ดวงจันทร์กลมเกลี้ยง ดวงดาวส่องแสงระยิบระยับทั่วฟ้า หลงเหยียนพุ่งออกมาจากตระกูลหลง เขาหยุดอยู่บนยอดเขาหยุนอู่ที่สูงชัน ความเหน็บหนาวซึมลึกเข้าไปในกระดูกหลงเหยียน เงาที่เดียวดายเต็มไปด้วยความว้าวุ่นใจ สภาพเขาในตอนนี้เหมือนคนสูญเสียจิตวิญญาณไปแล้วเช่นนั้น
“เพราะอะไร เพราะอะไรพวกเขาต้องทำแบบนี้กับข้าด้วย… วิญญาณยุทธ์ หากข้ามีวิญญาณยุทธ์ ถ้าเส้นพลังในตัวข้าเปิด ถึงตอนนั้นข้าต้องกลับมาเอาคืนแน่!”
“หลงเอ้าอวี ลุงสอง หลงจ้าน ฝากไว้ก่อนเถอะ ยังไงสักวันหนึ่งข้าต้องทำให้พวกเจ้าคุกเข่าอ้อนวอนข้าให้ได้” เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่ตนถูกทดสอบวิญญาณยุทธ์ในวันนี้แล้ว หลงเหยียนก็แหงนหน้าคำรามขึ้นฟ้า แววตาเปล่งประกาย
หลงเอ้าอวีก้าวขึ้นไปถึงระดับชีพมังกรที่สาม ส่วนตนนั้นยังอยู่ในระดับเพาะกายขั้นพื้นฐาน หลายปีมานี้ หลงเหยียนจดจำสายตาที่เหยียดหยามและรอยยิ้มเยาะเย้ยของพวกเขาไว้ในใจ ถ้าวันหนึ่งสวรรค์มีตา ชะตาของเขาเปลี่ยน หลงเหยียนจะทำให้พวกคนที่ชอบเหยียดหยามคนอื่นต้องตายไม่มีที่ฝังให้ได้
กล่าวโดยสรุปแล้วชีพมังกรก็คือเส้นพลังทั้งเก้าในร่างกาย เมื่อเส้นพลังทั้งเก้าเส้นผสานกัน ร่างกายจะหลอมได้ถึงขั้นสูงสุด สามารถสัมผัสถึงการเคลื่อนไหวในใต้หล้า ดูดซับธาตุพลัง รวบรวมพลังปราณ ยิ่งวิญญาณยุทธ์แกร่งมากเท่าไร รวมกับพรสวรรค์ที่สูงขึ้น จะทำให้กลายเป็นยอดฝีมือระดับสูงที่ไร้เทียมทาน และนี่ก็คือความหมายของชีพมังกรทั้งเก้า
เล่ากันว่า ผู้อาวุโสแห่งตระกูลหลงอยู่ในระดับชีพมังกรขั้นที่เก้า นับเป็นหนึ่งในยอดฝีมือที่สูงสุดในเมืองมังกร
“ท่านแม่ ข้าคิดถึงท่านมาก…” ไม่มีใครสามารถรับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดในใจเขาได้ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาน้ำตาคลอเบ้า สิบกว่าปีแล้ว หลงเหยียนยังอยู่ในระดับบ่มกาย ผ่านการฝึกฝนและทดลองนับหมื่นนับพันครั้ง ทว่าสุดท้ายก็ล้มเหลว
“หรือข้าต้องใช้ชีวิตที่เรียบง่ายแบบนี้ไปจนตาย?” เขาก้มมองไปยังใต้เหวลึกที่ลึกจนมืดสนิท ทันใดนั้น เท้าของหลงเหยียนก็ลื่นไถลลงไป
“อ๊าก… ข้ายังไม่อยากตาย…”
แผ่นดินศักดิ์สิทธิ์มีประชากรเป็นล้านๆ คน มียอดฝีมือมากมาย เมื่อไรที่พวกเขาเดินมาถึงทางตันของชีวิต บางครั้งอาจซ่อนสมบัติล้ำค่าทั้งหมดที่มีในชีวิตไว้ที่ใดที่หนึ่ง หลายคนที่ได้รับพรจากสวรรค์ พวกเขามักพบสมบัติอย่างน่าประหลาดใจ
หลงเหยียนร่วงลงไปในเหว ตกเข้าไปในถ้ำโดยไม่รู้ตัว ไม่แน่ว่าผู้แข็งแกร่งคนต่อไปอาจปรากฏ เพียงแต่โอกาสแบบนี้ก็ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนัก ซึ่งความหวังนั้นก็มีน้อยนิด
เขาลงไปยังมุมมืดด้วยความเร็วสูง หลงเหยียนรู้สึกเหมือนพลังที่ร้อนระอุกำลังปะทุขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง เมื่อร่างกายเขาหล่นลงไปจนถึงระดับหนึ่งแล้ว พลังนั้นกลับทำให้ร่างกายเขาลอยอยู่กลางอากาศ
นี่…
หลงเหยียนลืมตาขึ้น รู้สึกประหลาดใจมาก เมื่อมั่นใจว่าตนกำลังลอย จู่ๆ ก็รับรู้ได้ถึงกลิ่นอายโบราณที่น่าเกรงขามระลอกหนึ่ง ถูกถ่ายทอดออกมาจากเบื้องล่าง ยิ่งไปกว่านั้น มันยังมาพร้อมกับกลิ่นคาวเลือดที่รุนแรง
หลงเหยียนตื่นตระหนกเหมือนมีอะไรจุกอยู่กลางอก จ้องจนตาเกือบถลน หัวใจเต้นเร็วมากที่สุดในชีวิต นี่มันเกิดอะไรขึ้น?
กลิ่นอายที่ทะลุทะลวงรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ จนเกิดความกลัวในใจ กลิ่นอายโบราณที่สัมผัสได้ทำให้เขาเกิดความรู้สึกอยากคุกเข่าคารวะ กลิ่นคาวเลือดทำให้ดวงตาแดงก่ำ มันคือเส้นทางการเข่นฆ่าที่เขายังไม่เคยสัมผัสมาก่อน
เวลานี้ ท่ามกลางความมืดมิดที่ไร้ที่สิ้นสุด ห้วงอากาศกลับสั่นสะเทือน ไร้คลื่นลม ห้วงอากาศสั่นสะเทือนอย่างไม่ทราบสาเหตุ หินรอบๆ ร่วงกราว เสียงดังสนั่นไปทั่ว คล้ายฟ้าดินสั่นคลอนในพริบตาเดียว แล้วระลอกพลังที่ร้อนระอุก็เพิ่มความรุนแรงมากขึ้น
ในมุมมืดที่ลึกลงไป คล้ายมีบางสิ่งกำลังกลิ้งตัวอยู่เบื้องล่าง
“โฮก!” เสียงมังกรคำราม
มันคือเสียงคำรามที่น่าหวาดผวา จากนั้นเงาสีเขียวก็พุ่งขึ้นมาจากเบื้องล่าง นั่นต้องคืออสูรร่างใหญ่ที่น่ากลัว และหลงเหยียนต้องไม่เคยเจอมาก่อนเป็นแน่
มันมีเขาคล้ายกวาง มีหัวคล้ายอัลปากา ดวงตาคล้ายกระต่าย ช่วงท้องคล้ายมังกร เกล็ดคล้ายปลา กรงเล็บคล้ายอินทรี ฝ่ามือคล้ายเสือ ใบหูคล้ายวัว ข้างปากไว้หนวดยาว ใต้คางมีไข่มุกส่องประกาย ต่ำกว่าคอมีเกล็ดย้อน ใบหน้าสีขาวเงิน มีร่างกายคล้ายสีเขียวทั่วตัว
นั่นต้องไม่ใช่อสูรที่ใต้หล้านี้ควรมีแน่ มันมาพร้อมสายลมที่เย็นยะเยือก รังสีทรงพลัง ให้ความรู้สึกคล้ายเป็นสิ่งมีชีวิตระดับสูง
หลังจากนั้นมันก็กวาดตามองรอบๆ ด้วยความโกรธเคือง เมื่อเห็นหลงเหยียนแล้ว ลูกตาทั้งสองก็เบิกโต จ้องมองมาที่เขา
หลงเหยียนตื่นตระหนกมาก ตกใจจนขาอ่อนยวบ การหายใจของเขาถี่ขึ้นมาก เพียงกลิ่นอายที่น่ากลัวเล็กน้อยจากเงาของอสูรตนนั้น ยังสามารถทำให้การหายใจของเขาลำบากมากขึ้น
อสูรร่างใหญ่วนรอบตัวหลงเหยียน จู่ๆ ก็พุ่งลงไปยังเบื้องล่างลึก แล้วกลิ่นคาวเลือดที่มากกว่าเดิมก็กระจายไปทั่วอากาศ
หลงเหยียนไม่อาจควบคุมร่างกายของตนได้ คล้ายถูกดูดเข้าไปในหลุมลึกที่ไม่มีวันสิ้นสุด เบื้องหน้าปรากฏภาพมายามากมาย…
ด้วยความตกใจ หลงเหยียนปัสสาวะออกมาอย่างควบคุมไม่ได้ ลืมตาท่ามกลางความหวาดกลัว จึงพบว่าร่างกายตนมาถึงพื้นของหลุมลึกแล้ว ที่นี่เปรียบเสมือนถ้ำสวรรค์ การมองเห็นของเขากลับมาอีกครั้ง ในนี้ต่างจากโลกภายนอกอย่างสิ้นเชิง
กลิ่นดอกไม้หอมอบอวลไปทั่ว มีลำธารสายเล็กๆ ไหลออกไปไกล ที่นี่คล้ายกับแดนสวรรค์อย่างไรอย่างนั้น ด้านหน้าปรากฏกระท่อมหลังหนึ่ง หลงเหยียนใจดีสู้เสือ “บัดซบ ไหนๆ ก็มาแล้ว อสูรตนนั้นพาข้ามาแต่ก็ไม่ได้ทำร้ายข้า งั้นก็ไปดูหน่อยสิว่าในกระท่อมมีอะไรบ้าง?” หลังพูดจบหลงเหยียนก็เดินตรงไปที่กระท่อม
“นั่นมันอะไรกัน?”
ทันทีที่เข้าไป หลงเหยียนก็เห็นแสงสว่างมาจากมุมหนึ่ง ในใจเกิดความสงสัย ทันใดนั้นก็วิ่งเข้าไปหาแสงสว่างทันที มันคือของสิ่งหนึ่งคล้ายหยกใส หลงเหยียนยื่นมือไปหยิบมันขึ้นมา ของชิ้นนั้นมีขนาดใหญ่เท่าฝ่ามือ เขามองภาพบนนั้นอย่างละเอียด ซึ่งมันคล้ายอสูรร่างใหญ่ที่เจอเมื่อครู่ไม่มีผิด
“มันคงเป็นหยกที่แสดงสัญลักษณ์บางอย่างกระมัง”
ทันใดนั้น หลงเหยียนก็เงยหน้าขึ้นและพบภาพวาดทั้งสามบนเสาตั้งตรง มังกรสองตัวในภาพวาดคล้ายมีชีวิตจริง สีสันบนภาพวาดสดใสและงดงามมาก มันสมจริงอย่างถึงที่สุด ไม่ต่างไปจากรายละเอียดภาพวาดมังกรในตำหนักตระกูลหลงเลย และนั่นก็ทำให้หลงเหยียนตกใจมาก
เมื่อเห็นภาพนี้แล้ว หลงเหยียนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ “หรือว่าอสูรร่างใหญ่ที่ข้าเจอเมื่อครู่จะเป็นเทพมังกรในตำนาน จะเป็นไปได้อย่างไร?”
ภาพแรก มังกรสองตัวกำลังกลิ้งตัวอยู่กลางเมฆหมอก ตัวหนึ่งมองมาด้วยความโกรธ ส่วนอีกตัวก็กำลังฟาดฟันกรงเล็บ เห็นได้ชัดว่านี่ต้องเป็นการต่อสู้ระหว่างมังกรทั้งสองตัวนี้แน่นอน
ภาพที่สอง มังกรทั้งสองตัวกอดรัดฟัดเหวี่ยงกัน รังสีสังหารแผ่กระจายไปทั่ว หนึ่งตัวในนั้นพ่นเพลิงออกมา
ภาพที่สาม ภาพวาดนี้ยาวมาก มีมังกรจำนวนมากปรากฏตัว มังกรหนึ่งในนั้นบาดเจ็บ มันส่งเสียงคำราม ร่างกายระเบิดกลางเมฆหมอก ศพแตกกระจายหล่นลงในโลกมนุษย์ ทันใดนั้นก็ปรากฏเทพมังกรหกตัว เทพมังกรทั้งหกแปลงกายเป็นไข่มุกระยิบระยับหล่นลงไปพร้อมกัน
หลงเหยียนมองภาพเหล่านั้นด้วยความตกใจ จู่ๆ ก็คล้ายมีบางสิ่งมุดเข้ามาในสมอง พริบตาเดียวก็รู้สึกเหมือนตนลอยอยู่กลางหมอก หมอกเหล่านั้นเคลื่อนไหวไม่หยุด เสียงสายลมพัดผ่านข้างหู
หลงเหยียนยังไม่ทันตั้งตัว ขณะที่กำลังชะงักไปนั้น หยกมังกรในมือก็ทะยานขึ้นฟ้า แปลงกายเป็นร่างมังกรขนาดใหญ่ โฮก! กลิ่นคาวเลือดที่ผสานไปด้วยกลิ่นอายโบราณระลอกหนึ่งแทรกเข้าไปในร่างกายหลงเหยียน
“แกรก!”
“แกรก!”
วินาทีนี้ ร่างกายหลงเหยียนเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยเฉพาะการได้ยินนั้นชัดเจนขึ้นมากโข เสียงกระพือปีกของนกที่อยู่ไกลออกไป หลงเหยียนได้ยินและจดจำเอาไว้ ทั้งหมดที่เกิดขึ้นทำให้หลงเหยียนตกใจเป็นอย่างมาก
“หรือว่าข้าโชคดีได้รับสิ่งพิเศษที่นี่จริงๆ?”
จากนั้นหลงเหยียนก็นั่งขัดสมาธิ ใช้จิตตัวเองสัมผัสการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในร่างกาย
“อะไรนะ?” จากเดิมหลงเหลียนอยู่ในขั้นบ่มกาย ทว่าเวลานี้ เขาก้าวกระโดดข้ามขั้นควบคุมพลังและผสานพลังแล้ว วิญญาณยุทธ์… หรือตนมีวิญญาณยุทธ์แล้ว?
หลงเหยียนไม่อยากเชื่อกับสิ่งที่เจอในวันนี้ เกิดความรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที เขากัดริมฝีปาก กัดแรงจนเลือดหยดลง ความเจ็บปวดนั้นทำให้หลงเหยียนมั่นใจว่านี่ไม่ใช่ความฝัน ทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องจริง
หยกมังกรหายเข้าไปในตัวหลงเหยียน หลอมเข้ากับร่างกายอย่างสมบูรณ์ ภายใต้ความดีใจ เขาเริ่มใช้จิตสัมผัสไปเรื่อยๆ วางมือทั้งสองข้างไว้ที่จุดรวมปราณ ระลอกอุ่นๆ พรั่งพรูออกมา ทำให้หลงเหยียนสบายตัวอย่างหาที่เปรียบมิได้
“นี่… หรือนี่จะเป็นพลังปราณ?” หลงเหยียนดีใจมาก หากจะรวบรวมพลังปราณผ่านพลังวิญญาณ จำเป็นต้องผ่านการหลอมกายทั้งเก้าขั้นอย่างสมบูรณ์แล้วเท่านั้น
พลังปราณจำนวนมหาศาลกระจายไปทั่วร่างกาย ไม่นานก็เติมเต็มไปทั่วร่างหลงเหยียน ซึ่งปริมาณนั้นมากเกินกว่าที่เขาจะรับได้ เส้นพลังทั้งเก้าในร่างกายเริ่มเปิดผสานกันแล้ว
ระลอกอุ่นๆ ไหลเข้าสู่จุดรวมปราณ พลังนั้นทะลุทะลวงมาก หลงเหยียนกัดฟันแน่น คล้ายร่างแทบระเบิด พลังปริมาณมากเช่นนี้ ร่างกายหลงเหยียนแทบทนไม่ไหว อ๊าก…หลงเหยียนคำรามเสียงดัง หากเป็นเช่นนี้ต่อไป เกรงว่าร่างกายของตนต้องระเบิดแน่
“อ๊าก… ข้าเจ็บเหลือเกิน หรือพอข้าเพิ่งได้วิญญาณยุทธ์ ก็ต้องมาตายแล้วหรือ? ข้าไม่ยอม ข้าไม่ยอม”
สูงขึ้นไป จู่ๆ ชายชราผมสีเงินก็ปรากฏตัวอย่างกะทันหัน เขาลูบหนวดเคราของตนแล้วพูด “พ่อหนุ่ม เจ้าโลภเกินไปแล้ว ตอนนี้ร่างกายเจ้ายังรับพลังปราณจำนวนมหาศาลไม่ได้”
ขณะที่พูดนั้น ชายชราก็ยื่นมือข้างหนึ่งไปจับศีรษะของหลงเหยียน แล้วดูดพลังปราณครึ่งหนึ่งกลับไป
พริบตาเดียวหลงเหยียนก็รู้สึกสบายตัวอย่างอธิบายมิได้ เขาจ้องไปทางชายชราแล้วถาม “ท่านปู่ ท่านเป็นใครหรือขอรับ?”
“ข้าหรือ? ฮ่าๆๆ …” ชายชราหัวเราะเสียงดัง ทว่ากลับไม่ได้ตอบคำถาม ก่อนจะกระโดดลอยขึ้นไป แปลงกายกลับเป็นมังกร ม้วนตัวอยู่เหนือหัวหลงเหยียน
เสียงคำรามดังมาจากท้องนภา “เมื่อไม่มีวิญญาณยุทธ์ เจ้าก็ไม่ต่างกับคนไร้ประโยชน์ กลายเป็นตัวตลกของคนอื่น ตอนนี้ภายในตัวเจ้ามีวิญญาณยุทธ์ที่แข็งแกร่ง สามารถทำให้เจ้ากลายเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งในใต้หล้า”
“พละกำลังคือทุกสิ่ง ขอแค่เจ้าแกร่งขึ้นเรื่อยๆ เจ้าจะได้รับความเคารพจากผู้อื่น มิเช่นนั้นเจ้าจะไร้ตัวตน นี่เป็นเพียงเศษเสี้ยวหนึ่งของวิญญาณมังกรเท่านั้น หากเจ้าต้องการแข็งแกร่งขึ้นอีก เจ้าต้องไปรวบรวมเศษเสี้ยววิญญาณมังกรที่เหลือทั้งหมดให้ครบ”
“ราชามังกรในตัวเจ้าสามารถสัมผัสกับเสี้ยววิญญาณอื่นได้ เจ้าไปเถอะ ข้าจะรอการกลับมาของเจ้าในแดนจักรพรรดิมังกร” หลังจากพูดจบ เงาร่างใหญ่ของมังกรก็หายไป
หลงเหยียนมองมังกรร่างใหญ่จากไป แล้วชะงักอยู่กับที่!
ทันใดนั้น ก้อนหินรอบๆ เกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง หินเหล่านั้นร่วงลงมาพร้อมกัน มันมากจนปกคลุมไปทั่วฟ้า ราวกับผืนดินกำลังจะถล่มเช่นนั้น ความเจ็บปวดที่มาจากการบิดเบือนของห้วงอากาศ หลงเหยียนถูกแรงมหาศาลกดทับ ในป่ามีเสียงคำรามดังไปทั่วทุกสารทิศ เขาพยายามลืมตาขึ้น
แสงส่องลงมาลอดผ่านนิ้วมือที่เรียวทั้งห้านิ้ว ทำให้เขาไม่อาจลืมตาขึ้นได้ เมื่อหรี่ตาขึ้นเล็กน้อยก็พบว่าตนเองยังคงอยู่บนยอดเขาสูงชัน
“หา… นี่ข้าฝันไปหรือเนี่ย วิญญาณมังกร ฮึๆ มันก็เป็นแค่เรื่องเล่าเท่านั้นแหละ!” เมื่อนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ หลงเหยียนก็ส่ายหน้าพลางยิ้มเจื่อน
“ไม่สิ” เพียงไม่นานหลงเหยียนก็พบพลังปราณที่ถูกส่งมาจากภายในกาย ยิ่งไปกว่านั้น เขาก้าวข้ามขั้นควบคุมพลังและผสานพลังแล้ว ส่วนความฝันเมื่อครู่ก็เหมือนจริงมาก หยกมังกรงั้นหรือ?
ยิ่งไปกว่านั้น คำพูดของชายชรายังดังก้องในสมองของหลงเหลียนอย่างชัดเจน รวบรวมเสี้ยววิญญาณมังกรให้ครบ แล้วเจ้าจะแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น หรือว่าทั้งหมดนี้จะเป็นเรื่องจริง
“ข้าแค่ไม่เข้าใจว่าสามภาพนั้นกำลังจะสื่อถึงอะไร? แล้วชายชราท่านนั้นรู้ได้อย่างไรว่าข้าไม่มีวิญญาณยุทธ์? เหมือนทั้งหมดถูกเตรียมเอาไว้แล้ว ช่างเถอะ ในเมื่อเขามอบวิญญาณยุทธ์ให้ข้า งั้นสักวันข้าก็ต้องตามหาให้เจอว่าใครเป็นคนอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้”
“แต่ไม่ว่าอย่างไร ก็ถึงเวลาที่ข้าต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองแล้ว หลงจ้าน พวกเจ้าสองพ่อลูก ถ้าพวกเจ้ารู้ว่าตอนนี้ข้ามีวิญญาณยุทธ์แล้ว แถมยังเป็นวิญญาณมังกรอีก ไม่รู้จริงๆ ว่าพวกเจ้าจะทำหน้าอย่างไร รอก่อนเถอะ อีกไม่นานข้าจะกลับไปยังตระกูลหลงอีกครั้ง”
หลงเหยียนในตอนนี้ แววตาเต็มไปด้วยพลังวิญญาณที่มีชีวิตชีวา แถมยังมีความดุร้ายเล็กน้อย จากนั้นเขาก็พุ่งลงจากหุบเขาชันอย่างรวดเร็ว
เมื่อพลังปราณแทรกซึมเข้าไปในกระดูก กล้ามเนื้อทุกส่วนบนร่างกายก็เกิดการเปลี่ยนแปลง กระดูกในตัวก็กำลังดูดซับพลังอย่างต่อเนื่อง
——————–