บทที่ 829 ตัดสินชะตาหลี่จิ่วเต้า พู่กันเกี่ยววิญญาณและรายนามวิญญาณระเบิด!
กองทัพปรโลกกรีธาทัพมาตามเส้นทางน้ำพุเหลือง บรรยากาศอึมครึมแผ่ซ่าน ภาพการณ์ชวนขนลุกขึ้นเรื่อย ๆ
พวกลั่วสุ่ยต่างรู้สึกหนักอึ้ง ภูมิหลังของปรโลกนั้นสยดสยองเกินหยั่งอย่างที่คิดจริง ๆ นี่คือกองทัพปรโลกขอบเขตโกลาหล พลทหารทุกคนล้วนอยู่เหนือขอบเขตโกลาหลขึ้นไป
กระทั่งหัวหน้าหน่วยย่อยยังมีระดับเหนือขอบเขตลอยชาย!
พลทหารปรโลกเหนือขอบเขตโกลาหลนับหมื่น ช่างเป็นจำนวนที่มากมายเหลือเกิน กองกำลังใดมีกำลังน่าประหวั่นพรั่นพรึงได้เท่านี้บ้าง
กองกำลังในปรโลกยังทำมิได้เลย!
“เวลานี้ต้องใช้ก้านหลิวชะล้าง…”
หลี่จิ่วเต้าเรียกก้านหลิวออกมาหนึ่งท่อนและถือไว้ในมือ ก้านหลิวชะล้างเปี่ยมล้นไปด้วยพลังชำระ ได้ผลกับผีสางและพลังมืดมิดอย่างน่าอัศจรรย์
เขามิได้รู้สึกหวาดกลัวเท่าใด ตัวเขาในยามนี้มิอาจนับรวมกับในอดีต แม้จะยังอยู่ในร่างปุถุชน กระนั้นพอได้ข้องแวะกับผู้ฝึกตนมามาก ก็ใช่ว่าจะรู้สึกกลัวได้ง่าย ๆ
บรรพจารย์ฝูผู้นั้นไม่ธรรมดา เป็นถึงผู้ยิ่งใหญ่สะท้านฟ้า ด้วยของวิเศษที่แลกมาจากบรรพจารย์ฝู เขาสามารถกำราบผู้ฝึกตนได้นับคณา
และเขามั่นใจว่าสามารถปราบปรามผีสางเหล่านี้ได้
ก่อนหน้านี้ไม่เห็นหรือ เขาเพียงสะบัดใบหญ้าเบา ๆ เท่านั้น ผีเหล่านั้นก็ถูกกำจัดไปหมด ไม่อาจขัดขืนได้แม้แต่น้อย เขาเองก็มั่นใจขึ้นมากเพราะเหตุนี้
กองทัพปรโลกเข้าประชิด ไม่มีสิ่งใดให้สงสัยกันอีก ยมราชแห่งสิบขุมนรกก้าวออกมา ยืนตระหง่านอยู่เหนือปรโลก
พวกเขาต่างมีสีหน้าเย็นชา ทันทีที่ออกมาก็ออกคำสั่งประหาร
การตั้งกฎแห่งปรโลกเริ่มต้นขึ้น ณ บัดนี้!
เชือดหลี่จิ่วเต้าเพื่อประกาศศักดา สังหารเขาและทำให้เขากลายเป็นวิญญาณหยินใต้อาณัติปรโลกของพวกเขา
“ฆ่า!”
เสียงกลองรบดังสนั่น ทหารปรโลกนับพันหมื่นตวัดอาวุธในมือ บุกเข้าไปสังหารหลี่จิ่วเต้าอย่างเป็นระเบียบ
พวกมันรักษาขบวนบางอย่างเพื่อให้พลังเชื่อมถึงกันและกัน เห็นได้ชัดว่านี่คือแนวขบวนรบ ช่วยให้ปะทุพลังที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
‘สิ่งมีชีวิตขอบเขตผู้บงการเข้าไปแล้วยังมิอาจกลับออกมาได้อีก ตายสนิทจนไม่อาจตายได้อีกแล้ว!’
สุนัขดำเอ่ยในใจ แม้แต่มันยังรู้สึกไม่มั่นใจ แนวขบวนรบที่รวมพลทหารนับพันหมื่นเข้าด้วยกันน่าครั่นคร้ามเกินไป มันรู้สึกว่าหากมันเข้าไปก็อาจถูกสังหารลงได้
มันทลายขีดจำกัดขอบเขตลอยชายไปนานแล้ว บัดนี้ได้ก้าวสู่ขอบเขตผู้บงการ
“ต้องต่อสู้กับบุคคลในตำนานเรื่องเล่าแล้วหรือ”
เมื่อหลี่จิ่วเต้าได้เห็นยมราชแห่งสิบขุมนรกก็เต็มตื้นขึ้นมาทันที
เขาเป็นเพียงปุถุชน ได้ต่อกรกับบุคคลในตำนานเรื่องเล่าด้วยเลือดเนื้อเยี่ยงปุถุชนเช่นนี้ จะมิให้เขาเต็มตื้นได้อย่างไร!
ทว่าพอลองใคร่ครวญดูแล้ว นี่มิใช่ครั้งแรกที่เขาได้ต่อสู้กับบุคคลจากตำนานเรื่องเล่า เมื่อคราวอยู่ที่เขาญาณ เขาเคยสู้ศึกกับจิตเสี้ยวหนึ่งของพระอมิตาภะพุทธเจ้า แม้ว่าจิตเสี้ยวนั้นของพระอมิตาภะพุทธเจ้าจะเกิดปัญหาใหญ่หลวงก็ตาม
“ลิ้มรสแสนยานุภาพของก้านหลิวชะล้างหน่อยเป็นอย่างไร!”
เต็มตื้นก็ส่วนเต็มตื้น แต่เขามิได้เกรงกลัว บุคคลในตำนานเรื่องเล่าแล้วอย่างไร ปุถุชนก็สังหารเทพได้เหมือนกัน!
อย่างเช่นพระถังซัมจั๋งในเรื่องไซอิ๋ว เป็นเพียงปุถุชนผู้หนึ่งแต่กลับปราบปรามหงอคงผู้อาละวาดไปทั่ววังสวรรค์ได้!
ขอเพียงปุถุชนมียอดศาสตราในมือ เทพก็ต้องก้มหัวศิโรราบให้!
เขาสะบัดก้านหลิวชะล้างในมือ ทันใดนั้นม่านแสงมงคลมากมายสาดส่องออกมา พุ่งโจมตีทหารปรโลกแนวหน้าสุด พวกมันถูกกำจัดไปในบัดดล กลายเป็นควันดำมวลแล้วมวลเล่า ก่อนจะอันตรธานหายไปอย่างสมบูรณ์!
“พวกมันสู้มิได้จริงด้วย!”
หลี่จิ่วเต้าตาลุกวาว มั่นอกมั่นใจยิ่งขึ้น ก้านหลิวชะล้างทรงพลังอย่างที่เขาคิด เขายิ่งไม่ต้องหวาดกลัวต่อสิ่งใด!
ทหารปรโลกถูกกำจัดไปหนึ่งหน่วย ขบวนรบแตกพ่ายในบัดดล ยมราชแห่งสิบขุมนรกเปลี่ยนสีหน้าไปเล็กน้อย นี่คือขบวนรบหยินที่เปี่ยมไปด้วยแสนยานุภาพ สุดท้ายกลับแตกพ่ายก่อนได้เปล่งพลัง เรื่องนี้เกินคาดพวกเขาไปหน่อย
ทว่าพวกเขามิได้แตกตื่น เพราะยังมีฝีมือที่ทรงพลังยิ่งกว่านั้นอยู่ ขบวนรบหยินเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น พวกเขามิได้หวังปราบปรามหลี่จิ่วเต้าได้ด้วยทหารปรโลก
สิ่งมีชีวิตจำนวนนับไม่ถ้วนหวาดกลัวเหลือแสน หลี่จิ่วเต้าดุดันมากจริง ๆ เอ่ยว่าเขาไร้เทียมทานดูจะไม่เกินไปเลยสักนิด!
โลกทัศน์ของพวกเขาต้องเปลี่ยนใหม่อีกครั้ง สิ่งมีชีวิตวัยเยาว์มากมายมองจ้องหลี่จิ่วเต้าด้วยแววตาลุกวาว ยกหลี่จิ่วเต้าเป็นผู้ที่พวกเขาเคารพนับถือตลอดไป!
“ข้าจะเอาอย่างเขา กลายเป็นคนไร้เทียมทานเฉกเช่นเดียวกับเขา!”
เด็กหนุ่มเอ่ยด้วยความฮึกเหิม ทว่าไม่นานก็ถูกสิ่งมีชีวิตตนอื่นแดกดัน
“คิดอะไรอยู่! คนระดับนี้เป็นกันได้ง่าย ๆ ที่ไหน เจ้าไม่มีทางเป็นเช่นนี้ได้แม้ในยามหลับฝัน!”
“ได้หนึ่งในหมื่นของเขาก็เยี่ยมมากแล้ว!”
แข็งแกร่งเหลือเกิน ขอบเขตของหลี่จิ่วเต้าอยู่ในระดับที่พวกเขาจินตนาการไม่ออกด้วยซ้ำ ยากจะบรรลุได้แม้ในยามหลับฝัน!
เวลานั้น ร่างสี่ร่างพุ่งออกจากปรโลก
พวกเขาอยู่ในรูปลักษณ์มนุษย์กันทั้งหมด หลี่จิ่วเต้าจำได้ทันที
“สี่ผู้พิพากษาบุ๋นบู๊ในปรโลก!”
สี่ผู้พิพากษาบุ๋นบู๊แห่งปรโลกโด่งดังในดาวเคราะห์สีฟ้ามาก ดูแลด้านตกรางวัลผู้กระทำดี ลงทัณฑ์ผู้กระทำชั่ว ไต่สวนคดี และกำกับดูแลกฎปรโลก!
โดยผู้พิพากษากฎปรโลกนามผู้พิพากษาชุยชื่อเสียงแซ่ซ้องที่สุด คอยกำกับรายนามวิญญาณ!
รายนามวิญญาณนั้นชี้ชะตาของมนุษย์ได้ ม่านตาหลี่จิ่วเต้าหรี่ลงเล็กน้อย ในรายนามวิญญาณเล่มนั้น มีชื่อของเขาอยู่ด้วยหรือไม่
ไม่นานนัก เขาก็ได้รู้คำตอบ บนรายนามวิญญาณไม่มีชื่อของเขา
เพราะผู้พิพากษาชุยกำลังเพิ่มชื่อของเขาบนรายนามวิญญาณ!
“ก่อนนี้ปรโลกมิได้อยู่ในอาณาจักรนี้ จึงไม่มีชื่อของข้า คิดแล้วชื่อของสิ่งมีชีวิตตนอื่นก็ไม่ได้อยู่บนนั้นเช่นกัน…”
เมื่อหวนนึกถึงคำกล่าวของขุนพลผีก่อนหน้านี้ หลี่จิ่วเต้าก็ถึงคราวกระจ่าง
ที่ปรโลกมาคราวนี้ก็เพื่อสร้างรากฐานในอาณาจักรนี้ หากทำสำเร็จ ชื่อของสิ่งมีชีวิตในอาณาจักรนี้จักปรากฏบนรายนามวิญญาณ
“หลี่จิ่วเต้า…ตาย!”
ผู้พิพากษาชุยปริปาก มือซ้ายถือรายนามวิญญาณ มือขวาถือพู่กันเกี่ยววิญญาณ หมายจะเพิ่มชื่อของหลี่จิ่วเต้าบนรายนามวิญญาณ
ทว่าทันทีที่เขาจรดพู่กันคำว่า ‘หลี่’ ได้เพียงลำดับขีดเดียว ก็มีปรากฏการณ์ประหลาดเกิดขึ้นที่นั่น!
เสียงดังตู้ม พู่กันเกี่ยววิญญาณในมือผู้พิพากษาชุยระเบิดในทันใด กระทั่งรายนามวิญญาณก็ถูกทำลายไปด้วย ผู้พิพากษาชุยก็กลายเป็นหมอกเลือดเช่นกัน!
‘คิดจะตัดสินชะตาของคุณชายหรือ กล้าดีอย่างไร!’
ลั่วสุ่ยหัวเราะเย็น ๆ ในใจ คุณชายเก่งกาจปานใด ไฉนเลยจะถูกตัดสินชะตาได้ง่าย ๆ การกระทำของผู้พิพากษาชุยนับเป็นการรนหาที่ตายอย่างไม่ต้องสงสัย!
รายนามวิญญาณแบกรับชื่อของคุณชายไหวที่ไหน กระทั่งพู่กันเกี่ยววิญญาณก็ไม่อาจเขียนชื่อของคุณชายลงไปได้!
อีกด้านหลี่จิ่วเต้าผงะ คิดไม่ถึงว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้
เขาหาใช่ผู้ยิ่งใหญ่อันใด เป็นเพียงปุถุชนผู้หนึ่ง เหตุใดถึงเกิดเรื่องเช่นนี้กับผู้พิพากษาชุยเมื่อคิดจะเขียนชื่อของเขาลงไป
ทว่าไม่นาน เขาก็คิดตก
‘ข้ามีวาสนากับบรรพจารย์ฝู ได้แลกเปลี่ยนของวิเศษกับบรรพจารย์ฝูตั้งมากมาย เรียกได้ว่ามีบ่วงกรรมครั้งใหญ่ที่เกี่ยวพันกับบรรพจารย์ฝูอยู่ ไฉนเลยจะถูกเขียนชื่อได้ง่าย ๆ?!’
เขาหัวเราะออกมา รอยยิ้มสดใสประดับอยู่บนใบหน้า ทวีความมั่นใจขึ้น!
ผู้พิพากษาชุยเสียเปรียบ กระทั่งพู่กันเกี่ยววิญญาณและรายนามวิญญาณก็ถูกทำลายไปด้วย ยมราชแห่งสิบขุมนรกสีหน้าเปลี่ยนไปมหันต์ในบัดดล ตกตะลึงยิ่งกว่าก่อนนี้ที่ขบวนรบหยินถูกทำให้แตกพ่ายเสียอีก
พู่กันเกี่ยววิญญาณ รายนามวิญญาณ ล้วนเป็นสุดยอดศาสตราของปรโลก ได้รับการประทานจากผู้กุมอำนาจในปรโลกชั้นสูงสุด สุดท้ายกลับถูกทำลายไปง่าย ๆ เช่นนี้ จะมิให้พวกเขาตะลึงได้อย่างไร!
“สมกับเป็นศัตรูตัวฉกาจ!”
“ฆ่า!”
ยมราชแห่งสิบขุมนรกบุกเข้าไปเองด้วยสีหน้าขึงขัง พวกเขาล้วนไม่ธรรมดา อยู่ในขอบเขตนิรันดร์ ทันทีที่ลงมือก็สำแดงพลังน่าประหวั่นพรั่นพรึงออกมา!
อันที่จริง ก่อนนี้ระดับพลังของพวกเขามิได้สูงส่งเพียงนี้ อยู่แค่ขอบเขตผู้บงการ ซ้ำยังเป็นผู้บงการขั้นหนึ่งขั้นสองอันเป็นขั้นต่ำ
ทว่าก่อนบุกมายังอาณาจักรนี้ พวกเขาได้รับรางวัลจากปรโลกชั้นสูงสุดจนได้ก้าวสู่ขอบเขตนิรันดร์
เพื่อพิชิตอาณาจักรนี้ พวกเขาเตรียมการมาอย่างเพียบพร้อม ผู้กุมอำนาจชั้นสูงสุดก็ให้ความสำคัญกับภารกิจครั้งนี้มากเช่นกัน ให้ความช่วยเหลือพวกเขามามหาศาล
“พวกเราก็ลุยด้วย!”
“สังหารเขาลงที่นี่เสีย!”
สิ่งมีชีวิตยอดฝีมือผู้ก้าวออกจากช่วงเวลาต่าง ๆ ก็เคลื่อนไหวเช่นกัน พวกเขาเคยได้รับความเมตตาจากกองกำลังปริภูมิเวลา จึงต้องการตอบแทนบุญคุณ
โฮก!
เสียงอสูรคำรามดังสะท้านปฐพี ยอดฝีมือชั้นเลิศจากปริภูมิเวลาพากันออกโรง พวกมันต่างอยู่เหนือขอบเขตนิรันดร์ มีกำลังรบแกร่งกล้า!
พวกมันคือสัตว์อสูรทั้งหมด ดุดันเกินหยั่ง ยามนี้ระเบิดกำลังเต็มที่โดยไม่มีกั๊ก
ศึกนี้สยดสยองถึงขีดสุด ถือเป็นการต่อสู้ระดับนิรันดร์อย่างสิ้นเชิง ไม่มีตนใดด้อยกว่าขอบเขตนิรันดร์เลย
ศึกระดับนิรันดร์เช่นนี้ แม้แต่ในเทวโลกยังหาดูได้ยาก ยิ่งไม่ต้องเอ่ยว่ามีกำลังรบระดับนิรันดร์ออกโรงกันมากมายปานนี้!
ชั่วขณะนั้น ลำแสงเจิดจ้ามากมายปะทุ เจิดจรัสจนมิอาจทนมองตรง ๆ กระทั่งยอดฝีมือชั้นเลิศจากจักรวาลโกลาหลต่าง ๆ ก็มิอาจมองตรง ๆ ได้!
ยอดฝีมือชั้นเลิศบางตนจากจักรวาลโกลาหลอื่น ๆ ยืนกรานจะดูให้ได้ สุดท้ายดวงตาของเขาก็ระเบิดแหลกลาญ โลหิตไหลนองเต็มหน้า!
นี่คือบาดแผลที่สร้างความเสียหายถาวร ไม่อาจรักษา วันหน้าเขาจะกลายเป็นคนตาบอดอย่างแท้จริง ดวงตาคู่นั้นไม่สามารถฟื้นสภาพได้อีกแล้ว
“ข้ามิใคร่สนใจในผีสางและมิใคร่สนใจในมนุษย์ แต่พวกเจ้าดูไม่เลวเลย คิดแล้วคงมีรสชาติล้ำเลิศเป็นแน่”
หลี่จิ่วเต้ามองสัตว์อสูรปริภูมิเวลาที่บุกเข้ามาด้วยแววตาวาวโรจน์
สัตว์อสูรปริภูมิเวลาเหล่านี้ดูไม่ธรรมดากันทั้งสิ้น ถือเป็นวัตถุดิบชั้นเลิศได้แน่นอน เขาทนไม่ไหวอยากจับสัตว์อสูรปริภูมิเวลาเหล่านี้ไปย่างกินแล้ว!
ยมราชแห่งสิบขุมนรกบุกเข้าประชิด นิมิตภพผีมากมายปรากฏ เห็นแล้วชวนให้ใจสะท้าน ชาวาบไปทั้งหนังศีรษะ
พวกเขาล้วนมียอดศาสตราในมือ กำลังรบเปี่ยมล้น หลี่จิ่วเต้ายกมือเรียกก้านหลิวชะล้างออกมาจัดการกับยมราชแห่งสิบขุมนรกที่บุกเข้ามา
ขณะเดียวกันก็เรียกหินห้าสีออกมาด้วย ก่อนจะโยนใส่ยอดฝีมือชั้นเลิศจากยุคสมัยต่าง ๆ ที่พุ่งเข้ามา
ยอดฝีมือชั้นเลิศเหล่านี้ล้วนอยู่ในรูปลักษณ์มนุษย์ เขาไม่นึกสนใจแม้แต่น้อย สิ่งที่เขาสนใจคือสัตว์อสูรปริภูมิเวลาเหล่านั้น ถึงได้บุกเข้าไปด้วยตนเอง!
โฮกกกกก!
สัตว์อสูรปริภูมิเวลาเหล่านี้ส่งเสียงคำรามกราดเกรี้ยว ทะลุข้ามยุคสมัยมามากมายนับไม่ถ้วน พวกมันเองก็มีฐานะสูงส่งในปริภูมิเวลา บัดนี้เมื่อได้ยินวาจาของหลี่จิ่วเต้าที่เห็นพวกมันเป็นวัตถุดิบอาหารจะให้ทนไหวได้เช่นไร!
ชั่วขณะนั้น พวกมันระเบิดพลังอย่างบ้าคลั่ง หมายมั่นจะสังหารหลี่จิ่วเต้าให้จงได้ ให้หลี่จิ่วเต้าได้รู้ว่าพวกมันมิใช่ผู้ที่จะหยามเหยียดได้ง่าย ๆ!
พวกมันมีพลังแกร่งกล้า ทะเลปริภูมิเวลาเดือดพล่าน กฎแห่งปริภูมิเวลารายล้อมอยู่รอบตัวพวกมัน ร่างของพวกมันปรากฏอยู่ในห้วงเวลาต่าง ๆ!
“ในที่สุดข้าก็เข้าใจแล้ว ว่าเหตุใดพวกเจ้าถึงมอบกระดาษเงินกระดาษทองเป็นของขวัญ นั่นเป็นของขวัญที่พวกเจ้าเตรียมไว้ให้ตนเอง กระดาษเงินกระดาษทองที่โปรยเพื่อฌาปนกิจศพพวกเจ้าเองล่วงหน้า!”
หลี่จิ่วเต้าไม่นึกเกรงกลัวแม้รอบตัวจะไม่มีม่านแสงห้อมล้อม เขาเพียงถือใบหญ้าไว้มือหนึ่ง และต้นวิเศษสัตตะไว้อีกมือหนึ่ง พร้อมกับบุกเข้าไปหาบรรดาสัตว์อสูรปริภูมิเวลา
ตอนนี้ร่างของเขาทั้งองอาจยิ่งใหญ่ เปี่ยมไปด้วยบารมีไร้เทียมทาน!