ดะ เดี๋ยวก่อน คุณเซลิสครับ เลิกตามผมสักทีเถอะครับ – ตอนที่ 9 ผมขอเดินสายกลางครับ

ดะ เดี๋ยวก่อน คุณเซลิสครับ เลิกตามผมสักทีเถอะครับ

ตอนที่ 9 ผมขอเดินสายกลางครับ

 

เหมือนยังมองอยู่เลย

 

หันไปทางอื่นสิครับ

 

จะมามองผมทำไม

 

ไม่ได้การล่ะ

 

ถ้ายังปล่อยให้มองต่อไป

 

ผมต้องแย่แน่

 

“…”

 

“คะ คือ”

 

“อาจารย์เข้าห้องมาแล้วนะครับ”

 

“แล้ว?”

 

“…”

 

คุณเซลิสมองตรงมาที่ผม

 

พร้อมตอบกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

 

ทั้งยังราบเรียบปราศจากห้วงอารมณ์อื่นเจือปน

 

นะ น่ากลัวมาก

 

น่ากลัวเกินไปแล้วนะ

 

หรือผมไปทำอะไรให้

 

ก็ไม่น่านะ?

 

สีหน้าของคุณเซลิสตอนที่ถามผม

 

มันเป็นสีหน้าที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน

 

ทั้งราบเรียบและเต็มเปี่ยมไปด้วยแรงกดดันมหาศาล

 

คล้ายไม่พอใจอะไรบางอย่าง

 

แล้วเอามาลงที่ผม

 

รึ หรือผมไปทำอะไรให้

 

หรือเธอจะรู้ว่าผมแอบจับตามองตอนเช้า

 

แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ช่าง

 

ยังดีที่อาจารย์เข้ามาในห้องทัน

 

เข้ามาแทรกกลางเอาไว้ก่อน

 

ผมเลยหลุดลอดจากสถานการณ์น่าอึดอัดตรงหน้าไปได้

 

ในความคิดของผม

 

เอาตามความคิดเห็นของผมนะ

 

ถึงแม้ครั้งนี้ผมจะรอดไปได้

 

ก็ใช่ว่าจะรอดไปได้ตลอด

 

ผมถอนหายใจขณะหันกลับมาสนใจอาจารย์เบื้องหน้าอีกครั้ง

 

เรื่องที่เกิดขึ้นสุดท้ายปลายทางมันก็เกิดขึ้นไปแล้ว

 

จะมานั่งคิดมากมายให้เหนื่อยเปล่าก็ใช่เรื่อง

 

ฉะนั้นตอนนี้มาใส่ใจเรื่องตรงหน้าดีกว่า

 

อาจารย์กวาดสายตามองไปทั่วบริเวณ

 

พร้อมกล่าวเข้าประเด็นทันที

 

“…”

 

“อย่างที่ทุกคนรู้”

 

“วันนี้จะเป็นวันเลือกสายอาชีพตามความถนัดของบุคคล”

 

“โดยเราจะทดสอบด้วยกันทั้งหมด 2 สายในวันนี้”

 

“สายแรกคือสายกายภาพ”

 

“เป็นสายกายภาพใช้อาวุธเป็นหลัก”

 

“สายที่สองคือสายเวทมนต์”

 

“เป็นสายใช้พลังเหนือธรรมชาติคอยเล่นงานศัตรูจากเบื้องหลัง”

 

“โดยทั้งสองสายล้วนมีความสำคัญเป็นอย่างมากในสนามรบ”

 

“เพราะฉะนั้นขอให้ทุกคนโปรดเคารพซึ่งกันและกัน”

 

“อย่าได้อาศัยความแตกต่างของสายอาชีพมาเป็นประเด็นเล่นงานอีกฝ่าย”

 

“เข้าใจไหม?”

 

“ครับ / ค่ะ”

 

อาจารย์สาวพยักหน้ารู้สึกยินดีไม่น้อยที่เห็นสีหน้าของเหล่านักเรียน

 

แม้จะอยู่ด้วยกันเพียงแค่ไม่กี่เดือน

 

แต่เธอก็รู้ว่านักเรียนในห้องนี้ล้วนพิเศษแตกต่างจากใครคนอื่น

 

เรื่องมาดูถูกดูหมิ่นเหยียดหยามคงยากจะเกิดขึ้น

 

ซึ่งต้นสายปลายเหตุทั้งหมดล้วนน่าจะมาจาก

 

เด็กน้อยคนหนึ่งที่กำลังมองหล่อนด้วยแววตาเป็นประกาย

 

และเด็กน้อยคนนั้นก็คือผมนั่นเอง

 

พอเห็นสายตาจากอาจารย์สาวมองมา

 

ผมก็เอียงคอสงสัยทันที

 

“…”

 

“ครับ?”

 

“…”

 

ว่าแต่มองหน้าผมทำไมเหรอ?

 

หรือว่าหน้าผมมีอะไรติดอยู่

 

ก็ไม่มีนิ

 

หลังจากที่อาจารย์บอกกล่าวอธิบายเสร็จสิ้นเรียบร้อย

 

ก็ถึงช่วงเวลาปฏิบัติจริง

 

ถึงเวลาต้องลงสนามจริง

 

ซึ่งจำเป็นต้องขยับย้ายไปอีกสถานที่แห่งหนึ่งก่อน

 

===

 

หลังจากเปลี่ยนสถานที่

 

มายังห้องพิเศษอันกว้างใหญ่

 

ระหว่างกำลังรอคอยอาจารย์

 

ซึ่งกำลังไปเตรียมการขั้นสุดท้าย

 

ทุกคนในห้องก็เริ่มเปิดปากแสดงความคิดเห็น

 

ซึ่งความเห็นทั้งหมดล้วนไม่เกี่ยวกับการเรียนการสอน

 

แต่มันเป็นประเด็นเกี่ยวกับผมโดยเฉพาะ

 

เป็นประเด็นเกี่ยวกับสายอาชีพ

 

ที่ผมจะเลือกในตอนท้ายสุด

 

“คุณฟางข้าวจะเลือกสายไหน?”

 

“ตัวเล็กน่ารักแบบนี้ต้องสายเวทมนต์สิ”

 

“ไม่ใช่”

 

“ต้องสายกายภาพต่างหาก”

 

“หะ นี่นายคิดจะให้ฟางข้าวออกไปสู้กับตัวน่ารังเกียจพวกนั้นเหรอ?!”

 

“แล้วถ้าเกิดฟางข้าวเป็นอะไรขึ้นมาจะว่าไงหะ!”

 

“มีสมองรึเปล่า?!”

 

“นี่เธอกล้าด่าฉันเหรอ!”

 

ต่างฝ่ายต่างไม่มีใครยอมใคร

 

จากคนเพียงคนสองคน

 

ตอนนี้ทั้งห้องล้วนหยิบยกเรื่องของผมมาเป็นประเด็นหมด

 

ก็รู้อยู่ว่าทุกคนเป็นห่วงผม

 

แต่เล่นทะเลาะต่อหน้าแบบนี้

 

ผมเองก็รู้สึกไม่สบายใจนะ

 

เพื่อหยุดยั้งสถานการณ์ไม่ให้ยุ่งวุ่นวายไปมากกว่านี้

 

ผมเลยร้องขอบอกให้หยุด

 

และก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกคนจะรับฟังคำพูดของผม

 

ผะ ผมคงไม่ได้หวังมากเกินไปใช่ไหม?

 

อะ เหมือนผมใกล้จะร้องไห้แล้วนะ

 

นี่ผมเป็นคนขี้แยขนาดนี้เลยเหรอ

 

ไม่น่าใช่

 

ที่เป็นแบบนี้น่าจะเป็นใครบางคนมากกว่า

 

ใครบางคนที่ใช้สายตาแหลมคม

 

จ้องมองมาที่หลังของผม

 

“…”

 

“ยะ หยุด”

 

“…”

 

“หยุดเถอะครับ”

 

“อย่าทะเลาะกันเลย”

 

เหมือนจะได้ผล

 

ในที่สุดก็เงียบสักที

 

แน่นอนว่ารวมถึงสายตาแหลมคมที่มองมาจากด้านหลังด้วย

 

และตอนนั้นเองตอนที่ผมกำลังถอนหายใจ

 

เนื่องจากสถานการณ์ได้หวนคืนกลับสู่สภาวะปรกติสักที

 

เสียงขอบคุณหนึ่งสายก็ดังขึ้น

 

“ขอบคุณค่ะ”

 

“…”

 

“ถ้าไม่ได้เธอ”

 

“ทุกคนในห้องคงเถียงกันไม่หยุด”

 

“ทำได้ดีมาก”

 

เป็นคุณเซลิสที่กำลังยิ้มอ่อนส่งมอบให้กับผม

 

คล้ายเบื่อหน่ายกับเรื่องที่เกิดขึ้น

 

ไม่รู้ทำไมผมถึงได้รู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน

 

ตะ แต่นั้นไม่ได้ความหมายว่าผมกับคุณเซลิส

 

พวกเราสงบศึกกันนะ

 

เธอเป็นนักล่าส่วนผมเป็นเหยื่อเรื่องแบบนั้น

 

เรื่องแบบนั้นมันไม่มีทางเกิดขึ้นแน่นอน

 

ไม่มีทางเด็ดขาด

 

 

หลังจากทั้งห้องเงียบสงบ

 

อาจารย์สาวก็เปิดประตูเดินเข้ามาในห้อง

 

อาจารย์เดินเข้ามาพร้อมถอนหายใจเหนื่อยหน่าย

 

ที่เห็นเหล่านักเรียนส่งเสียงเถียงออกมาไม่มีหยุดหย่อน

 

“กว่าจะเงียบกันได้”

 

“…”

 

“เริ่มเลยละกัน”

 

“เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา”

 

“อาจารย์จะเริ่มด้วยการแสดงให้เห็น”

 

“แสดงให้เห็นว่าพวกเธอจะต้องทำยังไง”

 

“เพื่อเอาชีวิตรอดบนโลกอันโหดร้ายหลังจากจบการศึกษา”

 

“คุณเซลิสเทีย”

 

“ค่ะ”

 

หลังจากได้ยินเสียงเรียกจากอาจารย์

 

คุณเซลิสก็เดินผ่านตัวผมไป

 

เดินมุ่งหน้าไปหาอาจารย์สาวที่ิอยู่เบื้องหน้าสุดของห้อง

 

ก่อนทั้งสองจะหันหน้าเตรียมพร้อมลงมือทุกเมื่อ

 

ในมือมีคุณดาบเตรียมพร้อมฟาดฟันทุกเมื่อ

 

นะ นี่มันน่าตื่นเต้นจัง

 

“…”

 

“หลังจากนี้สิ่งที่คุณต้องทำก็คือ”

 

“พุ่งเข้ามาหาฉัน”

 

“พุ่งเข้ามาหาด้วยทุกสิ่งอย่างที่คุณมี”

 

“หากคุณทำให้ฉันบาดเจ็บได้”

 

“หลังจากนี้คาบของฉัน”

 

“คุณจะไม่เข้าก็ได้ค่ะ”

 

“จะเอาเวลาไปทำอย่างอื่นก็ได้”

 

“…”

“อาจารย์แน่ใจใช่ไหมคะ?”

 

“ไอ้ที่พูดออกมา”

 

วะ แววตาของคุณเซลิส

 

นี่มันไม่ปรกติแล้วนะ

 

ผมไม่รู้หรอกนะว่าคุณเซลิสกำลังคิดอะไรอยู่

 

แต่ไอ้ที่อยู่ในหัวสมองของเธอในขณะนี้

 

มันต้องไม่ใช่แนวคิดปรกติธรรมดา

 

ทั้งยังต้องเกี่ยวกับผมอย่างแน่นอน

 

เพราะฉะนั้นอาจารย์ครับ

 

ได้โปรดขัดขวางคุณเซลิสด้วย

 

อย่าปล่อยให้เธอได้ทำตามใจชอบ

 

รบกวนด้วยครับ

 

สั่งสอนเลยครับ

 

เอาให้เต็มที่

 

และด้วยความตื่นเต้นของผมที่มันมากเกินเลย

 

ในที่สุดมันก็สร้างเรื่องเข้าให้จนได้

 

เมื่อปากของผมเผลอหลุดคำพูดออกไป

 

เป็นคำพูดปรกติธรรมดาสำหรับผม

 

หากแต่สำหรับใครคนอื่น

 

โดยเฉพาะกับสถานการณ์ในตอนนี้

 

มันช่างส่งผลกระทบเหลือเกิน

 

“…”

 

“สะ สู้สู้ครับ”

 

“…”

 

บรรยากาศที่เคยมากไปด้วยความคึกคักพลันนิ่งเงียบไปในทันที

 

ดวงตาของคุณเซลิสเบิกกว้างขั้นสุด

 

แน่นอนว่าตัวของอาจารย์ก็เบิกกว้างเฉกเช่นเดียวกัน

 

ก่อนทั้งสองจะหันหน้ามาที่ผม

 

พร้อมกล่าวถามขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียง

 

““ใคร?!””

 

“เธอเชียร์ใครระหว่างฉันกับอาจารย์?”

 

“คุณฟางข้าว”

 

“คุณฟางข้าวเชียร์อาจารย์ใช่ไหมคะ?”

 

“…”

 

“ทะ ทั้งสองครับ”

 

“ผมเชียร์ทั้งคู่ครับ”

 

“ขอโทษครับ”

 

ขอโทษที่ผมปอดแหกเกินไป

 

จนไม่กล้าพูดความจริง

 

ตะ แต่สายตาของทั้งสองมัน

 

นะ น่ากลัวเกินไปแล้วนะ

 

ด้วยสัญชาตญาณของผม

 

ผมบอกได้เลยว่าถ้าหากผมโน้มเอียงไปทางใคร

 

มันจะต้องเกิดเรื่องใหญ่โตขึ้นมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

 

เพราะฉะนั้นผมขอเดินสายกลางครับ

 

อาจารย์สู้ ๆ ครับ

 

สั่งสอนคุณเซลิสเอาให้เข็ดหลาบ

 

เอาให้หนักครับ

 

อย่าได้ออมมือเด็ดขาด

 

หะ จะบอกว่าผมไม่กลางเหรอ?

 

ผมกลางนะ

 

ภาพอาจารย์สาวล้วนอยู่กึ่งกลางสายตาของผมตลอด

 

เพราะฉะนั้นกลางแล้วแน่นอน

 

จะบอกว่าไม่ใช่กลางอย่างนั้นเหรอ?

 

ช่างมันเถอะครับ

 

อย่าไปสนใจเรื่องจุกจิกพวกนั้นเลย

 

มาดูคุณเซลิสโดนสั่งสอนดีกว่า

 

มันจะต้องเป็นฉากภาพที่ยอดเยี่ยมเป็นที่สุดอย่างแน่นอน

 

ผมรับประกัน

 

.

 

.

 

.

 

ว่าแต่ขอออกไปซื้อป๊อปคอร์นได้ไหมครับ

ดะ เดี๋ยวก่อน คุณเซลิสครับ เลิกตามผมสักทีเถอะครับ

ดะ เดี๋ยวก่อน คุณเซลิสครับ เลิกตามผมสักทีเถอะครับ

Status: Ongoing
เพื่อนร่วมห้องของผม คุณเซลิส เธอคือคนแปลกประหลาด ทั้งยังเป็นสาวงามที่สวยที่สุดในโรงเรียนอีกต่างหาก หากจะให้อธิบายความสัมพันธ์ของพวกเราสองคน อธิบายให้เข้าใจ ผมคงไม่พ้นต้องเป็นเหยื่อ ส่วนเธอก็คือนักล่า

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท