Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา – บทที่ 121 ชุดเอี๊ยมชั้นใน! (3)

Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา

หญิงสาว​ไม่เคย​เห็น​ทักษะ​ธาตุ​ลม​ชนิด​ไหน​ที่​สามารถ​ทำ​เช่นนี้​ได้มา​ก่อน​ เนื่องจาก​เมื่อ​ทักษะ​ธาตุ​ลม​ปะทะ​กับ​ธาตุ​ไฟ โดยปกติ​แล้​วจะ​ทำให้เกิด​การระเบิด​ไม่ใช่การเฉือน​ตัด​แบบนี้​ แม้แต่​ทักษะ​ธาตุ​มิติ​ก็​หา​ยาก​ที่จะ​มีพลัง​เช่นนี้​ได้​

ในความเป็นจริง​อาการ​แตกตื่น​ของ​หญิงสาว​ก็​ไม่อาจ​ถูก​ตำหนิ​ได้​ ถึงอย่างไร​ทักษะ​ที่​โจว​เหว่​ย​ชิงใช้ก็​คือ​ทักษะ​สะบัด​ปีก​เฉือน​ที่​เขา​กักเก็บ​มาจาก​จักรพรรดิ​สีเงิน​ตัว​แรก​ที่​พบ​เมื่อนานมาแล้ว​ แขน​สอง​ข้าง​ของ​เขา​สยาย​ออก​คล้าย​ปีก​ มัน​เป็น​ทักษะ​ธาตุ​ลม​ที่​ทรงพลัง​ระดับ​ 10 ดาว​ โดยปกติ​จ้าว​มณีสวรรค์​ที่​มีทักษะ​เช่นนี้​ อย่าง​น้อย​ก็​ต้อง​อยู่​ใน​ระดับ​เท​วะ​ขั้นสูงสุด​แล้ว​ ด้วย​เหตุ​นั้น​เซิน​อี้​จะเคย​เห็น​มัน​ได้​อย่างไร​

โจว​เหว่​ย​ชิงไม่ได้​สนใจ​ว่า​เหตุใด​คู่ต่อสู้​ของ​เขา​ถึงตกตะลึง​จน​ไม่ยอม​ตอบสนอง​ หลังจากที่​ทักษะ​สะบัด​ปีก​เฉือน​ของ​เขา​ผ่า​แยก​บอล​อัคคี​ของ​เซิน​อี้​เสร็จ​เรียบร้อย​แล้ว​ ขา​ขวา​ของ​เด็กหนุ่ม​ก็​ออกแรง​ถีบ​ส่งร่าง​เขา​ขึ้นไป​ทันที​ โจว​เหว่​ย​ชิงพลัน​ทะยาน​ออก​ไปหา​อีก​ฝ่าย​เหมือน​ลูกปืนใหญ่​ แม้เด็กหนุ่ม​จะไม่ใช้ทักษะ​ใดๆ​ เพิ่มเติม​ แต่​พลัง​ของ​ขา​ขวา​ปีศาจ​และ​ทักษะ​ธาตุ​ลม​ก็​ทำให้​เขา​สามารถ​จู่โจมได้​ใน​ความเร็ว​ระดับ​บ้าคลั่ง​แล้ว​

เมื่อ​เห็น​โจว​เหว่​ย​ชิงกำลัง​มุ่งหน้า​มาหา​ตัวเอง​ เซิน​อี้​ก็​รีบ​ปัด​ความ​ตื่นตระหนก​ทิ้ง​ไป​ หญิงสาว​ยก​แขน​กัน​ไว้​ตรงหน้า​ เห็นได้ชัด​ว่า​ทับทิม​แดง​ดารา​ดวง​ที่​ 3 รอบ​ข้อ​มือซ้าย​ของ​เธอ​พลัน​สว่าง​ขึ้น​ โล่​เพลิง​ขนาดใหญ่​ก่อตัว​เบื้องหน้า​เซิน​อี้​เพื่อ​ขัดขวาง​โจว​เหว่​ย​ชิงเอาไว้​ในทันที​ เกือบจะ​ในเวลาเดียวกัน​ มณีธาตุ​ดวง​ที่​ 2 ของ​เธอ​ก็​กระพริบ​วูบวาบ​ และ​เปลวไฟ​สีเขียว​ 2 ดวง​ก็​ก่อตัว​เป็น​ดาบ​ยาว​ 3 ฉื่อ​ยื่น​ออกมา​จาก​แขน​ตามลำดับ​ เห็นได้ชัด​ว่า​ตอนนี้​เซิน​อี้​กำลัง​รีด​เค้น​ทุกสิ่งทุกอย่าง​ที่​มีออกมา​อย่าง​สุดกำลัง​

อย่างไรก็ตาม​ ทักษะ​สะบัด​ปีก​เฉือน​ก็​ไม่ใช่สิ่งที่จะ​สามารถ​ขวางกั้น​ได้​ง่ายๆ​ เมื่อ​โจว​เหว่​ย​ชิงพุ่ง​เข้าถึง​โล่​เพลิง​ เขา​ก็​ฟาด​มือขวา​ลง​ไป​ด้วย​ เกิด​เสียง​ดังสนั่น​เสียด​แก้วหู​ โล่​เพลิง​ซึ่งได้รับ​การ​จัด​ระดับ​ที่​อย่าง​น้อย​ 6 ดาว​ก็​ถูก​ฟัน​จน​ขาด​เป็น​สอง​ท่อน​ด้วย​ทักษะ​สะบัด​ปีก​เฉือน​ ในเวลาเดียวกัน​ โจว​เหว่​ย​ชิงก็​ตีลังกา​ขึ้นไป​ใน​อากาศ​ ปลาย​ดาบ​สีเขียว​บริเวณ​แขน​ซ้าย​ของ​เขา​มุ่งเข้าหา​เซิน​อี้​จาก​ด้านบน​ ส่งเสียง​หวีดหวิว​ขณะที่​มัน​ตัดผ่าน​อากาศ​

การแสดงออก​ของ​เซิน​อี้​เปลี่ยนไป​เป็น​ตกใจ​ เดิมที​เธอ​วางแผน​ที่จะ​ใช้โล่​หมุน​อัคคี​เพื่อ​ป้องกัน​การ​โจมตี​ของ​โจว​เหว่​ย​ชิงก่อนที่จะ​ใช้ดาบ​เพลิงกัลป์​เข้า​ตอบโต้​ อนิจจา​ หญิงสาว​ไม่คาดคิด​มาก่อน​ว่า​ทักษะ​ของ​โจว​เหว่​ย​ชิงจะทรงพลัง​มาก​จน​โล่​ของ​เธอ​ไม่อาจ​ต้านทาน​มัน​ได้​แม้แต่​ครั้ง​เดียว​ ด้วย​ความ​ตื่นตระหนก​ใน​อก​ เซิน​อี้​จึงทำได้​เพียงแค่​กวาด​มือขึ้น​แล้ว​ใช้ดาบ​เพลิงกัลป์​ของ​เธอ​สกัดกั้น​ทักษะ​สะบัด​ปีก​เฉือน​จักรพรรดิ​สีเงิน​แทน​

ระบบ​การ​จัดอันดับ​ดาว​ของ​ทักษะ​กักเก็บ​ธาตุ​มณีนั้น​เข้มงวด​มาก​ และ​หนึ่ง​ใน​ข้อกำหนด​ที่​สำคัญ​คือ​ภายใต้​ปริมาณ​พลัง​ปราณ​สวรรค์​ที่​ใช้เท่ากัน​ ทักษะ​ที่​ได้รับ​การ​จัดอันดับ​ดาว​สูงกว่า​จะมีผล​ทำลายล้าง​แบบ​สัมบูรณ์​ต่อ​ทักษะ​ที่​มีระดับ​ดาว​ต่ำกว่า​

คู่ต่อสู้​และ​ศัตรู​ก่อนหน้านี้​ของ​โจว​เหว่​ย​ชิงส่วนใหญ่​ล้วน​มีระดับ​พลัง​สูงกว่า​เขา​มาก​ และ​ด้วยเหตุนี้​เอง​ เด็กหนุ่ม​จึงไม่เคย​สามารถ​กำราบ​คู่ต่อสู้​ด้วย​ทักษะ​ระดับ​ดาว​สูงของ​ตัวเอง​เลย​ อย่างไรก็ตาม​ เซิน​อี้​ผู้​นี้​อยู่​ใน​ระดับ​มณี 4 ชุด​เช่นเดียวกับ​ตัว​เขา​ ดังนั้น​หาก​นี่​เป็น​การต่อสู้​เพื่อ​เอาชีวิต​ บางที​ฝ่ายตรงข้าม​อาจจะ​ไม่รอด​จาก​การ​โจมตี​ครั้งแรก​ของ​เขา​แล้ว​ เพราะ​ถึงอย่างไร​ก่อนหน้า​นั้น​ไม่นาน​โจว​เหว่​ย​ชิงก็​เคย​สังหาร​จ้าว​มณีสวรรค์​ระดับ​ 6 ชุด​มาก่อน​!

ดาบ​เพลิงกัลป์​ของ​เซิน​อี้​ไม่ได้​มีระดับ​ดาว​สูงเทียบเท่า​โล่​หมุน​อัคคี​ที่​เธอ​เรียก​ออกมา​ก่อนหน้านี้​และ​เป็น​เพียง​อาวุธ​ระดับ​ 5 ดาว​เท่านั้น​ เมื่อ​ต้อง​เผชิญหน้า​กับ​ทักษะ​ระดับ​ 10 ดาว​ของ​โจว​เหว่​ย​ชิงอย่าง​ทักษะ​สะบัด​ปีก​เฉือน​จักรพรรดิ​สีเงิน​ แม้ว่า​พลัง​บางส่วน​จะถูก​ทำให้​สลาย​ไป​แล้ว​ ทว่า​นั่น​ก็​ยัง​ไม่อาจ​ปิดกั้น​ความรุนแรง​ของ​มัน​ได้​อยู่ดี​ ด้วยเหตุนี้​จึงเป็น​อีกครั้ง​ที่​ดาบ​เพลิงกัลป์​แตก​ออก​เป็น​เสี่ยง​ๆ และ​สลาย​หาย​ไป​กลางอากาศ​ แสงสีเขียว​บน​แขน​ของ​โจว​เหว่​ย​ชิงพลัน​วาบ​ผ่าน​ไป​ราวกับ​สายฟ้า​ฟาด​โดย​ไม่แม้แต่​จะชะลอตัว​ลง​ขณะที่​ปีก​เฉือน​จักรพรรดิ​สีเงิน​ของ​เขา​ฟาดฟัน​ลง​ไป​ที่​ร่าง​ของ​เซิน​อี้​

“เมตตา​ด้วย​!” เสียง​ผู้หญิง​อีก​คน​ตะโกน​ออก​มาจาก​ด้านล่าง​เวที​

โจว​เหว่​ย​ชิงไม่ใช่บุคคล​ที่​กระหายเลือด​จน​ถึงขั้น​ฆ่าไม่เลือก​หน้า​ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​หาก​คน​ที่​เขา​ปะทะ​ด้วย​คือ​หญิง​งามด้วย​แล้ว​ ท่ามกลาง​แสงกระพริบ​วาบ​สีเขียว​เจิดจ้า​ โจว​เหว่​ย​ชิงพลัน​ขยับ​นิ้ว​ ก่อนที่​ทั้ง​ร่าง​จะเฉียด​ผ่าน​เซิน​อี้​ไป​โดย​แทบ​ไม่โดน​ตัว​อีก​ฝ่าย​แม้แต่น้อย​

ในที่สุด​เมื่อ​เด็กหนุ่ม​หยุด​อยู่​ข้างหลัง​หญิงสาว​ประมาณ​ 3 หลา​ เซิน​อี้​ก็​ยังคง​ยืน​ค้าง​อยู่​ท่า​เดิม​อย่าง​งุนงง​ แขน​ของ​เธอ​ยัง​คงอยู่​ใน​ท่า​ป้อง​กันที่​แสน​จะเปราะบาง​

ใน​ช่วงเวลา​ต่อมา​ หญิงสาว​อีก​คน​ที่​สวม​ชุด​สีม่วง​อ่อน​ก็​พุ่งตัว​จาก​ด้านล่าง​เวที​มาหยุด​อยู่​ข้างๆ​ เซิน​อี้​ก่อน​จะเอ่ย​ถามอย่าง​รีบร้อน​ “อี้​อี้​ เจ้าสบายดี​ไหม​?”

หญิงสาว​ใน​ชุด​สีม่วง​ผู้​นี้​ดู​แก่​กว่า​เซิน​อี้​เล็กน้อย​ ประมาณ​ 27 หรือ​ 28 ปี​ ศีรษะ​ของ​เธอ​ปกคลุม​ด้วย​เส้น​ผม​สีเขียว​อ่อน​ตัด​สั้น​เช่นกัน​ รูปร่าง​สูงกว่า​เล็กน้อย​และ​มีใบหน้า​คล้ายคลึง​กับ​เซิน​อี้​ เห็นได้ชัด​ว่า​ทั้งสอง​ต้อง​เป็น​พี่น้อง​กัน​แน่นอน​

เซิน​อี้​ชะงัก​ชั่วขณะ​ก่อน​จะหัน​มอง​ไป​ที่​พี่สาว​ของ​ตน​ วินาที​ต่อมา​ เธอ​รู้สึก​ถึงได้​ถึงความ​หนาวเย็น​อย่าง​ฉับพลัน​บน​ร่าง​ แขน​เสื้อ​ของ​หญิงสาว​พัด​ปลิด​ปลิว​ออก​ไป​เป็น​ชิ้น​เล็ก​ๆ เผย​ให้​เห็น​ท่อน​แขน​ที่​งดงาม​ของ​เธอ​ ในเวลานั้น​ ผ้า​คาด​เอว​ก็​ถูก​กรีด​ออก​ไป​ด้วย​เช่นกัน​ เผย​ให้​เห็น​เอว​เล็ก​ๆ ที่​คอด​บาง​และ​น่า​ดึงดูด​

“อ๊ะ​!” เซิน​อี้​อุทาน​ด้วย​ความตกใจ​ก่อน​จะเอื้อมมือ​ไป​ปิด​ที่​บั้นเอว​อย่าง​รีบร้อน​ ใบหน้า​ของ​เธอ​แปร​เปลี่ยนเป็น​สีแดงก่ำ​ขณะ​หันไป​จ้อง​โจว​เหว่​ย​ชิงด้วย​ความโกรธ​

แน่นอน​ เธอ​รู้​ว่า​โจว​เหว่​ย​ชิงได้​มอบ​ความเมตตา​ให้​แล้ว​ มิฉะนั้น​การ​โจมตี​ที่​สามารถ​เฉือน​เสื้อผ้า​ของ​เธอ​ออก​ไป​ได้​เช่นนี้​ก็​อาจ​ทำให้​เธอ​ตาย​ไป​หลายครั้ง​แล้ว​ อย่างไรก็ตาม​ ใน​สายตา​ของ​เซิน​อี้​ นี่​ก็​ไม่ต่าง​อะไร​กับ​การ​ฆ่ากัน​ทั้งเป็น​ การ​ที่​เสื้อผ้า​ของ​เธอ​ถูก​หั่น​ออก​ราวกับ​ชุด​เอี๊ยม​ชั้นใน​เช่นนี้​ มัน​ก็​ทำให้​หญิงสาว​เสียหน้า​เป็นอย่างมาก​

หญิงสาว​ที่​สวม​ชุด​สีม่วง​สะบัด​ข้อมือ​ จากนั้น​เสื้อคลุม​ก็​ปรากฏ​ขึ้น​ เธอ​ก็​รีบ​นำ​มัน​มาคลุม​ร่าง​เซิน​อี้​ก่อนที่จะ​จ้องมอง​ไป​ที่​โจว​เหว่​ย​ชิงเช่นกัน​ “เจ้าคนสารเลว​! กล้า​ตัด​เสื้อผ้า​ผู้หญิง​แบบ​นั้น​ได้​ยังไง​กัน​!”

โจว​เหว่​ย​ชิงมอง​สอง​พี่น้อง​อย่าง​ไร้เดียงสา​และ​พูดว่า​ “ข้า​ไม่อยาก​ทำร้าย​นาง​หรอก​นะ​ แต่​ข้า​ก็​อยาก​จะชนะ​การต่อสู้​ครั้งนี้​เช่นกัน​ เช่นนี้​ท่าน​จะให้​ข้า​ทำ​อะไร​ได้​อีก​เล่า​? ก็​ข้า​ต้อง​พิสูจน์​ตัวเอง​ว่า​ชนะ​การต่อสู้​นี่​นา​ ยิ่งไปกว่านั้น​ นี่​ยัง​ทำให้​พี่น้อง​เหล่านี้​จำเริญ​หู​จำเริญ​ตา​ด้วย​ ไม่ว่า​จะเป็น​เช่นไร​ ข้า​ก็​แน่ใจ​ว่าไม่ได้​เปิดเผย​ตำแหน่ง​สำคัญ​เลย​ ใช่หรือไม่​ล่ะ​?”

ขณะ​พูด​อย่างนั้น​ เขา​ก็​หัวเราะ​คิกคัก​กับ​ตัวเอง​ อย่างไรก็ตาม​ ในไม่ช้า​เขา​ก็​ตระหนัก​ว่า​บรรยากาศ​ใน​โดม​ท้า​ประลอง​นั้น​แปลกประหลาด​มาก​ ไม่มีใคร​ร่วม​หัวเราะ​ไป​พร้อมกับ​เขา​เลย​สัก​คน​ โจว​เหว่​ย​ชิงคิด​กับ​ตัวเอง​อย่าง​งงงวย​ เอ๋​…เป็นไปได้​ไหม​ว่า​ทหาร​เหล่านี้​อาจจะ​ไม่ชอบ​ก่อเรื่อง​วุ่นวาย​?

“เจ้า…” เซิน​อี้​ที่​เพิ่ง​สวม​เสื้อคลุม​ตัวใหม่​จ้องมอง​โจว​เหว่​ย​ชิงด้วย​ความโกรธ​ทั้งๆ ที่​ใบหน้า​ยังคง​เป็น​สีแดงก่ำ​ ราวกับ​สามารถ​คั้น​เลือด​ออกมา​จาก​แก้ม​สีชมพู​ของ​เธอ​ได้​ หญิงสาว​โพล่ง​ออกมา​ด้วย​ความโกรธ​ “เจ้าไข่เน่า​ ข้า​จะฆ่าเจ้า! ท่าน​พี่​ ช่วย​ข้า​ฆ่าไอ้​หมอ​นี่​ที​! ข้า​…ข้า​…” ในขณะที่​พูด​เช่นนั้น​ เซิน​อี้​ไม่สามารถ​ทน​อยู่​ที่นี่​ได้​อีกต่อไป​ หญิงสาว​ยกมือ​ปกปิด​ใบหน้า​ของ​ตนเอง​ก่อน​จะวิ่ง​หนีหาย​ลับตา​ไป​ ไม่ว่า​เธอ​จะแข็งแกร่ง​แค่​ไหน​ ไม่ว่า​จะมียศ​สูงเพียงใด​ เซิน​อี้​ก็​ยังคง​เป็น​เพียง​เด็กผู้หญิง​คน​หนึ่ง​เท่านั้น​

โจว​เหว่​ย​ชิงเพิกเฉย​ต่อ​หญิงสาว​ชุด​สีม่วง​บน​เวที​ก่อน​จะหัน​ไปหา​ผู้ตัดสิน​ชั่วคราว​และ​พูดว่า​ “เฮ้ๆๆ พี่ใหญ่​ ถึงเวลา​ประกาศ​ชัยชนะ​ของ​ข้า​แล้ว​หรือยัง​? ดู​สิ คู่ต่อสู้​ของ​ข้า​ลง​จาก​เวที​ไป​ด้วยตัวเอง​แล้ว​นะ​”

“เอ่อ​…” ผู้บัญชาการ​กองร้อย​มอง​ไป​ที่​หญิงสาว​ชุด​ม่วง​ กลืนน้ำลาย​ลงคอ​อย่าง​ยากลำบาก​ขณะ​พูด​อย่าง​ตะกุกตะกัก​ “จะ…เจ้าชนะ​แล้ว​!”

โจว​เหว่​ย​ชิงกล่าวว่า​ “เมื่อกี้​เซิน​อี้​บอ​กว่า​นาง​สามารถ​ออกคำสั่ง​ให้​ข้า​ได้​ หาก​ข้า​เอาชนะ​นาง​ก็​จะถือว่า​ได้รับ​ชัยชนะ​ใน​การต่อสู้​ระดับ​กลาง​ทั้งหมด​และ​ขึ้น​เป็น​ผู้บัญชาการ​กองร้อย​ได้​โดยตรง​ หาก​ข้า​จำไม่ผิด​ นั่น​รวม​ถึงเงิน​รางวัล​ 20 เหรียญทอง​ด้วย​”

ผู้บัญชาการ​กองร้อย​เหลือบมอง​หญิงสาว​ที่​สวม​ชุด​ม่วง​อีกครั้ง​และ​เขา​ก็​เห็น​ว่า​เธอ​มีสีหน้า​น่าเกลียด​ขึ้น​มาใน​บัดดล​ แต่กลับ​ไม่ได้​เอ่ย​ขัด​อะไร​ออกมา​ ด้วยเหตุนี้​ เขา​จึงทำได้​เพียงแค่​ก้มหน้า​และ​ผงกศีรษะ​พลาง​กล่าวว่า​ “ใช่ เจ้าเป็น​ผู้บัญชาการ​กองร้อย​แล้ว​ ตอนนี้​แค่​ต้อง​ไป​รายงานตัว​เพื่อ​รับ​การ​เลื่อนตำแหน่ง​ มาเถอะ​น้องชาย​ ตาม​ข้า​มาแล้ว​พวกเรา​จะจัดการ​ให้​”

โจว​เหว่​ย​ชิงหัวเราะ​ร่วน​และ​กล่าวว่า​ “รอเดี๋ยว​! ไม่มีการ​ประลอง​ระดับ​ที่สูง​กว่า​นี้​แล้ว​หรือ​? ข้า​ได้ยิน​มาว่า​หาก​ใคร​เอาชนะ​ผู้คุม​สังเวียน​หลัก​ก็​จะสามารถ​ขึ้น​เป็น​ผู้บัญชาการ​กองพัน​ได้​โดยตรง​ พี่ใหญ่​ ท่าน​ก็ได้​เห็น​ด้วยตัวเอง​แล้ว​ ข้า​เพิ่ง​ไป​ยั่วโมโห​ผู้บัญชาการ​กองพัน​เข้า​ หาก​ข้า​ไม่ก้าว​ไป​สู่ตำแหน่ง​เดียวกัน​ ข้า​จะไม่ถูก​อีก​ฝ่าย​รังแก​ในอนาคต​หรอก​หรือ​? ผู้คุม​สังเวียน​ระดับ​สูงสุด​ของ​กรม​ทหาร​ที่​ 16 ของ​เรา​อยู่​ที่ไหน​? ได้​โปรด​ขอให้​เขา​มาที่นี่​ ข้า​อยาก​จะลองดู​อีก​สัก​ตั้ง​”

สำหรับ​โจว​เหว่​ย​ชิง เนื่องจาก​ผู้คุม​สังเวียน​ระดับ​กลาง​ที่​แข็งแกร่ง​ที่สุด​คือ​จ้าว​มณีสวรรค์​ระดับ​ 4 ชุด​ ดังนั้น​จึงมีความเป็นไปได้​ว่า​ผู้คุม​สังเวียน​ระดับสูง​กว่า​นั้น​อาจจะ​อยู่​ใน​ระดับ​มณี 5 ชุด​ แม้ว่า​เขา​จะสามารถ​ใช้ได้​แค่​เพียง​ทักษะ​ธาตุ​ลม​ แต่​ตราบใดที่​ระมัดระวัง​อย่าง​เต็มที่​ โจว​เหว่​ย​ชิงก็​มั่นใจ​ว่า​จะสามารถ​เอาชนะ​ได้​ แน่นอน​ว่า​เขา​มีบางอย่าง​ซุกซ่อน​อยู่​และ​สามารถ​ใช้มัน​ได้​อย่าง​ลับ​ๆ หาก​ถึงเวลา​จำเป็น​

ผู้บัญชาการ​กองร้อย​ถอนหายใจ​และ​คิด​กับ​ตัวเอง​ว่า​ หาก​ภัยพิบัติ​เกิดขึ้น​เพราะ​ธรรมชาติ​ก็​ยัง​สามารถ​หา​หน​ทางแก้ไข​ได้​ แต่​ถ้าภัย​นั้น​เกิด​จาก​ตัวเอง​เป็น​คน​ก่อ​ คน​ๆ นั้น​ก็​ถือว่า​จบเห่​แล้ว​

ก่อนที่​ผู้ตัดสิน​จะอ้า​ปาก​กล่าว​สิ่งใด​ หญิงสาว​ชุด​ม่วง​ที่​ยัง​ไม่ได้​ลง​จาก​เวที​ก็​พูด​ขึ้น​ว่า​ “ข้า​เอง​เป็น​ผู้คุม​สังเวียน​ระดับสูง​ที่​เจ้าต้องการ​ท้า​ประลอง​ ไม่ใช่ว่า​เจ้าอยาก​จะสู้หรอก​รึ​? ถ้าอย่างนั้น​ก็​ไม่จำเป็นต้อง​มีขั้นตอน​ยุ่งยาก​ซับซ้อน​ เรา​สามารถ​เริ่ม​ได้​ทุกเมื่อ​ เนื่องจาก​เจ้าเพิ่ง​ต่อสู้​มาก่อนหน้านี้​ ข้า​จึงจะไม่เอาเปรียบ​เจ้า เจ้าสามารถ​พักผ่อน​ได้​ก่อน​ 1 ชั่วโมง​”

“เอ๊ะ​?” โจว​เหว่​ย​ชิงไม่คาดคิด​มาก่อน​ว่า​พี่สาว​ของ​เซิน​อี้​ผู้​นี้​จะเป็น​ผู้คุม​สังเวียน​ระดับ​สูงสุด​ของ​โดม​ท้า​ประลอง​ ไม่น่าแปลกใจ​เลย​ที่​ไม่มีทหาร​คนใด​ร่วม​สนุก​ไป​กับ​เขา​ นั่น​เป็น​เพราะ​คน​ๆ นี้​มีพลัง​มากกว่า​เซิน​อี้​นั่นเอง​ เช่นนี้​ใคร​เล่า​จะกล้า​ทำให้​เธอ​ขุ่นเคือง​? เมื่อ​ถึงตอนนี้​ เขา​ก็​ทำได้​เพียง​จ้องมอง​ไป​ที่​ใบหน้า​ของ​อีก​ฝ่าย​

หญิงสาว​ที่​สวม​ชุด​สีม่วง​ตรงหน้า​มีลักษณะ​คล้าย​กับ​เซิน​อี้​มาก​ ทว่า​กลับ​ดู​แน่วแน่​และ​เฉียบคม​มากกว่า​ ใบหน้า​ของ​เธอ​กระจ่าง​ใสเรียบ​เนียน​ ให้​บรรยากาศ​กล้าหาญ​ราว​นักรบ​ หญิงสาว​ผู้​นี้​สูงกว่า​เซิน​อี้​ อย่าง​น้อย​ก็​น่าจะ​ประมาณ​ 1.8 เมตร​ แม้ว่า​เธอ​จะไม่ตัว​ใหญ่​ยักษ์​เหมือน​อู่​ห​ยา​ แต่​เมื่อ​ยืน​อยู่​เฉย​ๆ กลิ่นอาย​ของ​อีก​ฝ่าย​ก็​ยัง​เผย​ความ​โดดเด่น​และ​ทะนงตัว​ออกมา​ เห็นได้ชัด​ว่า​หญิงสาว​ผู้​นี้​มีนิสัย​หนักแน่น​ทั้ง​ยัง​ทรงพลัง​กว่า​เซิน​อี้​

โจว​เหว่​ย​ชิงอด​ไม่ได้​ที่จะ​ถอนหายใจ​อย่าง​มีความสุข​ ดูเหมือน​วันนี้​โชค​ของ​เขา​จะดี​พอสมควร​และ​ทุกอย่าง​ก็​กำลัง​เป็นไปได้​สวย​ นี่​เป็น​เพียง​การต่อสู้​ครั้ง​ที่​ 6 เท่านั้น​และ​หาก​ชนะ​การต่อสู้​ครั้งนี้​ได้​ เขา​ก็​จะกลายเป็น​ผู้บัญชาการ​กองพัน​ของ​กรม​ทหาร​ที่​ 16 โดยตรง​ เป็น​ผู้นำ​ของ​ทหาร​ 1,000 คน​ทันที​ สิ่งนี้​จะช่วย​ให้​เขา​สามารถ​ดำเนิน​การตาม​แผน​และ​ฟูมฟัก​กองทัพ​ของ​ตน​ได้​ด้วย​อัตรา​ความเร็ว​ที่สูง​กว่า​ที่​คาด​ไว้​มาก​

“ข้า​ไม่จำเป็นต้อง​พักผ่อน​หรอก​ ข้า​ใช้พลัง​ปราณ​สวรรค์​ไป​ไม่มาก​นัก​ มาเริ่ม​กัน​เลย​ดีกว่า​” โจว​เหว่​ย​ชิงกล่าว​ด้วย​ความตื่นเต้น​ ในความเป็นจริง​ ทักษะ​สะบัด​ปีก​เฉือน​จักรพรรดิ​สีเงิน​เผาผลาญ​พลัง​ปราณ​สวรรค์​ของ​เขา​ไป​ค่อน​ข้างมาก​ แต่​ด้วย​วิชา​เทพ​อมตะ​ เด็กหนุ่ม​จึงสามารถ​ฟื้นตัว​ได้​มาก​ถึงขีดสุด​

หญิงสาว​ใน​ชุด​ม่วง​กล่าว​อย่าง​เฉยชา​ว่า​ “หาก​นั่น​คือ​สิ่งที่​เจ้าเลือก​ก็​หวัง​ว่า​จะไม่เสียใจ​ภายหลัง​”

โจว​เหว่​ย​ชิงหัวเราะ​อย่าง​เต็มที่​และ​พูดว่า​ “ไม่มีอะไร​ต้อง​เสียใจ​ น้องสาว​ตัว​น้อย​ของ​ท่าน​พ่ายแพ้​ไป​แล้ว​ ส่วน​พี่สาว​ของ​นาง​ก็​อยู่​ที่นี่​ ข้า​สงสัย​นัก​ว่า​ท่าน​มีพี่สาว​อีก​คน​หรือเปล่า​?”

แววตา​ของ​เธอ​ดู​โกรธเกรี้ยว​ขณะ​เอ่ย​ว่า​ “อ้วน​น้อย​โจว​ใช่หรือไม่​…เจ้าจะต้อง​ชดใช้​ใน​ทุกสิ่ง​ที่​เจ้าทำ​ลง​ไป​ คน​ที่​ดูถูก​ผู้อื่น​ก็​จะต้อง​ถูก​เหยียดหยาม​คืน​ในที่สุด​”

โจว​เหว่​ย​ชิงกระพริบตา​ปริบๆ​ และ​พูดว่า​ “นั่น​เป็น​ความจริง​อย่าง​แน่นอน​ แต่​ข้า​ก็​หวัง​ว่า​ท่าน​จะไม่ทำให้​เสื้อผ้า​ของ​ตัวเอง​ขาด​ภายหลัง​เหมือน​น้องสาว​ของ​ท่าน​นะ​ เอาเถอะ​ แม่สาวงาม​ท่าน​นี้​ ให้​ข้า​เรียก​ท่าน​ว่า​อะไร​ดี​?”

Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา

Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา

Status: Ongoing
นี่คือโลกใบใหม่ที่ไม่คุ้นเคย ระบบพลังใหม่ สุดยอดศาสตราวุธ และตัวเอกที่ไม่เหมือนใคร อัปเดตวันละ 2 ตอนในโลกที่ความแข็งแกร่งคือทุกสิ่งทุกอย่าง ผู้มีพลังเหยียบย่ำผู้อ่อนแอมีเด็กผู้ชายผู้หนึ่งเกิดมาเพื่อหวังจะก้าวขึ้นเป็นราชาจ้าวมณีสวรรค์ในอาณาจักรเล็กๆ ที่ยังต้องดิ้นรนในสงครามซึ่งรายล้อม ตัวเขาในฐานะที่เกิดในตระกูลแม่ทัพจึงจำเป็นต้องมุ่งมั่นทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ทว่าสวรรค์กลับไม่เป็นใจ เด็กชายเกิดมาพร้อมลมปราณอุดตัน ฝึกวิชาใดๆ ก็ไร้ผล ท้ายที่สุดก็กลายเป็นเศษสวะไร้ค่าในสายตาผู้อื่น!?ทำลายความภาคภูมิใจของบิดา… กลายเป็นความอัปยศอดสูของคู่หมั้น…หากแต่เขากลับใช้ชีวิตอย่างปกติสุข เที่ยวเล่นจับปลาไปวันๆ โดยไร้ความละอาย!ทว่า…เมื่อพลาดพลั้งถูกฆ่าและทิ้งให้ตาย ท้ายที่สุดสวรรค์ก็เมตตาไข่มุกรัตติกาลจากต่างมิติถูกดึงดูดด้วยแรงดิ้นรนอยากมีชีวิตอยู่ของเขามันมอบพลังที่เปลี่ยนให้เขากลายเป็นจ้าวมณีสวรรค์ที่หายากที่สุด!สิ่งนั้นปลุกศักยภาพของเขาขึ้นมา… แท้จริงแล้วเขาไม่ได้ไร้ค่า…แต่นั่นจะเป็นของขวัญจากสวรรค์ที่มาเปลี่ยนชะตาของเขาได้จริงหรือ?ร่วมผจญภัยไปกับ ‘โจวเหว่ยชิง’ ตัวเอกผู้ไร้ยางอายที่ใช้เล่ห์กลทุกอย่างในการเอาตัวรอดเพื่อมุ่งไปสู่จุดสูงสุดของโลกการฝึกวิชา สร้างยอดกองทัพ ปกป้องคนที่เขารักและขยายอาณาจักรเล็กๆ ให้ยิ่งใหญ่เกรียงไกร!นี่คือโลกใบที่ไม่คุ้นเคย พบกับระบบพลังใหม่ สุดยอดศาสตราวุธ และตัวเอกที่ไม่เหมือนใครมาร่วมหัวเราะและร้องไห้ไปกับผลงานชิ้นใหม่ของ Tang Jia San Shao ผู้เขียน ตำนานจอมยุทธ์ภูตถังซาน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท