มหาพิภพ เทพมังกรสยบราชัน – ตอนที่ 17 ธาตุพลังจากอัญมณี

มหาพิภพ เทพมังกรสยบราชัน

        เซียวปิงหลานตกใจกลัว เวลานี้เขาเต็มไปด้วยเหงื่อ ยิ่งกว่านั้น เขาไม่กล้าแม้แต่จะหันกลับไปมอง หมอบลงบนพื้น

        “เจ้าเป็นใคร อยากทำอะไรกันแน่?”

        เมื่อครู่เขาสัมผัสได้ถึงพลังที่มหาศาล แน่นอนว่าต้องเป็นยอดฝีมือแน่ หรืออาจมีพลังมากกว่าตนหลายเท่า ไม่แน่ชีวิตของเขาอาจจบลงในป่ารกร้างแห่งนี้ก็ได้

        เมื่อนึกเช่นนั้น ความกลัวในใจของเซียวปิงหลานก็เพิ่มพูน

        “ไม่ทราบว่าจอมยุทธ์มีนามว่าอะไร เป็นใครมาจากที่ใด หากท่านมาเพื่อชิงสมบัติ ท่าน… ท่านนำไปได้เลย แต่ท่านต้องปล่อยข้าไป ข้าเป็นคนตระกูลเซียว ท่านพ่อนามว่าเซียวกงเป้า คาดว่าท่านคงเคยได้ยินมาบ้าง”

        ถ้าไม่เอ่ยถึงเซียวกงเป้ายังดีหน่อย แต่เมื่อเอ่ยชื่อเขาหลงเหยียนก็ยิ่งโมโห ถ้าไม่ใช่เพราะเขา ตนก็คงไม่ถูกบีบให้ออกจากตระกูล

        หลงเหยียนถีบเขาออก เซียวปิงหลานดีใจขึ้นมาทันที “ดูเหมือนเขาจะรู้จักท่านพ่อ”

        ขณะที่เขากำลังจะหมุนตัวหันกลับไปมอง ตูม… หมัดเหวี่ยงออกมาอย่างแรง กระแทกหน้าทำให้ฟันเขาร่วงไปหลายซี่ ยังไม่ทันเห็นใบหน้าชัดเจนของคนที่ลอบทำร้าย สายตาก็เริ่มเลือนราง ดาวหมุนเต็มท้องฟ้า

        ภาพตรงหน้าเลือนราง…

        “ท่าน ท่านเป็นใครกันแน่? ข้าก็บอกไปแล้วว่าพ่อข้าคือเซียวกงเป้า เขา…”

        “เขาสมควรตาย แต่เจ้าสมควรตายยิ่งกว่า…”

        เซียวปิงหลานได้ยินเสียงที่คุ้นเคย อีกทั้งชุดที่หลงเหยียนใส่ยังดูคุ้นเคยมาก คล้ายเป็นคนที่เขารู้จักมาก่อน

        “เจ้า เจ้าคือหลงเหยียน?” เซียวปิงหลานนึกถึงความดุร้ายตอนที่หลงเหยียนยังอยู่ในตระกูลหลง ทันใดนั้นขาก็อ่อน ไม่มีแรงยืน ถ้าตอนนี้คนที่อยู่เบื้องหลังคือหลงเหยียนจริงๆ ตนต้องตายสถานเดียว

        เมื่อนึกถึงแววตาที่น่ากลัวของหลงเหยียน เขาก็รู้สึกกลัวในใจ

        “หลงเหยียนอะไร? บิดาไม่รู้จัก? จัดการเจ้าก่อนค่อยว่ากัน สมบัติเป็นสิ่งที่ข้าต้องการมากในเวลานี้”

        หลังจากได้ยินหลงเหยียนพูดเช่นนั้น เซียวปิงหลานก็ตกใจตัวอ่อนยวบ “ไม่ ไม่นะ ในเมื่อท่านบอกแล้วว่าท่านไม่ใช่หลงเหยียน เช่นนั้นก็ถือว่าข้ามองท่านผิดไป ท่านจะฆ่าข้าไม่ได้ พ่อข้าคือเซียวกงเป้า เมื่อข้ากลับไปส่งข่าว ไม่ว่าท่านต้องการอะไร ท่านพ่อจะให้ทุกอย่าง”

        เมื่อเอ่ยถึงเซียวกงเป้าอีกครั้ง ครั้งนี้ไฟโทสะของหลงเหยียนปะทุแล้วจริงๆ ในเมื่อตอนนั้นเคยบอกว่าจะทำให้เขากลายเป็นขันที เช่นนั้นวันนี้ก็เป็นโอกาสที่ดี

        “ข้าบอกแล้วว่าอย่าเอ่ยถึงเซียวกงเป้า แต่เจ้าก็ยังพูดขึ้นมาอีก งั้นอย่าโทษข้าแล้วกัน คงต้องทำให้เจ้าหมดความเป็นชายไปชั่วชีวิต” หลงเหยียนพูดด้วยเสียงเย็นชา ลงมืออย่างรวดเร็ว ซึ่งเซียวปิงหลานไม่ทันมองเห็นร่างของหลงเหยียนด้วยซ้ำ

        กริชในมืหลงเหยียนแทงเข้าไปอย่างรวดเร็ว บิดและหมุน เซียวปิงหลานนอนตะเกียกตะกายบนพื้น ส่งเสียงกรีดร้องที่แสนเจ็บปวด

        “อ๊าก…”

        หลงเหยียนถีบเขาสลบไป จากนั้นก็สะบัดหน้า

        “เสียงนี้ทำให้จิตใจข้าว้าวุ่นจริง แหะๆๆ หยุนฉี ในที่สุดข้าก็ล้างแค้นให้เจ้าได้แล้ว”

        จากนั้นเขาก็หยิบยาบำรุงออกมายัดใส่ปากเซียวปิงหลาน

        “นับว่าบิดาดีต่อเจ้ามากแล้ว ไม่ปล่อยให้เจ้าตายที่นี่”

        เดินข้ามร่างเซียวปิงหลาน หลงเหยียนมองไปทางเนินเหว ที่นั่นมีอัญมณีจำนวนมากกำลังสั่นคลอน คล้ายพร้อมหล่นลงมาทุกเมื่อ

        ทันใดนั้น ก็รวบรวมพลังปราณที่แข็งแกร่งไว้ที่ฝ่ามือ ระเบิดเสียงคำราม หลงเหยียนกระโดดยื่นมือไปคว้าก้อนหิน หินส่ายสองสามครั้ง จากนั้นก็หยุดลง

        หลงเหยียนจ้องก้อนหินอย่างตั้งใจ ทันใดนั้น ฟึ่บ… ก้อนหินก็ลอยเข้าไปในหัวหลงเหยียน

        วินาทีนั้นเอง สายลมพัดอย่างรุนแรง หลงเหยียนรู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของฟ้าดิน คล้ายหัวกำลังจะแตกเป็นเสี่ยงๆ เหมือนนำตนเข้าสู่ทะเลโลหิตที่กว้างใหญ่ ใต้ท้องทะเลมีคลื่นลูกใหญ่ กลิ่นคาวเลือดฟุ้งกระจายไปทั่ว ปกคลุมทั่วท้องฟ้า

        หลงเหยียนมองทุกอย่างตรงหน้าด้วยความตกใจ ท่านพ่อเคยบอกว่า เมื่อไรที่สัมผัสถึงวิญญาณยุทธ์ จึงจะเบิกเนตรสวรรค์ได้ เช่นนั้นจึงจะก้าวข้ามระดับจิตสัมผัสและมองเห็นภาพที่เกิดขึ้นด้วยจิต

        หลงเหยียนนึกว่านี่คือการเบิกเนตรสวรรค์ ความจริงแม้แต่ตัวเขาเองยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำ ตนเองข้ามผ่านระดับจิตสัมผัส และอยู่ในระดับประสาทรับรู้แล้ว

        เขารู้สึกตกใจมาก จ้องไปยังทะเลโลหิตที่กว้างใหญ่ ทันใดนั้น ทะเลโลหิตขนาดใหญ่ก็ถูกจิตบางอย่างดูดเข้าไปภายในห้วงมิติขนาดเล็ก สุดท้ายกลายเป็นห้วงอากาศขนาดเล็ก ทะเลโลหิตหายสาบสูญ หลอมกลายเป็นอัญมณีที่แวววาว

        ร่างกายหลงเหยียนลอยอยู่กลางอากาศ มองทุกอย่างที่เกิดขึ้นตรงหน้า เขาตกใจมาก ความประหลาดใจพุ่งถึงขีดสุด ทันใดนั้นเบื้องล่างก็ปรากฏศพของสัตว์ร่างใหญ่ สัตว์เหล่านี้ล้วนเป็นสัตว์ที่หลงเหยียนไม่เคยเจอมาก่อน เพราะพวกมันมีร่างกายที่ใหญ่มาก ทุกศพมีร่างใหญ่ประมาณหมื่นเมตร สามารถสัมผัสได้ว่าศพนั้นมีกลิ่นอายที่แข็งแกร่งและอยู่มายาวนาน คล้ายเป็นสัตว์จากยุคโบราณ

        หลงเหยียนหน้าซีดเผือด ร่างกายสั่นเทาอย่างรุนแรง มันทำให้เขากลัวมาก ความน่ากลัวของมันไม่น้อยไปกว่ามังกรที่เจอใต้เหวลึกเลย

        นี่ต้องเป็นภาพที่ไม่มีคนพบมานานนับหมื่นปีแน่ ทำให้หลงเหยียนเกิดความรู้สึกผวาขึ้นมา

        ทันใดนั้น หลงเหยียนลืมตาขึ้น เหงื่อท่วมร่างกาย แล้วใบหน้าที่บริสุทธิ์ก็ปรากฏตรงหน้า

        หลงหลิงที่มีร่างกายขาวผุดผ่องสวมชุดสีขาวจ้องมาที่เขา หลงเหยียนถอนหายใจเฮือกใหญ่ คล้ายเมื่อครู่ตนได้ผ่านความเป็นความตายมาแล้วเช่นนั้น

        เมื่อจ้องหญิงสาวตรงหน้า จมูกได้กลิ่นหอมอบอวล ในใจรู้สึกร้อนรุ่ม เขาค่อยๆ ออกมาจากความกลัว

        หญิงสาวหยิบผ้าเช็ดหน้ามาจากแขนเสื้อ เช็ดเหงื่อให้หลงเหยียน การกระทำที่ดูสนิทสนมทำให้หลงเหยียนที่ยืนอยู่ข้างกายนางรู้สึกร้อนระอุ

        “ทำไม? เรือนร่างนี้งดงามมากหรือ?” หลงหลิงพูดขึ้น

        หลงเหยียนพยักหน้า รู้ดีว่าการกระทำแบบนี้ดูไร้มารยาท จึงรีบเปลี่ยนประโยคสนทนา “คน.. คนพวกนั้นที่ตามเจ้าเล่า?”

        “ไปหมดแล้ว…” หลงหลิงก้มหน้าเล่นผ้าเช็ดหน้าในมือตัวเอง “แล้วคนสกุลเซียวล่ะ?”

        “สลบไปแล้ว แต่ข้าจัดการเขาเรียบร้อยแล้ว จากนี้ไป เขาไม่สามารถเป็นชายได้อีก” พวกเขาสองคนเงียบไป ต่างก็รู้สึกทำตัวไม่ถูก

        “จริงด้วย แสงสีขาวเมื่อครู่ แท้จริงแล้วมันคืออัญมณี มันเข้ามาในตัวข้าแล้ว เจ้าไม่รู้หรอก อัญมณีก้อนนั้น…” ปากของหลงเหยียนถูกปิดด้วยผ้าเช็ดหน้าของหลงหลิง

        “เจ้าบื้อ ไม่ต้องบอกหรอก ในเมื่อเจ้าได้มันไปแล้ว งั้นมันก็เป็นของเจ้า มีที่ไหน ได้ของดีแล้วยังป่าวประกาศไปทั่ว”

        พวกเขาสองคนเริ่มพูดคุยกันตามปกติ นับได้ว่าทั้งคู่คุ้นเคยกันมากยิ่งขึ้นแล้ว…

        อัญมณีก้อนนั้นหายเข้าไปในตัวของหลงเหยียนอย่างน่าประหลาด แต่หลงเหยียนไม่มีเวลามาวิเคราะห์ว่ามันมีประโยชน์อย่างไร

        หลงเหยียนยื่นมือชี้ไปด้านหน้า “ดูเหมือนพวกเราจะอยู่ที่นี่ต่อไม่ได้แล้ว ผ่านเขาหยุนอู่ พวกเราต้องเดินหน้าอีก เมื่อเข้าไปอีกก็คือเทือกเขาหยุนหลัวแล้ว เทือกเขาหยุนหลัวคล้ายอาณาจักรของสัตว์อสูร มีสมบัตินับไม่ถ้วน เจ้ายินดีจะเข้าไปพร้อมข้าหรือไม่?”

        หลงหลิงส่งยิ้มเล็กๆ แล้วยื่นมือไปชี้ข้างหน้า “ไปกันเถิด หาไม่แล้วพวกเขาอาจหาเราเจอ”

        พวกเขาสองคนเดินทางร่วมกัน เดินเข้าสู่เส้นทางมุ่งหน้าไปยังเทือกเขาหยุนหลัว เล่ากันว่าเทือกเขาหยุนหลัวนั้นอันตรายมาก สัตว์ป่านับไม่ถ้วนมีความดุร้ายมาก ปีศาจอสูรระดับสูงต่างก็อาศัยในนั้น ทุกที่เต็มไปด้วยอันตราย น้อยคนนักที่จะย่างกรายเข้าไป

        นอกเสียจากยอดฝีมือระดับสูงจำนวนหนึ่งที่กล้าเข้าไป ยกตัวอย่างเช่นเซียวกงเป้า คนระดับนั้นถึงกล้าบุกเข้าไปเสี่ยงโชค คนส่วนใหญ่ที่รอดกลับมา ล้วนกลายเป็นผู้แข็งแกร่งทั้งนั้น

        ระดับพลังชีพมังกรขั้นที่สามหรือสี่ จะให้ดีควรเข้าไปด้วยกันสี่ห้าคน มิเช่นนั้น เกรงว่าคงเอาชีวิตรอดได้ไม่ถึงหนึ่งวัน หากเจอสัตว์อสูร ชีวิตของพวกเขาก็จบลงทันที

        หลงเหยียนรู้ดีว่าตรงหน้านั้นอันตราย แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าอย่างน้อยก็มีหญิงที่งดงามเคียงข้าง เขาก็รู้สึกพอใจขึ้นมาทันที

        ——————–

มหาพิภพ เทพมังกรสยบราชัน

มหาพิภพ เทพมังกรสยบราชัน

Status: Ongoing
ในช่วงเวลาคับขันของชีวิตมักทำให้ได้พบกับสมบัติล้ำค่าที่ซ่อนไว้อยู่เสมอ ในชีวิตของ ‘หลงเยียน’ ผู้ไร้พลังวิญญาณก็เช่นกัน การพลัดตกลงเหวลึกทำให้เขาค้นพบกับซากอสูรมังกรสิ้นชีพ โดยพลังจากชิ้นส่วนวิญญาณมังกรเพียงเสี้ยวเดียวก็สามารถทำให้เขามีพลังวิญญาณยุทธขึ้นมาได้ มันจึงเป็นที่มาของการก้าวเข้าสู่เส้นทางแห่งการพิสูจน์ตัวตนโดยมีตำแหน่งจอมยุทธ์ผู้ไร้เทียมทานเป็นเดิมพัน! เขาต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายในการรวบรวมลูกแก้วแห่งมังกรหกลูกที่กระจายอยู่บนโลกอันกว้างใหญ่ หากเขาสามารถรวบรวบพลังวิญญาณมังกรทั้งหมดไว้ได้ หนทางสู่การเป็นผู้แข็งแกร่งแห่งดินแดนจักรพรรดิมังกรก็คงอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท