ดะ เดี๋ยวก่อน คุณเซลิสครับ เลิกตามผมสักทีเถอะครับ – ตอนที่ 32 ผมเกร็งไปหมดล่ะ

ดะ เดี๋ยวก่อน คุณเซลิสครับ เลิกตามผมสักทีเถอะครับ

ตอนที่ 32 ผมเกร็งไปหมดล่ะ

 

“…”

 

“ไม่เลวเลย~”

 

“…”

 

ผมหมุนตัวหน้ากระจก

 

เครื่องแบบของผมในตอนนี้

 

ไม่ใช่ชุดนักเรียนตามแบบปรกติธรรมดาที่ผมเคยใส่

 

แต่เป็นชุดผ้าบางคล้ายเทพกรีกโบราณสมัยก่อนชอบใส่กัน

 

ซึ่งมันเป็นอะไรที่โปร่งโล่งสบายมาก

 

สบายมากเลยจะบอกให้

 

 

ในขณะที่ผมกำลังหมุนตัวไปมาหน้ากระจก

 

พร้อมส่งเสียงหัวเราะเสียงหวาน

 

หัวเราะไปตามอารมณ์

 

ร่างหนึ่งก็พุ่งฝ่ามือทั้งสอง

 

เข้ามาโอบกอดผมจากด้านหลัง

 

เข้ามาโอบกอดโดยไม่คิดถามหาความยินยอมจากผม

 

แต่เหนือสิ่งอื่นใดเลยคือ

 

เจ้าก้อนสองก้อนที่กดด้านหลังผม

 

กดหลังหัวผมอยู่มันช่างเป็นอะไรที่

 

ยอดเยี่ยมเหลือเกิน

 

ตะ แต่ผมก็ยังไม่ชอบอยู่ดีที่เข้ามาด้านหลังแบบนี้

 

ยิ่งลมหายใจหอบกระหายบางอย่างที่ดังไล่หลัง

 

ยิ่งทำให้ผมหวาดหวั่นหวาดกลัว

 

มากกว่าจะยินยอม

 

นิยมชมชอบในสถานการณ์เบื้องหน้า

 

หมับ!

 

“…”

 

“เอ๊ะ!”

 

“…”

 

“ไม่เลวเลยค่ะ”

 

“เห็นตอนแรกดิฉันนึกว่าเป็นนางฟ้าตัวน้อยลงมาจุติ”

 

“น่ารักมากค่ะ”

 

“นางฟ้าอะไรกัน”

 

“…พี่สาวต่างหากที่เป็นนางฟ้า”

 

“…”

 

“นั่นสิค่ะ”

 

พี่สาวนางฟ้ายิ้มหัวเราะ

 

ขณะพลิกตัวผมบีบบังคับให้ผมหันหน้า

 

หันมาเผชิญหน้ากับหล่อน

 

ตะ ต้องบอกว่าด้วยความสวยของเธอ

 

ทำเอาผมตื่นตะลึงไปเลย

 

นางฟ้ายังไงก็ยังเป็นนางฟ้าเหมือนเดิมล่ะนะ

 

ไม่ว่าจะคนไหนก็เป็นสุดยอดสาวงามกันทั้งนั้น

 

ยะ แย่ล่ะ

 

ผมไม่กล้ามองเลย

 

“นะ นี่คุณนางฟ้า?”

 

“คะ?”

 

“…”

 

“ผมแต่งตัวเสร็จแล้วนะ”

 

“ใช่ค่ะ”

 

“…”

 

“เมื่อไหร่จะปล่อยผมสักที?”

 

“ผมอึดอัดนะ”

 

น่าอายเกินไปแล้วนะครับ

 

ผมบ่ายเบี่ยงพยายามไม่สบสายตาอีกฝ่าย

 

ขณะที่นางฟ้าสาวยังคงอมยิ้มเหมือนเดิม

 

ทำเหมือนกับเรื่องราวทั้งหมดเป็นเพียงสิ่งเล็กน้อยหาค่าไม่ได้

 

ใช่ เป็นเพียงสิ่งเล็กน้อยหาค่าไม่ได้

 

แต่ความเป็นจริง

 

หากมองในมุมมองบุคคลที่สาม

 

มองด้วยสายตาใครคนอื่นที่พานพบเห็น

 

พวกเขาล้วนต้องตื่นตระหนกตกใจเป็นที่สุดแน่นอน

 

เมื่อเห็นนางฟ้าผู้เป็นตัวแทนความบริสุทธิ์อันสูงส่ง

 

กำลังกอดรัดเด็กน้อยน่ารักคนหนึ่ง

 

กอดรัดไม่คิดปล่อยผ่าน

 

ไม่คิดปล่อยให้หนีรอดไปไหนได้

 

นางฟ้าสาวยิ้มขณะกล่าวถาม

 

ถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

 

เป็นน้ำเสียงกระซิบข้างหู

 

“ไม่ชอบเหรอคะ?”

“…”

“มะ ไม่ใช่ไม่ชอบ”

 

“แต่”

 

ผมลอบกัดปากตัวแน่น

 

พร้อมรวบรวมความกล้าทั้งหมด

 

ก่อนจะเงยหน้าตอบกลับไปตามตรง

 

ตอบในสิ่งที่ผมคิดและเป็นอยู่

 

“…”

 

“ผมเขินนะ”

 

“…”

 

พี่สาวนางฟ้านิ่งชะงักแข็งค้างไปเลย

 

แข็งค้างไม่มีขยับไปไหน

 

เหมือนว่าท่าไม้ตายของผมจะยังใช้งานใช้การได้ตามเดิม

 

กระทั่งกับนางฟ้าก็ยังไม่เว้นต้องนิ่งแข็งค้าง

 

ถามว่าท่าไม้ตายอะไรเหรอ?

 

มันคือการเงยหน้ามองด้วยแววตาออดอ้อนขั้นสุด

 

พร้อมส่งน้ำเสียงแผ่วเบาสั่นเครือ

 

ส่งมอบให้กับเป้าหมายโดยตรง

 

ด้วยการจู่โจมของผม

 

ย่อมสามารถทำให้อีกฝ่ายคู่ต่อสู้

 

ตกอยู่ในสถานภาพชะงักงันได้

 

ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม

 

ขอเพียงแค่ได้โดนจู่โจมเข้าไป

 

 

เหมือนว่าท่าไม้ตายของผม

 

กับนางฟ้าก็ยังใช้งานใช้การได้สินะ

 

โล่งอกไปที

 

หากหยุดยั้งไม่ได้

 

ความบริสุทธิ์ของผม

 

คงไม่พ้นต้องถูกทำลายล้างอย่างโหดเหี้ยม

 

เกือบไปแล้วไหมล่ะ

 

คิดจะเก็บเกี่ยวผมเหรอ

 

ยังเร็วเกินไปครับ

 

===

 

หลังจากแต่งตัวเสร็จสิ้นเรียบร้อย

 

พวกเราทั้งสองคน

 

หนึ่งตัวผมในชุดเทพกรีก

 

กับพี่สาวนางฟ้าผู้งดงาม

 

ผู้ถูกมอบหมายให้มาดูแลผม

 

หลังจากที่แก้ไขความเข้าใจผิดทั้งหมดแล้ว

 

ก็พากันเดินไปตามเส้นทาง

 

เดินทางไปหาเทพธิดาแห่งการเริ่มต้น

 

หะ จะบอกว่าผมหัวสมองไม่ดีเหรอ

 

กะ ก็มันช่วยไม่ได้นิครับ

 

อย่าว่าแต่ผมเลย

 

หากเป็นพวกคุณต้องมาพบเจอสถานการณ์แบบเดียวกับผม

 

ก็ต้องมีสับสนเป็นธรรมดาแหละ

 

ใครจะไปคิดล่ะ

 

ว่าอีกฝ่ายเป็นเทพของจริง

 

 

ขณะเดินไปตามเส้นทาง

 

ผมกวาดสายตามองไปทั่วบริเวณ

 

ถึงจะบอกว่าเป็นสวรรค์

 

แต่สิ่งที่พบเห็นตอนนี้

 

มันกับไม่ได้แตกต่างไปจากคฤหาสน์หรูหราทั่วไป

 

ที่มีเครื่องทองเยอะแยะมากมายประดับเต็มไปหมด

 

ด้วยความสงสัยใคร่รู้

 

ผมเลยถามกลับไปตามตรง

 

ถามนางฟ้าสาวข้างกาย

 

“…”

 

“สวรรค์นี่”

 

“แตกต่างจากที่ผมคิดแฮะ…”

 

“ที่นี่คือสวรรค์จริงเหรอ?”

 

“…”

 

“แตกต่างยังไงคะ?”

 

“ตามความคิดเห็นของคุณ”

 

“คุณคิดว่าสวรรค์เป็นสถานที่แบบไหนคะ?”

 

ในความคิดของผมเหรอ

 

ก็ต้องมีพื้นเป็นก้อนเมฆ

 

มีก้อนเมฆสีทองนับล้านลอยเต็มไปหมด

 

มีนางฟ้าเทวดาถือเครื่องดนตรี

 

บรรเลงเพลงไปตามอารมณ์

 

ซึ่งฉากภาพเบื้องหน้าผมที่ปรากฏอยู่

 

มันกับให้ความรู้สึกปรกติธรรมดาเหลือเกิน

 

ธรรมดามากจนยากจะแยกแยะออก

 

ว่านี่เป็นโลกเบื้องบนหรือโลกเบื้องล่าง

 

ผมกะพริบตายิ้มแห้ง

 

ก่อนกล่าวตอบกลับไป

 

“อย่างน้อยก็ไม่ใช่แบบที่ผมเห็นตอนนี้แน่นอน”

 

“ที่ผมเห็นตอนนี้”

 

“มันไม่ต่างอะไรไปจากคฤหาสน์หรูหรากลางเมืองหลวงเลย”

 

“ถ้าไม่มีนางฟ้าแบบพี่สาวอยู่ข้างกาย”

 

“ผมก็คงนึกว่าตัวเองยังอยู่ที่เดิม”

 

“อยู่ที่โลกเบื้องล่าง”

 

ใช่ ถ้าหากไม่มีพี่สาวนางฟ้าผู้ครอบครองปีกสีขาวทั้งสอง

 

ผมคงนึกว่าตัวเองยังอยู่ที่โลกมนุษย์แน่นอน

 

พี่สาวนางฟ้าไม่ได้กล่าวอะไรเพิ่มเติม

 

เพียงนิ่งเงียบคล้ายครุ่นคิดบางสิ่งอย่าง

 

ก่อนจะกล่าวออกมา

 

กล่าวเบาบาง

 

“…”

 

“ไม่ว่าจะโลกเบื้องบนหรือโลกเบื้องล่าง”

 

“…”

 

“ทุกสิ่งอย่างล้วนเป็นเพียงจินตนาการของมนุษย์เท่านั้น”

 

“อีกอย่างสวรรค์ไม่ได้ง่ายดายเหมือนกับที่คุณคิด”

 

“เมื่อได้ชื่อว่าสวรรค์สถานที่แหล่งรวมทวยเทพ”

 

“ก็ย่อมต้องมีอะไรบางอย่างที่เหนือกว่าโลกมนุษย์จนเทียบไม่ติด”

 

รอยยิ้มสง่างามยังคงเดิมไม่มีแปรเปลี่ยน

 

ก่อนจะมาถึงประตูบานใหญ่ที่ประดับไปด้วยทองคำมากมาย

 

นางฟ้าสาวหันมากล่าวกับผม

 

“ยินดีต้อนรับสู่สวรรค์ค่ะ”

 

“…”

 

ฝ่ามือขาวเนียนแตะสัมผัสประตู

 

เพียงแค่สัมผัสประตู

 

ประตูบานใหญ่ก็เปิดออก

 

เปิดเผยให้เห็นสิ่งของด้านใน

 

เปิดเผยให้เห็นโลกที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง

 

มันคือโลกเทพในอุดมคติของมนุษย์อย่างแท้จริง

 

ก้อนเมฆสีทองนับล้านลอยเต็มไปหมด

 

เกาะมากมายนับหมื่นลอยกลางอากาศ

 

รวมถึงนางฟ้าหลายร้อยบินหัวเราะเล่นสนุกไปตามอารมณ์

 

ฉากภาพเฉกเช่นนี้มันช่าง

 

เหนือล้ำจินตนาการเหลือเกิน

 

แต่เหนือสิ่งอื่นใดทั้งหมด

 

คือโต๊ะน้ำชาที่ตั้งอยู่กลางก้อนเมฆ

 

พร้อมพี่สาวผมทองคนดีคนเดิม

 

คนที่ผมคิดว่าเป็นเพียงคนป่วยต้องการหาหมอ

 

แต่เนื้อแท้ของเธอคือ เทพธิดาแห่งการเริ่มต้น

 

ผู้ที่ครอบครองอำนาจสูงสุดของสรวงสวรรค์

 

เธอเผยรอยยิ้มเบาบาง

 

พร้อมกวักมือเรียกผมให้เข้าไปหา

 

“มานั่งสิจ๊ะ”

 

“คะ ครับ”

 

“…”

 

ผมยิ้มแห้งไม่รู้จะเอามือไปไว้ที่ไหน

 

ก่อนจะเดินไปตามที่เธอเรียกหา

 

หะ จะบอกว่าท่าทีของผมมันตลกเหรอ

 

กะ ก็มันช่วยไม่ได้นิ

 

ผมดันเผลอไปบอกให้เทพสูงสุดไปหาหมอเลยนะ

 

ไม่โดนสาปให้ตกนรกก็ดีแค่ไหนแล้ว

 

อะ อีกอย่าง

 

เผลอเอาหน้าไปซุกด้วย

 

 

ครับ

 

มองจากตรงนี้

 

ก็ยังคงใหญ่เหมือนเดิม

 

มะ ไม่ได้หมายถึงของแบบนั้นสักหน่อย

 

กะ ก็แค่ปีกน่ะ

 

แค่ปีกอย่างเดียวเท่านั้น

 

อย่าคิดเป็นอย่างอื่นไปล่ะ

 

 

 

 

 

 

ดะ เดี๋ยวก่อน คุณเซลิสครับ เลิกตามผมสักทีเถอะครับ

ดะ เดี๋ยวก่อน คุณเซลิสครับ เลิกตามผมสักทีเถอะครับ

Status: Ongoing
เพื่อนร่วมห้องของผม คุณเซลิส เธอคือคนแปลกประหลาด ทั้งยังเป็นสาวงามที่สวยที่สุดในโรงเรียนอีกต่างหาก หากจะให้อธิบายความสัมพันธ์ของพวกเราสองคน อธิบายให้เข้าใจ ผมคงไม่พ้นต้องเป็นเหยื่อ ส่วนเธอก็คือนักล่า

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท