ตอนที่ 30 ผมโดนลักพาตัวโดยที่ไม่มีใครรู้เลย
คุณเซลิสอ้าปากค้าง
คล้ายไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ตนพึ่งจะได้ยิน
ก่อนจะกล่าวถามด้วยน้ำเสียงเบาบาง
ถามด้วยความระมัดระวังขั้นสุด
“ฟางข้าว?”
“…”
“ธะ เธอ”
“เธอพูดอะไรออกมาน่ะ”
“ช่วยอ่อนโยนกับผมด้วย?”
“…”
“หรือเธอ—”
ยังไม่ทันได้กล่าวจบครบถ้วนกระบวนความ
หน้าของผมก็พลันแดงขึ้นมากะทันหัน
ก่อนจะใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดผลักคุณเซลิสออกไป
ผลักออกไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
“ถะ ถอย!”
“ถอยไป!”
“ถอยไปเดี๋ยวนี้เลย!”
“ออกไป!”
ช่วงจังหวะเวลานี้หัวสมองล้วนว่างเปล่าไปหมด
หน้าของผมต้องแดงมากแน่เลย
บ้าจริง
นี่ผมกำลังคิดบ้าอะไรอยู่เนี่ย
ไม่ได้การล่ะ
ตอนนี้ผมต้องหนี
ต้องหนีออกห่างจากสถานที่แห่งนี้ให้เร็วที่สุด
ฝ่ามือทั้งสองข้างรีบก้มเก็บแฟ้มเอกสาร
เก็บให้เสร็จสิ้นหวังหนีเอาตัวรอดจากสถานการณ์เบื้องหน้า
คุณเซลิสเหมือนจะรู้สึกผิด
เลยพยายามเข้ามาช่วยเหลือ
“ฉันช่วย”
“แฟ้มเอกสารมัน—”
“ไม่ต้อง!”
คุณเซลิสที่ได้ยินเสียงร้องตะโกนของผม
ถึงกับหยุดนิ่งเงียบไปในทันที
และมันก็เป็นช่วงจังหวะเวลาเดียวกับที่ผมเก็บส่วนของผมเสร็จสิ้น
แน่นอนว่าเมื่อผมเก็บกวาดเสร็จเรียบร้อย
ผมก็ละจากไปทันที
ละจากไปโดยไม่มีลังเล
คุณเซลิสที่ได้สติกลับมา
รีบร้องหักห้ามผมเอาไว้
น่าเสียดายที่มันสายเกินไป
“เดี๋ยวก่อน!”
“รอก่อนฟางข้าว?!”
“ฟางข้าว!”
สายเกินไปครับ
ผมวิ่งหนีหายไปแล้วเรียบร้อย
หายออกไปจากทางเดิน
หลงเหลือเพียงแค่อาจารย์สาวประวัติศาสตร์
กับคุณเซลิสเท่านั้นในตอนนี้
===
เซลิสเทียพยายามห้ามปราม
พยายามอย่างสุดความสามารถในการหยุดยั้ง
หยุดไม่ให้ฟางข้าวหลีกหนีไปไหน
น่าเสียดายที่ความพยายามของเธอเป็นอันต้องล้มเหลว
ทำได้เพียงแค่ยื่นมือชะงักนิ่งแข็งค้างไปแบบนั้น
“…”
“อย่าบอกนะที่เด็กนั่นคิดเมื่อกี้”
“…”
“เป็นไปไม่ได้”
“เป็นไปไม่ได้หรอก”
“แต่ถ้าเกิดเป็นจริงขึ้นมา”
สีหน้ามืดมนเมื่อครู่จางหายไปในทันที
บอกกล่าวตามตรง
หากเป็นไปอย่างที่เธอครุ่นคิดจินตนาการเอาไว้
การแสดงออกของฟางข้าว
ย่อมต้องเป็นผลดีกับเธอ
มากกว่าผลลบ
มากกว่าจนเทียบไม่ติด
อาจารย์สาวประวัติศาสตร์เดินขยับเข้ามาใกล้
เดินเข้ามากล่าวถามเบาบาง
“ไม่ตามไปเหรอ?”
“อาจารย์?”
“…”
“ถ้าเร่งความเร็วอีกหน่อยก็น่าจะตามทันนะ”
“ไม่ดีกว่าค่ะ”
“ไม่แหละดีแล้ว”
เซลิสเทียยิ้มนิ่งเงียบ
พลางส่ายหน้าปฏิเสธ
ช่วงจังหวะเวลานี้
ปล่อยผ่านแบบนี้แหละดีที่สุดแล้ว
ไม่ต้องทำอะไรทั้งสิ้น
กาลเวลาจะทำหน้าที่ของมันเอง
อาจารย์สาวเหลือบมอง
ก่อนยินยอมไปในที่สุด
“งั้นเหรอ”
“…”
“งั้นฉันช่วย”
“ไม่ต้องค่ะ—”
“อะไรกัน แค่ช่วยหน่อยเดียวเอง”
“ไม่ได้ทำอะไรเกินเลยสักหน่อย”
อาจารย์สาวยิ้มหัวเราะ
ก้มหยิบแฟ้มเอกสารหลายแฟ้ม
พร้อมส่งมอบคืนให้กับเซลิสเทีย
อีกฝ่ายก็ไม่ได้แข็งกระด้างเกินไป
เลือกยินยอมน้อมรับความช่วยเหลือแต่โดยดี
ยินยอมปล่อยให้อีกฝ่ายช่วยเหลือ
…
โดยที่ไม่อาจรับรู้ได้เลยว่าฟางข้าว
เด็กน้อยคนที่วิ่งหนีหายไปในตอนแรก
กำลังพานพบเจอประสบการณ์สถานการณ์แบบไหนอยู่
===
ห่างออกไปไม่ไกลมากนัก
นอกจากไม่ต้องการรั้งอยู่ต่อเพราะอับอาย
ยังมีอีกเหตุผลหนึ่งที่ผมละจากมา
ย้อนกลับไปเมื่อไม่กี่นาทีก่อน
ขณะที่ผมกำลังหอบเหนื่อย
เนื่องจากต้องวิ่งไปด้วยแบกแฟ้มหลายกิโลกรัมไปด้วย
สายตากับชะงักนิ่งแข็งค้างมองตำแหน่งเดิม
มองไม่มีแปรเปลี่ยนไม่มีขยับไปไหน
เนื่องจากผมดันไปเห็นอะไรบางอย่างเข้า
อะไรบางอย่างที่ไม่สมควรปรากฎให้เห็น
“นะ นี่มันเกิดอะไรขึ้น”
[ ใครบางคนที่แสนไกลพบเจอตัวท่านแล้ว ]
“…”
“หมายความว่ายังไง?”
“ไอ้ที่บอกว่าใครบางคนที่แสนไกล?”
หัวคิ้วทั้งสองขมวดเข้าหาแน่น
หัวสมองมึนงงสับสนยุ่งวุ่นวายไปหมด
ที่สำคัญเลยคือทำไมตัวอักษรพวกนั้น
ถึงได้ลอยไปมาอยู่ตรงหน้าผม
แถมผมน่าจะเป็นเพียงคนเดียวที่พานพบเห็นอีกต่างหาก
เหตุการณ์สถานการณ์แบบนี้มันแปลกประหลาดเกินไปแล้ว
แปลกประหลาดจนชวนให้ขนหัวลุกตั้งไปทั่วทั้งตัว
…
แต่ยังไม่ทันได้เตรียมเนื้อเตรียมตัว
หรือทำอะไรอย่างอื่นเพิ่มเติม
ข้อความเบื้องหน้าก็แปรเปลี่ยนอีกครั้ง
จาก [ ใครบางคนที่แสนไกลพบเจอตัวท่านแล้ว ]
เปลี่ยนเป็นอีกหนึ่งข้อความที่สั่นกระชับกว่า
แต่ความสงสัยใคร่รู้กับเพิ่มพูนเป็นหลายต่อหลายเท่าตัว
อีกทั้งยังส่งกลิ่นอันตรายตลบอบอวลอีกต่างหาก
[ ทำการบังคับเคลื่อนย้าย ]
“…”
“เดี๋ยวก่อนสิ!”
