ดะ เดี๋ยวก่อน คุณเซลิสครับ เลิกตามผมสักทีเถอะครับ – ตอนที่ 22 ผมหลับตาแน่นไม่เห็นอะไรทั้งนั้น

ดะ เดี๋ยวก่อน คุณเซลิสครับ เลิกตามผมสักทีเถอะครับ

ตอนที่ 22 ผมหลับตาแน่นไม่เห็นอะไรทั้งนั้น

 

หลังจากปิดไลพ์เสร็จสิ้นเรียบร้อย

 

ก็ถึงเวลาต้องเปิดอกพูดคุย

 

ผมถอนหายใจหลายต่อหลายครั้ง

 

ก่อนย้ายตัวเองมานั่งตรงข้ามพี่สาวปริศนา

 

ย้ายมานั่งจดจ้องมองหน้าหวังค้นคว้าหาความเป็นจริง

 

ความเป็นจริงที่ทำให้เธอมาอยู่ที่บ้านของผม

 

มากกว่าบ้านของตัวเอง

 

“…”

 

ถึงจะโดนจับจ้องมองจากผม

 

แต่พี่สาวแสนสวย

 

ก็ยังคงเหลือบมองออกไปนอกหน้าต่างตามเดิม

 

ทำเหมือนกับว่าทุกสิ่งอย่างล้อมรอบกาย

 

ล้วนเป็นเพียงเศษฝุ่นละอองจับต้องไม่ได้

 

ไร้ค่าเกินกว่าจะละสายตา

 

หลังจากจับจ้องมองอยู่นาน

 

ในที่สุดผมก็ตัดสินใจ

 

ตัดสินใจบอกกล่าวไปตามตรง

 

พูดกล่าวเข้าประเด็นไม่มีอ้อมค้อม

 

“…”

 

“เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลากับเราทั้งสองคน”

 

“…”

 

“ผมขออนุญาตตัดเข้าประเด็นเลยนะครับ”

 

“คุณมาทำอะไรที่บ้านของผม?”

 

“เข้ามาที่นี่ได้ไง?”

 

“ใครอนุญาตให้คุณ”

 

“…”

 

“จำเป็นต้องตอบ?”

 

“ครับ” 

 

“จำเป็นต้องตอบ”

 

“ต้องตอบตอนนี้ด้วย”

 

สิ้นเสียงยื่นคำขาดของผม

 

พี่สาวปริศนาที่เมินเฉยในตอนแรก

 

เลือกหันหน้ากลับมามอง

 

กลับมามองหน้าผมอีกครั้ง

 

มองด้วยแววตาปรกติธรรมดามีติดเย็นชานิดหน่อย

 

ก่อนจะกล่าวอ้าปากเปล่งเสียงราบเรียบปราศจากอารมณ์

 

ผิดกับเนื้อหาที่ทำเอาผมขนลุกไปทั่วทั้งร่างกาย

 

“เธอลำบากใจสินะ”

 

“งั้นเหรอ”

 

“ถ้าการกระทำของฉันมันทำให้เธอลำบากใจ”

 

“มันทำให้เธอต้องเดือดร้อน”

 

“ขอโทษค่ะ”

 

“เพียงแต่ว่าฉันอยากจะลองอีกครั้ง”

 

“อยากจะลิ้มลองมัน”

 

แววตามองตรง

 

มองสอดผสานไม่มีหลบเลี่ยง

 

ตอนแรกผมเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน

 

ว่าพี่สาวแสนสวยกำลังหมายถึงอะไร

 

จนกระทั่งปลายสายตาจับจ้องไปที่ลำคอ

 

ไม่สิ ต้องบอกว่ามองไปที่รอยเขี้ยว

 

รอยเขี้ยวที่พี่สาวคนดีคนเดิมตรงหน้าทิ้งเอาไว้ให้ผม

 

คล้ายแววตาจะเปล่งแสงสีแดงออกมาด้วย

 

แม้จะเป็นเพียงส่วนเล็กน้อยก็เถอะ

 

แต่แค่มองผมก็นึกภาพออกได้ทันที

 

ด้วยความตื่นตระหนกตกใจขั้นสุด

 

เลยรีบยกมือปิดคอตัวเอง

 

ยกขึ้นมาไม่ผ่านหัวสมองคิดไตร่ตรอง

 

ยกขึ้นมาโดยอาศัยสัญชาตญาณเป็นหลัก

 

“!!!”

 

“…”

 

“ไม่ได้เหรอ?”

 

พี่สาวเอียงคอถาม

 

โยนคำถามกลับมาที่ผม

 

แน่นอนว่ามันต้องไม่ได้

 

ไม่มีทางได้อยู่แล้วปะ

 

ผมกดฝ่ามือตัวเองลงต่ำ

 

กันไม่ให้ตัวเองเคลื่อนไหวขยับไปไหน

 

พร้อมพยายามกล่าวตอบกลับไป

 

กล่าวตอบด้วยน้ำเสียงที่นิ่งที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

 

แม้มันจะสั่นเครือก็ตาม

 

ผะ ผมสั่นสู้นะ

 

ไม่ใช่เพราะว่ากลัว

 

“มะ ไม่ได้ครับ”

 

“ห้ามเด็ดขาด”

 

“แค่ครั้งเดียวก็เกินพอแล้วครับ”

 

“แล้วต้องทำยังไงถึงจะได้ลิ้มลองมันอีกครั้ง?”

 

“ต้องใช้เงินหรือว่าร่างกาย?”

 

“…”

 

ดวงตาผมเบิกกว้างขั้นสุด

 

พะ พี่สาวตรงหน้าพูดอะไรออกมา

 

หัวสมองเพี้ยนไปแล้วเหรอ

 

“งะ เงิน”

 

“ระ ร่างกาย”

 

“มะ หมายความว่าไง?”

 

“ผะ ผมไม่เข้าใจ”

 

บอกกล่าวตามตรง

 

ผมตกใจมากเลยที่โดนถามกลับมาแบบนั้น

 

ซึ่งยังไม่ทันได้เรียบเรียงแนวความคิด

 

พี่สาวตรงหน้าก็เริ่มทำอะไรสักอย่างที่เหนือล้ำสามัญสำนึก

 

เหนือเกินกว่าผมจะจินตนการถึง

 

ธะ เธอเริ่มปลดเสื้อผ้าตัวเองครับ

 

ปลดออกมาโดยไม่มีบอกกล่าว

 

ผมที่เห็นเลยพยายามหักห้ามเต็มที่

 

เกิดปล่อยให้ถอด

 

ผะ ผมคงแต่งงานกับใครไม่ได้

 

ฉะ ฉะนั้นต้องห้ามครับ

 

ห้ามเอาไว้ให้ได้

 

ห้ามปล่อยให้เธอถอดเด็ดขาด

 

เมื่อคิดได้ผมก็พุ่งเข้าไปห้ามทันที

 

พุ่งออกไปโดยไม่มีคิดหน้าคิดหลัง

 

“ยะ อย่านะ!”

 

“…”

 

“อึก!”

 

ด้วยความที่หัวสมองทำงานรวดเร็ว

 

บวกกับร่างกายขยับเคลื่อนไหวไปเอง

 

ผลสุดท้ายปลายทางที่ออกมา

 

ก็คือ…

 

ผมเหยียบของบางอย่างเข้าให้

 

ก่อนล้มทับพี่สาวปริศนาไปในที่สุด

 

ล้มทับใส่เป็นที่เรียบร้อย

 

ทั้งสองต่างมองหน้ากันและกัน

 

ผมที่ตกใจมาก

 

พยายามลุกขึ้น

 

“ขะ ขอโทษครับ”

 

“…”

 

พี่สาวเพียงหรี่ตามอง

 

“ทำแบบนี้”

 

“ฉันถือว่าอนุญาตนะ”

 

“ครับ?”

 

หัวสมองว่างเปล่า

 

กับเหตุการณ์ที่มันเกิดขึ้นรวดเร็วเกินไป

 

สุดท้ายปลายทางผมก็เลยโดนเล่นงาน

 

โดนกอดรัดโอบเอวเอาไว้

 

ทำให้โอกาสลุกหนีหายวับไปกับตา

 

“…ไม่!”

 

“ปะ ปล่อย”

 

“ปล่อยก่อนได้ไหมครับ?”

 

“…”

 

“ขอร้อง—”

 

งับ!

 

แทนคำตอบ

 

ด้วยการฝังเขี้ยวเข้าข้างลำคอ

 

ตำแหน่งเดิมกับที่พี่สาวได้ฝากทิ้งให้

 

แน่นอนว่าผมพยายามทำทุกสิ่งอย่าง

 

เพื่อหวังให้หลุดพ้นจากสถานการณ์ตรงหน้า

 

น่าเสียดายที่มันช่างเปล่าประโยชน์เหลือเกิน

 

ทำได้แค่ยอมรับชะตากรรม

 

ยอมโดนดื่มเลือดไปทั้งแบบนั้น

 

“ดะ เดี๋ยวก่อน”

 

“อย่าพึ่ง”

 

“ไม่—”

 

 

ครับ

 

 

ผมหนีไปไหนไม่รอด

 

และแล้วเวลาก็ลากผ่านไป

 

นานจนตัวผมเองก็จำไม่ได้เหมือนกัน

 

ว่ามันผ่านไปเนิ่นนานขนาดไหน

 

===

 

จนกระทั่งตอนเช้า

 

แสงอาทิตย์ส่องเข้ามาในห้องนอน

 

ผมลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง

 

ลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยสภาพมึนงงสับสนไม่เข้าใจ

 

ทั้งยังมีอาการปวดหัวตามมา

 

เจ็บปวดลามขึ้นสมอง

 

“เจ็บ?”

 

“…”

 

“ตอนเช้า?”

 

“มะ เมื่อคืน”

 

“เกิดอะไรขึ้น?”

 

ฉากภาพจำตอนโดนกัดคอ

 

ไหลผ่านเข้ามาในหัวสมอง

 

“จริงสิ!”

 

ผมจับเข้าที่ข้างลำคอตัวเอง

 

แผลยังเหมือนเดิม

 

ไม่มีแผลอื่นเพิ่มเติม

 

แต่ที่เหนือยิ่งกว่าก็คือ

 

สัมผัสเย็นสบายขั้นสุด

 

เป็นสัมผัสที่ผมมักจะรู้สึกได้ตอนแก้ผ้าอาบน้ำเท่านั้น

 

บอกกล่าวตามตรง

 

ผมพอรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น

 

เพียงแค่ยังไม่อยากจะยอมรับความจริง

 

เมื่อตัดสินใจเสร็จสิ้น

 

ผมพลันก้มมองตัวเอง

 

ก่อนจะพบเห็นว่าร่างกายเปลือยเปล่า

 

แน่นอนว่าที่เปลือยเปล่าไม่ได้มีแค่ผม

 

คุณพี่สาวข้างกายเองก็เปลือยเปล่าด้วย

 

ผมอ้าปากค้าง

 

“…”

 

“อือ~”

 

“…”

 

ขะ ขาวมากครับ

 

ด้วยอายุนับสิบปีที่เกิดมา

 

ยังไม่เคยเห็นร่างกายเปลือยเปล่าของผู้หญิงเลยแม้แต่คนเดียว

 

แม้จะน่าสงสารแต่มันก็คือความจริง

 

เป็นความจริงที่ยากจะปฏิเสธ

 

แต่ตอนนี้ผมกับได้เห็นเต็มสองตา

 

มันช่าง

 

ละ ลามกเกินไปแล้วนะ!

 

ริ้วแดงปรากฏบนใบหน้า

 

รีบยกมือขึ้นมาปิดดวงตาทันที

 

“…”

 

“ผะ ผมไม่เห็น”

 

“ผมไม่เห็นอะไรทั้งนั้น”

 

“ไม่เห็น—”

 

“อรุณสวัสดิ์”

 

สุ้มเสียงดังขึ้นอีกครั้ง

 

ดังในสภาพที่ผมหลับตาแน่น

 

มันมีเสียงแปลกประหลาดดังหลายต่อหลายครั้ง

 

ผมเลยพยายามเปิดนิ้วแอบดู

 

บะ บอกเอาไว้ก่อน

 

ผมไม่ได้ตั้งใจจะแอบดูนะ

 

คะ แค่อยากจะตรวจสอบ

 

และผมก็ต้องพานพบเจอความจริง

 

ความจริงที่ว่า

 

หล่อนนั่งเปลือยเปล่าไม่มีอะไรปกปิดเลยแม้แต่น้อย

 

นะ นี่มัน นี่มัน นี่มัน

 

“!!!”

 

“…”

 

“แอบดู?”

 

พี่สาวปริศนากล่าวเสียงเรียบ

 

ไม่มีเขินอายแม้แต่น้อย

 

อา~ ร่างกายผู้หญิงนี่มันช่าง

 

มหัศจรรย์จริง ๆ นั่นคือความคิดสุดท้าย

 

ก่อนทุกสิ่งอย่างจะดำมืด

 

จางหายไปพร้อมกับสติของผมอีกครั้ง

ดะ เดี๋ยวก่อน คุณเซลิสครับ เลิกตามผมสักทีเถอะครับ

ดะ เดี๋ยวก่อน คุณเซลิสครับ เลิกตามผมสักทีเถอะครับ

Status: Ongoing
เพื่อนร่วมห้องของผม คุณเซลิส เธอคือคนแปลกประหลาด ทั้งยังเป็นสาวงามที่สวยที่สุดในโรงเรียนอีกต่างหาก หากจะให้อธิบายความสัมพันธ์ของพวกเราสองคน อธิบายให้เข้าใจ ผมคงไม่พ้นต้องเป็นเหยื่อ ส่วนเธอก็คือนักล่า

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท