ดะ เดี๋ยวก่อน คุณเซลิสครับ เลิกตามผมสักทีเถอะครับ – ตอนที่ 12 ฉันไม่ชอบใจเลยที่เห็นพวกเขากอดกัน

ดะ เดี๋ยวก่อน คุณเซลิสครับ เลิกตามผมสักทีเถอะครับ

ตอนที่ 12 ฉันไม่ชอบใจเลยที่เห็นพวกเขากอดกัน

 

มุมมองของเซลิสเทีย

 

“…”

 

“น่าหงุดหงิด”

 

“น่าหงุดหงิดเป็นที่สุด”

 

ฉันลอบกัดปากแน่น

 

ขณะมองภาพฟางข้าวกำลังหลบเลี่ยงคมดาบ

 

บอกกล่าวตามตรง

 

บอกกล่าวตามความรู้สึก

 

ไม่สมอารมณ์ค่ะ

 

ไม่สมอารมณ์อย่างแรง

 

ทั้งที่แอบตามติดตัวฉันตั้งแต่เช้า

 

ทั้งที่เฝ้ารอคอยว่าจะได้เข้าห้องด้วยกัน

 

กับกลายเป็นว่าฉันต้องเข้าห้องคนเดียว

 

แถมอีกฝ่ายดันมาหายตัวไปซะอีก

 

ไหนจะเรื่องที่เชียร์อาจารย์จนออกหน้าออกตา

 

คิดเหรอว่าฉันไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่

 

ขอโทษนะ

 

แต่ฉันรู้ค่ะ

 

รู้ด้วยว่าคนที่ฟางข้าวเลือกไม่ใช่ฉัน

 

ทำไมต้องไปเชียร์ยัยนั้นด้วยล่ะคะ

 

เชื่อฉันสิ

 

ทำไมถึงไม่ยอมเชียร์ฉัน

 

ไม่ยอมให้กำลังใจฉัน

 

ว่าสองเรื่องที่ผ่านพ้นไปมันหนักแล้วนะ

 

ยิ่งมาเป็นเรื่องสุดท้ายยิ่งหนักหน่วงเข้าไปใหญ่

 

ทั้งที่พวกเราออกจะเหมาะสม

 

ออกจะผสมผสานเข้าหาได้อย่างสมบูรณ์แบบ

 

กับไปเลือกใครคนอื่น

 

แถมใครคนอื่นที่ว่ายังเป็นยัยอาจารย์คนดีคนเดิมอีก

 

นี่คิดอะไรอยู่คะ?

 

ไม่อยากคู่กับฉันขนาดนั้นเลยเหรอ?

 

ฉันถอนหายใจเหนื่อยหน่าย

 

ขณะจ้องมองฉากภาพเบื้องหน้า

 

ตอนนั้นเองที่ฉันได้ยินเสียงจากเพื่อนข้างกาย

 

“…”

 

“ดุเดือดมาก”

 

“…”

 

“จะใช่แบบนั่นเหรอ?”

 

“หมายความว่าไง?”

 

“เธอกำลังบอกว่าฟางข้าวจะแพ้?”

 

“…”

 

นิ่งเงียบไม่มีตอบคำถาม

 

ฉันเลือกไม่ตอบคำตอบ

 

เพียงแค่จ้องมองอย่างเดียวเท่านั้นในตอนนี้

 

กล่าวสำหรับเด็กน้อยอ่อนหัดรวมถึงคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับสมอง

 

ที่กำลังมองฟางข้าวเหลือสิ่งอื่นใด

 

อาจจะหลอกตัวเองว่าฟางข้าว

 

มีโอกาสได้รับชนะในท้ายที่สุด

 

หากแต่ความเป็นจริงมันกับไม่ง่ายดายแบบนั้น

 

แม้จะไม่รู้ว่าทำไมฟางข้าวที่สภาพร่างกายโดนเล่นงาน

 

จนสะบัดสะบอมในตอนแรก

 

ตอนนี้ถึงได้หลบหลีกหลบเลี่ยงได้อย่างง่ายดาย

 

