หลงหยุนฉีกลืนน้ำลาย รวบรวมความกล้าก่อนจะพูดขึ้น “หลายวันก่อนในโรงสุราชิงเฟิง เจ้าสารเลวนั่นเกือบย่ำยีข้าสำเร็จ โชคดีที่พี่เหยียนมาเจอได้ทันเวลา”
“หา!”
เรื่องนี้ถูกหลงหยุนฉีพูดออกมาแล้ว ทุกคนใช้สายตาตกตะลึงมองไปหานาง เวลานี้ หัวใจของหลงเหยียนกำลังนองเลือด เด็กโง่ นางยอมเสียชื่อเสียงเพื่อช่วยตน ถึงแม้จะยังไม่ได้เกิดเรื่องแย่กับนางก็ตาม แต่เมื่อพูดออกมา อีกหน่อยใครจะกล้าแต่งกับนางอีก
ในตระกูลใหญ่อย่างตระกูลหลง โดยเฉพาะผู้หญิง ทุกคนล้วนหวงแหนชื่อเสียงของตนเป็นอย่างมาก ยิ่งไปกว่านั้นยังปกป้องชื่อเสียง ยอมพลีชีพแต่ไม่ยอมเสียศักดิ์ศรี ห้ามมีข่าวที่แปดเปื้อนแพร่งพรายออกไปเด็ดขาด
ส่วนนางเกือบถูกรังแก เรือนร่างถูกเซียวปิงหลานเชยชมไปบ้าง เรื่องน่าอายเช่นนี้ เกรงว่าคงไม่มีหญิงคนใดยอมรับได้
หลงเอ้าอวีรู้เรื่องนี้ดีอยู่แล้ว เพราะเขารู้ว่าเซียวปิงหลานชื่นชอบหลงอวี่ซี แต่กลับรู้สึกดีกับน้องสาวตน อีกทั้งบิดาของเซียวปิงหลานยังเป็นผู้นำตระกูลเซียวอีก
เพื่อความสัมพันธ์ของสองครอบครัว หลงจ้านใช้บุตรสาวตัวเองเป็นเครื่องมือในการเชื่อมความสัมพันธ์กับเซียวกงเป้า ทำให้นางกลายเป็นคนตระกูลเดียวกับตระกูลเซียว ทำลายงานแต่งระหว่างหลงอวี่ซีและเซียวปิงหลาน
เมื่อหลงหยุนฉีพูดประโยคนี้ออกมา ทุกคนจ้องไปที่หลงอวี่ซี หน้าเปลี่ยนเป็นสีแดง หันไปมองเซียวปิงหลานที่ถูกทำร้าย ความรู้สึกรักใคร่ที่มีต่อเขาในตอนแรก เวลานี้กลับเปลี่ยนกลายเป็นความโกรธ
“ไม่ ไม่นะ ไม่ใช่อย่างที่นางพูด พี่ใหญ่ ท่านอย่าได้เชื่อสิ่งที่นางเล่าเลย” หลงเหยียนพยายามอธิบายสุดชีวิต
เซียวปิงหลานก็พยายามลุกขึ้นเช่นกัน จ้องเขม่นไปที่หลงหยุนฉี แล้วหันไปมองหลงเหยียน
“ไม่ นางพูดถูก ตอนนั้นข้าดื่มสุราจนมึนเมา ตาลายเห็นน้องฉีเป็นเจ้า อวี่ซี วันนั้นข้าดื่มมากเกินไป ข้าไม่ได้ตั้งใจทำแบบนั้น เจ้าเชื่อใจข้าเถิด”
หลงเซ่าโหยวที่อยู่ด้านหลังระเบิดโมโห ชกหน้าเซียวปิงหลานไปเต็มแรงหนึ่งที
“หยุดเดี๋ยวนี้” หลงอวี่ซีที่ระเบิดโมโหตะโกนขึ้น ทันใดนั้น สถานการณ์จมสู่ความเงียบ นางสูดลมหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นก็มองไปทางเซียวปิงหลาน
ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “นับตั้งแต่วันนี้ไป เราไม่มีอะไรข้องเกี่ยวกันอีก”
เมื่อนึกถึงเรื่องของหยุนฉีที่เกิดขึ้นในวันนั้น นางเดินไปข้างกายหลงหยุนฉี โอบไหล่นางไว้
กระซิบข้างหู “ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นข้าจะอธิบายเรื่องนี้กับผู้นำตระกูลเอง ข้าจะถอนงานแต่งของเรา แล้วให้เจ้าหมั้นหมายกับเขาแทน เขาเป็นชายที่ข้าเคยรักมากที่สุด…” หลังพูดจบ แววตาของนางก็ประกายความดุร้าย
หลงอวี่ซีปล่อยนาง ปรับอารมณ์ของตัวเองครู่หนึ่งแล้วค่อยหันไปมองหลงเหยียน “หลงเหยีนน สาเหตุที่เมื่อก่อนข้าไม่เคยมองเจ้าในแง่ดี มิใช่แค่เพราะเจ้าไม่มีวิญญาณยุทธ์ ไร้ความสามารถในการเป็นที่พึ่งพาแก่วงศ์ตระกูล แต่ยังเป็นเพราะเจ้าดื้อดึง ไม่เคร่งในระเบียบวินัย นึกไม่ถึงว่าแท้จริงแล้ว เจ้าจะซ่อนความสามารถมาโดยตลอด แก้แค้นคนตระกูลหลง อีกทั้งยังทำร้ายเซียวปิงหลานบาดเจ็บ”
“วันนี้ยังหลอกใช้ความเมตตาของหยุนฉีเพื่อหลบภัย ทำให้ข้าเกลียดเจ้ามากกว่าเดิม ดูถูกเจ้ามากยิ่งขึ้น งั้นก็ได้ เห็นแก่หน้าหยุนฉี วันนี้ข้าจะปล่อยเจ้าไป แต่เจ้าทำร้ายเซียวปิงหลาน เจ้าหนีบทลงโทษไม่พ้นหรอก ไม่ว่าอย่างไรตระกูลเซียวต้องตามมาเอาเรื่องแน่”
ขณะที่พูดใกล้จบนางก็เดินจากไป
กลับเป็นหลงเหยียนที่ระเบิดโมโห “หยุดเดี๋ยวนี้ หลงอวี่ซี เจ้าพูดเหมือนตัวเองสูงส่งมากนักหรือ พูดเหมือนข้าต่ำต้อยด้อยค่า ข้าไปทำอะไรให้เจ้าเกลียดแค้นนักหนา เจ้าดูไม่ออกหรือไง เซียวปิงหลานมันเป็นคนสารเลว เจ้าจัดการปัญหาโดยไม่แบ่งแยกชั่วดี เป็นถึงพี่ใหญ่ ไม่เพียงแต่ไม่ปกป้องพี่น้องในตระกูล แต่ยังอยากผลักนางลงเหวอีก”
“เจ้าพูดอะไร?” สุดท้ายหลงอวี่ซีก็ทนไม่ไหว ระเบิดโมโหทันที ร่างสั่นเทาอย่างรุนแรง ฝ่ามือรวบรวมพลังปราณ ฟิ้ว… พุ่งเข้าไปหาเขาทันที แล้วบีบคอหลงเหยียน
เมื่อผู้แข็งแกร่งระดับชีพมังกรที่หกระเบิดพลัง มันไม่ใช่เรื่องล้อเล่นเลย ทันใดนั้น พลังกดทับที่มหาศาลก็แผ่กระจายไปทั่ว คล้ายเสือดุร้ายตัวหนึ่งกำลังบดขยี้เหยื่อ ทำให้หลงเหยียนหายใจลำบากขึ้น และพลังหยางก็ใช้ไม่ได้ผล
ร่างกายรู้สึกเจ็บปวดอย่างหาที่เปรียบมิได้ ความเจ็บปวดของหลงเหยียนทำให้คนอื่นๆ ในตระกูลหลงตื่นตระหนก
“เป็นพลังที่แกร่งมากเลยนะ เพราะอะไรไม่มีพลังปัดป้องเลยสักนิด”
ความเยือกเย็นของนางทำให้ทุกคนเริ่มรู้สึกกลัว และนี่ก็คือความพิโรธที่ไม่เคยมีใครเห็นจากหลงอวี่ซีมาก่อน
เวลานี้ นิ้วมือที่เรียวงามอย่างไร้ที่ติยื่นเข้ามาจับข้อมือของหลงอวี่ซี
หลงหยุนฉีคุกเข่าอยู่ตรงหน้า “พี่ใหญ่ ข้าขอร้อง ปล่อยพี่เหยียนไปเถิด ท่านไม่จำเป็นต้องโมโหมากเช่นนี้เลย เขาแค่ไม่อยากให้ข้าเสียหายเท่านั้น”
“หยุดพูดเสีย” หลงอวี่ซีสะบัดมือแรงๆ เห็นเพียงร่างบางอ่อนล้มลงบนพื้น
“หยุนฉี!” หลงเหยียนคำราม ทันใดนั้นไฟโทสะก็ลุกโชน
มือทั้งสองข้างจับแขนเสื้อหลงอวี่ซี “เจ้าอยากทำอะไรแน่ รังแกนางแล้วเจ้ามีความสุขงั้นหรือ?”
หลงหยุนฉีล้มลงบนพื้น น้ำตาเริ่มไหลออกมาอีกครั้ง ครั้งก่อน ตอนถูกเซียวปิงหลานรังแกก็ช่างเถอะ แม้รู้สึกเสียใจ แต่เวลาผ่านไปยังพอลืมได้บ้าง แต่ครั้งนี้นางถูกพี่ใหญ่ของตนรังแก มีหรือที่นางจะทนความเสียใจนี้ได้?
หลงเหยียนระเบิดพลังปราณ ตะเกียกตะกายหลุดจากมือนาง พุ่งไปข้างกายหยุนฉี ก่อนจะเช็ดน้ำตาด้วยความสงสารแล้วพูดปลอบใจ “พี่ไม่ดีเองที่ปล่อยให้คนอื่นมารังแกเจ้า แต่เจ้าวางใจเถอะ ข้าไม่มีทางปล่อยนางไปแน่”
หลงเหยียนจ้องคนรอบตัวด้วยความเกลียดชัง สุดท้ายสายตาก็มาหยุดอยู่บนตัวหลงอวี่ซี ก่อนพูดด้วยเสียงเย็นเยือก “หลงอวี่ซี เรามาดูกัน ต้องมีสักวันที่ข้าแกร่งกว่าเจ้า ถึงวันนั้นเจ้าต้องเสียใจกับการกระทำของตัวเองในวันนี้ เจ้ารอก่อนเถอะ ยังมีเวลาอีกสิบวันกว่าจะถึงงานประลองของตระกูล ถึงตอนนั้นข้าจะเข้าร่วมประลอง ต่อหน้าผู้อาวุโสทุกท่าน ข้าจะสะสางความแค้นทั้งหมดทีเดียว ในระยะเวลาสิบวัน ข้าจะล้มเจ้าให้ได้ ข้าจะทำให้เจ้ารู้ว่าการหาเรื่องข้าต้องจบอย่างไร”
หลังจากหลงเหยียนพูดจบ ทุกคนที่อยู่รอบข้างก็ตกตะลึง
“ระยะเวลาสิบวันงั้นหรือ จะเป็นไปได้อย่างไร? นี่มันไม่น่าตลกไปหน่อยหรือ พละกำลังชีพมังกรขั้นที่สาม ล้มขั้นที่หก เขาซื่อเกินไปหรือเปล่า”
“คงไม่ใช่เพราะเขาอยากฉวยโอกาสหนีไปหรอกนะ ไม่อยากเข้าร่วมงานประลอง เลยอยากใช้เหตุผลนี้หนีไป?”
หลงอวี่ซีมองหลงเหยียนด้วยสายตาดูถูกดูแคลน ทันใดนั้นนางก็หัวเราะ “ข้ารู้ว่าช่วงที่ผ่านมาเจ้าเปลี่ยนไปมาก แต่เกิดเป็นคน อย่าได้ประเมินค่าของตนสูงเกินไปหน่อยเลย ข้าฝึกวิชาอย่างยากลำบากมานานสิบปีจึงสำเร็จ แล้วเจ้าเล่า? ในเวลาสิบวันนี้เจ้าอยากทำอะไร? ได้ งั้นข้าจะรอเจ้า เมื่อถึงวันนั้น ข้าก็อยากรู้เช่นกันว่าเจ้าจะทำตัวเองขายหน้าเพียงใด”
หลงอวี่ซีพูดจบก็พาหลงเซ่าโหยวและหลงห่าวเทียนเดินจากไป ถึงกระนั้น เรื่องเดิมพันของนางกับหลงเหยียนก็ดังกระหึ่มไปทั่วตระกูลแล้ว
เมื่อมีใครเอ่ยถึงเรื่องนี้ ทุกคนกลับมองว่ามันเป็นเรื่องที่ดูเพ้อฝันเกินไป
“ยังไม่รีบไสหัวไปอีก?” หลงเหยียนมองพวกคนชั้นต่ำในตระกูล ก่อนคำรามเสียงดัง
คนที่เหลือพาหลงเอ้าอวีและเซียวปิงหลานจากไปอย่างอนาถ มองหญิงสาวที่อยู่กลางอก หลงเหยียนรู้สึกซาบซึ้งใจมากจริงๆ หากไม่ใช่เพราะนาง เมื่อครู่เขาอาจแย่กว่านี้
“หยุนฉี เจ้ายังไม่รีบกลับไปพร้อมข้าอีก จะอยู่ตรงนี้ต่อหรือ? ไม่กลัวท่านพ่อจะลงโทษหรืออย่างไร?” หลงเอ้าอวีพูด
ทว่ากลับถูกแววตาที่ร้ายกาจของหลงเหยียนข่มขวัญ
——————–