“เดี๋ยว!—”
น่าเสียดายที่ความต้องการของผมไม่เป็นผล
ใต้ฝ่าเท้าพลันเรืองแสง
ก่อนแสงสว่างทั้งหมดจะห่อหุ้มทั่วทั้งร่างกาย
และกลืนกินทุกสิ่งอย่างจนหลงเหลือเพียงแฟ้มที่ร่วงหล่นตามพื้น
ส่วนเจ้าตัวผู้ที่จับถือแฟ้มเอาไว้
ได้หายตัวไปแล้วเรียบร้อย
หายไปโดยไม่มีใครรับรู้ล่วงรู้เลยแม้แต่น้อย
===
ณ ดินแดนห่างไกล
ตูม!
[ ยินดีต้อนรับสู่ $^*#@&$(*^@ ]
“…”
สิ่งที่ผมพบเห็นเป็นอย่างแรก
หลังจากที่แสงล้อมรอบกายได้หายไปจนหมดสิ้น
สิ่งแรกเริ่มที่ผมพบเห็นก็คือห้องทำงาน
เป็นห้องทำงานหรูหราที่มีหนังสือเยอะแยะมากมายเต็มไปหมด
จากเท่าที่ประเมินด้วยสายตาอาจมากกว่าหมื่นเล่ม
ซึ่งมันเยอะมาก
เยอะจนตาลายไปหมด
“ที่นี่”
“ที่ไหน”
“…”
“ไม่คุ้นเลย”
ด้วยความที่ไม่คุ้นชินสถานที่
บวกกับความรู้สึกไม่ปลอดภัย
ที่สัญชาตญาณร้องเตือนบอกให้หนี
ผมเลยเผลอก้าวเท้าถอยหลัง
แต่นั้นมันไม่ใช่การตัดสินใจที่ถูกต้อง
มันคือการตัดสินใจที่ผิดพลาด
เนื่องจากพอก้าวเท้าถอยหลังไปได้ไม่กี่ก้าว
แผ่นหลังของผมก็ไปชนเข้ากับบางสิ่งอย่าง
เป็นบางสิ่งอย่างสองก้อนนุ่มนวล
อึก!
“…”
“สวัสดีจ๊ะ”
“กรี๊ดดดดดดดด!”
ด้วยความตื่นตระหนกตกใจ
ผมเลยหันไปกรี๊ดอัดใส่หน้าอีกฝ่าย
เรียกได้ว่าช่วงจังหวะเวลานี้
สติผมไม่อยู่กับเนื้อกับตัวขั้นสุด
แต่ก่อนเสียงกรีดร้องของผม
มันจะดังไปมากกว่านี้
ผมกับถูกดึงเข้าสู่อ้อมกอดอย่างรวดเร็ว
รวดเร็วมากจนยากจะตอบสนองได้ทัน
ละ และที่สำคัญที่สุด
เหมือนคนที่กอดผมจะเป็นผู้หญิงด้วย
ถามว่าผมรู้ได้ยังไงเหรอ?
กะ ก็มันใหญ่
ถะ แถมยังนุ่มและหอมมากอีกด้วย
หะ ถามว่าผมกำลังพูดถึงอะไรเหรอ?
อย่ามาถามกันสิครับ
แค่นี้ผมก็อายจะแย่อยู่ล่ะ
…
ว่าแต่พี่สาวคนนี้เป็นใครครับ
รึ หรือว่าผมจะโดนลักพาตัวซะแล้ว
ไม่น่าเป็นไปได้
ตะ แต่ถ้าเป็นแบบนั้นขึ้นมา
ผมจะไม่แย่เอาเหรอ?
…
อือ~
ก็ไม่แย่แฮะ
แถมยังสวยอีกด้วย
คุณเซลิสครับ!
เหยื่อของคุณโดนลักพาตัวไปแล้วนะครับ
อะ เกือบลืมบอกไป
ผมไม่ได้เต็มใจนะจะบอกให้
หึหึหึ
ว่าแต่ทำไมหอมแบบนี้~
ใช้น้ำหอมอะไรเนี่ย~