ดะ เดี๋ยวก่อน คุณเซลิสครับ เลิกตามผมสักทีเถอะครับ – ตอนที่ 25 การศึกที่มองไม่เห็นระหว่างหญิงสาว

ดะ เดี๋ยวก่อน คุณเซลิสครับ เลิกตามผมสักทีเถอะครับ

ตอนที่ 25 การศึกที่มองไม่เห็นระหว่างหญิงสาว

 

นี่คงเป็นครั้งแรกที่พวกเราได้พบเจอหน้ากัน

 

ฉันชื่อ ‘เฟรย์’ ค่ะ

 

ยินดีที่ได้รู้จัก

 

เป็นผู้หญิงปรกติธรรมดา

 

มีเชื้อสายเป็นแวมไพร์

 

เผ่าพันธุ์หายากยิ่ง

 

ที่น้อยครั้งจะปรากฏตัวบนโลกมนุษย์

 

นอกจากฐานะ ‘แวมไพร์’ สาว

 

ยังมีอีกฐานะหนึ่ง

 

นั่นก็คือนักเรียนโรงเรียน ‘ไลออนฮาร์ท’ 

 

โรงเรียนที่สรรสร้างบุคลากรยอดเยี่ยม

 

ไม่ว่าจะทั้งนักรบหน่วยก้านดี

 

หรือนักวิชาการมากไปด้วยองค์ความรู้

 

อีกทั้งฉันยังอยู่โรงเรียนเดียวกับเด็กน้อยตรงหน้าด้วย

 

หลายต่อหลายคนคงมีคำถามอยู่ในจิตใจ

 

เช่น ทำไมฉันถึงมาอยู่ที่นี่

 

 

นั่นไงมาแล้ว

 

ถามว่าทำไมต้องตามติดขนาดนั้น?

 

เล่นตามติดฟางข้าว

 

ตั้งแต่โรงเรียนจนถึงบ้าน

 

อือ~

 

สำหรับคำถามข้อนี้

 

ไม่ขอตอบค่ะ

 

เก็บเอาไว้ตอบตอนหลังดีกว่า

 

เกิดตอบไปตอนนี้เดี๋ยวจะหมดสนุกเอา

 

อดทนอดใจรอไปก่อนนะคะ

 

 

กลับมาประเด็นเดิมดีกว่า

 

ย้อนความเดิมตอนที่แล้ว

 

หลังจากที่เด็กน้อยคนหนึ่ง

 

คนที่กล่าวอ้างตัวเองว่าความทรงจำยอดเยี่ยม

 

เลือกแหกปากร้องตะโกนดังลั่น

 

ตะโกนใส่หน้าฉัน

 

ตะโกนใส่เพียงเพราะ

 

โทษฐานที่ไม่ยอมบอกเขา

 

ไม่ยอมบอกว่าวันนี้เป็นวันเสาร์

 

ทั้งยังปล่อยให้เดินโง่งมอยู่ตั้งนาน

 

นานนับ 10 นาที

 

ซึ่งถ้าหากว่ากล่าวตามตรง

 

ยึดตามหลักความเป็นจริง

 

มันไม่ใช่ความผิดของฉันสักหน่อย

 

ไม่ใช่ความผิดของฉันด้วยซ้ำ

 

ตัวฉันพยายามจะบอกกล่าวหลายต่อหลายครั้งแล้ว

 

เป็นเด็กน้อยตรงหน้าต่างหากที่บอกปัดตลอด

 

ทีอย่างนี้ยังจะมาถือโทษโกรธกันอีก

 

ฉันถอนหายใจเหนื่อยหน่าย

 

ก่อนจะตอบกลับไป

 

ตอบกลับไปตามความเป็นจริง

 

ไม่มีโกหกเลยแม้แต่น้อย

 

“…”

 

“ฉันพยายามจะบอกแล้ว”

 

“แต่เธอไม่ยอมฟังเอง”

 

“เพราะฉะนั้น”

 

“มันไม่ใช่ความผิดของฉัน”

 

“แล้วทำไมถึงไม่พยายามให้มากกว่านี้ล่ะ!”

 

“…”

 

เด็กน้อยทรุดตัวนั่งกับพื้น

 

พร้อมกุมขมับแน่น

 

“จบแล้ว”

 

“ความพยายามทั้งหมดในรอบหลายสิบนาที”

 

“เป็นอันต้องสูญเปล่าไปทั้งหมด”

 

“เพราะคุณคนเดียวเลย”

 

เห็นเด็กน้อยฟางข้าวกุบขมับทั้งสองข้าง

 

ทั้งยังบ่นเรื่องราวมากมายที่มันผ่านไปแล้ว

 

ฉันก็ทำได้แค่ส่ายหน้าไปมาเท่านั้น

 

ก่อนจะถอนหายใจเหนื่อยหน่าย

 

ตัวเองดันเลือกไม่ฟังคำพูดของคนอื่นเอง

 

มาตอนนี้ยังจะมาโทษคนอื่นอีก

 

ช่างน่าเหนื่อยใจแท้

 

น่าจับมาดูดเลือดให้หมดตัว

 

 

หรือว่าจับมาดูดได้เลย

 

ไม่ต้องรอคอยให้อีกฝ่ายยินยอม

 

ส่วนเหตุผลก็

 

เหตุผลก็…

 

โทษฐานที่ทำเราเสียเวลาเปล่า

 

 

ไม่เลวเลยแนวคิดเมื่อครู่

 

แต่ก่อนจะทำอะไรอย่างอื่นเพิ่มเติม

 

ขอหยอกล้อสักหน่อยเถอะ

 

ถือเป็นการเอาคืนเล็กน้อย

 

ว่าแล้วก็เอ่ย ‘ถ้อยคำนั้น’ ออกมา

 

ถ้อยคำที่ทำให้อีกฝ่ายต้องดิ้น

 

ไม่ชอบใจเป็นทุกครั้ง

 

เมื่อเอ่ยถึง

 

“ไหนเธอบอกว่า”

 

“ความทรงจำยอดเยี่ยม—”

 

“ไม่ฟัง!”

 

“ไม่ฟัง!”

 

“ไม่ฟัง!”

 

“ไม่ฟังอะไรทั้งนั้นแหละ!”

 

“เงียบไปเลย!”

 

ฟางข้าวส่ายหน้าปฏิเสธ

 

พร้อมหลับตาไม่คิดเงยหน้ามอง

 

ไม่ว่าจะมองกี่ครั้ง

 

ก็ยากจะเชื่อว่าเป็นใบหน้าของผู้ชาย

 

ยังไม่รวมผิวขาวเนียน

 

เรียวแขนเบาบางเปราะบางเหมือนกับกิ่งไม้

 

ไม่ว่าส่วนไหนก็ยากจะมองว่าเป็นผู้ชาย

 

อะ เว้นส่วนหนึ่งละกัน

 

หึหึหึ

 

ไม่บอกหรอกว่าส่วนไหน

 

ไปคิดเองค่ะ

 

 

เหมือนใครบางคนกำลังจับจ้องมอง

 

อือ~

 

เป็นฟางข้าวนั่นเอง

 

ที่เงยหน้ามองตรงมาที่ฉัน

 

แถมแววตายังแปลกประหลาดอีกต่างหาก

 

ฉันก็เลยถามกลับไปตามตรง

 

ถามหวังอยากได้คำตอบ

 

“…”

 

“มองอะไร?”

 

“…”

 

“เมื่อกี้…”

 

“เมื่อกี้ทำหน้าแปลกประหลาดมาก”

 

“คิดอะไรอยู่รึเปล่า?”

 

เหมือนฉันจะหลงระเริงมากเกินไปหน่อย

 

จนเผลอปล่อยเนื้อปล่อยตัวจนโดนจับได้

 

แสดงว่าฉันเองก็ยังอ่อนหัดไม่น้อยสินะ

 

ระหว่างที่ฉันกับฟางข้าวกำลังแลกเปลี่ยนสายตา

 

แลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน

 

ตอนนั้นเองที่หญิงสาวอีกหนึ่งกล่าวขึ้น

 

ทั้งยังกล่าวด้วยท่วงท่าเป็นมิตร

 

ผิดกับแววตาที่แอบแฝงไปด้วยแผนการ

 

เป็นแววตาที่ฉันชอบไม่ลงจริง ๆ

 

“เอาน่า~”

 

“…”

 

“ไหน ๆ ก็ไหน ๆ ล่ะ”

 

“ไปที่บ้านของพี่สาวไหม?”

 

“บ้านพี่สาวอยู่ไม่ไกลนะ”

 

“ขะ เข้าไปในบ้านของพี่สาว?”

 

ฟางข้าวที่ได้ยินคำกล่าวเชิญชวน

 

กับแสดงอาการผิดแปลกออกไป

 

ซึ่งอาการดังกล่าวมันค่อนข้าง

 

แตกต่างจากคราวที่อยู่กับฉัน

 

แตกต่างมากเลย

 

อือ ถ้าจะให้อธิบายให้ชัดเจนและตรงประเด็นมากที่สุด

 

ก็น่าจะเป็นความกลัวละมั้ง

 

ใช่ เขากำลังกลัว

 

กลัวหญิงสาวตรงหน้า

 

หรือไม่ก็กลัวอย่างอื่น

 

แน่นอนว่าฉันเองก็พอคาดเดาได้บางส่วน

 

เซซิเลียยิ้มไม่มีเปลี่ยนสีหน้า

 

“ใช่จ๊ะ”

 

“…”

 

“ไปที่บ้านของพี่สาว”

 

“ตั้งแต่ที่เธอ ‘กลับไป’ฟางข้าวก็ไม่ร่าเริงเหมือนอย่างเคย”

 

“พี่สาวเห็นแล้วก็อดเศร้าใจไม่ได้”

 

“…”

 

“อยากลองแวะไปหาไหม?”

 

“พี่สาวเชื่อว่าฟางข้าวเองก็ต้องยินดีแน่นอน”

 

“ถ้าเกิดเธอไปหา”

 

“เพราะฉะนั้น~”

 

“…”

 

สายตาหญิงสาวพลันแปรเปลี่ยน

 

ในขณะเดียวกันฉันเองก็สัมผัสได้ถึงบางสิ่งอย่าง

 

บางสิ่งอย่างที่กำลังเข้าใกล้ด้วยความเร็วสูง

 

เพื่อความปลอดภัยของฟางข้าว

 

ฉันเลยดึงเธอเข้าหาตัว

 

มะ ไม่ใช่เพราะอยากจะกอดหรอกนะ

 

อย่าได้เข้าใจผิดไปล่ะ

 

“หลบออก”

 

“ครับ?”

 

“…”

 

“อะไรสักอย่างกำลังเข้ามาใกล้”

 

และทันทีที่ฉันดึงฟางข้าวขยับเข้ามาตัว

 

ตอนนั้นเองที่ร่างบางสิ่งอย่าง

 

พุ่งออกมาจากพุ่มไม้ข้างทาง

 

“!!!”

 

เป็นหมาป่า

 

หากแต่ไม่ใช่หมาป่าปรกติธรรมดา

 

เป็นหมาป่ามีเขา

 

หรือก็คือ ‘หมาป่าเขาแหลม’ หนึ่งในมอนสเตอร์แถวนี้

 

ทั้งยังเป็นมอนสเตอร์อันตรายสำหรับคนปรกติธรรมดาทั่วไป

 

ดวงตาสีแดงมากไปด้วยจิตสังหาร

 

จดจ้องมองไปที่เซซิเลีย

 

ก่อนมันจะพุ่งเข้าหาอีกฝ่ายทันที

 

ฟางข้าวที่เห็นพลันกรีดร้องออกมา

 

“…”

 

“พี่สาว!”

 

“…”

 

ส่วนเซซิเลีย

 

เธอเพียงยืนนิ่งเงียบทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

 

ทำเหมือนทุกสิ่งอย่างเป็นเพียงเศษเดน

 

ไร้ค่าไม่คิดมอบความสนใจให้

 

“หึ ขยะ”

 

“หะ?”

 

ฟางข้าวหลุดร้องอุทานเบาบาง

 

ฉากภาพเซซิเลียโดนเล่นงานไม่มีเกิดขึ้น

 

กับเป็นอีกฝ่ายต่างหากที่โดนหลังฝ่ามือตบเข้าให้

 

เรี่ยวแรงที่ใช้ตบมากพอบดขยี้อีกฝ่ายให้กลายเป็นเศษเนื้อ

 

ร่างหมาป่าเขาแหลมปลิวกระเด็นอัดกำแพง

 

ก่อนร้องเสียหลงออกมา

 

“อ๊าาากก!”

 

“…”

 

แน่นอนว่าลำพังลงมือปรกติธรรมดา

 

ยากจะฆ่ามันให้ตายสนิท

 

หมาป่าเขาแหลมฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว

 

ก่อนจะพุ่งเข้าหาอีกฝ่ายอีกครั้ง

 

ติดที่เซซิเลียไม่คิดขยับไปไหน

 

เปิดช่องว่างให้ลงมือขั้นสุด

 

แถมเธอยังเอาแต่มองหน้าฉัน

 

คล้ายต้องการบางสิ่งอย่าง

 

ฉันถอนหายใจ

 

เลยลงมือคิดช่วยเหลือเล็กน้อย

 

ถือว่าทำบุญทำทาน

 

อีกทั้งใบหน้าของฟางข้าวยังกังวลออกหน้าออกตา

 

บอกกล่าวตามตรง

 

ฉันไม่ชอบเลยที่เห็นเขาทำหน้าแบบนั้น

 

เมื่อตัดสินใจเสร็จสินเรียบร้อย

 

ฉันก็เลยสะบัดมือเปลี่ยนหยดเลือด

 

ให้กลายเป็นกระสุนเจาะทะลุทะลวงเข้ากะโหลก

 

มอบความตายให้กับมันโดยไม่ต้องทรมาน

 

พร้อมกล่าวถากถางให้ได้ยิน

 

“…”

 

“คนประมาทมักตายเร็วเสมอ”

 

“…”

 

“หมายถึงพี่สาว?”

 

“พี่สาวคนนี้แค่เปิดโอกาสให้รุ่นน้องได้แสดงฝีมือเท่านั้น”

 

“ทำไมต้องมาปากดีใส่กันด้วย”

 

“…พะ พี่สาวทั้งสอง”

 

“…”

 

เห็นแก่ฟางข้าวที่เริ่มกระวนกระวาน

 

ฉันจะยอมถอยให้ละกัน

 

ถือซะว่าเป็นความเมตตากรุณาของฉันคนนี้

 

แต่เหมือนกับใครบางคนจะไม่เข้าใจ

 

ไม่เห็นค่า 

 

หล่อนหันหน้ามาหาฟางข้าว

 

ทั้งยังเอ่ยเชิญชวนเหมือนเดิม

 

ทำราวกับฉันคนนี้เป็นเพียงอากาศธาตุ

 

แค่มองดูหน้าฟางข้าวก็น่าจะรู้แล้วไม่ใช่เหรอ

 

ว่าเขาไม่อยากไป

 

ไม่อยากเข้าไปยุ่งวุ่นวายด้วย

 

ทำไมถึงคิดไม่ได้

 

อยากจะตายใช่ไหม

 

ไม่สิ

 

ตายสักครั้งสองครั้งไหม

 

ลองดู

 

เผื่อจะติดใจ

 

“คำเชิญของพี่สาวยังเหมือนเดิม”

 

“ถ้าน้องชายไม่รังเกียจ”

 

“บ้านพี่สาวก็พร้อมเสมอ”

 

“ว่าไง?”

 

“สนใจไหม?”

 

“…”

 

“มะ ไม่ดีกว่าครับ”

 

“เกรงใจ”

 

“น่าเสียดายจัง”

 

“พี่สาวอุตส่าห์คาดหวังไม่น้อย”

 

“อีกอย่างถ้าน้องชายมาที่บ้านของพี่สาว”

 

“พี่สาวมีใครบางคนที่อยากจะแนะนำให้ด้วยนะ”

 

“เชื่อว่าน้องชายเองก็ต้องชอบ ‘เธอ’ อย่างแน่นอน”

 

“…”

 

ทันทีที่คำว่า “เธอ” หลุดออกมาจากปากของเซซิเลีย

 

ฟางข้าวก็ออกอาการตอบสนองต่อคำกล่าวทันที

 

เนื้อตัวเริ่มสั่นสะท้านไปหมด

 

ทั้งยังก้าวเท้าถอยหลังหลายต่อหลายก้าว

 

ช่างเป็นปฏิกิริยาตอบโต้ที่น่ารักจัง

 

น่ารักมาก~

 

ไม่ได้สิ

 

ตอนนี้ต้องจัดการเรื่องตรงหน้าก่อน

 

ฟางข้าวยิ้มแห้ง

 

พร้อมหาข้ออ้างเตรียมหนีเอาตัวรอด

 

“…”

 

“ไม่ดีกว่าครับ”

 

“ผะ ผมมีที่อื่นต้องไป”

 

“ขะ ขอตัวก่อนครับ”

 

หลังจากกล่าวขอตัวลาเสร็จสิ้นเรียบร้อย

 

ฟางข้าวตัวน้อยก็หันหลังวิ่งหนีหายไปเลย

 

หนีหายไปโดยไม่มีรอคอยฉันเลยแม้แต่น้อย

 

มันน่าน้อยใจนะ

 

ที่หนีโดยไม่บอกกล่าว

 

 

แต่ไม่เป็นไรค่ะ

 

ฉันเป็นคนใจกว้าง

 

จะใจกว้างมากกว่านี้

 

ถ้าได้ดื่มดูดเลือดอีกสักหน่อย

 

อะ ไม่ใช่ว่าเพราะฉันหาข้ออ้าง

 

อยากจะดูดดื่มเลือดเขาหรอกนะคะ

 

อย่าเข้าใจผิดไปล่ะ

 

===

 

เด็กน้อยตอนนี้วิ่งหนีหายไปในความมืด

 

หลงเหลือเพียงหญิงสาวสองคนเท่านั้นที่ยืนอยู่ที่เดิม

 

หนึ่งคือฉันคนนี้

 

คนที่คอยปกป้องฟางข้าวเสมอมาไม่ว่าที่ใด (?)

 

อีกหนึ่งคือเซซิเลียผู้มีฐานะเป็นแม่ของเซลิสเทีย

 

หญิงสาวผู้งดงามมากที่สุดในโรงเรียน

 

ทั้งยังเป็นเพื่อนร่วมห้องเดียวกับฟางข้าว

 

แถมยังเป็นคนน่ารำคาญ

 

ที่คิดเก็บฟางข้าวเอาไว้คนเดียวอีกต่างหาก

 

แค่หน้าตาดีหน่อยเดียว

 

อย่ามาฮุบเอาของคนอื่นสิ (?)

 

มันน่ารังเกียจ

 

อะ จะบอกว่าฉันหึงเหรอ?

 

ไม่ใช่ค่ะ

 

ไม่ใช่เลย

 

ฉันแค่เป็นห่วงเฉย ๆ เข้าใจไหม

 

อย่าเข้าใจผิดล่ะ

 

 

แม้ว่าฟางข้าวจะหนีหายไป

 

แต่พวกเราสองคนก็ยังไม่ละจากหายไปไหน

 

ยังคงจดจ้องมองแลกเปลี่ยนสายตากันและกันตามเดิม

 

เซซิเลียเพียงยิ้มอ่อนมอบให้

 

ก่อนจะกล่าวเบาบาง

 

ผิดกับแววตาที่คมกร้าว

 

มากไปด้วยจิตสังหารขั้นสุด

 

“…”

 

“ปลิงดูดเลือด”

 

“…”

 

“สุดท้ายปลายทางก็ยังคงเป็นแค่ปลิงดูดเลือด”

 

“ฉะนั้นคิดจะทำอะไร”

 

“ก็ระมัดระวังให้มาก”

 

“อย่าได้ใจให้มันมากนัก”

 

“…”

 

ใบหน้าของฉันตอนนี้

 

ต้องเผยรอยยิ้มแน่นอน

 

ต่อให้ไม่เห็นฉันก็รับรู้ได้เลยว่าตัวเองยิ้ม

 

เป็นแค่ยัยแก่คิดกินหญ้าอ่อน

 

หึ แม่ยังไง

 

ลูกเป็นอย่างนั้น

 

ช่างน่ารำคาญเสียจริง

 

ถึงแม้จะโดนขู่ให้เห็นเต็มสองตา

 

แต่ฉันหาได้สนใจ

 

ไม่ได้สนใจเลยแม้แต่น้อย

 

“เตือนฉัน?”

 

“หรือว่าเตือนตัวเอง”

 

“…”

 

“ไม่รู้สิค่ะ”

 

“อาจจะเตือนตัวเอง”

 

“อย่างกับที่คุณบอกกล่าวก็ได้”

 

“…”

 

“เตือนลูกสาวของคุณดีกว่า”

 

“เขาไม่ใช่ของเล่นของเธอ”

 

“ไม่เคยเป็นเลยแม้แต่น้อย”

 

หลังจากกล่าวเสร็จสิ้น

 

ทิ้งคำเตือนส่งท้าย

 

ฉันก็ละจากสถานที่เกิดเหตุ

 

เลือกเดินตามหลังฟางข้าวไป

 

เดินหายลับไปจากสายตา

 

ปล่อยให้หลงเหลือเพียงเซซิเลียคนเดียว

 

“มาไวไปไวเหลือเกินนะ”

 

“…”

 

“ลูกต้องพยายามให้มากกว่านี้นะ”

 

“ไม่งั้นล่ะก็”

 

“หึหึหึ”

 

รอยยิ้มแปลกประหลาดผุดขึ้นมาบนใบหน้า

 

เป็นรอยยิ้มแบบเดียวกับที่ฟางข้าวเห็นตอนอยู่ที่บ้านของหล่อน

 

เกรงว่าหากเขาได้มาเห็นด้วยตาตัวเอง

 

คงไม่พ้นต้องหัวใจตกไปอยู่ตาตุ่ม

 

 

อาจถึงขั้นไม่ออกจากบ้านตลอดชีวิตเลยก็ได้

 

เซซิเลียกะพริบตาแปรเปลี่ยนอารมณ์

 

กลายมาเป็นพี่สาวใจดีอีกครั้ง

 

ก่อนจะเดินกลับบ้านตัวเองไป

 

ทำเหมือนกับเหตุการณ์เมื่อครู่

 

เป็นเพียงภาพลวงตาไม่มีอะไรเกิดขึ้น

 

ดะ เดี๋ยวก่อน คุณเซลิสครับ เลิกตามผมสักทีเถอะครับ

ดะ เดี๋ยวก่อน คุณเซลิสครับ เลิกตามผมสักทีเถอะครับ

Status: Ongoing
เพื่อนร่วมห้องของผม คุณเซลิส เธอคือคนแปลกประหลาด ทั้งยังเป็นสาวงามที่สวยที่สุดในโรงเรียนอีกต่างหาก หากจะให้อธิบายความสัมพันธ์ของพวกเราสองคน อธิบายให้เข้าใจ ผมคงไม่พ้นต้องเป็นเหยื่อ ส่วนเธอก็คือนักล่า

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน