เวลาหนึ่งเดือน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ออกจะสั้นเกินไปนักสำหรับบู้ตแคมป์ ในที่สุดมันก็จะดำเนินมาถึงจุดจบแล้วในวันนี้
แม้สำหรับเฮเลนาแล้วมันจะสั้นเกินไป แต่สำหรับทั้งห้าคนมันคงเป็นระยะเวลาที่มากเกินพอแล้วกระมัง
เทียบกับตอนเริ่มต้นการฝึกอบรมแล้ว สีหน้าแววตาของพวกเธอเปลี่ยนไปอย่างรู้สึกได้เลย
หลังจากจบการฝึกวิ่งช่วงเช้า รับประทานมื้อเที่ยง และทั้งห้าคนมายืนเรียงแถวกันที่สวนระหว่างอาคารต่อหน้าเฮเลนาแล้ว เฮเลนาก็พยักหน้าอย่างใจเย็น
“จากนี้ไปจะเป็นการฝึกอบรมสุดท้าย ทุกคนเข้าแถวแล้วก็ยืนรอไปก่อน!”
“ค่ะ!!”
พอคิดว่าวันนี้การฝึกจะจบลงแล้ว ก็รู้สึกเศร้าโศก และใจหายอยู่เหมือนกัน
ทว่าพวกเธอเหล่านี้ได้เติบโตขึ้นแล้ว ตอนนี้คงไม่สามารถเรียกว่าทหารใหม่ได้อีกต่อไป
แต่เป็นทหารเต็มตัวแล้ว
“ท่านเฮเลนาคะ”
“มาแล้วงั้นรึ”
“ค่ะ อีกไม่นานก็จะมาถึงแล้วค่ะ”
เฮเลนาพยักหน้าให้กับคำพูดของอเลกเซีย
ทุกคนสีหน้าท่าทางดูดีกันขึ้นมาก ตอนนี้ต่อให้เฮเลนาไม่ต้องเข้มงวดด้วย พวกเธอก็คงไม่พูดจาเหลาะแหละกันแล้วล่ะ
ดังนั้น นี่จึงเป็นการฝึกอบรมสุดท้าย
ต้องขอให้คนผู้นั้นได้รับชมการเจริญเติบโตที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้ของพวกเธอเสียหน่อย
โดยเฉพาะการเจริญเติบโตของเธอคนนั้น—ของแองเจลิกา
“หนูเฮเลนา ไม่เจอกันเสียนานนะจ๊ะ—”
“ขออนุญาตด้วยค่ะท่านเฮเลนา”
สองคนที่มาปรากฏตัว
ก็คือผู้ที่อยากจะให้เห็นการเจริญเติบโตของแองเจลิกาให้ได้—พระพันปีลูเครเซีย กับทิฟฟานีที่มาด้วยกันในฐานะองค์รักษ์คุ้มกัน
เมื่อเห็นลูเครเซีย พวกชาร์ลอตเตกับคลาริสซาก็ดูจะมีปฏิกริยาเล็กน้อย แต่เนื่องจากหนึ่งเดือนที่ผ่านมานี้ใช้ชีวิตในแต่ละวันโดยห้ามพูดหากไม่ได้รับอนุญาต พวกเธอจึงแค่ทำท่ายืนตรงกันต่อไปโดยไม่กล่าวอะไร
“ไม่พบกันเสียนานค่ะ ท่านลูเครเซีย”
“จ้ะ ได้ยินมาว่าวันนี้จะให้ดูผลลัพธ์ของการฝึกอบรมสินะจ๊ะ”
“ก็ตั้งใจเช่นนั้นค่ะ ทุกคน! กลับหลังหัน!! ทำความเคารพ!!”
“ค่ะ!!”
‘ปั้บ’ ทั้งหมดหันมาทางลูเครเซียโดยพร้อมเพรียงไม่มีผิดสักกระเบียดเดียว ก่อนจะเอามือขวาทาบลงบนอกซ้าย และมือซ้ายไพล่เอว
‘อื้ม’ เฮเลนาพยักหน้าอย่างพอใจ
ทว่า—ฝ่ายลูเครเซียเมื่อเห็นการเคลื่อนไหวของทั้งห้าก็พงะถอยไปเล็กน้อย
“เอ๊ะ เอ่อ……?”
“ท่านลูเครเซีย ขอความกรุณาทำความเคารพคืนด้วยค่ะ”
“ย ยังไงกันนะ?”
“เวลาทำความเคารพผู้ที่อยู่สูงกว่า หากยังไม่ได้รับการเคารพตอบจากอีกฝ่ายก็ไม่สามารถเลิกทำได้ค่ะ โปรดเอามือขวาทาบลงบนอกซ้ายค่ะ”
“จ จ้ะ……”
ลูเครเซียเอามือขวาวางบนอกซ้ายอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ
พร้อมกันนั้นทุกคนก็เลิกทำท่าแสดงความเคารพดัง ‘ปั้บ’ แล้วก็กลับไปอยู่ในท่ายืนตรงกันตามเดิม
“ทุกคน! กลับหลังหัน!”
“ค่ะ!!”
ทุกคนหันหลังให้ลูเครเซีย และหันไปทางเฮเลนา
แน่นอนว่าในทุกอากัปกิริยาไม่มีความลังเล ทุกคนต่างก็ได้เรียนรู้การเคลื่อนไหวเป็นกลุ่มกันมาเป็นอย่างดีแล้ว
“ทุกคน เก่งมากที่อดทนผ่านการฝึกอันเข้มงวดของข้ามาได้ ตั้งแต่วันนี้ถือว่าพวกเจ้าจบหลักสูตรจากการเป็นหนอนแมลงแล้ว จากนี้ไปพวกเจ้าคือนักรบเต็มตัว ข้าภูมิใจในตัวพวกเจ้ามาก”
“ขอบพระคุณค่ะ!”
“แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ เพียงหนึ่งเดือน แต่ข้าก็คิดว่าได้สอนทุกอย่างเท่าที่มีไปให้หมดแล้ว วันนี้จงแสดงผลลัพธ์ของการฝึกเหล่านั้นให้ฝ่าบาทพระพันปีลูเครเซียได้ทอดพระเนตรซะ!!”
“ค่ะ!!”
“เอาล่ะ ทุกคน! จงตอบมา!”
“ค่ะ!!”
ทุกคนจ้องมองเฮเลนา แล้วก็ตอบคำอย่างเข้มแข็ง
แม้อยู่ในสถานการณ์ตอนนี้ที่มีพระพันปีมองดูอยู่ จิตใจก็ไม่มีหวั่นไหวแม้แต่น้อย เธอก็ไม่คิดจะฝึกศิษย์ให้ออกมาอ่อนแอจนหวั่นไหวด้วยเรื่องแค่นี้อยู่แล้ว
ดังนั้น เธอจึงขานคำออกไปว่า
“อะไรคือสิ่งที่พวกเจ้าจะสังหาร!!”
“ศัตรูของจักรวรรดิ! ผู้ประสงค์ร้ายต่อจักรวรรดิ!!”
“อะไรคือสิ่งที่พวกเจ้าจะเทิดทูน!”
“จักรวรรดิ! และทุกสิ่งทุกอย่างของจักรวรรดิ!!”
“อะไรคือสิ่งที่พวกเจ้าจะปกป้อง!”
“ปวงประชาในจักรวรรดิ! สหายร่วมรบในจักรวรรดิ!!”
ทุกคนตอบโดยเปล่งเสียงออกมาจากท้อง
“เพื่อการนั้นควรทำเยี่ยงไร!”
“รวมพลังทุ่มเท (กงเหอ)!”
“ส่งเสียงออกมาจากท้อง!”
“กงเหอ! กงเหอ!”
“อีกรอบ!”
“กงเหอ! กงเหอ! กงเหอ!”
“ดี!!”
“กงเหอ” ที่ทุกคนตะโกนนั้นคือเสียงตะโกนปลุกใจรูปแบบหนึ่ง
มันเป็นถ้อยคำที่ใช้ตะโกนเวลาบุกประจัญบาน ส่งเสียงออกมาเพื่อเพิ่มขวัญกำลังใจและการประสานงานกันของทุกคน
“ฟรองซัวส์!”
“ค่ะ!!”
“เจ้าจะทำเช่นไรกับศัตรูของจักรวรรดิ!”
“ทะลวงหัวใจมันด้วยศรของข้า สังหารให้สิ้น!”
“คลาริสซา!”
“ค่ะ!!”
“เจ้าจะทำเช่นไรกับศัตรูของจักรวรรดิ!”
“เหยียบขยี้มันด้วยม้าที่ข้าขี่ สังหารให้สิ้น!”
“มาริเอล!”
“ค่ะ!!”
“เจ้าจะทำเช่นไรกับศัตรูของจักรวรรดิ!”
“ทิ่มแทงหลอดลมมันด้วยหอกของข้า สังหารให้สิ้น!”
“ชาร์ลอตเต!”
“เจ้าค่ะ!!”
“เจ้าจะทำเช่นไรกับศัตรูของจักรวรรดิ!”
“หักคอมันด้วยกำปั้นของข้า สังหารให้สิ้น!”
“แองเจลิกา!”
“ค่ะ!!”
“เจ้าจะทำเช่นไรกับศัตรูของจักรวรรดิ!”
“บดกะโหลกมันด้วยศิลาที่ข้าขว้าง สังหารให้สิ้น!”
“ทุกคน! ตะโกนพร้อมกัน!”
“ฆ่ามัน! ฆ่ามัน! ฆ่ามัน! ฆ่ามัน! ฆ่ามัน!”
“อีกรอบ!”
“ฆ่ามัน!! ฆ่ามัน!! ฆ่ามัน!! ฆ่ามัน!! ฆ่ามัน!!”
“อืม!!”
เฮเลนาพยักหน้าอย่างพึงพอใจ
ทุกคนมีสำนึกที่เปลี่ยนไปอย่างมาก ตอนนี้พวกเธอนับเป็นนักรบเต็มตัวแล้ว
ต่อให้ออกไปในสมรภูมิทั้งแบบนี้ ก็คงสามารถสร้างผลงานให้เป็นที่น่าพึงพอใจได้
“ดีมาก!! เช่นนั้น ต่อจากนี้ไปจะเป็นการฝึกอบรมครั้งสุดท้าย! เมื่อข้ามผ่านการฝึกนี้ไปได้! พวกเจ้าก็จะไร้คู่ต่อสู้!”
“ค่ะ!!”
“เอาล่ะทุกคน หยิบอาวุธขึ้นมาซะ!!”
“ค่ะ!!”
แต่ทว่า เมื่อเห็นเด็กสาวทั้งห้าที่เปลี่ยนไปจนไม่เหลือเค้าเดิมเช่นนั้น
ลูเครเซียกลับมีสีหน้าซีดเซียว ส่วนทิฟฟานีนั้นก็ได้พยักหน้าอย่างตื่นเต้น
“……แองเจลิกา”
“แหม สมแล้วที่เป็นท่านเฮเลนา เป็นผลการฝึกอบรมที่วิเศษยิ่งนักค่ะ”
“ทิฟฟานี……นี่มัน ปกติเหรอ……?”
“มิได้เพคะ ต่อให้เป็นหม่อมฉันก็คงมิสามารถฝึกทุกคนจนพัฒนาได้เท่ากับที่ท่านเฮเลนาทำ ผู้ที่ปรับพระนิสัยขององค์หญิงแองเจลิกาได้ถึงเพียงนี้ คงมีแต่ท่านเฮเลนาเท่านั้นแหละเพคะ”
“……นี่ฉันเลือกไหว้วานผิดคนหรือเปล่านะ”
“ในเมื่อมีพระราชานุญาตให้ฝึกแบบจัดเต็มได้ ท่านเฮเลนาก็ไม่มีคำว่ายั้งมืออยู่แล้วเพคะ อา ตั้งตารอจดหมายข่าวสมาคมฉบับหน้าไม่ไหวแล้วสิ”
“บางทีฉันก็ไม่ค่อยเข้าใจเรื่องที่เธอพูดเลยนะ……”
และที่ขอบสายตาของลูเครเซียผู้กำลังนึกเสียใจภายหลังอย่างแรงกล้ากับทิฟฟานีผู้กำลังพึงพอใจอยู่นั้นเอง
“……เฮ้อ”
เหล่าสาวใช้ของทั้งห้าที่มีอเลกเซียเป็นผู้นำ ต่างก็แสดงแววตาหมดอาลัยตายอยาก พลางถอนหายใจออกมาโดยพร้อมเพรียงกัน