จักรพรรดิแห่งจักรวรรดิกันเกรฟ ฟาร์มาส ดีล ลูเครเซีย กันเกรฟ ลอดผ่านประตูนครหลวงบนหลังซิลวาม้าคู่ใจ พลางทอดถอนใจออกมาเบา ๆ
แม้จะเขาจากไปเป็นเวลาประมาณหนึ่งเดือนเท่านั้น แต่มันกลับทำให้รู้สึกคิดถึงมากทีเดียวเลย
ช่วงเวลาหนึ่งเดือนที่เฮเลนาจัดการฝึกฝนให้แองเจลิกา ฟาร์มาสเห็นว่าเป็นโอกาสเหมาะสมที่เขาจะเดินทางไปเยี่ยมเยือนแต่ละท้องที่
ทั้งหมดนั้นก็เพื่ออีกหนึ่งปีให้หลัง—เพื่อการกวาดล้างราชสำนักอันเน่าเฟะที่ฟาร์มาสจะลงมือกระทำนั่นเอง
ราชสำนักในปัจจุบันไม่ต่างอะไรกับรังโจร นอกจากแอนตันแล้วไม่มีผู้อื่นเลยที่ไว้วางใจได้ เพราะฉะนั้นในอีกหนึ่งปีหลังจากกวาดล้างพวกกังฉินออกไปจนหมดแล้ว เพื่อให้การปกครองบ้านเมืองดำเนินไปได้โดยไม่ติดขัดฟาร์มาสจึงจำเป็นต้องมีผู้ใต้บังคับบัญชาเป็นของตัวเอง
ดังนั้นฟาร์มาสจึงได้เดินทางเยี่ยมเยือนในแต่ท้องที่ เพื่อเสาะหาเหล่าบุคคลที่จะมาเป็นบริวารคนสนิทผู้ซื่อสัตย์ของตนเอง
แม้จะต้องดำเนินการภายใต้เงื่อนไขที่ยากลำบาก แต่เขาก็คิดว่าผลลัพธ์มันออกมาไม่เลวทีเดียว
“แหม่ คิดถึงอาคารบ้านเรือนในนครหลวงจริง ๆ นะครับ”
“ก็นั่นสินะ”
“อยากจะกลับไปทั้งแบบนี้เลยนะครับ แต่ว่า……”
“ยังเหลือธุระสุดท้ายอีกเรื่องหนึ่ง ยังเร็วไปที่จะประมาทน่า”
สถานที่แรกซึ่งฟาร์มาสได้มุ่งหน้าไปหลังออกจากนครหลวง ก็คืออาณาเขตปกครองของขุนนางซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตก—เขตปกครองของดยุกเลย์แลนด์
เป้าหมายก็คือการไปโน้มน้าวเร็กซ์ เลย์แลนด์ บุตรชายคนโตของดยุกเลย์แลนด์ ซึ่งมีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องผู้พี่ของฟาร์มาส
เพราะเป็นลูกพี่ลูกน้องกันมาแต่เดิม ฟาร์มาสจึงรู้ถึงความเฉลียวฉลาดมีไหวพริบของเขาดี แม้จะไม่มีอะไรที่หยิบยกมาพูดถึงได้เป็นพิเศษ แต่ก็ประเมินได้ว่าเป็นบุคลากรที่มีความสามารถมากพอจะวางไว้ในตำแหน่งสำคัญของการปกครองบ้านเมืองหลังจากนี้ไปได้
ดังนั้นฟาร์มาสจึงได้เปิดเผยเป้าหมายของตนออกไปแล้วร้องขอความร่วมมือจากเขา
และเมื่อได้ฟังคำพูดของฟาร์มาสเช่นนั้น เร็กซ์เองก็ยอมเปิดอกพูดคุยและสัญญาว่าจะให้ความช่วยเหลือจากนี้ไป
“ว่าแต่ มันไปได้สวยกว่าที่คิดมากเลยนะครับเนี่ย”
“อา ได้ผลลัพธ์ที่ดีเกินคาดเสียอีก ความร่วมมือของเร็กซ์เองก็มีผลมากทีเดียว……”
“หากได้รับความช่วยเหลือจากตระกูลดยุกล์แลนด์ หนึ่งปีให้หลังก็คงสงบราบรื่นดีสินะครับ”
“อืม”
ฟาร์มาสพยักหน้าให้กับคำพูดของเกรเดีย
ดยุกเลย์แลนด์รุ่นปัจจุบันผู้เป็นบิดาของเร็กซ์นั้น เป็นชายที่เรียกได้ว่าเป็นภาพสะท้อนของความโง่เขลาเบาปัญญา
เมื่อก่อนเขาเคยทำให้ดีลบิดาของฟาร์มาสต้องกังวลอยู่เสมอ และตอนนี้ในอาณาเขตปกครองก็ยังมีข่าวลือว่าเอาแต่ใช้ชีวิตหาความสำราญไปวัน ๆ อยู่ด้วย
ความคิดที่จะเอาดยุกเลย์แลนด์คนนั้นออกไปแล้วรับช่วงต่อตำแหน่งดยุกด้วยตนเอง จึงเป็นความคิดที่เร็กซ์เองก็มีอยู่แล้ว
ฟาร์มาสได้ให้สัญญาว่าจะให้ความร่วมมือกับเร็กซ์ในทุกด้าน และเร็กซ์เองก็ยอมรับปากว่าจะให้ความร่วมมือหลังจากได้รับช่วงต่อตำแหน่งดยุกแล้ว
“แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือการได้รับความช่วยเหลือจาก ‘ขุนศึกอสรพิษม่วง’ นั่นแหละ นับว่าเป็นเรื่องใหญ่ทีเดียวนะ”
“อเลกซานเดอร์ รอยเอนธาล งั้นหรือครับ”
“ถึงจะได้ชื่อว่าเป็นขุนศึกผู้ชาญฉลาด แต่ความสามารถที่โดดเด่นแท้จริงของเจ้านั่นอยู่ในด้านการเมืองการปกครองไม่ผิดแน่ ที่สำคัญคือยังอายุน้อยและมาจากสามัญชน ไม่มีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกับตระกูลขุนนาง ข้อนี้มีประโยชน์มากเลยล่ะ”
“ข้าก็ยังไม่ค่อยเข้าใจอยู่ดีนะครับ……”
‘อืม’ เกรเดียครางเบา ๆ ให้ได้ยิน
ทว่าฟาร์มาสนั้นมั่นใจ
อเลกซานเดอร์ รอยเอนธาล
เขาคือหนึ่งในแปดยอดขุนศึกที่อายุน้อยที่สุด และได้รับการประเมินว่าโดดเด่นด้านการวางแผนอย่างชาญฉลาด
ทว่าฟาร์มาสนั้นคิดว่าอเลกซานเดอร์น่าจะมีไหวพริบในด้านการเมืองยิ่งกว่าการวางแผนการรบเสียอีก หากฟาร์มาสมองคนได้ถูกต้อง ในอนาคตอเลกซานเดอร์น่าจะเก่งพอให้รับช่วงต่อจากแอนตัน พอจะฝากฝังตำแหน่งมหาเสนาบดีไว้ด้วยได้
ที่สำคัญคือการที่เขาไต่เต้าขึ้นมาจนเป็นแปดยอดขุนศึกด้วยวัยหนุ่มแน่นเพียงยี่สิบหกปีโดยไม่มีตระกูลขุนนางใดหนุนหลัง—เพียงเท่านั้นก็แสดงถึงความฉลาดมีไหวพริบของเขาได้อย่างดีแล้ว
“แต่ว่าอเลกซานเดอร์เองก็ยอมรับปากให้ความช่วยเหลือง่ายกว่าที่คิดไว้เหมือนกันนะครับ”
“อา นึกว่าจะต้องกดดันมากกว่านี้เสียอีก แต่กลับยอมร่วมมือดีกว่าที่คิด ไม่รู้ว่ามีเจตนาเช่นไรอยู่กันแน่ แต่สำหรับตอนนี้ก็ไม่เป็นผลเสียกับทางเราหรอก แล้วก็เป็นเพราะแบบนั้นถึงได้มีเวลาแวะที่อื่นด้วยไงล่ะ”
“อาณาจักรแห่งทรายสินะครับ”
“ไม่อยากเชื่อเหมือนกันว่าจะได้สานสัมพันธ์ฉันมิตรกับเจ้าชายอันดับหนึ่งของอาณาจักรนั้น กำลังคิดว่าในอนาคตจะต้องเจริญสัมพันธไมตรีกับราชอาณาจักรดายน์สเลฟอยู่พอดีเลย หนำซ้ำเรายังได้ของดีมาอีกด้วย”
‘กริ้ง’ ฟาร์มาสถือถุงที่มีเสียงโลหะกระทบกัน แล้วก็ยิ้มออกมา
เขาบังเอิญได้พบกับเจ้าชายอันดับหนึ่งของราชอาณาจักรดายน์สเลฟ อาเธอร์ เอล ดายน์สเลฟเข้าพอดี อันที่จริงฟาร์มาสแค่แวะไปที่เมืองซึ่งขึ้นชื่อว่ามีร้านแผงลอยที่ขายของแปลกตา แล้วก็กำลังหาเครื่องประดับหรืออะไรบางอย่างที่น่าจะเหมาะกับเฮเลนาอยู่เท่านั้น ทางฝ่ายนั้นกลับเป็นฝ่ายเข้ามาติดต่อพูดคุยด้วยเอง
แม้ฟาร์มาสจะปลอมตัวอยู่ แต่ดูเหมือนอาเธอร์นั้นได้มาร่วมในงานพิธีไว้อาลัยครบรอบหนึ่งปีด้วย เขาจึงจำหน้าของฟาร์มาสได้ ดังนั้นจึงเข้ามาพูดคุยและแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน ยิ่งไปกว่านั้นอาเธอร์ยังช่วยให้คำมั่นว่าในอนาคตเมื่อได้รับสืบทอดบัลลังก์ เขาจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างอาณาจักรของทั้งสองแน่นแฟ้นยิ่งขึ้นด้วย
ราชอาณาจักรดายน์สเลฟขึ้นชื่อว่ามีแหล่งทรัพยากรแร่ธาตุชั้นเยี่ยม ในอดีตแม้เคยมีการส่งทูตเพื่อสร้างไมตรีไปบ้างแล้วแต่ก็ยังไม่สามารถผูกโยงเป็นพันธมิตรที่แท้จริงได้ การที่คราวนี้สามารถสร้างสัมพันธ์ระหว่างประเทศเช่นนี้คงกลายเป็นหนึ่งในปัจจัยที่จะช่วยนำความรุ่งเรืองมาสู่ประเทศชาติได้แน่นอน
“แต่ว่าการที่จักรพรรดิเลือกของขวัญสำหรับนางสนมด้วยตนเองตามร้านแผงลอยเนี่ย ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยนะครับ……”
“ช่วยไม่ได้หรอก ก็มันเป็นของที่พ่อค้าคนประจำจัดหาให้ไม่ได้นี่นา”
“อ่า นั่นสินะครับ……”
“อดใจรอที่จะพบหน้าอีกครั้งไม่ไหวแล้วสิ ให้ตายเถอะ……หนึ่งเดือนนี่มันยาวนานจริง ๆ”
‘เฮ้อ’ ฟาร์มาสทอดถอนใจอย่างแรง
หนึ่งเดือนที่ไม่สามารถเจอกับเฮเลนาได้ มันเหมือนฟาร์มาสได้ฝืนสร้างธุระขึ้นมาเพื่อให้ตัวเองได้ออกห่างจากนครหลวงเสียมากกว่า
เพราะคิดว่าหากยังอยู่ที่นครหลวงคงอดทนไม่ไหวแน่ แม้แต่ตอนนี้ก็ยังอยากพบอยู่เลย
ความรู้สึกเช่นนี้กระมังที่คนเขาเรียกกันว่าหลงไหลหัวปักหัวปำ
ทว่าในเวลาเดียวกัน ฟาร์มาสก็เข้าใจดีว่าไม่สามารถทำตามอำเภอใจแบบนั้นได้
เฮเลนานั้นได้รับการร้องขอจากลูเครเซีย เธอจึงกำลังฝึกฝนแองเจลิกาผู้เป็นน้องสาวของเขาอยู่ แม้ไม่รู้ว่าฝึกอะไรแบบไหนบ้าง แต่หากได้ผ่านการชี้แนะอันเข้มงวดของเฮเลนาไปแล้ว แองเจลิกาก็คงรู้จักควบคุมตนเองขึ้นมาบ้างกระมัง
การที่เธอเรียก ‘เสด็จพี่ ๆ’ ด้วยความเคารพรัก พูดตามตรงแล้วมันก็น่าดีใจอยู่เหมือนกัน แต่มันถึงเวลาที่เธอต้องเลิกติดพี่ชายได้เสียทีแล้ว
“องค์หญิงแองเจลิกาจะเป็นอะไรไหมนะครับ”
“เป็นเฮเลนาซะอย่าง คงไปได้สวยอยู่แล้วล่ะ”
“ถ้าเป็นงั้นก็ดีนะครับ แต่……”
‘อืม’ เกรเดียครางออกมา ทำให้ฟาร์มาสยิ้มแห้ง ๆ
เกรเดียคงเป็นกังวลมากเกินไปหน่อยแล้วกระมัง แองเจลิกานั้นยังเด็ก และด้วยความที่ยังเด็กจึงสามารถเติบโตได้
อย่างเช่นฝีมือการปาเป้าลูกดอกที่เคยได้รับเป็นของขวัญมาจากลูเครเซียเมื่อนานมาแล้ว แองเจลิกาเคยเล่นมันอยู่ทั้งวี่ทั้งวัน แล้วก็พัฒนาได้รวดเร็วยิ่ง นี่เป็นเรื่องตั้งแต่สมัยที่บิดาของพวกเขายังมีชีวิตอยู่ แต่ตั้งแต่ตอนนั้นมาฟาร์มาสก็ไม่เคยเอาชนะแองเจลิกาได้อีกเลยแม้แต่ครั้งเดียว ครั้งล่าสุดที่จำได้มันถึงขนาดที่ว่าต่อให้ฟาร์มาสใช้ห้าดอก ส่วนแองเจลิกาใช้แค่สองดอก ฟาร์มาสก็ยังเป็นฝ่ายแพ้อยู่ดี
แม้จะน่ากลัวอยู่เหมือนกัน แต่น่าเสียดายที่มันเป็นพรสวรรค์ซึ่งแทบไม่มีประโยชน์อะไรเลย
“เอาล่ะ……ที่นี่สินะ”
“ใช่ครับ”
“ต่อจากจุดนี้ไป ข้าเป็นแค่คนธรรมดาชื่อฟาร์มา เข้าใจนะ”
“รับทราบครับ”
ฟาร์มาสลงจากหลังม้า แล้วมุ่งหน้าเข้าไปยังบริษัทการค้าที่มีป้ายใหญ่โตแขวนไว้
เขาได้มีการนัดหมายล่วงหน้าไว้ก่อนและได้รับการตอบกลับตกลงมาเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นจึงไม่ต้องตื่นเต้นกังวลอันใด
เมื่อเดินเข้าไปไม่นานนักก็พบกับเด็กสาวที่โต๊ะติดต่อสอบถาม ซึ่งมองฟาร์มาสอย่างตกใจเล็กน้อย
“ยินดีต้อนรับค่ะ มิทราบว่ามีธุระอันใดให้รับใช้คะ?”
“ข้าชื่อฟาร์มา มีนัดกับเถ่าแก่ไว้ช่วงบ่าย”
“รับทราบค่ะ เรียนเชิญด้านใน”
“ขอบคุณ”
เมื่อเด็กสาวเชื้อเชิญเช่นนั้น ฟาร์มาสก็ขยิบตาคืนไปหนึ่งทีก่อนจะรุดหน้าเข้าไปด้านในต่อ
‘ฮ้า’ เด็กสาวมองตามมาด้วยสายตาเพ้อฝัน แต่สำหรับฟาร์มาส เรื่องแบบนี้เขาชินซะแล้วล่ะนะ
และแล้ว เมื่อเข้ามาถึงห้องรับรองที่อยู่ลึกด้านใน
“ยินดีต้อนรับพะยะค่ะ”
ที่นั่นมีชายหน้ามนคนหนึ่งนั่งอยู่
ดูเหมือนเขาไม่ได้มาที่นี่หลังจากได้ยินว่าฟาร์มาสจะแวะมา แต่คงทำงานที่ห้องนี้อยู่แต่แรกแล้ว บนโต๊ะมีเอกสารมากมายวางกระจัดกระจายอยู่
ถึงกระนั้น ถ้าเอามาทำในที่แบบนี้มันก็คงไม่ใช่เอกสารที่เป็นความลับอะไรหรอกกระมัง
“เถ้าแก่ก็สบายดีสินะ”
“พะยะค่ะ ขอประทานอภัยอย่างยิ่งที่ต้องต้อนรับท่านในสถานที่โทรม ๆ เช่นนี้ ฝ่าบาทฟาร์มาส”
“วันนี้มาเป็นการลับน่ะ เลิกเรียกว่าฝ่าบาทเถอะ”
เมื่อได้ฟังฟาร์มาสกล่าว ชายคนนั้นก็ยิ้ม ‘หึ ๆ’ ตอบกลับมา
แค่ดูโหงวเฮ้งก็รู้แล้วว่าเป็นคนมีความสามารถ จนบางครั้งก็ชวนให้รู้สึกหมั่นไส้อยู่เหมือนกัน
“เช่นนั้น กระหม่อมขอแนะนำตัวอีกครั้ง ซามิวเอล เลซี ตัวแทนบริษัทการค้าเลซีพะยะค่ะ”
ฟาร์มาสเองก็ยิ้มและมองดูซามิวเอล
ชายผู้รับตำแหน่งหัวหน้าสาขานครหลวงของกลุ่มพันธมิตรบริษัทการค้าแห่งจักรวรรดิกันเกรฟด้วยวัยยังหนุ่มแน่น ผู้ซึ่งฟาร์มาสคิดว่าต้องเอาตัวมาให้ได้—ซามิวเอล เลซี
ไม่ว่าจะอยู่ภายใต้เงื่อนไขใด ก็ต้องเอาชายผู้นี้มาเป็นบริวารให้ได้ ตัวตนที่มีอัจฉริยะภาพเอ่อล้นจากความที่เป็นพ่อค้าโดยกำเนิดเช่นนี้ ในอีกหนึ่งปีให้หลังเขาจะต้องกลายเป็นแกนกลางหลักในด้านการบริหารบัญชีทรัพย์สินได้อย่างแน่นอน
เพื่อความสงบสุขของจักรวรรดิในอนาคต
เพื่อให้ประเทศสามารถดำเนินต่อไปได้อย่างราบรื่นหลังจากที่รับเฮเลนาเป็นชายาเอกแล้ว ไม่ว่าอย่างไรก็จำเป็นต้องใช้คนเช่นเขา
จะหว่านล้อมชายคนนี้แล้วกลับไปพร้อมชัยชนะให้ดู
รอก่อนเถอะนะ เฮเลนาของข้า—