ฝ่าปริศนา ตะลุยโลกเบื้องหลัง – ตอนที่ 58

ฝ่าปริศนา ตะลุยโลกเบื้องหลัง

“อ๊ะ! รุ่นพี่! ทางนี้ค่ะ!”

 

11 โมง

พอฉันเดินไปที่ลานใต้ดินตรงทางเข้าของรถไฟสาย JR ฝั่งตัวเมืองของสถานีอิเคบุคุโระ เซโตะ อาคาริก็เจอฉันก่อน พร้อมกับโบกมือไหวๆ ให้

เสียงเธอที่ตะโกนดังลั่น กับท่าทางที่ไม่ได้ใส่ใจสิ่งที่คนรอบข้างอาจจะคิดเลยทำเอาฉันหวั่นใจนิดๆ แล้วเนี่ย ถึงงั้นก็เถอะ ฉันก็ดีใจนะที่เธอเป็นฝ่ายทักฉันก่อน พวกเราเพิ่งเจอกันประมาณเมื่อวานซืนนี่เอง ฉันเลยไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่ว่าจะจำเธอได้

วันนี้เธอมาในเสื้อยืดสีขาวตัวใหญ่กับกางเกงยีนส์เดนิม ทำให้เธอดูเป็นคนห้าวๆ เลย แล้วก็แบกกระเป๋าตะกร้าที่ทำจากวัสดุธรรมชาติล้วนๆ มาด้วย ทางฉันเป็นเสื้อยืดลายทางที่มีเสื้อเชิ้ตคลุมทับอีกตัวนึง กับกางเกงขายาวสีขาว แล้วก็รองเท้าผ้าใบ บนหัวก็สวมหมวกนิวส์บอยปีกต่ำที่ซื้อจากนาฮะมาด้วย เมื่อครั้งแรกที่เราเจอกันที่มหาลัย ฉันแต่งตัวสบายๆ แบบที่ใส่เดินตามละแวกบ้านเลย แต่วันนี้ ฉันก็แต่งตัวให้ตัวเองดูดีซักหน่อย

นี่แหละดีสุดที่ฉันทำได้ละ เพราะงั้นขอทีเถอะ

ตอนที่พวกเราอยู่ที่สถานีคิซารากิ โทริโกะเคยบอกว่าให้แต่งตัวให้ดีพอ ตาขวาของฉันมันก็จะไม่เด่นออกมา เพราะงั้น นี่ฉันก็พยายามที่สุดแล้วล่ะนะ

 

“ขอบคุณที่อุตส่าห์มานะคะ! วันนี้ก็ขอฝากตัวด้วยค่ะ!”

“ไม่หรอก เออ อย่าหวังอะไรมากนะ โอเคมั้ย? นี่ฉันจริงจังนะ…”

 

ฉันบอกในขณะที่รู้สึกเหมือนโดนอารมณ์ของเธอทับใส่

 

“อยากดื่มชาที่ไหนก่อนมั้ยคะ? เดี๋ยวฉันจ่ายเอง”

“เออ เดี๋ยวก่อน เดี๋ยวมีอีกคนนึงมาด้วยนะ”

“เอ๊ะ? ใครเหรอคะ?”

 

สีหน้าของเธอดูจะตกใจ แต่ฉันก็บอกเธอต่อ

 

“เธอชื่อท-… นิชินะ เป็นคนที่บอกให้ฉันช่วยเธอนี่แหละ”

“อ้อ! เข้าใจแล้วค่ะ! เป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้เหมือนรุ่นพี่สินะคะ?”

“เออ ไม่ใช่ ก็บอกแล้วไงว่าฉันไม่ใช่อะไรแบบนั้นน่ะ…”

 

ตอนที่ฉันพยายามปฏิเสธ ก็มีเสียงดังขึ้นจากข้างหลัง

 

“ดีจ้า ผู้เชี่ยวชาญอยู่นี่แล้ว”

 

พอฉันหันไปมอง โทริโกะก็มาถึงที่นี่แล้ว วันนี้มาในเสื้อเชิ้ตแขนเสื้อเป็นระบายพริ้ว กับกระโปรงคอร์เสคลายดอกไม้ บนหัวสวมหมวกฟางปีกแคบไว้ด้วย ผู้หญิงคนนี้นี่นะ มาในชุดที่ไม่มีทางที่ฉันจะใส่แล้วดูดีมาได้เหมือนอย่างทุกทีเลย

 

“ไง โซราโอะ เป็นอะไรน่ะ? จ้องตาเขม็งเลย?”

“ไง ฉันแค่คิดว่าวันนี้ก็มาสวยอีกแล้วเท่านั้นเอง”

“เอ๋? ชมกันแต่เช้าแบบนี้เลยเหรอ? พูดกันแบบนี้เขินนะ”

 

ตายละ ไม่น่าพูดแบบนั้นออกไปเลย

อาจจะเพราะมาแบบไม่ทันตั้งตัวด้วย เซโตะก็เลยเหมือนจะยังสับสนอยู่

 

“เออ… คุณคือคุณนิชินะสินะคะ? ยินดีที่ได้เจอค่ะ ฉัน―”

 

โทริโกะยิ้มตอบ

 

“โทริโกะก็ได้ เธอคืออาคาริสินะ”

“อ๊ะ! ใช่ค่ะ”

“ยินดีที่เจอน้า”

 

แบบเดียวกับตอนที่เจอฉันเลยแฮะ สงสัยโทริโกะจะชอบให้เรียกชื่อต้นของเธอมากกว่าสินะ เอาตามนั้นก็แล้วกัน

 

“เดี๋ยวก่อนนะ โทริโกะ แล้วนี่เธอไปเป็นผู้เชี่ยวชาญตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย?”

“ไม่ได้เหรอ? ไม่คิดเหรอว่าพวกเราเองก็เป็นผู้เชี่ยวชาญกันแล้วเหมือนกันนะ? ก็ พวกเรามีชีวิตรอดมาได้ถึงขนาดนี้แล้วนี่นา”

“ฉันรู้สึกเหมือนเดินไต่อยู่บนเส้นลวดระหว่างความเป็นกับความตายมันทุกครั้งเลยมากกว่านะ”

 

ระหว่างที่ฟังฉันกับโทริโกะเถียงกันอยู่ สีหน้าของอาคาริก็เริ่มไม่สู้ดีขึ้นมา

 

“แสดงว่า มันอันตรายมาก อย่างที่ฉันคิดเลยสินะคะ…”

“เอ๊ะ? เปล่าหรอก ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน…”

 

เพราะอะไรไม่รู้ ฉันถึงได้ลังเลที่จะพูดออกไป ไม่เห็นต้องสงสัยเลยนี่ ถ้าเกิดเรื่องนี้มันเกี่ยวข้องกับโลกเบื้องหลัง ยังไงมันก็ต้องอันตรายอยู่แล้ว

 

“เอาเป็นว่าตอนนี้ มาฟังเรื่องราวของเธอกันก่อนดีกว่า พวกแมวนินจาพวกนั้นเป็นยังไงเหรอ? น่ารักมั้ย? พอจะมีวิดีโอหรืออะไรแบบนั้นหรือเปล่า?”

 

โทริโกะถามขึ้นด้วยน้ำเสียงสดใส

 

“เข้าไปที่ไหนซักที่กันก่อนดีกว่านะ”

 

แต่ก่อนจะทันเดินไปไหน ฉันก็แย้งขึ้นมา

 

“ไม่ต้องไปจ่ายส่วนของโทริโกะหรอกนะ”

“เอ๊ะ? อะ ค่ะ”

 

อาคาริพยักหน้าอย่างว่าง่าย ในขณะที่โทริโกะก็ประท้วงขึ้นมา “ทำไมล่ะ? หมายความว่ายังไงกันเนี่ย?” พวกเราก็ขึ้นลิฟต์กันมาชั้นเหนือพื้นแล้ว

 

“แล้ว เธอรู้หรือเปล่าว่าทำไมแมวถึงได้มารวมตัวกันอยู่รอบๆ แบบนี้?”

 

พอเราได้โต๊ะนั่งกันในคาเฟ่มะเขือเทศสไตล์อิตาเลียน ก่อนจะถึงช่วงวุ่นวายของมื้อเที่ยงแล้ว อาคาริก็เริ่มพูด

 

“มันเริ่มเมื่อประมาณเดือนก่อน ฉันไปเจอพวกแมวรวมตัวกันอยู่ค่ะ ตอนนั้นเป็นตอนเย็น ฉันเพิ่งออกมาจากร้านสะดวกซื้อที่แวะตอนขากลับจากมหาลัย แล้วฉันก็ได้ยินเสียงขู่ค่ะ แล้วพวกมันก็มีบางอย่าง… ที่แปลกๆ ด้วย”

 

ถึงตรงนี้ อาคาริก็เริ่มลังเลที่จะพูด โทริโกะก็เลยถามเอาข้อมูลจากเธอเพิ่ม

 

“หมายความว่ายังไงเหรอ ที่ว่าแปลก?”

“มันเป็นเสียงทารก กับเสียงคนแก่ แล้วก็เสียงแหลมสูงเหมือนของโวคาลอยด์ผลัดกันพูดน่ะค่ะ ฉันก็ฟังไม่ออกเหมือนกันว่าเสียงพวกนั้นคุยกันว่ายังไง แต่ฉันได้ยินพวกมันพูดซ้ำๆ ว่า ‘พวกเราพบเครื่องหมายแล้ว’ กับ ‘มันจะมาในอีกไม่ช้า’ มันแปลกมากๆ ฉันก็เลยเดินวนไปดูที่หลังร้านสะดวกซื้อ―ก็เจอแมวอีกเพียบเลยค่ะ เกือบ 20 ตัวได้ กระจายอยู่กันเต็มลานจอดรถไปหมด พวกมันทุกตัวหันมามองที่ฉันกันเป็นตาเดียว แล้วกับ *ฟุบ* หนีกันไปหมดเลย ตอนนั้น ทั้งหมดที่ฉันคิดก็แค่ว่า โอ๊ะโอ นี่ฉันเผลอไปกวนพวกมันงั้นเหรอ ขอโทษนะ แต่ตั้งแต่ตอนนั้นมา ทุกคืน…”

 

อาคาริหยิบมือถือของตัวเองขึ้นมา วางมันเอาไว้บนโต๊ะ

 

“นี่มาจากเมื่อวานนี้ค่ะ ฉันถ่ายไว้หลังจากที่รุ่นพี่โทรมาเลย”

 

พอเธอกดเริ่มเล่นวิดีโอ มันก็แสดงให้เห็นภาพของผ้าม่านที่บังหน้าต่างของเธอเอาไว้อยู่ พอเธอเร่งเสียงให้ดังขึ้น ก็มีเสียงกระแทกดังขึ้น

*…ตึ้ง! …ปึ้ง!* 

อะไรซักอย่างกระแทกหน้าต่างเป็นระยะๆ มาจากข้างนอก

มือข้างนึงยื่นออกไปจากทางด้านขวาของกล้อง ดึงผ้าม่านเปิดออก ข้างนอกมันมืดสนิท สะท้อนภาพภายในห้องให้เห็นได้เลย แวบนึงก็จะเห็นห้องของอาคาริที่สะอาดเรียบร้อย กับเจ้าตัวในชุดอยู่บ้าน มือข้างนึงถือโทรศัพท์เอาไว้อยู่

เธอเอากล้องไปใกล้หน้าต่างมากขึ้น ทำให้เห็นกับบรรยากาศข้างนอกห้อง

ไม่มีใครอยู่เลย… ฉันคิดแบบนั้น ก่อนที่จะมีแสงสีเหลือง 2 ดวงสว่างขึ้นในความมืด มันมีเสียงร้องเสียงแหลมคล้ายการนำคลิปเสียงพูดมาเร่งไปข้างหน้าแล้วฟังดู ก่อนที่จุดแสง 2 ดวงนั่นจะพุ่งเข้ามาที่กระจกหน้าต่างอย่างรวดเร็ว

หน้าจอภาพสะบัด ถอยห่างมาจากหน้าต่างทันที แล้วมือของคนถ่ายคลิปก็รีบกำผ้าม่านดึงกลับมาปิดไว้อย่างเดิม

*ปึ้ง!* มีเสียงดังขึ้นที่หน้าต่างอีกครั้ง… แล้วทุกอย่างก็เงียบไป

2-3 วินาทีหลังจากที่กล้องหันไปถ่ายที่พื้น คลิปก็จบลง

 

“…เป็นไงบ้างคะ?”

“เกิดแบบนี้ขึ้นทุกคืนเลยงั้นเหรอ?”

“ค่ะ หลังจากที่ทนอยู่ซักพัก ทุกอย่างก็จะเงียบไปเลย”

 

ฉันจำเสียงตอนที่โทรคุยกับเธอเมื่อวานนี้ได้อยู่ หรือว่าพวกเสียงจอแจที่ฉันเข้าใจว่าเธออยู่กับครอบครัวนั่น จริงๆ เกิดจากเจ้านี่กันนะ?

 

“ตาสีเหลืองคู่นั้นคือของแมวนินจางั้นเหรอ?”

 

โทริโกะถามในขณะที่ย้อนคลิปไปด้วย

 

“อาจจะใช่นะคะ ปกติฉันจะพยายามไม่ไปเปิดผ้าม่านเลย ก็เลยไม่ได้มองมันดีๆ แต่… ฉันว่ามันน่าจะเป็นตัวเดียวกับที่ตามหลังฉันมาเวลาที่ฟ้าสว่างนะคะ”

“ถ่ายไม่ติดมันเลยเหรอ?”

“ลองดูแล้วค่ะ แต่ไม่เคยถ่ายติดดีๆ เลยซักรูป”

 

อาคาริเลื่อนให้ดูรูปในมือถือของเธอ มันมีรูปถนนในย่านชุมชนกับเงาดำๆ ตรงมุมของภาพ, ภาพเบลอๆ เหมือนมีอะไรแอบอยู่ตรงข้ามของถนน, ภาพพื้นที่ว่างๆ, แมวธรรมดาบนสไลเดอร์ในสวนสาธาราณะ… ตามปกติ ถ้าเกิดมีใครมาบอกฉันว่าถูกหมายหัวจากแมวนินจาอยู่ แล้วนี่คือทั้งหมดที่เอาให้ฉันดูได้ ฉันก็ไม่รู้เลยล่ะว่าจะทำยังไงดี

…ตามปกติน่ะนะ

มองลองคิดดูแล้วนี่ ในเรื่องต้นฉบับของ [แมวนินจา] เอง ผู้เล่าประสบการณ์ก็พยายามจะถ่ายภาพเอาไว้ด้วยนี่นะ แต่สุดท้าย ภาพที่นำมาอัปโหลดเอาไว้ก็มีแต่ภาพเบลอๆ เท่านั้นเอง

 

“ทำไมรุ่นพี่ถึงตัดสินใจช่วยฉันล่ะคะ? ตอนแรก รุ่นพี่ดูไม่ได้คิดจะช่วยเลยนี่นา ใช่มั้ยคะ?”

 

อาคาริถามขึ้นอย่างสงสัย ในขณะที่ฉันกับโทริโกะกำลังโน้มตัวไปดูภาพเบลอๆ พวกนั้นกันอยู่ ซึ่งฉันก็ตอบเธอไปตามตรง

 

“พวกเราโดนลากมาเอี่ยวด้วยแล้วน่ะสิ ก็เลยตกกระไดพลอยโจนมาด้วยแล้ว”

“โดนลากมาเอี่ยว?”

“หลังจากฟังเรื่องจากเธอมา ฉันก็มีพลพรรคบรรดาแมวเดินตามฉันมาด้วยน่ะสิ ถึงจะยังไม่เห็นแมวนินจาเลยก็เถอะนะ”

 

เมื่อคืนก่อน หลังจากที่พวกเราออกมาจากร้านเหล้าแล้วก็กลับบ้านกัน พวกแมวก็ร้องครางกันอยู่นอกหน้าต่างจนหลับลำบากเลย ดูเหมือนว่าที่ห้องของโทริโกะเองก็เจอเหมือนกัน แต่ตอนที่ฉันออกมาจากห้องเมื่อเช้าก็ไม่เห็นแมวซักตัวแล้วนะ สงสัยพวกมันอาจจะยอมแพ้ แยกย้ายกลับกันไปแล้วก็ได้

 

“หวา!? นั่นเป็น… ความผิดของฉัน สินะคะเนี่ย?”

“ก็ใช่นะ”

“ไม่ต้องสนใจหรอก ไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย พวกเราชินแล้วล่ะ”

 

โทริโกะพูดขึ้นมาตามอำเภอใจซะงั้น

 

“ว้าว… พวกรุ่นพี่ต้องเจอประสบการณ์แบบนี้มาเยอะเลยสินะคะ?”

“ก็ประมาณนึงอยู่ เนอะ โซราโอะ?”

“…อือ ใช่”

 

ที่ฉันรู้สึกได้จากสีหน้าของอาคารินั่นใช่ความเคารพหรือเปล่าเนี่ย? ตาส่องแสงเป็นประกายเลย มันทำให้รู้สึกอึดอัดจนต้องเบือนหน้าหนีเลยล่ะ

แต่ ก็จริงนะ ถ้ามองจากวัตถุประสงค์ที่ต้องการแล้ว พวกเราก็มี ‘ประสบการณ์ในเรื่องแนวนี้’ เยอะกว่าคนทั่วๆ ไปจริงๆ ถึงฉันจะไม่รู้ก็เถอะนะว่ามันมีประโยชน์อะไรหรือเปล่า

อาคาริบอกว่าเธอไปขอให้ทางวัดกับศาลเจ้าช่วยมาแล้ว แต่ไม่มีที่ไหนทำอะไรได้เลย ก็น่าแปลกอยู่นะ ถ้าเกิดเป็นภูติผี คำสาป หรืออะไรก็ตามที่มีอยู่ดาดดื่นพวกนั้น ก็คงมีเครื่องเซ่นให้จัดหา มีพิธีชำระล้างให้จัดขึ้นไปแล้วล่ะ มันมีมาตรการในการจัดการกับเรื่องพวกนั้นอยู่ ไม่ว่ามันจะมีจริงหรือไม่มีก็ตาม พวกเขาก็ยังสามารถเสนอบริการและให้คำแนะนำในการจัดการกับเรื่องพวกนั้นได้บ้าง

แต่ แมวนินจาเนี่ยนะ? ใครจะไปเอาจริงเอาจังกับเรื่องแบบนั้นกันล่ะ? เธอจะโดนปล่อยผ่านไปแบบไม่ใส่ใจอะไร แล้วเรื่องมันก็จะจบแค่นั้น

…ตามปกติน่ะนะ

ฉันลังเลอยู่ ก่อนจะเปิดปากพูด

 

“ก็ ถูกนั่นแหละ ถ้าเป็นเรื่องแปลกๆ พวกนี้ล่ะก็ ฉันไม่คิดว่าจะมีใครสามารถให้คำปรึกษาได้ดีไปกว่าเราแล้วล่ะนะ”

 

นี่เป็นการตีแผ่สถานการณ์ที่พิสดารอย่างชัดเจน และจะศาสนาไหนที่มีอยู่ก็ไม่มีทางทำอะไรกันมันได้เลย―จะบอกว่าเป็นสูตรสำเร็จของสิ่งแปลกประหลาดที่ถูกกล่าวถึงในเรื่องผีที่มีการพบเห็นจริงกับตำนานที่เล่าขานกันในอินเตอร์เน็ตเลยก็ได้ คุเนะคุเนะ, คุณลุงในห้วงมิติ, สถานีคิซารากิ… การไล่ผีแบบไหนก็ทำอะไรสิ่งผิดปกติพวกนั้นไม่ได้อยู่แล้ว ถึงเรื่องของท่านฮัชชาคุกับคันคันดาระจะมีองค์ประกอบของพิธีกรรมทางศาสนาแบบดั้งเดิมอยู่บ้างก็จริง แต่กรณีพวกนั้น พวกนั้นก็แค่พอจะผนึกการเคลื่อนไหวของสิ่งผิดปกติพวกนั้นเอาไว้ได้―ไม่ได้มีวิธีการจัดการแบบถอนรากถอนโคน

ถ้ามองแบบนั้นแล้ว [แมวนินจา (猫の忍者 : Neko no Ninja)] เองก็เหมือนกันเลยนะ อย่างน้อย พวกนี้ก็ไม่น่ากลัวนั่นแหละ

 

“ดูเหมือนจะมีอารมณ์ลุยขึ้นมาแล้วสินะตอนนี้?”

 

โทริโกะพูดขึ้น ฉันก็ถอนหายใจเฮือกออกมาด้วยอารมณ์ที่ต้องยอมรับอย่างเสียไม่ได้

 

“เอาล่ะ ดูเหมือนจะต้องทำสินะ ไปจัดการพวกแมวนินจากันเถอะ”

“โอเค”

“ข- ขอบคุณมากนะคะ!”

 

หน้าของอาคาริเป็นประกายเลย

แต่ก็อย่างว่าล่ะนะ ฉันชี้ปืนไปทางพวกแมวไม่ได้อยู่แล้ว แล้วฉันก็ไม่อยากทำด้วย ถ้าเกิดมีใครถ่ายวิดีโอไปล่ะก็ ได้กระจายไปเป็นไวรัลแน่ๆ…

ไม่สิ ฉันว่าฉันคงต้องเข้าคุกในข้อหามีปืนไว้ในครอบครองโดยไม่มีใบอนุญาตกับพกพาอาวุธปืนมาในที่สาธารณะซะก่อนมากกว่า

 

“…หวังว่าพวกแมวนินจาจะไม่น่ารักเท่าไหร่แล้วกันนะ”

 

ฉันพึมพำกับตัวเอง

 

“อ้อ จริงสิ แมวนินจาเนี่ย พอจะบอกได้มั้ยว่าลักษณะหน้าตามันเป็นยังไงน่ะ?”

“โอ๊ะ! ขอคิดดูก่อน-…”

 

อาคาริตอบคำถามนั้นของโทริโกะ ก่อนที่เสียงของเธอจะขาดหายไป

 

“หืม? มีอะไรเหรอ?”

“เอิม… มันดูเหมือนแบบนั้นเลยค่ะ”

 

พอฉันหันไปดูตามที่นิ้วของเธอชี้ ฉันก็เห็นเงาเล็กๆ ยืนอยู่บนเคาน์เตอร์

แมว… ก็ดูเป็นแบบนั้นเลยล่ะนะ

แมวที่ยืนด้วยขา 2 ข้าง พอยืนแล้วตัวก็สูงประมาณ 50-60 เซนได้ ขนสีเทาแบบพันธุ์รัสเซียนบลู แล้วก็สวมผ้าสีดำขาดรุ่งริ่งอยู่ ในมือข้างนึงถือดาบทรงคล้ายคาตานะที่มีใบดาบหยักเหมือนใบเลื่อยอยู่ด้วย ถือไว้ด้วยอุ้งมือข้างเดียวได้ยังไงก็ไม่รู้

ระหว่างที่ฉันยังงงอยู่ ก็มีแมวอีกตัวโผล่ออกมาจากใต้เคาน์เตอร์ ตัวนี่มีขนเป็นสีดำ สวมผ้าคลุมปิดหัว แล้วก็ถืออาวุธหน้าตาดูชั่วร้าย เป็นเหมือนมีดที่ใบเหมือนเคียวออกมาจากหลายทิศทาง มันหน้าตาเหมือนกับมีดปาของแอฟริกากลางเป๊ะเลย

 

““…แมวนินจา!?””

 

ฉันกับโทริโกะร้องออกมาพร้อมกันเลย

 

 

TN: ประหนึ่งมีวาจาสิทธิ์ 555

แมวรัสเซียนบลู (Russian Blue Cat) หรือราเซินบลู เป็นแมวสายพันธุ์พื้นเมืองของรัสเซียที่มีลักษณะสีขนเป็นสีฟ้าออกไปทางสีดำ ชั้นขนของแมวรัสเซียนบลูมี 2 ชั้น ทำให้ขนดูหนา มีสีสันแปลก และดวงตากลมโตสวยงาม

 

Mambele (มัมเบเล) คืออาวุธลูกผสมระหว่างมีดกับขวานที่มีการใช้งานอยู่ในแถบแอฟริกากลางและแอฟริกาใต้ มีต้นกำเนิดมาจากมีดปาใบโค้งที่ใช้กันในชนเผ่ามังเบตู (ในคองโก) จากลักษณะใบมีดเหล็กที่มีส่วนโค้งไปข้างหลังและหนามแหลมชี้ไปด้านข้าง ทำให้มันสามารถใช้ในการต่อสู้ระยะประชิดเหมือนมีดสั้นหรือขวานเล็กได้ แต่โดยทั่วไปแล้วมันเหมาะจะเป็นอาวุธปามากกว่า

ใครที่คุ้นๆ ว่าเหมือนเคยเห็นที่ไหน คุณอาจจะเคยเห็นมันจากคุณพี่ผู้ใจดีมีเมตตาคนนี้

ฝ่าปริศนา ตะลุยโลกเบื้องหลัง

ฝ่าปริศนา ตะลุยโลกเบื้องหลัง

Status: Ongoing
การพบกันครั้งแรกกับ นิชินะ โทริโกะ ของเธอคือที่โลกเบื้องหลัง หลังจากได้เห็น “สิ่งนั้น” และเกือบตายไปแล้ว ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของนักศึกษามหาลัยผู้เหนื่อยล้า คามิโคชิ โซราโอะ ก็เปลี่ยนไป ในโลกเบื้องหลังนี้ที่มีอยู่เคียงคู่กับโลกของเราอันเต็มไปด้วยปริศนา มีตัวตนที่อันตรายอย่างคุเนะคุเนะและท่านฮัชชาคุที่ถูกพูดถึงกันในเรื่องผีจริงๆ นั้นปรากฏอยู่ เพื่อการวิจัย เพื่อผลประโยชน์ และเพื่อตามหาคนสำคัญ โทริโกะกับโซราโอะจึงก้าวเท้าเข้าสู่ดินแดนแสนพิลึกพิลั่นนั้น!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท