(เล่ม 2 ยูริมักผลิบานในโรงเรียนหญิง)
โรงเรียนที่จะอยู่ในเกมยูริ แน่นอนว่าก็ต้องเป็นโรงเรียนหญิง
จะบอกว่ามันแน่อยู่แล้ว มันก็แน่อยู่แล้วจริง ๆ นั่นแหละ
ก็เพราะเป็นเรื่องราวความรักระหว่างเด็กผู้หญิง ดังนั้นผู้ชายจึงไม่มีความจำเป็นไงล่ะ
กลับกันคือ ถ้ามีแล้วมันจะเกะกะสำหรับความรักอันงดงามระหว่างเด็กผู้หญิงน่ะ
การมีอยู่ของผู้ชายอยู่มันอาจจะทำให้เป็นปัญหาเอาได้
โรงเรียนเวทมนตร์หญิงโอโตรินั้น ก็เป็นเหมือนกัน…เป็นโรงเรียนที่ยอดเยี่ยมสำหรับเด็กสาวทั้งหลาย และหลังจากนี้ ผมก็กำลังจะไปเข้าเรียนที่โรงเรียนเวทมตร์หญิงโอโตริที่ว่านั่น
เอ๊ะ!? โรงเรียนหญิงเนี่ย ผู้ชายมันเข้าได้ด้วยเหรอครับ!?
เรามาไขข้อสงสัยตรงนั้นกันเถอะ–คำตอบก็คือได้สิครับ!!!
ในโลกเอสโก้น่ะ ผู้ชายก็เข้าเรียนโรงเรียนหญิงได้ล่ะครับ!!
หรือถ้าจะให้พูดในทางกลับกันก็คือ มีแต่โรงเรียนหญิงนี่แหละที่ผู้ชายเข้าเรียนได้
โรงเรียนส่วนใหญ่ในโลกนี้น่ะ ถ้าไม่เป็นหญิงล้วนก็ชายล้วนไปเลย ดังนั้นโรงเรียนที่เป็นโรงเรียนสหศึกษานี่ถือว่าค่อนข้างหายากเลย ก็เพราะเป็นโลกที่ผู้หญิงและผู้ชายเดินด้วยกันไม่ใช่เรื่องปกติ ก็เลยเห็นความแตกต่างของผู้หญิงและผู้ชายได้ชัดเจน
โรงเรียนหญิงล้วนมีให้เห็นได้ทั่วไป ส่วนโรงเรียนชายล้วนนั้นก็ถือว่าน้อยมาก
นั่นก็เพราะว่าโลกนี้คือเกมยูรินั่นแหละนะ เด็กผู้หญิงก็ต้องรักกับเด็กผู้หญิงแหละ…และเพราะแบบนั้น ฉากต่าง ๆ ก็จะมีเด็กผู้หญิงเยอะ
บางทีแล้ว ถ้าโลกนี้เป็นโลกที่ผู้ชายรักกัน จำนวนมันก็อาจจะสลับขั้วกันเลยก็ได้
เพราะแบบนั้น ตัวเลือกที่เหลือของโลกใบนี้ที่มีแต่โรงเรียนหญิงล้วน
ซึ่งผู้ชายที่ไม่ได้เข้าโรงเรียนชายล้วน จึงต้องมาที่โรงเรียนหญิงล้วนยังไงล่ะ
[ผู้ชายเข้าโรงเรียนหญิงล้วน]
ถึงไม่น่าจะเข้าใจได้ แต่โลกนี้ก็กลับยอมรับเรื่องนี้ได้ง่าย ๆ
ซึ่งไอ้การบังคับผู้ชายเข้าโรงเรียนหญิงล้วนเนี่ยถือเป็นนรกดี ๆ นี่เอง
ถ้าถามว่าทำไมล่ะก็ นั่นก็เพราะว่าพวกนี้มันไม่ควรจะมีตัวตนอยู่น่ะสิ
การที่มีผู้ชายอยู่ในโรงเรียนหญิงล้วนเนี่ย…ยังไงพวกนั้นก็ถูกมองว่าเป็นศัตรูหรือตัวเกะกะแน่นอน
ปกติสถานะผู้ชายก็ต่ำต้อยอยู่แล้ว ถ้าแค่ถูกเมินเฉย ๆ ก็ดีไป แต่ในกรณีที่เลวร้ายที่สุด คือการถูกปฏิบัติเยี่ยงทาสในชีวิตนักเรียนนี่แหละ
เพราะแบบนั้น ผู้ชายที่ได้คะแนนสูงก็จะได้ไปเข้าเรียนที่โรงเรียนชายด้วยรอยยิ้มแบบผู้ชนะ ส่วนคนที่มีคะแนนน้อยก็จะได้ไปโรงเรียนหญิงล้วนด้วยสีหน้าที่เหมือนว่าพรุ่งนี้โลกจะแตก
แล้วถ้าแบบนั้น มนุษย์จะยังคงอยู่ในโลกนี้ได้ยังไงกันล่ะ!?
ก็อาจจะมีคนคิดแบบนั้น แต่ไม่ต้องห่วงไปหรอก
เพราะในโลกของเอสโก้น่ะ ผู้หญิงสามารถมีลูกด้วยกันได้ยังไงล่ะ (ได้รับการยืนยันแล้ว)
เรื่องนี้ ทางผู้พัฒนาก็ได้ตอบคำถามไว้ในชุดการตั้งค่าแล้วน่ะนะ
มันคือเวทย์จูบนั่นเอง
มันมีเป็นตัวอักษรเด้งขึ้นมาเลยแหละ แถมยังเขียนไว้ว่าไม่รับข้อโต้แย้งอะไรเลยด้วย แบบนี้ทีมพัฒนาก็ถือว่าหน้าด้านรึเปล่านะ?
ผมคิดแบบนั้น
โลกที่เด็กผู้หญิงสามารถมีลูกด้วยกันได้ ด้วยการจูบกันเนี่ย มันสุดยอดโลกชัด ๆ
แล้วโรงเรียนหญิงในโลกที่ว่านั่น กับผมที่เป็นผู้ชายท่ามกลางยูริที่มีคะแนนแค่ 0 น่ะ… คงรู้สินะครับว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น?
แค่ยืนอยู่ตามต้นซากุระหน้าประตูโรงเรียนยังถูกมองด้วยแววตาสงสัยเลย
มีคนสองคนใส่ชุดนักเรียนที่กำลังจ้องมาทางผมและซุบซิบกัน พอเดินผ่านมาก็กระซิบขึ้นมาว่า “ชุดนักเรียนชายงั้นเหรอ…?” ด้วยความสงสัยด้วยล่ะ
เหล่าสาว ๆ ก็ต่างมองผมที่สวมชุดเครื่องแบบเดียวกัน…ซึ่งเป็นของที่สั่งทำพิเศษเฉพาะโรงเรียนนี้เท่านั้น
เครื่องแบบของโรงเรียนเวทมนตร์หญิงโอโตรินั้น เป็นชุดสีดำที่ผูกริบบิ้นสีแดง พอใส่คู่กับเสื้อเบลาส์สีขาว มันก็ยิ่งทำให้ผ้าสีดำดูโดดเด่น แต่ที่สำคัญเลยคือกระโปรงยาวที่ทำให้ได้กลิ่นอายของความเป็นโรงเรียนหญิงนี่แหละ
ให้พูดง่าย ๆ เลยก็คือ คาวาอี้!!
กลับกันแล้ว ชุดเครื่องแบบชายของผมเนี่ย…จะยังไงก็ช่างหัวมันรึไงฟระ!!
แค่กางเกงธรรมดา ๆ กับชุดเบลสเซอร์ทั่วไป ไม่มีอะไรเลย
ความแตกต่างของเครื่องแบบระหว่างโรงเรียนเวทมตร์หญิงโอโตริกับโรงเรียนทั่วไปนั่นก็คือ ชุดเครื่องแบบเหล่านี้มันถูกออกแบบมาเพื่อใช้กับอุปกรณ์เวทย์ยังไงล่ะ
ชุดพวกนี้ทำมาจากผ้าพิเศษที่เรียกว่า [ผ้าเกราะ] ซึ่งจะตอบสนองต่อทริกเกอร์และช่วยในการปลดปล่อยพลังเวทย์ออกมา
นอกจากนี้ก็ยังมีบาเรียป้องกันเวทย์อีกด้วย (ด้วยการดึงพลังเวทย์ของผู้ใช้ออกมาสร้างเป็นบาเรียอัตโนมัติ) เพราะงั้น ต่อให้โดนเวทมนตร์ไปก็ไม่เป็นอะไรแน่นอน
แต่เพราะแบบนี้ ก็เลยไม่มีฉากลามกที่พวกตัวเองทำโดยใส่ชุดนี้เลยซักครั้ง
แต่ก็อย่าได้ถามหาฉากลามิกในเกมยูริเชียวล่ะ (โกรธ)
ผมเช็คเวลาไปด้วยในขณะที่กำลังมีนักเรียนใหม่เดินผ่านไปผ่านมา
ตอนนี้เป็นเวลา 8:45 น.
โฮมรูมสั้น ๆ จะเริ่มขึ้นประมาณเวลา 9:00 น. ถ้าไปตอนช่วงนี้ก็น่าจะดี
ผมที่แยกตัวมาจากลาพิสกับเรย์เพื่อมาดูหน้าตัวเอก ก็ได้คลายเนคไท แล้วมุ่งหน้าไปที่ประตู
กระดานแจ้งชื่อชั้นเรียนตั้งอยู่ แต่ผมก็ไม่ได้สนใจและมุ่งหน้าไปที่ห้องเรียน
เพราะยังไงมันก็เป็นชื่อห้องที่เคยเห็นมาในเกมแล้วเป็นพัน ๆ ครั้งนั่นแหละนะ…ซึ่งการจัดห้องตามปกติแล้วก็จะมีตัวเอก นางเอก แล้วก็ฮิอิโระคุง อยู่คลาสเดียวกันทั้งหมด
โรงเรียนเวทมนตร์หญิงโอโตริเนี่ย โคตรจะกว้างใหญ่ไพศาลเลย
นั่นก็เพราะว่า มีอุปกรณ์จำเป็นทั้งหมดสำหรับใช้เพื่อความคืบหน้าในเกมเลยไงล่ะ
มีหอพัก 3 ที่ อาคารวิจัยเวทมนตร์/คอนโซล ลานฝึกซ้อม โรงงานแปรธาตุ โกดังเวทย์ ฝ่ายจัดซื้อ สมาคมนักผจญภัย ร้านเสริมสวย สวนพืช ห้องสมุด…และอีกมากมายนับไม่ถ้วนเลยทีเดียว
ถ้าบอกประมาณว่ามีตัวละครที่ขายอุปกรณ์เวทย์อยู่ข้างร้านขายเบเกอรี่จะพอเข้าใจมั้ยนะ (ก็เหมือนที่อเมริกาซื้อปืนที่ห้างรึเปล่านะ?)
เพราะแบบนี้นักเรียนส่วนใหญ่ก็เลยหลงทางไปห้องเรียนกันนี่แหละ
ผมที่เห็นสาว ๆ จากหลายที่ร้องด้วยความสิ้นหวัง มันทำให้ผมยิ้มออกมาพร้อมนึกถึงความสิ้นหวังตอนเล่นครั้งแรกเลย
จากการที่เล่นมาหลายต่อหลายครั้ง มันทำให้ผมจำได้หมดแล้ว เพราะงั้นผมจึงวางมือไว้ที่ประตู [คลาส A] อย่างไม่ลังเลและจู่ ๆ ประตูก็ถูกผลักออกมา
มีคนใส่ชุดเครื่องแบบชายออกมาและวิ่งหนีออกไปทางโถงทางเดิน
พอผมมองไปที่ด้านหลังของคนคนนั้นแล้ว ผมก็หันกลับมามองคนที่เปิดประตู
“ตายจริง ผู้ชายอีกแล้วงั้นเหรอคะ?”
ผู้หญิงผมม้วนสีทองฉูดฉาดสะบัดอุปกรณ์เวทย์ที่อยู่ตรงคอไปมา
“ไม่เห็นจะรู้มาก่อนเลยนะคะ ว่าที่คลาสนี้จะมีผู้ชายอยู่ถึง 2 คนน่ะ”
ชื่อของเธอคนนี้ก็คือ โอฟีเลีย ฟอน มาร์เจไลน์
(Translator : จริง ๆ นามสกุล มาร์เจไลน์ นี่ผมไม่ค่อยแน่ใจจริง ๆ ถ้าเทียบตามอังกฤษมันจะออกเสียงเป็นเมิร์จไลน์, มาจีไลน์ แต่ผมขอปรับชื่อให้ฟังดูเพราะละกันครับ)
ตัวรองในโลกเอสโก้ หรือที่รู้จักในชื่อ–
“โอ๊โฮะโฮะโฮะโฮะ! คุกเข่าอยู่ตรงนั้นซะเถอะค่ะ!! ดิฉันผู้ทรงเกียรติแห่งตระกูลมาร์เจไลน์ จะเป็นผู้ลงทัณฑ์คุณเองค่ะ!!”
[คุณหนูปากร้าย] นั่นเอง