แต่มันก็เป็นแค่หลบเลี่ยง

 

ยังห่างไกลจากคำว่าชนะไปไกลลิบ

 

ฉันตอบเสียงเรียบ

 

ตอบให้เพื่อนร่วมห้องข้างกายได้ยิน

 

“…”

 

“ดูสภาพฟางข้าวในตอนนี้สิ”

 

“ลมหายใจเริ่มแปรปรวน”

 

“ตลอดเนื้อตัวเริ่มสั่นไหว”

 

“ยังไม่รวมเหงื่อที่ไหลเต็มใบหน้าอีก”

 

“ดูยังไง”

 

“…”

 

“มันก็เป็นสัญญาณของคนที่กำลังจะแพ้”

 

“แต่—”

 

“หรือที่ฉันพูดไม่จริง?”

 

นิ่งเงียบไม่มีตอบโต้กลับมา

 

ไม่ใช่ว่าทุกคนในห้องนี้ไม่รู้แต่แค่ไม่อยากจะรู้มากกว่า

 

อย่างว่าล่ะนะพากันหลงหน้ามืดตามัวไปหมด

 

เพราะแบบนี้ไงถึงได้แตกต่างจากฉัน

 

อะไรนะ?

 

จะบอกว่าฉันเองก็หลงฟางข้าวเหรอ?

 

เป็นไปไม่ได้

 

เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด

 

ที่ฉันกลั่นแกล้งเขาก็เพราะต้องการหยอกล้อต่างหาก

 

ยิ่งเห็นสภาพเด็กน้อยที่เนื้อตัวสั่นสะท้านเพราะฉัน

 

มันยิ่งน่าสนุกสนานเข้าไปใหญ่

 

ขณะที่ฉันกำลังจมจ่อมอยู่กับห้วงความคิดของตัวเอง

 

สถานการณ์ก็เริ่มเข้าสู่กระบวนการขั้นตอนท้ายสุด

 

เป็นอาจารย์สาวที่ต้องการจัดการเบ็ดเสร็จเด็ดขาด

 

ฉันที่เห็นเริ่มหรี่ตามอง

 

พร้อมกล่าวขึ้นมาเบาบาง

 

“…”

 

“ดูเอาไว้ให้ดี”

 

“คนที่พวกเธอกำลังเชียร์กำลังจะแพ้”

 

“อย่าได้ละสายตาไปไหน”

 

“…”

 

“ชิ ไม่ชอบเลยแบบนี้”

 

ดูเหมือนจะยอมรับกันได้แล้ว

 

หลังจากเพื่อนร่วมห้องของฉันคนหนึ่งส่งเสียงไม่พอใจ

 

หล่อนก็ลอบกำดาบในมือตัวเองแน่น

 

อาจารย์กำดาบในมือแน่นไปอีกหนึ่งระดับ

 

ก่อนเรือนร่างงดงามจะถีบพุ่งเข้าหาฟางข้าว

 

ทิ้งร่องรอยเป็นภาพติดตาให้เห็นอย่างชัดเจน

 

ซึ่งบ่งบอกว่าระดับความเร็วที่ใช้

 

มันเหนือล้ำกว่าครั้งอื่นไปหลายต่อหลายเท่า

 

และแน่นอนเมื่อพานพบความเร็วระดับนั้นเข้าให้

 

ชะตากรรมที่รอคอยอยู่ก็มีแต่ความพ่ายแพ้เท่านั้น

 

ฉันหลับตาพลางยิ้มส่ายหน้า

 

“จบแล้ว—”

 

“กรี๊๊ดดดดดดดดดดด!”

 

จะโวยวายกันทำไมคะ?

 

แค่ฟางข้าวพ่ายแพ้มันน่าเจ็บปวดขนาดนั้นเลยเหรอ

 

ใช้ไม่ได้—

 

“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!”

 

“ไม่น่า!!!”

 

กระทั่งพวกผู้ชายเองก็เป็นไปกับเขาด้วย

 

จิตใจลูกผู้ชายที่คุยนักคุยหนามันหายไปไหน

 

ฉันที่กำลังถอนหายใจกับเหล่าเพื่อนร่วมห้องที่จิตอ่อนเกินไป

 

ก็เริ่มเปิดตามองหวังมองสภาพฟางข้าวพ่ายแพ้

 

บอกเอาไว้ก่อนว่าฉันเตรียมสมน้ำหน้าฟางข้าวเต็มที่

 

อย่างว่าล่ะนะ

 

นี่แหละคือโทษที่ไม่คู่กับพี่สาวคนนี้

 

หากคู่กับพี่สาวคนนี้

 

พี่สาวคนนี้อาจไม่ลงมือหนักหน่วงมากนักก็ได้

 

หึ เด็กดื้อ

 

ฉะนั้นจงสิ้นหวังซะ~

 

“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด!”

 

บัดซบ!

 

ร้องโวยวายน่ารำคาญ

 

ฉันเลยลืมตาโวยวายสวนกลับไป

 

“มันจะอะไรกันนักกันหนาหะ?!”

 

“แค่แพ้อย่างเดียว—”

 

“อะ”

 

“กะ กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!”

 

ฉันที่พานพบเห็นฉากภาพเบื้องหน้า

 

ก็พลันส่งเสียงกรีดร้องออกมาทันที

 

นะ เนื่องจาก ฟะ ฟางข้าวกำลังโดนกอดอยู่

 

จากเท่าที่คาดเดาด้วยหัวสมองชาญฉลาดของฉัน

 

ในช่วงจังหวะสุดท้ายที่อาจารย์สาวลงมือเกรงว่าฟางข้าวคงหลบไม่พ้น

 

ทั้งยังโดนจับได้อีกต่างหาก

 

แถม ดะ โดนกอดเอาไว้แนบแน่น

 

“ยะ หยุดนะ!”

 

ฉันร้องตะโกนออกมาส่งเสียง

 

ดังยิ่งกว่าที่เหล่าเพื่อนร่วมห้องของฉันที่ส่งเสียงออกมาอีก

 

ไม่ใช่แค่ฉันคนเดียวเท่านั้น

 

แต่ยังรวมไปถึงคนทุกคนที่ร้องประท้วงกันอย่างหนักหน่วง

 

แต่อาจารย์ก็หาได้สนใจ

 

พร้อมทั้งกอดแน่นกว่าเดิม

 

คล้ายจะกอดกันจนกว่าฟางข้าวจะยอมแพ้

 

และเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น

 

นะ เนื่องจากฟางข้าวยอมแพ้

 

“…”

 

“ยอมไหม~”

 

“…”

 

“มะ ไม่”

 

“…”

 

“ยอมรึเปล่า~”

 

พอตอบปฏิเสธ

 

อ้อมกอดก็เริ่มแนบแน่นมากขึ้น

 

ตัวฟางข้าวเริ่มสังเกตเห็นสิ่งผิดปรกติ

 

ที่ปรากฏในแววตาของอาจารย์สาว

 

หลังจากลังเลใจอยู่นาน

 

ในที่สุดเจ้าตัวก็เอ่ยปากยอมแพ้

 

“ยะ หยุดได้แล้วครับ”

 

“ก็คุณไม่ยอม—”

 

“ยอมแล้วครับ”

 

“ยอมแล้ว”

 

“ปล่อยผมไปเถอะ”

 

หลังจากกล่าวเสร็จสิ้นเรียบร้อย

 

ฟางข้าวไม่มีขยับไปไหนเลยแม้แต่น้อย

 

คล้ายยินยอมโดนกระทำอย่างสมบูรณ์

 

ได้กอดกับฟางข้าว

 

ได้กอดเจ้าก้อนนุ่มนิ่มแบบนั้นมันขี้โกง

 

ขี้โกงเกินไปแล้วนะ

 

ฉันลอบกำหมัดตัวเองแน่น

 

ตอนนั้นเองที่อาจารย์สาว

 

วางมือบนหัวฟางข้าว

 

พร้อมลูบไปมาอย่างละเอียดถี่ถ้วน

 

พร้อมกล่าวถ้อยคำกลับไป

 

“…”

 

“ทำได้ดีมากค่ะ”

 

“ไม่บ่อยนะที่ฉันจะใช้ความเร็วขนาดนี้กับนักเรียน”

 

“โดยเฉพาะกับนักเรียนแบบคุณ”

 

“เก่งมากค่ะ”

 

“…”

 

“ขะ ขอบคุณครับ”

 

“นี่”

 

“ครับ?”

 

“จะกอดต่อก็ได้นะ”

 

“ถ้าเธอต้องการ”

 

อาจารย์สาวยิ้ม

 

ขณะก้มกระซิบข้างหูฟางข้าว

 

กระซิบด้วยน้ำเสียงหื่นกระหายขั้นสุด

 

เขาที่ได้ยินถึงกับดวงตาเบิกกว้าง

 

ก่อนกระโดดถอยหลังสุดตัว

 

จนกระทั่งหลุดลอดจากเงื้อมืออีกฝ่ายได้สำเร็จ

 

ฟางข้าวกล่าวร้องด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก

 

“ยะ อย่ามาล้อเล่นสิครับ”

 

“…”

 

อาจารย์สาวเพียงยิ้มหัวเราะเบาบาง

 

ก่อนหันมากล่าวกับพวกเรา

 

กล่าวด้วยน้ำเสียงปรกติธรรมดา

 

ผิดกับแววตาที่เปิดเผยร่องรอยเย้ยหยันออกมาไม่ขาดสาย

 

“เชิญฝึกซ้อมกันต่อได้เลยค่ะ”

 

“ตั้งใจฝึกเข้าล่ะ”

 

“…”

 

ฝึกหัวเธอสิ

 

ทำแบบนั้นกับฟางข้าว

 

อย่าหวังว่าจะลอยหน้าลอยตาอยู่เลย

 

ต้องสั่งสอน

 

สั่งสอนให้หลาบจำ

 

ไม่ใช่แค่อาจารย์ที่ต้องสั่งสอน

 

แต่ยัยเด็กที่อยู่ตรงหน้าฉันก็ต้องสั่นสอนด้วย

 

กล้าดียังไงถึงได้ไปกอดกับใครคนอื่นที่ไม่ใช่ฉัน

 

ต้องสั่งสอนค่ะ

 

ฟางข้าวที่เดินเข้ามาเห็นสีหน้าของฉัน

 

เจ้าตัวรีบเปลี่ยนไปนั่งที่อื่นทันที

 

จุดนี้ยิ่งทำให้ฉันเดือดดาลเข้าไปใหญ่

 

“…”

 

“หนีได้”

 

“แต่อย่าหวังว่าจะหนีได้ตลอด”

 

ฟางข้าวเนื้อตัวสั่นสะท้านไปหมด

 

เหมือนจะได้ยินคำพูดของฉันด้วย

 

ช่างน่ารักอะไรแบบนี้

 

รอก่อนนะ

 

ขอพี่สาวไปเตรียมแผนการก่อน

 

หลังจากนั้น

 

พวกเราค่อยมาเล่นกันใหม่

 

รวมถึงยัยอาจารย์นั้นด้วย

 

ที่กล้ามาแตะต้องของเล่นของฉัน

 

ต้องเล่นให้หนัก

 

ดะ เดี๋ยวก่อน คุณเซลิสครับ เลิกตามผมสักทีเถอะครับ

ดะ เดี๋ยวก่อน คุณเซลิสครับ เลิกตามผมสักทีเถอะครับ

Status: Ongoing
เพื่อนร่วมห้องของผม คุณเซลิส เธอคือคนแปลกประหลาด ทั้งยังเป็นสาวงามที่สวยที่สุดในโรงเรียนอีกต่างหาก หากจะให้อธิบายความสัมพันธ์ของพวกเราสองคน อธิบายให้เข้าใจ ผมคงไม่พ้นต้องเป็นเหยื่อ ส่วนเธอก็คือนักล่า

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท