Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา – บทที่ 120 โดมท้าประลอง (1)

Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา

เมื่อ​เห็น​ค่ายทหาร​ใน​ระยะ​ไกลๆ​ ซ่างกวน​เฟยเอ๋อร์​ก็​มอง​ไป​ที่​โจว​เหว่​ย​ชิงและ​พูดว่า​ “อ้วน​น้อย​โจว​ เรา​ควร​เข้าร่วม​กรม​ทหาร​ไหน​ดี​?”

โจว​เหว่​ย​ชิงกล่าวว่า​ “ไม่สำคัญ​ว่า​เรา​จะเข้า​ร่วมกับ​กรม​ไหน​ แค่​เลือก​มาสัก​ที่​ก็​พอ​”

ทั้งคู่​นำ​ม้าปีศาจ​ผี​กลับ​เข้าไป​ใน​แหวน​มิติ​ก่อน​จะเดิน​ไป​ยัง​ค่ายทหาร​ที่​ใกล้​ที่สุด​

เมื่อ​เข้าไป​ใกล้​มากยิ่งขึ้น​ พวกเขา​ก็​ตระหนัก​ได้​ว่า​ใน​บริเวณ​รอบนอก​ของ​ค่ายทหาร​ขนาด​ 500 เมตร​นี้​ แต่ละ​แห่ง​มีสิ่งปลูกสร้าง​ที่​เป็น​เอกลักษณ์​ตั้งอยู่​ มัน​มีรูป​ทรงกลม​และ​มีขนาด​ค่อนข้าง​ใหญ่​ เส้นผ่านศูนย์กลาง​เกือบ​ 100 เมตร​ มีการ​ออกแบบ​ที่​เรียบง่าย​ เกือบจะ​เหมือน​หิน​ทรงกลม​ขนาดใหญ่​ที่​ไร้​ฝาปิด​ พวกเขา​มองไม่เห็น​สิ่งที่​เกิดขึ้น​ข้างใน​ แต่​มีทหาร​จำนวนมาก​กำลัง​เดิน​เข้าๆ ออกๆ​ สิ่งปลูกสร้าง​นั้น​อยู่​

ทันใดนั้น​ โจว​เหว่​ย​ชิงก็​คิด​กับ​ตัวเอง​ว่า​ นี่​น่าจะเป็น​โดม​ท้า​ประลอง​!

ในขณะที่​พวกเขา​เข้าใกล้​ค่ายทหาร​ ทันใดนั้น​หน่วย​หนึ่ง​ที่​ประกอบ​ไป​ด้วย​ทหารม้า​อาวุธ​เบา​สิบ​คน​ก็​พุ่ง​เข้ามา​หยุด​อยู่​ตรงหน้า​ของ​คน​ทั้งคู่​

ทหารม้า​อาวุธ​เบา​เหล่านี้​สวม​ชุด​เกราะ​หนัง​เบา​ มีฝัก​ดาบ​คล้อง​อยู่​ที่​เอว​และ​มีธนู​ยาว​พาด​ที่​ด้านหลัง​ ข้าง​ลำตัว​ม้าของ​พวกเขา​มีแล่ง​ธนู​แขวน​ไว้​ 2 อัน​ และ​ที่​ศีรษะ​ม้าก็​ได้รับ​การปกป้อง​ด้วย​เกราะ​หนัง​ พวกเขา​มาพร้อมกับ​ชุด​ทหาร​สีน้ำเงิน​ของ​กองทัพ​อาณาจักร​จ้งเทียน​ ทหาร​เหล่านี้​ดู​องอาจ​กล้าหาญ​และ​มีกลิ่นอาย​ที่​ดุร้าย​

“หยุด​!” หัวหน้า​หน่วย​ตะโกนสั่ง​โจว​เหว่​ย​ชิงและ​ซ่างกวน​เฟยเอ๋อร์​ “นี่​คือ​พื้นที่​เขต​ทหาร​ ห้าม​ผู้ใด​เข้า​”

โจว​เหว่​ย​ชิงเผย​รอยยิ้ม​ซื่อตรง​อันเป็น​เอกลักษณ์​ของ​ตนเอง​อย่าง​รวดเร็ว​ก่อน​จะกล่าวว่า​ “พี่ใหญ่​ท่าน​นี้​ พวกเรา​มาที่นี่​เพื่อ​เข้า​ร่วมกับ​กองทัพ​”

“เข้า​ร่วมกับ​กองทัพ​?” หัวหน้า​หน่วย​ทหารม้า​มองดู​พวกเขา​เป็นเวลา​นาน​ก่อนที่จะ​พยักหน้า​ว่า​ “ดู​จาก​รูปร่าง​ของ​เจ้าแล้วก็​พอใช้ได้​ แต่​สำหรับ​เขา​…อาจจะ​ยัง​ขาด​ไป​สัก​เล็กน้อย​” โดยธรรมชาติ​แล้ว​ผู้​ที่​ ‘ขาด​’ คุณสมบัติ​ไป​เล็กน้อย​นั้น​ย่อม​เป็น​ซ่างกวน​เฟยเอ๋อร์​ที่​มีรูปร่าง​เพรียวบาง​

ซ่างกวน​เฟยเอ๋อร์​ไม่เคย​ถูก​วิพากษ์วิจารณ์​ซึ่งๆ หน้า​มาตลอดชีวิต​ และ​ใน​ทันใดนั้น​ หญิงสาว​ก็​ปะทุ​ขึ้น​มาทันที​ ทว่า​ก่อนที่​เธอ​จะทัน​ได้​สูญเสีย​การควบคุม​ตนเอง​ โจว​เหว่​ย​ชิงก็​รีบ​คว้า​มือ​ของ​อีก​ฝ่าย​เอาไว้​และ​บีบ​แน่น​เพื่อ​ส่งสัญญาณให้​รู้ตัว​

ซ่างกวน​เฟยเอ๋อร์​รู้ดี​ว่า​เขา​กำลัง​บอกเป็นนัย​ว่า​ห้าม​ระเบิดอารมณ์​ออกมา​ แต่​เมื่อ​ได้​จับมือ​เขา​เช่นนี้​ จู่ๆ หญิงสาว​ก็​รู้สึก​ว่า​หัวใจ​ของ​ตน​เต้น​แรง​ขึ้น​มาเล็กน้อย​ ฝ่ามือ​ของ​โจว​เหว่​ย​ชิงร้อน​มาก​ มือ​เรียว​หนา​ของ​เขา​มั่นคง​และ​หนักแน่น​ ขณะ​ถูก​ฝ่ายตรงข้าม​กุมมือ​ไว้​เช่นนี้​ แม้จะไม่รู้​ว่า​เป็น​เพราะเหตุใด​ แต่​ซ่างกวน​เฟยเอ๋อร์​กลับ​รู้สึก​ปลอดภัย​เป็นอย่างมาก​ ในขณะนั้น​เธอ​จึงค่อยๆ​ กลืน​ความโกรธ​ลงท้อง​ไป​

“มากับ​ข้า​สิ” ภายใต้​การนำ​ของ​หัวหน้า​หน่วย​หน่วย​ ทหารม้า​จึงหมุนตัว​กลับ​และ​มุ่งหน้า​ไป​ยัง​ภายใน​ค่าย​ทันที​ โจว​เหว่​ย​ชิงจึงรีบ​ดึง​ซ่างกวน​เฟยเอ๋อร์​ให้​เดินตาม​ไป​ด้านหลัง​หน่วย​ทหาร​นั้น​เช่นกัน​

ด้วย​การ​คุ้มกัน​ของ​หน่วย​ทหารม้า​ พวกเขา​จึงไป​ถึงสิ่งปลูกสร้าง​ทรงกลม​ที่​เห็น​ก่อนหน้านี้​ได้​อย่าง​รวดเร็ว​ จากนั้น​หัวหน้า​หน่วย​ก็​ลง​จาก​หลัง​ม้า

“พี่น้อง​กรม​ทหาร​ที่​ 16 มีใคร​อยู่​แถว​นี้​บ้าง​ไหม​?” เขา​ตะโกน​ไป​ยัง​อาคาร​ทรงกลม​นั้น​เสียงดัง​

ชายหนุ่ม​ 3 คน​มุ่งหน้า​ออก​มาจาก​ภาย​ในทันที​ พวกเขา​เป็น​ทหารราบ​ที่​สวม​เกราะ​หนัง​เหมือนกัน​ ทว่า​หนา​กว่า​และ​ครอบคลุม​ร่างกาย​ได้​มากกว่า​ นอกจากนี้​ อาวุธ​ของ​พวกเขา​ยัง​เป็น​หอก​ยาว​ ไม่ใช่ดาบ​ยาว​ดังเช่น​หน่วย​ทหารม้า​เบา​

“มีอะไร​ขอรับ​?” ทหารราบ​ที่สูง​และ​อ้วน​ที่​สุดคน​หนึ่ง​ก้าว​ออกมา​ข้างหน้า​ก่อน​จะเอ่ย​ถาม

หัวหน้า​หน่วย​ทหารม้า​ชี้ไป​ที่​โจว​เหว่​ย​ชิงและ​ซ่างกวน​เฟยเอ๋อร์​ก่อน​จะพูดว่า​ “ชายหนุ่ม​ 2 คน​นี้​ต้องการ​จะเข้าร่วม​กองทัพ​ ข้า​ฝาก​พวกเขา​ไว้​กับ​เจ้าด้วย​”

ทหารราบ​ร่าง​สูงหัวเราะ​อย่าง​เต็มเสียง​และ​กล่าวว่า​ “ขอบคุณ​มาก​ เอาล่ะ​ เจ้าสอง​คน​มาก​ับข้า​” ในขณะที่​พูด​เช่นนั้น​ เขา​กวักมือ​เรียก​โจว​เหว่​ย​ชิงและ​ซ่างกวน​เฟยเอ๋อร์​ให้​ตาม​ไป​

เวลานี้​โจว​เหว่​ย​ชิงได้​ปล่อยมือ​ของ​ซ่างกวน​เฟยเอ๋อร์​แล้ว​ ถึงอย่างไร​ใน​สายตา​ของ​คนอื่น​ พวกเขา​ทั้งคู่​ก็​เป็น​ผู้ชาย​ และ​ถ้าหาก​ยัง​เดิน​จับมือ​กัน​ต่อไป​ นั่น​ก็​คงจะ​เป็นเรื่อง​ที่​แปลกประหลาด​มาก​

ขั้นตอน​การ​ลงทะเบียน​เป็น​ทหาร​ถูก​จัด​ขึ้น​ใน​อาคาร​ทรงกลม​นี้​ และ​ความสนใจ​ของ​โจว​เหว่​ย​ชิงก็​ถูก​จุดประกาย​ขึ้น​มาในทันที​ นอกจากนี้​เขา​ยัง​สังเกตเห็น​ว่า​ทหารราบ​คนอื่นๆ​ ต่าง​พยายาม​จัดแถว​รายล้อม​ตัว​ทั้งคู่​ไว้​ เห็นได้ชัด​ว่า​ฝ่าย​นั้น​ยัง​ไม่ได้​ไว้ใจ​พวกเขา​เลย​ซะทีเดียว​

ทันทีที่​เข้าไป​ใน​อาคาร​ทรงกลม​เบื้องหน้า​ ทั้งคู่​ก็​สัมผัส​ได้​ถึงกลิ่นอาย​ดุเดือด​ร้อนแรง​ซึ่งเล็ดลอด​ออก​มาจาก​ภายใน​

ด้านใน​ของ​อาคาร​ทรงกลม​นั้น​ดู​เรียบง่าย​มาก​ บางที​อาจจะ​มากกว่า​ที่​เห็น​ภายนอก​เสีย​ด้วยซ้ำ​ ด้านใน​เป็น​สนาม​รูป​วงกลม​ ล้อมรอบ​ไป​ด้วย​แท่น​นั่ง​โลหะ​ที่​มีขนาด​และ​ความสูงต่ำ​แตก​ต่างกัน​ออก​ไป​ เห็นได้ชัด​ว่า​พวก​มัน​ถูก​สร้าง​ขึ้น​มาอย่าง​ดี​ มั่นคง​ ทนทาน​ และ​เรียบง่าย​มาก​ ในเวลานี้​ที่นั่ง​ทั้งหมด​ล้วน​เต็มไปด้วย​ผู้คน​ ตรงกลาง​เป็นพื้น​ที่ว่างเปล่า​ขนาดใหญ่​ นอกจาก​พื้นที่​ตรงกลาง​ประมาณ​ 30 ตารางเมตร​ซึ่งเป็น​เวที​กลม​ที่​แกะสลัก​ขึ้น​จาก​หิน​แล้ว​ พื้นที่​อื่นๆ​ ก็​ยัง​แบ่ง​ออก​เป็น​ 10 สนาม​ย่อย​ที่​แตก​ต่างกัน​ออก​ไป​ ทั้ง​ยังมี​การต่อสู้​ใน​ทุกๆ​ สนาม​อีกด้วย​

บริเวณ​นั้น​เต็มไปด้วย​เสียง​เอะอะโวยวาย​ เสียง​โห่ร้อง​ยินดี​ เสียงร้อง​อย่าง​โกรธเกรี้ยว​ และ​แม้แต่​เสียง​ตะโกน​ที่​ไม่รู้​ที่มา​

แค่​เข้ามา​ใน​พื้นที่​แห่ง​นี้​ แม้กระทั่ง​โจว​เหว่​ย​ชิงและ​ซ่างกวน​เฟยเอ๋อร์​ก็​ยัง​รู้สึก​ว่า​อารมณ์​ของ​พวกเขา​ปะทุ​ขึ้น​ เลือด​ใน​กาย​พลัน​เดือด​พล่าน​ไป​พร้อม​ๆ กับ​ฝูงชน​ทั้งหมด​ที่นี่​

ทหารราบ​ร่าง​สูงที่​นำ​พวกเขา​มายิ้ม​และ​พูดว่า​ “เป็น​ยังไง​บ้าง​? โดม​ท้า​ประ​ลองของ​เรา​ไม่ได้​แย่​ขนาด​นั้น​ใช่ไหม​? มาเถอะ​ ให้​ข้า​ช่วย​พา​เจ้าไป​ลงทะเบียน​ก่อน​ ภายหลัง​หาก​เจ้าสนใจ​ก็​สามารถ​เข้ามา​เล่น​ใน​โดม​ท้า​ประลอง​แห่ง​นี้​ได้​ พวกเรา​กรม​ทหาร​ที่​ 16 ล้วนแล้วแต่​เคารพ​ผู้​ที่​แข็งแกร่ง​และ​กล้าหาญ​!”

ขณะ​พูด​เช่นนั้น​ เขา​ก็​พา​ทั้งคู่​ไป​ที่​มุมด้านใน​สุด​ของ​อาคาร​ซึ่งมีโต๊ะ​หลาย​ตัวตั้ง​กัน​อยู่​เรียงราย​ เขา​เดิน​อ้อม​ไป​ด้านหลัง​และ​หยิบ​หนังสือ​เล่ม​ใหญ่​ออก​มาจาก​ใต้โต๊ะ​

“บอกชื่อ​พวก​เจ้าทีละ​คน​”

“อ้วน​น้อย​โจว​” เป็น​อีกครั้ง​ที่​โจว​เหว่​ย​ชิงใช้นามแฝง​ที่​คุ้นเคย​ของ​เขา​ สิ่งที่​ตามมา​คือ​ขั้นตอน​การ​ลงทะเบียน​ง่ายๆ​ อ้วน​น้อย​โจว​และ​ซ่างกวน​เฟย​ ทั้งสอง​เป็น​พลเมือง​ของ​อาณาจักร​จ้งเทียน​

ในไม่ช้า​ ขั้นตอน​การ​ลงทะเบียน​ก็​เสร็จ​สมบูรณ์​ และ​ทหาร​ร่าง​สูงก็​ยื่น​แผ่น​โลหะ​ธรรมดาๆ​ ให้​พวกเขา​ก่อน​จะกล่าวว่า​ “เอาล่ะ​ จากนี้ไป​เจ้าจะเป็น​ส่วนหนึ่ง​ของ​กรม​ทหาร​ที่​ 16 ของ​เรา​ และ​นี่​คือ​ตรา​ประจำตัว​ของ​เจ้า ประการ​แรก​ มีบางสิ่ง​ที่​เรา​จะแจ้งให้​เจ้าทราบ​ใน​ตอนนี้​ กรม​ทหาร​ที่​ 16 ของ​เรา​เป็น​ส่วนหนึ่ง​ของ​กองพล​ที่​ 7 ของ​อาณาจักร​ซึ่งประกอบ​ไป​ด้วย​ 10 กรม​ทหาร​ และ​แม้ว่า​จะถูก​เกณฑ์​เข้ามา​แล้ว​ แต่​เจ้าก็​ยัง​ต้อง​ได้รับ​การมอบหมาย​หน้าที่​ตาม​ความสามารถ​ของ​ตนเอง​ ท้ายที่สุด​หาก​ความสามารถ​ของ​เจ้ายัง​ไม่สอดคล้อง​กับ​ความต้องการ​ของ​หน่วย​นี้​ เจ้าก็​จะถูก​มอบหมาย​ให้​ไป​อยู่​ที่​หน่วย​ขนส่ง​หรือ​หน่วย​ทำอาหาร​ ดังนั้น​เจ้าทุกคน​จึงต้อง​ทุ่มเท​ให้​มาก​ๆ”

“การ​สอบ​เข้า​นั้น​ง่าย​มาก​ หลังจากนี้​เจ้าจะได้​เข้าร่วม​สนาม​ประลอง​ระดับ​เริ่มต้น​ใน​โดม​ท้า​ประลอง​ หาก​เจ้าชนะ​ นั่น​หมายความว่า​เจ้าสอบผ่าน​ แน่นอน​ว่า​เจ้าสามารถ​สู้รอบ​ต่อ​ๆ ไป​ได้​อีก​หาก​ชนะ​ และ​ยิ่ง​เจ้าชนะ​ใน​รอบ​ถัดไป​มาก​เท่าไหร่​ หน้าที่​ความรับผิดชอบ​และ​ตำแหน่ง​ของ​เจ้าก็​จะยิ่ง​สูงขึ้น​เท่านั้น​ โดยปกติ​แล้ว​หาก​ทำ​ผลงาน​ได้ดี​ก็​ไม่จำเป็นต้อง​ร่วม​ฝึก​กับ​เหล่า​ทหารเกณฑ์​ หาไม่​แล้ว​ เจ้าก็​จะยัง​ต้อง​เข้าร่วม​การ​ฝึก​อยู่ดี​ ใน​บรรดา​หน่วย​ทหาร​ทั้งหมด​ที่นี่​ หน่วย​ที่​ดี​ที่สุด​คือ​หน่วย​ทหารม้า​อาวุธ​หนัก​ของ​เรา​ แต่​ใน​การ​จะเข้าร่วม​กับ​พวกเรา​ได้​นั้น​ เจ้าจะต้อง​ผ่าน​การ​ฝึก​เฉพาะทาง​ด้วย​”

โจว​เหว่​ย​ชิงถามอย่าง​สงสัย​ “พี่ใหญ่​ ท่าน​ช่วย​บอก​เกี่ยวกับ​กฎ​ของ​โดม​ท้า​ประลอง​ได้​หรือไม่​? ที่​เมือง​เทียน​เป่ย​ข้า​ได้ยิน​มาว่า​หาก​ทำ​ผลงาน​ได้ดี​ที่นี่​ เรา​จะได้รับ​การ​เลื่อนตำแหน่ง​ให้​เป็น​นายทหาร​ยศ​สูงขึ้น​ด้วย​”

ทหาร​ร่าง​สูงยิ้ม​อย่าง​ดูแคลน​เล็กน้อย​พลาง​กล่าวว่า​ “น้องชาย​น้อย​ การ​จะเป็น​ผู้บัญชา​การทหาร​ไม่ใช่เรื่อง​ง่าย​ ใน​ทุกๆ​ สนาม​ที่นี่​มีทหาร​นับไม่ถ้วน​ที่หวัง​จะใช้เส้นทางลัด​นี้​เพื่อ​ไป​ถึงสรวงสวรรค์​และ​สร้าง​ชื่อ​ให้​ตัวเอง​ใน​คราว​เดียว​ น่า​เสีย​ ดาย​ ความสำเร็จ​นั้น​อยู่​ห่างไกล​มาก​จน​เกินไป​ เพราะ​เจ้าสนใจ​อยาก​จะรู้​ ดังนั้น​ข้า​ก็​จะบอก​เจ้าไว้​ เรื่อง​นี้​ค่อนข้าง​เหมือนกัน​ใน​ทุก​กรม​ทหาร​”

“เจ้าน่าจะ​ได้​เห็น​ด้วยตัวเอง​แล้ว​ โดม​ท้า​ประ​ลองของ​เรา​ประกอบด้วย​สนาม​เล็ก​ๆ 10 สนาม​ และ​สนาม​เวที​หลัก​ตรงกลาง​ สำหรับ​ 10 สนาม​ด้านนอก​ ทุกๆ​ คน​จะสามารถ​เข้าร่วม​ได้​และ​ยัง​เป็น​สิ่งที่​ข้า​เรียก​ว่า​สนาม​ระดับ​เริ่มต้น​ก่อนหน้านี้​อีกด้วย​ การต่อสู้​ทั้งหมด​จะดำเนิน​ไป​โดย​ห้าม​ใช้อาวุธ​ใดๆ​ และ​เฉพาะ​ในกรณีที่​เจ้าสามารถ​เอาชนะ​ฝ่ายตรงข้าม​ติดต่อกัน​ 10 รอบ​ใน​สนาม​ระดับ​เริ่มต้น​เท่านั้น​ เจ้าจึงจะมีคุณสมบัติ​ให้​สามารถ​เข้าสู่​การ​สนาม​ประลอง​ระดับ​กลาง​ ในขณะเดียวกัน​ หาก​ทำ​เช่นนั้น​ได้​ เจ้าก็​จะได้รับ​การ​เลื่อนตำแหน่ง​เป็น​หัวหน้า​หมู่​โดยตรง​ หลังจากนั้น​จะมีผู้คุม​สังเวียน​ระดับ​กลาง​ทั้งหมด​ 20 คน​ที่​รับผิดชอบ​การ​แข่ง​ใน​ระดับ​นี้​ และ​พวกเขา​ก็​จะจับฉลาก​เพื่อ​ประลอง​กับ​ผู้​ที่​ชนะ​ 10 รอบ​ติดต่อกัน​จากรอบ​เริ่มต้น​ ในทำนองเดียวกัน​ ถ้าเจ้าชนะ​ผู้คุม​สังเวียน​ระดับ​กลาง​เหล่านี้​ติดต่อกัน​ได้​ 5 คน​ เจ้าจะได้รับ​การ​เลื่อนขั้น​ให้​เป็น​ผู้บัญชาการ​กองร้อย​ เป็น​ผู้นำ​ทหาร​กว่า​ร้อย​คน​! ในขณะเดียวกัน​ เจ้าก็​จะได้รับ​โอกาส​ให้​สามารถ​ท้า​ผู้คุม​สังเวียน​ของ​กรม​ทหาร​ทั้งหมด​ให้​ต่อสู้​ด้วย​ได้​ เข้าใจ​หรือไม่​?”

โจว​เหว่​ย​ชิงกล่าวว่า​ “จะเกิด​อะไร​ขึ้น​ถ้าข้า​เอาชนะ​ผู้คุม​สังเวียน​ของ​กรม​ทหาร​ได้​? ข้า​จะได้​เป็น​ผู้บัญชาการ​กองพัน​หรือไม่​?”

ทหาร​ร่าง​สูงหัวเราะ​ร่วน​ก่อน​จะกล่าวว่า​ “เจ้าหนุ่ม​ อย่า​พยายาม​วิ่ง​ก่อน​คลาน​เลย​ เกรง​ว่า​นั่น​จะเป็นการ​ทำ​อะไร​เกินตัว​มาก​ไป​หน่อย​ เจ้าเนี่ย​นะ​คิด​จะเอาชนะ​ผู้คุม​สังเวียน​ของ​กรม​ทหาร​? อย่า​มัวแต่​ฝันกลางวัน​เลย​ เอาล่ะ​ มานี่​ ข้า​จะพา​เจ้าไป​สนาม​แข่ง​ระดับ​เริ่มต้น​”

ทหาร​ตัว​สูงคน​นั้น​เดิน​นำ​ไป​ โจว​เหว่​ย​ชิงและ​ซ่างกวน​เฟยเอ๋อร์​ก็ตาม​เขา​ไป​ยัง​หนึ่ง​ใน​ 10 สนาม​ประลอง​ระดับ​เริ่มต้น​ ทหาร​ร่าง​สูงหยุด​เดิน​และ​เอ่ย​ว่า​ “ใน​สนาม​ประลอง​ระดับ​เริ่มต้น​ ชัยชนะ​ทุกครั้ง​จะถือเป็น​เงิน​รางวัล​ 1 เหรียญเงิน​ ในเวลาเดียวกัน​ ผู้แข่งขัน​ก็​สามารถ​เดิมพัน​ข้าง​ตัวเอง​ได้​ ทว่า​แต่ละครั้ง​จะลง​ได้​เพียง​ 1 เหรียญเงิน​เท่านั้น​ ไม่อนุญาต​ให้​ผู้ชม​ร่วม​เดิมพัน​ เข้าใจ​หรือไม่​?”

โจว​เหว่​ย​ชิงพยักหน้า​และ​พูดว่า​ “ข้า​เข้าใจ​แล้ว​”

ทหาร​ร่าง​สูงพูด​ต่อ​ “ดีมาก​ เจ้ารอ​ที่นี่​ ข้า​จะไป​จัดเตรียม​สนาม​ให้​เจ้าต่อสู้​โดยเร็ว​ที่สุด​ ดังนั้น​จงอยู่​ที่นี่​และ​เตรียมตัว​ให้​พร้อม​ ข้า​ขอ​เตือน​เจ้าก่อน​ พี่น้อง​ของ​เรา​ทุกคน​ที่นี่​เคย​ก้าว​ผ่าน​เปลวไฟ​แห่ง​สงคราม​ เหตุการณ์​นองเลือด​และ​ฆ่าฟัน​ใน​การ​สนามรบ​จริงๆ​ มาก่อน​ ดังนั้น​พวกเขา​จึงไม่อาจจะ​จัดการ​ได้​ง่ายๆ​

ที่​ด้าน​ข้าง​ของ​สนาม​ประลอง​ระดับ​เริ่มต้น​แต่ละ​แห่ง​มีผู้ดูแล​อยู่​สอง​สามคน​ สำหรับ​สนาม​ของ​พวกเขา​ มีชาย​ซึ่งสวม​ชุด​เกราะ​แหวน​และ​หมวก​เกราะ​ที่​ประดับ​ขนนก​สีแดง​อยู่​ 2 คน​

ใน​กองทัพ​จ้งเทียน​ ยศ​ของ​เจ้าหน้าที่​ทหาร​อาจ​แยกแยะ​ได้​จาก​ขนนก​ที่​ประดับ​บน​หมวก​ของ​พวกเขา​ เรียง​ตาม​สีของ​สายรุ้ง​ จาก​ต่ำ​ไป​สูง สีแดง​ สีส้ม สีเหลือง​ สีเขียว​ สีฟ้า สีน้ำเงิน​ และ​สีม่วง​ อย่างไรก็ตาม​ การ​ที่​เจ้าหน้าที่​ทหาร​จะสามารถ​ครอบครอง​หมวก​เกราะ​นี้​ได้​ อย่าง​น้อย​พวกเขา​ก็​จะต้อง​เป็น​ผู้บัญชาการ​ระดับ​กองร้อย​ขึ้นไป​ กล่าวคือ​ชาย​ 2 คน​นี้​เป็น​ผู้บัญชาการ​กองร้อย​ซึ่งเป็น​เจ้าหน้าที่​ระดับ​ต่ำ​ใน​กองทัพ​

ทหาร​ร่าง​สูงก้าว​ไป​ข้างหน้า​เพื่อ​รายงาน​ต่อ​ผู้บัญชาการ​กองร้อย​ทั้ง​ 2 ด้วย​ความเคารพ​ และ​หนึ่ง​ใน​นั้น​ก็​พยักหน้า​ให้​เขา​ก่อน​จะเอ่ย​บางอย่าง​เบา​ๆ

หลังจากนั้น​ไม่นาน​ ทหาร​ร่าง​สูงก็​กลับมา​ที่​ฝั่งของ​โจว​เหว่​ย​ชิงและ​ซ่างกวน​เฟยเอ๋อร์​ “มานี่​ ตาม​ข้า​มา”

เวลานี้​เป็นช่วง​หยุดพัก​ระหว่าง​การต่อสู้​ เนื่องจาก​การต่อสู้​ครั้งก่อน​ใน​สนาม​นี้​เพิ่ง​จบ​ลง​และ​สนาม​ก็​กำลัง​ถูก​จัดการ​อยู่​

ทหาร​ร่าง​สูงคน​นั้น​นำ​โจว​เหว่​ย​ชิงและ​ซ่างกวน​เฟยเอ๋อร์​ไปหา​หัวหน้า​กองร้อย​ทั้ง​ 2 ซึ่งดูจะ​มีอายุ​ประมาณ​ 30 ปี​ รูปร่าง​ใหญ่โต​และ​แข็งแรง​บึกบึน​ แม้ว่า​พวกเขา​จะไม่ได้​มีขนาด​ตัว​ใหญ่​ยักษ์​เหมือน​หลิน​เทียน​อ้าว​ อู่​ห​ยา​หรือ​หม่า​ฉุน​ แต่​ในแง่​ของ​รูปร่าง​ พวกเขา​ก็​ค่อนข้าง​ใกล้เคียง​กับ​โจว​เหว่​ย​ชิง

เมื่อ​มองเห็น​ร่างกาย​ที่​แข็งแรง​กำยำ​ของ​โจว​เหว่​ย​ชิง ผู้บัญชาการ​กองร้อย​ทั้ง​ 2 ก็​พยักหน้า​อย่าง​พึงพอใจ​ หนึ่ง​ใน​นั้น​รีบ​กล่าวว่า​ “เอาล่ะ​ ส่งน้องชาย​ 2 คน​นี้​ลง​ไป​เล่น​ใน​รอบ​ต่อไป​ มาดู​กัน​ว่า​พวกเขา​จะเป็น​อย่างไรบ้าง​ ระวัง​ให้​ดี​ล่ะ​ อย่า​ใช้กำลัง​มากเกินไป​จน​เผลอ​ทำร้าย​ทหาร​ใหม่​ของ​เรา​”

โจว​เหว่​ย​ชิงส่งสัญญาณให้​ซ่างกวน​เฟยเอ๋อร์​ด้วย​สายตา​ และ​เธอ​ก็​เข้าใจ​ความนัย​ของ​เขา​ในทันที​ โดยธรรมชาติ​แล้ว​เขา​เตือน​หญิงสาว​ไม่ให้​เปิดเผย​พลัง​ของ​ตนเอง​มากเกินไป​ โดยเฉพาะ​มณีสวรรค์​ของ​เธอ​ หลังจาก​จ้องมอง​เด็กหนุ่ม​กลับ​เพียง​เสี้ยว​วินาที​ ซ่างกวน​เฟยเอ๋อร์​ก็​ก้าว​เข้าสู่​เขต​การต่อสู้​

เมื่อ​มองเห็น​รูปร่าง​ที่​ผอม​เพรียว​และ​บอบบาง​ของ​ซ่างกวน​เฟยเอ๋อร์​ ซึ่งจะเป็น​คน​แรก​ที่​ออก​ไป​สู้ก่อน​ ผู้บัญชาการ​กองร้อย​ที่นั่ง​ทางซ้าย​ก็​พยักหน้า​แล้ว​กล่าวว่า​ “ไม่เลว​ ไม่เลว​ ช่างกล้าหาญ​เสีย​จริงๆ​ มอบ​ชุด​อุปกรณ์​ป้องกัน​ให้​เขา​เสีย​”

Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา

Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา

Status: Ongoing
นี่คือโลกใบใหม่ที่ไม่คุ้นเคย ระบบพลังใหม่ สุดยอดศาสตราวุธ และตัวเอกที่ไม่เหมือนใคร อัปเดตวันละ 2 ตอนในโลกที่ความแข็งแกร่งคือทุกสิ่งทุกอย่าง ผู้มีพลังเหยียบย่ำผู้อ่อนแอมีเด็กผู้ชายผู้หนึ่งเกิดมาเพื่อหวังจะก้าวขึ้นเป็นราชาจ้าวมณีสวรรค์ในอาณาจักรเล็กๆ ที่ยังต้องดิ้นรนในสงครามซึ่งรายล้อม ตัวเขาในฐานะที่เกิดในตระกูลแม่ทัพจึงจำเป็นต้องมุ่งมั่นทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ทว่าสวรรค์กลับไม่เป็นใจ เด็กชายเกิดมาพร้อมลมปราณอุดตัน ฝึกวิชาใดๆ ก็ไร้ผล ท้ายที่สุดก็กลายเป็นเศษสวะไร้ค่าในสายตาผู้อื่น!?ทำลายความภาคภูมิใจของบิดา… กลายเป็นความอัปยศอดสูของคู่หมั้น…หากแต่เขากลับใช้ชีวิตอย่างปกติสุข เที่ยวเล่นจับปลาไปวันๆ โดยไร้ความละอาย!ทว่า…เมื่อพลาดพลั้งถูกฆ่าและทิ้งให้ตาย ท้ายที่สุดสวรรค์ก็เมตตาไข่มุกรัตติกาลจากต่างมิติถูกดึงดูดด้วยแรงดิ้นรนอยากมีชีวิตอยู่ของเขามันมอบพลังที่เปลี่ยนให้เขากลายเป็นจ้าวมณีสวรรค์ที่หายากที่สุด!สิ่งนั้นปลุกศักยภาพของเขาขึ้นมา… แท้จริงแล้วเขาไม่ได้ไร้ค่า…แต่นั่นจะเป็นของขวัญจากสวรรค์ที่มาเปลี่ยนชะตาของเขาได้จริงหรือ?ร่วมผจญภัยไปกับ ‘โจวเหว่ยชิง’ ตัวเอกผู้ไร้ยางอายที่ใช้เล่ห์กลทุกอย่างในการเอาตัวรอดเพื่อมุ่งไปสู่จุดสูงสุดของโลกการฝึกวิชา สร้างยอดกองทัพ ปกป้องคนที่เขารักและขยายอาณาจักรเล็กๆ ให้ยิ่งใหญ่เกรียงไกร!นี่คือโลกใบที่ไม่คุ้นเคย พบกับระบบพลังใหม่ สุดยอดศาสตราวุธ และตัวเอกที่ไม่เหมือนใครมาร่วมหัวเราะและร้องไห้ไปกับผลงานชิ้นใหม่ของ Tang Jia San Shao ผู้เขียน ตำนานจอมยุทธ์ภูตถังซาน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท