละการเคลื่อนไหวให้ดีที่สุด แต่แค่มองไล่ตามให้ทันก็เต็มกลืนแล้ว ทำไมถึงหลบหมัดอันคมกริบของเฮเลนาได้ในระยะเผาขนขนาดนั้นกันนะ ครั้งก่อนที่ลองถามชาร์ลอตเตดูก็ได้คำตอบมาแค่ว่า “ใช้เซนส์เดา ๆ เอาเจ้าค่ะ” ไม่เข้าใจเลยสักนิด
แต่นั่นก็คงแปลว่าชาร์ลอตเตนั้นอยู่ในระดับที่แองเจลิกาไม่สามารถทำความเข้าใจได้กระมัง
ต่อให้พยายามเพ่งมองเพื่อดูว่าพอจะลักจำการเคลื่อนไหวมาสักกระบวนท่าได้ไหม มันก็ดันมีแต่การเคลื่อนไหวอะไรไม่รู้ที่จนปัญญาจะเลียนแบบถูกใช้ออกมาไม่หยุดหย่อน สุดท้ายก็จบลงด้วยความไม่เข้าใจอยู่ดี วนเวียนอยู่แค่นี้
“อ๊ะ—!!”
“ยังอ่อนหัดนะชาร์ลอตเต! ต่อไป! มาริเอล! แองเจลิกา! ใส่นวม!”
“ค่ะ!!”
เมื่อชาร์ลอตเตร่วงลงไปกับพื้น ต่อไปก็ถึงคราวมาริเอลกับแองเจลิกาออกไปข้างหน้า
แองเจลิกานั้นคิดว่าตนเองแข็งแกร่งขึ้นแล้วแน่ ๆ หากเทียบกับก่อนเริ่มการฝึกอบรม ทว่าในความเป็นจริงเธอก็ยังไม่สามารถสัมผัสมันได้สักเท่าไรนัก เพราะทั้งสี่คนที่กำลังฝึกร่วมกับแองเจลิกาเองก็เติบโตขึ้นเหมือนกันนั่นเอง
แองเจลิกาใส่นวม แล้วก็ตั้งท่าสู้พร้อมกับมาริเอล
“เอาแล้วนะคะ!!”
“มาเลย!!”
“ฮ่ะ—!!”
“โอ้ว—!!”
เธอแลกหมัดกับมาริเอล
ในด้านระยะโจมตีนั้นมาริเอลเหนือกว่า ด้านความสามารถของร่างกายเองมาริเอลก็มีความได้เปรียบของอายุ เรื่องพละกำลังก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึง
ข้อได้เปรียบของแองเจลิกา อย่างดีก็เพราะตัวเล็กกว่าจึงสามารถเข้าคลุกวงในได้ง่าย แค่นั้นกระมัง แต่ถึงกระนั้นต่อให้พยายามเข้าประชิดวงใน มาริเอลเองก็ไม่ได้หวานหมูขนาดที่จะยอมให้เข้าไปได้ง่าย ๆ อยู่ดี
‘ตรงไหน มีช่องโหว่อยู่ตรงไหนบ้างไหม’ แองเจลิกาเพ่งตาสังเกตมาริเอลไปพลางต่อสู้รับมือไปพลาง
“โอ้ว—!!”
“อั่ก!!”
แองเจลิกาไม่ได้ตั้งใจจะเปิดช่องโหว่ให้เห็น
แต่ดูเหมือนเธอจะเผลอยกการ์ดขึ้นสูงเกินไป บอดี้โบลว์ที่มาริเอลปล่อยออกมาจึงลอดการ์ดนั้นทิ่มเข้าท้องของเธออย่างเต็มแรง
แรงกระแทกที่มากพอจนรู้สึกคลื่นไส้อยากจะอาเจียน ทำให้แองเจลิกาเข่าทรุดลงไปโดยไม่ตั้งใจ
“ดี!! ต่อไป!! ฟรองซัวส์! คลาริสซา! ใส่นวม!”
“ค่ะ!!”
‘โธ่เอ้ย’ แองเจลิกากัดฟัน
หากมีฝ่ายไหนล้มลงหรือเข่าแตะพื้น ก็จะไปคู่ต่อไปทันที
ซึ่งก็หมายความว่า แองเจลิกาได้แพ้อีกแล้วนั่นเอง
แม้จะรู้สึกหงุดหงิด แต่ก็ไม่มีทางให้ระบายออกไป
แองเจลิกาทำได้เพียงคิดแค้นใจพลางลุกขึ้นยืน แล้วก็ขว้างนวมไปให้ฟรองซัวส์
ฟรองซัวส์รับนวมที่โดนขว้างมาตรงหน้าเอาไว้
“เดี๋ยว!!”
“—!!”
‘แย่แล้วสิ’ สัญญานเตือนภัยในใจแองเจลิการ้องดัง
ถุงมือนวมนั้นเป็นอุปกรณ์การฝึกอบรม แต่เธอกลับโยนมันส่งให้ฟรองซัวส์อย่างรุนแรงหยาบคาย แม้จะเป็นเพียงเพราะอารมณ์หงุดหงิดชั่ววูบ แต่มันอาจไปทำให้เฮเลนาเดือดดาลเข้าก็เป็นได้
‘พรึ่บ’ เธอรีบยืดตัวตรงและหันหลังกลับไปมองเฮเลนา
“แองเจลิกา!”
“ค่ะ!!”
โดนดุแน่เลย—แองเจลิการู้ตัวว่าร่างกายมันกำลังสั่นโดยไม่ตั้งใจ
หากเป็นเธอคนเดียวที่โดนดุ ก็ยังนับว่าดี
ทว่าการกระทำหุนหันพลันแล่นของแองเจลิกานั้น จะไปทำให้พรรคพวกคนอื่นนอกจากเธอต้องรับโทษด้วยน่ะสิ
แองเจลิกาเป็นน้องสาวของจักรพรรดิรุ่นปัจจุบันฟาร์มาส ดีล ลูเครเซีย กันเกรฟ เป็นราชนิกุล ทว่าของพรรค์นั้นมันไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรในการฝึกทหารใหม่นี้เลย แม้ในตอนแรกเธอจะรู้สึกต่อต้านว่าทำไมต้องมาฝึกกับพวกลูกสาวขุนนางพวกนี้ด้วย แต่เมื่อเวลาผ่านไปแองเจลิกาก็รู้สึกถึงความเป็นพรรคพวกเดียวกันขึ้นมาแล้ว
การที่พวกพ้องต้องมารับการลงโทษเพราะแองเจลิกา—นั่นช่างเป็นเรื่องที่ยากจะทานทน
ทว่า
เฮเลนานั้นกลับเอามือแตะคางอย่างครุ่นคิด ‘หืม’
“ลองขว้างสิ่งนี้ดูซิ”
“……เอ๋?”
“เป้าหมายคือมัดฟางอันนั้น ลงมือซะ!”
สิ่งที่เฮเลนายื่นมาให้เธอ
มันคือก้อนหิน
เป็นก้อนหินที่ไม่มีอะไรแปลกประหลาดเป็นพิเศษ หากลองค้นหาดูในสวนระหว่างอาคารก็คงเจอสักสิบยี่สิบก้อนกระมัง เป็นเพียงก้อนหินธรรมดาเท่านั้นจริง ๆ
‘ขว้างสิ่งนี้’ เมื่อเจอกับคำสั่งที่ไม่เข้าใจวัตถุประสงค์เช่นนั้น ก็ทำให้แองเจลิกาเอียงศีรษะอย่างฉงนใจ
ทว่าในเมื่อมันเป็นคำสั่งก็มีแต่ต้องทำตามเท่านั้น แองเจลิกาที่ไม่ได้ทำอะไรอย่างอื่นนอกจากรับการฝึกอบรมตลอดช่วงสามสัปดาห์กว่าที่ผ่านมา ได้ถูกย้อมวิธีคิดให้เป็นเช่นนั้นไปโดยสมบูรณ์แล้ว
“ค่ะ!!”
ดังนั้นเธอจึงตอบกลับเช่นนั้น
‘เพื่ออะไรกันนะ’—แม้จะมีความสงสัยเช่นนั้นอยู่ แต่เธอก็ขว้างหินไปทางเป้าฟางที่ใช้ซ้อมยิงธนู
ก้อนหินไปโดนเข้ากับเป้าฟาง ก่อนจะกระดอนกลิ้งไป
“……”
“อ เอ่อ……?”
“อีกที คราวนี้ขว้างสามครั้ง”
“ค่ะ!!”
‘ทำไมต้องทำแบบนี้ด้วยนะ’—เธอคิดพลางเก็บหินมาสามก้อน แล้วก็ขว้างไปทางเป้าฟาง
ครั้งแรกโดนที่ส่วนบนของเป้าฟาง
ครั้งที่สองโดนที่ส่วนล่าง
ครั้งที่สามโดนตรงกลาง
แต่ละก้อนล้วนเข้าเป้าหมด
“……หืม”
“ม มีอะไรหรือคะ……?”
“อย่างนี้เอง นี่สินะพรสวรรค์ของเจ้า”
“เอ๋……?”
แองเจลิกาเอียงคออย่างฉงนใจ
ระยะทางไปถึงเป้าฟางมันก็ไม่ได้ไกลขนาดนั้น แม้การยิงธนูให้โดนมันจะยาก แต่ถ้าเป็นหินที่ขว้างไปเองมันก็น่าจะเป็นเรื่องง่ายนี่นา
‘ทำไมล่ะ’ เธอคิดพลางมองไปรอบ ๆ
“ระยะทางเท่านี้ ถ้าเป็นอิฉันก็ขว้างหินไม่โดนหรอกค่ะ……”
“ส สุดยอดไปเลยค่ะ! คุณแองเจลิกา!”
“เอ๋……เข้าเป้าหมดเลยเหรอเนี่ย……”
“มีความสามารถเช่นนี้เองสินะเจ้าคะ”
“……เอ๊ะ?”
ทั้งสี่คนกำลังชื่นชม
สำหรับแองเจลิกาแล้วนี่มันเป็นเรื่องธรรมดา ทำไมต้องยกย่องชมเชยกันถึงขนาดนั้นด้วยล่ะ
ทว่าเฮเลนากลับพยักหน้าอย่างใจเย็น
“แองเจลิกา”
“ค่ะ!!”
“เป็นพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยม ในช่วงเวลาที่เหลือข้าจะเพิ่มการฝึกอบรมที่พัฒนาความสามารถของเจ้าเข้าไปด้วย จงใช้จุดเด่นของเจ้าให้เกิดประโยชน์ ขัดเกลาพัฒนามันให้ดีล่ะ”
“ค ค่ะ!!”
แม้จะไม่ค่อยเข้าใจนักแต่ก็พยักหน้ารับไปก่อน
กับแค่การขว้างหินให้โดน ทำไมถึงต้องประเมินมันสูงค่าซะขนาดนั้นด้วยนะ
“จงยินดีเถอะ แองเจลิกา”
“ค่ะ!!”
“ในช่วงเวลาที่เหลืออยู่นี้ ข้าจะฝึกเจ้าให้เป็นทหารพลขว้างชั้นยอดเอง!”
“ท ทหารพลขว้าง……?”
ทหารพลขว้างมันคืออะไรก็ไม่รู้หรอก
แต่มีความจริงเพียงเรื่องหนึ่งที่เธอรู้แล้ว
พรสวรรค์ที่แองเจลิกามี
ในที่สุดมันก็ได้รับการยอมรับจากเฮเลนาแล้วนั่นเอง
เพียงแค่นั้น มันก็ทำให้เธอยินดีอย่างมากมาย
“ค่ะ!! ขอบพระคุณค่ะ!!”
แองเจลิกากล่าวพลางโค้งคำนับอย่างแรง