ผ่านไปครึ่งวัน… บนเทือกเขาหยุนหลัว…
ในป่าลึกที่กว้างสุดลูกหูลูกตา กิ่งก้านและใบไม้จากต้นงอกเงยออกมาบดบังแสงอาทิตย์จากฟากฟ้า สูงขึ้นไปคือเนินหินและต้นไม้ที่แห้งเหี่ยว บนพื้นใต้ต้นไม้นั้นมีศพสัตว์ป่าจำนวนมาก กะโหลกของสัตว์ป่าบางตัวยังซ่อนเขี้ยวที่แหลมคม แลน่าพิศวง
ความตกใจปกคลุมทั่วร่างหลงเหยียน ไม่รู้จริงๆ ว่าเพราะอะไรพวกเขาถึงมาที่นี่
หลงหลิงเป็นถึงเทพมังกรในยุคโบราณที่แปลงกายมา นางสามารถส่งจิตสัมผัสออกไปปกคลุมทั่วเทือกเขาหยุนหลัว เมื่อเดินไปข้างหน้าอีกหลายก้าว จู่ๆ นางก็จับแขนหลงเหยียนเอาไว้
“ระวังตัวด้วย ข้ารู้สึกได้ถึงกลิ่นอายพลังจากปีศาจอสูรจำนวนมากที่นี่ พละกำลังแกร่งว่าเจ้ามาก พวกเราเดินหน้าอีกไม่ได้แล้ว มิเช่นนั้นเราต้องตายที่นี่แน่”
“อะไรนะ?” ถึงแม้แขนของหลงเหยียนจะถูกมือที่เนียนนุ่มจับ แต่ใจกลับผงะ สะดุ้งตกใจ
“ในเมื่อพวกเรามาผิดที่ หรือพวกเรากลับไปตามทางเดิมดีกว่าหรือไม่ รอที่เขาหยุนอู่ ปล่อยให้ถูกจับไป อย่างไรก็ดีกว่ามาเป็นอาหารให้สัตว์ป่าที่นี่”
ตอนแรกหลงเหยียนอยากหาป่าร้างที่น่าอยู่กว่านี้อาศัยกับนางสองคน เมื่อเกิดความสัมพันธ์แล้ว… แคกๆ
“เกรงว่าเราคงกลับไปไม่ได้แล้ว”
ทันใดนั้น ด้านหลังก็มีเสียงคำรามของสัตว์อสูรดังสนั่น หลงเหยียนหันกลับมา สัตว์ร่างใหญ่กำลังกรูเข้ามาที่พวกเขาสองคน
“แม่เจ้า!” หลงเหยียนกรีดเสียงแหลมอย่างอดไม่อยู่ ร่างสั่นด้วยความกลัว ขนลุกซู่ไปทั้งตัว ทว่าเท้ากลับเหมือนถูกตรึงไว้กับที่
หลงหลิงรีบผลักหลงเหยียนออก พวกเขาทั้งสองกลิ้งไปคนละทิศคนละทาง ครั้งนี้หลงเหยียนไม่มีเวลาคิดอะไรมากมาย ขณะที่ร่างลอยออกไป เขาหันกลับมามองหน้าหลงหลิง สองคนสื่อสารกันทางสายตา
รีบหนีตายเร็ว…
ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาไม่มีเวลาหันกลับมาซ้ำอีก ข้างหลังมีสัตว์อสูรอะไรกำลังตามล่าอยู่ จากนั้นพบว่าด้านหน้ามีเนินดินปรากฏขึ้น
หลงเหยียนเคยอยู่บนเขาหยุนหลัวช่วงหนึ่ง รู้ว่าเมื่อไรที่พบเนินดินแบบนี้ ส่วนใหญ่แล้วด้านหน้าจะเป็นเหวลึก หรืออาจเป็นร่องเหวที่ลึกพันเมตร
วิ่งพุ่งเข้าไปทางเนินดิน หลงเหยียนกอดหัว ย่อตังลงอย่างกะทันหัน ส่วนหลงหลิงที่พุ่งมาด้วยความเร็วไม่อาจหยุดลงได้ นางเอนตัวไปข้างหน้า หลงเหยียนใจกระตุกวูบ สัตว์ป่าขนาดใหญ่ที่อยู่ด้านหลังพุ่งไปด้วยความเร็ว ฟึ่บ… ร่างขนาดใหญ่อ้าปาก เขี้ยวแหลมยาวคว้าร่างหลิงหลงแล้วร่วงลงไปอย่างรวดเร็ว
“เมื่อครู่เสี่ยงอันตรายยิ่งนัก ข้าเกือบตกใจตาย” หลงเหยียนปรับสภาพจิตใจ
อสูรร่างใหญ่มีเขายาวที่เต็มไปด้วยลวดลาย มันกลิ้งร่วงลงไปในเหวแห่งนี้ที่ลึกมาก หลงเหยียนกัดฟัน พลังปราณรวมอยู่ที่ฝ่ามือ เขาออกแรงดึง ใช้พลังเหวี่ยงร่างหลงหลิงขึ้นมาจากเหว ทักษะของหลงเหยียนดูช่ำชองมาก สามารถช่วยหลงหลิงขึ้นมาได้ในครั้งเดียว
หลงหลิงชะงักไป แน่นิ่งคล้ายหุ่นไม้
“นี่ เจ้าเป็นอะไรหรือไม่ ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้า พวกเราสองคนคงถูกมันกินไปแล้ว”
“ฮือ…” หลงหลิงปล่อยโฮออกมาทันที
นางมองลงไปยังเหวลึก ก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วพูดเสียงดัง “เมื่อครู่ข้าเกือบตกใจตาย ถ้าร่างเดิมข้าอยู่ที่นี่ ต่อให้มีอสูรแบบนี้อีกหนึ่งหมื่นตัว ข้าก็ทำลายพวกมันแหลกเป็นผงได้ เหอะ ข้าตกใจแทบตาย”
จากนั้นนางก็หันกลับมามองหลงเหยียน “อยู่กับคนอย่างเจ้า ข้ารู้สึกว่าตัวเองไม่ปลอดภัยเลยสักนิด หรือผู้หญิงต้องเป็นฝ่ายปกป้องเจ้าตลอด? เจ้าระวังให้มากกว่านี้หน่อยไม่ได้หรือ?”
ดูเหมือนนางโกรธแล้วจริงๆ ถึงกระนั้น ด้วยนิสัยของหลงเหยียน เขาไม่มีทางปล่อยให้นางเอาแต่ใจแบบนี้หรอก
“เงียบเดี๋ยวนี้”
ปากน้อยๆ เปิดกว้าง ยกคิ้วสูง นางก็แหงนหน้าคำราม “ไม่ ข้าไม่หยุด เจ้าจะทำอะไรข้าได้?”
หลงเหยียนไม่ตอบ มุมปากประกายรอยยิ้มที่ชั่วร้าย “กลางป่าเขาเช่นนี้ ฮึๆๆ ดูเหมือนถ้าข้าไม่สั่งสอนเจ้าเสียหน่อย เจ้าคงไม่รู้ว่าข้าร้ายกาจเพียงใด”
ทันใดนั้น หลงเหยียนผลักนางล้มลง พลังปราณรวบรวมที่ฝ่ามือ ฟึ่บ… ใช้นิ้วจี้จุดบนร่างหลงหลิง ทำให้นางมิอาจดิ้น ด้วยความเร็ว นางจับเท้าขวาที่เรียวงามของนาง ถอดถุงเท้า ใช้มือจุดที่กลางเท้า พลังปราณเริ่มเคลื่อนไหว ระลอกอุ่นๆ ไหลไปบนกลางเท้าที่นุ่มนวลของนาง
หลงหลิงหัวเราะอย่างอดไม่ได้ อยากดึงขากลับมาแต่ความรู้สึกชาไปทั้งตัวทำให้นางไม่มีเรี่ยวแรง คล้ายมีมดหมื่นตัวเดินไปทั่วตัว เดินตามหลอดเลือดและกระดูก
พลังปราณกำลังขับเคลื่อนในร่างกาย
“หลงๆๆ หลงเหยียน เจ้าสารเลว รีบ… รีบปล่อยข้า”
หลังจากหัวเราะเพียงครู่เดียว นางก็ร้องไห้อย่างเสียใจ
ครั้งนี้ทำให้หลงเหยียนชะงักไป เขาทนไม่ได้ที่เห็นหญิงสาวร้องไห้ จากนั้นก็เพิ่งนึกขึ้นได้ เท้าของผู้หญิงเป็นสิ่งที่พวกนางหวงแหน
ผู้อื่นห้ามเตะต้อง
ถ้าเป็นผู้อื่น เกรงว่าเวลานี้คงทำเรื่องที่ผิดมหันต์แล้ว หากเป็นหญิงคนอื่นคงคิดไปไกล แต่นางเป็นหลงหลิง หลงเหยียนปลดจุด หลงหลิงกลับสงบสติ ในใจเกิดความคิดอื่น
“อยากด่าเจ้าก็ด่ามา” ไม่รู้เพราะเหตุใด หลงหลิงกลับกระซิบข้างหูหลงเหยียนเบาๆ “เจ้าร้ายนัก…”
“หา!” หลงเหยียนที่ได้ยินแบบนั้นก็สะดุ้งล้มลง
“เจ้า เจ้าไม่โกรธข้า?” มือซ้ายค่อยๆ จับนิ้วที่ผอมเรียวของนาง
หลงเหยียนรู้สึกแค่ว่านิ้วมือนางนุ่มมาก เมื่อสัมผัสแล้วใจก็สั่นเบาๆ ช่วงฤดูร้อน สภาพอากาศจะร้อนเป็นพิเศษแต่มือของนางกลับเย็นอย่างหาใดเปรียบ…
แสงแดดยามเย็นทอลงมา กระทบบนใบหน้าที่งดงามของหลงหลิง หลงเหยียนยื่นมือไปเช็ดน้ำตาเม็ดใสๆ บนหน้านางอย่างแผ่วเบา แววตาประกายรอยยิ้ม ภาพตรงหน้าทำให้หลงเหยียนชะงัก
“คือ ขอโทษด้วย ไป๋รั่วอี…”
แต่หลงเหยียนกลับจับมือนางไม่ปล่อย
“เจ้าเรียกข้าว่าอะไรนะ?” หลงหลิงเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าแท้จริงแล้วหลงเหยียนมองตนเป็นไป๋รั่วอีมาตลอดก็จริง นางไม่เคยเผยความจริงให้เขาเห็นมาก่อน
‘เหอะ ข้าไม่ให้เขาดูหรอก ขนาดเรือนร่างที่ขี้ริ้วขี้เหร่นี้ยังทำให้เขาชะงักไป หากเขาเห็นโฉมหน้าที่งดงามของข้า เขาจะไม่หลับไม่นอนเลยหรือ? ช่างเถิด เจ้าหมอนี่ก็ตลกเหมือนกัน แหย่เขาเล่นหน่อยก็น่าขันดี’
หลงหลิงคิดในใจ เวลานี้นางโมโหมากจึงกัดไหล่ของเขาอย่างแรง
หลงเหยียนเจ็บมาก หมุนตัวหันไปกดนางลงพื้น จั๊กจี้ที่แขนและไหล่ของนาง หลงหลิงหัวเราะ สองคนกลิ้งลงจากเนินดินมาหยุดอยู่ข้างโขดหินก้อนใหญ่
พรึ่บ… หลงหลิงฟุบอยู่กลางอกหลงเหยียน เวลานี้ดวงตาของหลงหลิงมีเสน่ห์มาก เผยอปากเล็กน้อย กลิ่นหอมลอยออกมา
ต่อหน้าหญิงที่งดงามเช่นนี้ หลงเหยียนเริ่มหวั่นใจ ยื่นมือไปจับนาง ทว่าเวลานี้เอง จู่ๆ ก็มีเสียงคำรามดังขึ้นอีกครั้ง
“อะไรเนี่ย มาอีกตัวแล้วหรือ”
“โฮก!” หลงเหยียนสะดุ้ง หยุดอยู่ในท่าเดิม รับรู้ได้ว่ากลิ่นอายพลังจากอสูรตัวนี้น่ากลัวกว่าตัวก่อนหน้า พวกเขาสองคนหยุดหยอกเล่น แล้วซ่อนตัวอยู่ใต้โขดหิน
แนบหูฟังเสียง ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวของอสูรร่างใหญ่ตัวนั้น
“ตุบๆๆ” เสียงฝีเท้าของอสูรร่างใหญ่คล้ายกำลังเดินมาทางพวกเขา
เลือดสูบฉีดไปทั่วร่างหลงเหยียน เขาตื่นเต้นมาก หลับตาลง สามารถสัมผัสได้ถึงเหงื่อที่กำลังไหลตามใบหน้า นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขารู้สึกว่าตัวเองเข้าใกล้ความตายมากที่สุด
ห้วงอากาศมีกลิ่นเหม็นลอยเข้ามา รอบด้านเต็มไปด้วยรังสีสังหาร เมื่อก่อนตอนที่อยู่บนเขาหยุนอู่ เขาไม่เคยสัมผัสความรู้สึกนี้มาก่อน ท่านพ่อก็เคยบอกเขาเช่นกันว่าห้ามมาที่นี่เด็ดขาด ดูเหมือนครั้งนี้ตนจะประเมินอันตรายครั้งนี้ต่ำเกินไป
“โฮก!”
อสูรร่างใหญ่ระเบิดเสียงคำราม หลังจากหลงเหยียนได้ยิน เขาแทบจะคุกเข่าลงบนพื้น หากถูกอสูรหาพบ พวกเขาสองคนต้องตายอย่างหนีไม่พ้น เมื่อนึกถึงอดีตที่เคยถูกดูแคลน หลงเหยียนรู้สึกไม่พอใจอย่างมาก ทุกอย่างขึ้นอยู่กับพละกำลังเพียงสิ่งเดียว มันเป็นปัญหาของระดับพลังแล้ว
——————–