Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา – บทที่ 122 หา! ข้าเอาชนะผู้บัญชาการกรมทหาร! (2)

Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา

แม้ว่า​โจว​เหว่​ย​ชิงจะกระตุ้น​ให้​หญิงสาว​โกรธ​ด้วย​การ​ทำให้​เซิน​อี้​อับอาย​ แต่​เธอ​ก็​ยังคง​รับมือ​กับ​ความสามารถ​และ​ความ​แข็งแกร่ง​ของ​เขา​ด้วย​ความระมัดระวัง​ระดับ​สูงสุด​ ด้วย​ระดับ​พลัง​ปราณ​ของ​โจว​เหว่​ย​ชิง มัน​ก็​เพียง​พอแล้ว​ที่จะ​ทำให้​เขา​ขึ้น​เป็น​ผู้บัญชาการ​กองพัน​หรือ​รอง​ผู้บัญชาการ​กองพัน​ เหตุผล​เดียว​ที่​เธอ​เรียก​ใช้ทักษะ​อัน​ทรงพลัง​ของ​ตนเอง​ก็​เพื่อ​ข่มขู่​และ​ทำให้​โจว​เหว่​ย​ชิงแตกตื่น​จน​สุดท้าย​เขา​ต้อง​ขอ​ยอมแพ้​โดย​ไม่สู้ต่อ​ ด้วย​วิธี​นี้​ เซินปู้​จึงจะไม่จำเป็นต้อง​ต่อสู้​กับ​ทหาร​ใหม่​ผู้​นี้​และ​ยังคง​ให้​เขา​ยอมแพ้​ได้​อีกด้วย​

อนิจจา​ หญิงสาว​ไม่เคย​คาดคิด​มาก่อน​ว่า​ภายใต้​แรงกดดัน​ที่​รุนแรง​ของ​เธอ​ ทั้ง​ยัง​ต้อง​เผชิญหน้า​กับ​ทักษะ​ที่​ทรงพลัง​ของ​ตนเอง​เช่นนี้​ อ้วน​น้อย​โจว​จะยัง​เป็น​ฝ่าย​พุ่ง​กระโจน​เข้าหา​ตนเอง​แทน​ เขา​พยายาม​จะฆ่าตัวตาย​หรือ​ยังไง​!?

ใน​ช่วงเวลา​ที่​เซินปู้​ชะงัก​ไป​ โจว​เหว่​ย​ชิงก็ได้​ปลดปล่อย​การ​โจมตี​ระรอก​ใหม่​ของ​เขา​ออกมา​แล้ว​ สำหรับ​จ้าว​มณีสวรรค์​ธรรมดา​ ทักษะ​พายุ​สลาตัน​สามารถ​เปิด​ใช้งาน​ได้​หลังจาก​พุ่ง​ออก​ไป​เป็น​ะระยะทาง​ 10 หลา​เท่านั้น​ แต่​กรณี​ของ​โจว​เหว่​ย​ชิงกลับ​แตกต่าง​ออก​ไป​ เด็กหนุ่ม​มีทักษะ​ก่อกวน​เวลา​และ​สามารถ​ใช้มัน​ได้​อย่าง​ลับ​ๆ ด้วย​ ดังนั้น​เขา​จึงสามารถ​ขัดขวาง​ทักษะ​ของ​ตัวเอง​ได้​ทุกเมื่อ​ที่​เปิดฉาก​การ​จู่โจม ทำให้​ยังคง​สามารถ​ใช้พลัง​ความเร็ว​จาก​ทักษะ​และ​เพิ่ม​พลัง​โจมตี​ได้​ตาม​ต้องการ​

มัน​เป็น​เรื่องจริง​ที่​เขา​ไม่สามารถ​ใช้ทักษะ​สะบัด​ปีก​เฉือน​จักรพรรดิ​สีเงินได้​ใน​ตอนนี้​ แต่​โจว​เหว่​ย​ชิงก็​มีทักษะ​ธาตุ​ลม​ที่​ทรงพลัง​ถึง 4 อย่าง​!

ในขณะที่​ร่างกาย​ของ​เด็กหนุ่ม​พุ่ง​เข้า​ไปหา​เซินปู้​ แสงสีเขียว​รอบตัว​เขา​ก็​แต่ง​แต้ม​ไป​ด้วย​จุด​สีเงิน​เล็ก​ๆ ความเร็ว​ของ​เขา​ที่​เพิ่มขึ้น​เนื่องจาก​ผล​ของ​ทักษะ​พายุ​สลาตัน​ จู่ๆ ก็​เพิ่มขึ้น​สูงถึง 3 เท่า​ใน​เสี้ยว​วินาที​ และ​พริบตา​นั้น​ เด็กหนุ่ม​ก็​ไป​อยู่​ตรงหน้า​เซินปู้​แล้ว​

เซินปู้​ไม่คิด​เลย​ว่า​โจว​เหว่​ย​ชิงจะมีทักษะ​อื่นๆ​ ที่​สามารถ​เพิ่ม​ความเร็ว​ของ​เขา​ได้​ใน​ระดับ​นี้​ เพื่อ​ช่วยชีวิต​ตัวเอง​ใน​ช่วงเวลา​สำคัญ​เช่นนี้​ แม้ว่า​เธอ​จะไม่ต้อง​การทำร้าย​โจว​เหว่​ย​ชิง แต่​ประสาทสัมผัส​ที่​ได้​เรียนรู้​มาจาก​สนามรบ​โดย​สัญชาติ​ญาณก็​ทำให้​หญิงสาว​เคลื่อน​ลูกไฟ​สีน้ำเงิน​ไป​ยัง​จุด​ที่​การ​โจมตี​ของ​โจว​เหว่​ย​ชิงพุ่ง​เข้ามา​ทันที​

แต่​ใน​ตอนนั้น​เอง​ เซินปู้​ก็​ต้อง​รู้สึก​ตกใจ​ที่​จู่ๆ พลัน​รู้สึก​ว่า​ตนเอง​ไม่สามารถ​ขยับ​ได้​ มือ​ของ​เธอ​จึงหยุดนิ่ง​อยู่​กลางทาง​ แม้ว่า​มัน​จะเป็น​เพียงแค่​ช่วงเวลา​สั้น​ๆ แต่​สำหรับ​โจว​เหว่​ย​ชิงที่​กำลัง​เรียก​ใช้ทักษะ​สายฟ้า​ทะลวง​จักรพรรดิ​สีเงิน​ นั่น​ก็​ถือว่า​เพียง​พอแล้ว​

แน่นอน​ว่า​เด็กหนุ่ม​จะไม่แทง​ทะลุ​ร่าง​ของ​เธอ​ด้วย​การ​โจมตี​นั้น​ ในทางตรงกันข้าม​ เขา​เบี่ยง​มือขวา​ขึ้น​เล็กน้อย​เพื่อ​ส่งลูกไฟ​สีน้ำเงิน​พุ่ง​ทะยาน​ขึ้นไป​บน​อากาศ​อย่าง​ปลอดภัย​ ในเวลาเดียวกัน​ ไหล่​ของ​เขา​ก็​กด​ต่ำ​ลง​ในขณะที่​พุ่ง​เข้าใส่​ไหล่​ของ​เซินปู้​ ขา​ของ​โจว​เหว่​ย​ชิงสะบัด​พลิ้วไหว​ออก​ไป​รวบ​เอว​ของ​หญิงสาว​กลางอากาศ​ หลังจาก​พลิกตัว​เธอ​ได้​เสร็จ​เรียบร้อย​แล้ว​ เด็กหนุ่ม​ก็​เหวี่ยง​เซินปู้ลง​ไป​ที่​พื้น​

เกิด​การระเบิด​ครั้ง​ยิ่งใหญ่​ขึ้น​ในทันที​ และ​แผ่น​หลัง​ของ​เซินปู้​ก็​ฟาด​ลง​ไป​ที่​พื้นเวที​อย่าง​แรง​ แม้ว่า​ทักษะ​โซ่ตรวน​วายุ​จะไม่สามารถ​กักขัง​เธอ​ได้​นาน​ แต่​ระดับ​พลัง​ปราณ​ของ​เซินปู้​ก็​ไม่เพียงพอ​จะต้านทาน​ทักษะ​ควบคุม​อัน​ทรงพลัง​ของ​โจว​เหว่​ย​ชิงได้​ทั้งหมด​อยู่แล้ว​ เมื่อ​ถึงเวลา​ที่​เธอ​หลุดพ้น​การควบคุม​ หญิงสาว​ก็​ถูก​กระแทก​ลง​ไป​นอน​ที่​พื้น​แล้ว​ เหตุการณ์​ทั้งหมด​จึงขัดขวาง​ความเป็นไป​ได้ที่​เธอ​จะสามารถ​ปลดปล่อย​ทักษะ​ใดๆ​ ออกมา​

ช่วงเวลา​ต่อมา​ เซินปู้​ก็​รู้สึก​ว่า​มีน้ำหนัก​บางอย่าง​กด​ทับ​ลง​บน​ร่างกาย​ของ​เธอ​ อันธพาล​โจว​เหว่​ย​ชิงได้​ทะยาน​ตาม​ลงมา​จาก​ด้านบน​และ​นั่ง​ทับ​ลงมา​ที่​แผ่น​หลัง​ของ​หญิงสาว​ ส่วน​มือ​ข้าง​ขวา​ก็​จับ​คอ​ของ​เธอ​เอาไว้​ เขา​ยืน​ขึ้น​ช้าๆ คว้า​หลัง​คอ​เธอ​ไว้​อย่างนั้น​ขณะ​ยก​หญิงสาว​ขึ้น​จาก​พื้น​

เมื่อ​เผชิญหน้า​กับ​จ้าว​มณีสวรรค์​ระดับ​มณี 6 ชุด​ที่​ทรงพลัง​เช่นนี้​ โจว​เหว่​ย​ชิงก็​ไม่กล้า​ที่จะ​ประมาท​ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​เนื่องจาก​เขา​ไม่สามารถ​ใช้ทักษะ​และ​ศาสตรา​มณียุทธ์​ได้​มาก​เหมือนเคย​ หาก​ปะทะ​กัน​ตรงๆ​ โดย​ปราศจาก​สิ่งเหล่านั้น​ โจว​เหว่​ย​ชิงก็​รู้ดี​ว่า​เขา​จะไม่สามารถ​เอาชนะ​เธอ​ได้​ และ​ตอนนี้​เขา​ก็​มีสถานะ​เหนือกว่า​อีก​ฝ่าย​เนื่องจาก​หญิงสาว​กำลัง​ตกใจ​ เขา​จึงจะไม่ยอมให้​เธอ​ได้​พลิก​สถานการณ์​กลับ​ไป​ง่ายๆ​

เดิมที​เซินปู้​มีม่าน​พลัง​ปราณ​สวรรค์​คอย​ปกป้อง​ตนเอง​ แต่​เมื่อ​ถูก​โจว​เหว่​ย​ชิงเหวี่ยง​ลงพื้น​อย่าง​หนักหน่วง​ และ​ยิ่งไปกว่านั้น​คือ​เธอ​เพิ่งจะ​ใช้ทักษะ​อัน​ทรงพลัง​ไป​ก่อนหน้า​ ในเวลานี้​หญิงสาว​จึงยังคง​สับสน​มึนงง​ เมื่อ​มือ​ของ​โจว​เหว่​ย​ชิงกำ​เข้าที่​ลำคอ​ของ​เธอ​อย่าง​รุนแรง​ เซินปู้​ก็​รู้สึก​ว่า​มีตนเอง​กำลัง​สั่น​ระริก​ไป​ทั่ว​ร่างกาย​และ​ความรู้สึก​หายใจไม่ออก​ก็​แผ่ขยาย​ไป​ทั่ว​ร่าง​ มาถึงตอนนี้​ มัน​ก็​สาย​เกินไป​แล้ว​ที่​เซินปู้​จะพยายาม​ต่อต้าน​ แม้ว่า​ระดับ​พลัง​ปราณ​ของ​เธอ​จะสูงกว่า​ของ​โจว​ เหว่​ย​ชิง แต่​ด้วย​ลำคอ​ที่​แสน​เปราะบาง​ใน​เงื้อมมือ​อัน​ทรงพลัง​ของ​เขา​ มัน​ก็​ไร้ประโยชน์​ที่จะ​ขัดขืน​

โจว​เหว่​ย​ชิงแอบ​เหงื่อ​แตก​อยู่​ข้างใน​ ถ้าไม่ใช่เพราะ​เซินปู้คน​นี้​ประเมิน​เขา​ต่ำ​เกินไป​และ​ลอบ​จู่โจมอย่าง​กะทันหัน​ บางที​ตอนนี้​เมื่อ​ลูกไฟ​สีน้ำเงิน​พุ่ง​เข้าใส่​ เขา​ก็​คงจะ​ต้อง​เปิดเผย​พลัง​ที่​แท้จริง​ของ​ตัวเอง​เพื่อให้​หลุดพ้น​จาก​สถานการณ์​แล้ว​

“ข้า​ชนะ​แล้ว​ รีบ​ประกาศ​สิ ไม่อย่างนั้น​นาง​อาจจะ​ตาย​ก็ได้​นะ​”

โจว​เหว่​ย​ชิงร้อง​เตือน​ผู้ตัดสิน​ข้าง​เวที​ซึ่งกำลัง​อ้าปากค้าง​ด้วย​ความ​ตื่น​ตะลึง​ ในขณะเดียวกัน​ เขา​ก็​คิด​กับ​ตัวเอง​ว่า​ แปลก​จัง…ในที่สุด​ข้า​ก็​ชนะ​แล้ว​ ทำไม​ถึงไม่มีใคร​ส่งเสียง​โห่ร้อง​สนับสนุน​เลย​สักครั้ง​ล่ะ​? ถึงอย่างไร​ข้า​ก็​เอาชนะ​ผู้คุม​สังเวียน​ระดับสูง​ได้​อย่าง​ถูกต้อง​นี่​นา​…

อันที่จริง​โดม​ท้า​ประลอง​ทั้งหมด​เงียบสนิท​ ราวกับว่า​ทหาร​ทุกคน​ที่​เฝ้าดู​การ​ประลอง​ถูก​โจว​เหว่​ย​ชิงบีบ​คอ​อยู่​ด้วย​ ทั้ง​สนาม​จึงตก​อยู่​ใน​ความ​เงียบ​ที่​น่าขนลุก​

“เจ้าชนะ​ เจ้าชนะ​แล้ว​ เร็ว​เข้า​ ปล่อย​ผู้บัญชาการ​กรม​ทหาร​ของ​เรา​ลง​ซะ!” หลังจาก​ตกตะลึง​ชั่วครู่​ ในที่สุด​ผู้บัญชาการ​กองร้อย​ก็​หลุด​ออกจาก​ภวังค์​ของ​ตัวเอง​ เขา​พุ่ง​เข้ามา​พร้อมกับ​ใบหน้า​ตื่นตระหนก​ขณะ​จับ​แขน​ของ​โจว​เหว่​ย​ชิงและ​ส่งสัญญาณให้​เขา​วาง​เซินปู้ลง​

ห๊ะ…?​ ผู้บัญชาการ​กรม​ทหาร​? ถึงคราว​ที่​โจว​เหว่​ย​ชิงต้อง​ตกตะลึง​ไป​บ้าง​ และ​มือ​ที่จับ​อยู่​ก็​พลัน​คลาย​ออก​ทันที​ ด้าน​เซินปู้​ ใบหน้า​ของ​เธอ​แดง​จัด​จาก​การ​ขาด​อากาศ​หายใจ​ หญิงสาว​ไถล​ตัว​ล้ม​ลง​บน​พื้น​พลาง​สูด​หายใจ​หอบ​เหนื่อย​

เดิมที​โจว​เหว่​ย​ชิงคิด​ว่า​โชค​ของ​ตน​ดีมาก​เพราะ​ดูเหมือนว่า​เขา​จะใช้เวลา​ไม่นาน​ใน​การ​ขึ้น​สู่ตำแหน่ง​ผู้บัญชาการ​กองพัน​ อย่างไรก็ตาม​ เด็กหนุ่ม​ไม่วาด​ฝัน​มาก่อน​เลย​ว่า​ผู้คุม​สังเวียน​ขั้นสูง​จะเป็น​ผู้บัญชาการ​กรม​ทหาร​ ไม่ต้องสงสัย​เลย​ว่า​เซินปู้คน​นี้​จะต้อง​เป็น​แม่ทัพ​ชำนาญ​ศึก​ของ​กรม​ทหาร​ที่​ 16 และ​มีหน้าที่​ดูแล​รับผิดชอบ​ทหาร​ทั้ง​กรม​…แม้ว่า​โจว​เหว่​ย​ชิงจะกลายเป็น​ผู้บัญชาการ​กองพัน​ เขา​ก็​ยัง​ต้อง​อยู่​ภายใต้​การ​ดูแล​ของ​เธอ​อยู่ดี​…นั่น​เป็น​ลาง​ไม่ดี​เลย​จริงๆ​…ดวง​จะกุด​เกินไป​แล้ว​!

สิ่งที่​เกิดขึ้น​ได้​พิสูจน์​แล้ว​ว่า​โจว​เหว่​ย​ชิงโชคร้าย​จริงๆ​ และ​ดูเหมือนว่า​โชคร้าย​ของ​เขา​จะยังคง​ไม่จบสิ้น​ง่ายๆ​

ทันใดนั้น​ เขา​ก็​รู้สึก​ได้​ถึงสายลม​รุนแรง​พร้อมกับ​จิต​สังหาร​ที่​แข็งกร้าว​มุ่งตรง​มายัง​กลาง​หลัง​ของ​เขา​ โจว​เหว่​ย​ชิงเอง​ก็​เป็น​นักรบ​ที่​มีประสบการณ์​เช่นกัน​ ดังนั้น​แม้ว่า​เขา​จะยังคง​ตกใจ​ ทว่า​สัญชาตญาณ​พื้นฐาน​ของ​เขา​ก็​ยังคง​ทำงาน​อยู่​อย่าง​ดีเยี่ยม​ ขา​ขวา​พลัน​พุ่ง​ออก​ไป​ด้านหลัง​เพื่อ​ป้องกัน​การ​จู่โจมของ​ศัตรู​ทันที​ อนิจจา​ โจว​เหว่​ย​ชิงรู้สึก​ได้​ว่า​ขา​ขวา​ของ​เขา​เตะ​ไป​โดน​บางสิ่ง​ที่​อ่อนนุ่ม​ และ​แม้ว่า​เขา​จะพยายาม​อย่าง​เต็มที่​ที่จะ​ดึง​มัน​กลับมา​ ทว่า​สิ่งนี้​ก็​เป็น​ขา​ขวา​ปีศาจ​ที่​ทรงพลัง​อย่าง​น่าหวาดกลัว​ของ​ตน​ และ​ศัตรู​คน​นั้น​ก็​ถูก​เตะ​ลง​จาก​เวที​ไป​โดยปริยาย​

หลังจาก​หันกลับ​ไป​มอง​ เขา​ก็ได้​พบ​กับ​เซิน​อี้​ และ​เห็นได้ชัด​ว่า​เมื่อ​เธอ​พบ​ว่า​พี่สาว​ของ​ตน​กำลัง​ทรมาน​จึงกระโจน​เข้ามา​เปิด​การ​โจมตี​ทันที​ ในเวลานี้​ อาจจะ​เป็น​เพราะ​แรง​เตะ​หรือ​ความ​อับอาย​ เธอ​จึงนอน​หมดสติ​อยู่​ที่​พื้น​

“อี้​อี้​!” เซินปู้​ที่​เพิ่ง​ลุกขึ้น​มายืน​ทัน​ได้​เห็น​โจว​เหว่​ย​ชิงเตะ​น้องสาว​ของ​ตน​ลง​จาก​เวที​ เธอ​จึงทะยาน​ลง​ไป​ข้างล่าง​อย่าง​รวดเร็ว​และ​อุ้ม​เซิน​อี้​เอาไว้​ใน​อ้อมแขน​ เมื่อ​มอง​ย้อนกลับ​ไป​ยัง​โจว​เหว่​ย​ชิง แววตา​ของ​หญิงสาว​ก็​ดูเหมือน​จะต้อง​การฉีก​เขา​เป็น​ชิ้นๆ​

โจว​เหว่​ย​ชิงยก​มือขึ้น​อย่าง​ไร้เดียงสา​และ​พูดว่า​ “ท่าน​ผู้บัญชาการ​กรม​ทหาร​ที่​ยิ่งใหญ่​ของ​ข้า​ ข้า​ไม่ได้​ตั้งใจ​จะทำ​เช่นนั้น​นะ​ขอรับ​! มัน​เป็น​ปฏิกิริยา​ตอบสนอง​ตาม​ธรรมชาติ​น่ะ​…ข้า​เผลอ​เตะ​ออก​โดยไม่รู้ตัว​เพราะ​นาง​กำลังจะ​ทำร้าย​ข้า​ ข้า​…ไม่รู้​ว่า​ท่าน​เป็น​ผู้บัญชาการ​กรม​ทหาร​ ไม่เช่นนั้น​ข้า​ก็​คงจะ​ไม่กล้า​สู้กับ​ท่าน​! ทั้งหมด​เป็น​เพียง​เรื่อง​บังเอิญ​…”

ในเวลานี้​ เขา​ทำได้​เพียง​เอ่ย​คำอธิบาย​ที่​ฟังดู​ไม่เข้าท่า​เท่าไหร่​นัก​ น่าเสียดาย​ แม้แต่​กับ​ตัว​เขา​เอง​ คำอธิบาย​เหล่านั้น​ฟังยังไง​ก็​ดู​ค่อนข้าง​ไร้ประโยชน์​ ถึงกระนั้น​ เขา​ก็​ยัง​มั่นใจ​ว่า​ทุกอย่าง​จะเรียบร้อย​ดี​ ถึงอย่างไร​เขา​ก็​ไม่ได้​ทำผิด​กฎ​ข้อ​ไหน​ เนื่องจาก​นี่​ล้วน​เป็น​ส่วนหนึ่ง​ของ​การแข่งขัน​ใน​โดม​ท้า​ประลอง​ การ​ไม่รู้จัก​ผู้บัญชาการ​กรม​ทหาร​ไม่ใช่การ​ก่อ​อาชญากรรม​นี่​นา​? แม้ว่า​เขา​จะทำให้​เธอ​เสียหน้า​ แต่​จริงๆ​ แล้ว​เขา​ก็​ไม่ได้​ทำ​อะไร​ผิด​…

ยิ่ง​โจว​เหว่​ย​ชิงคิดถึง​เรื่อง​นี้​มาก​เท่าไหร่​ เด็กหนุ่ม​ก็​ยิ่ง​หงุดหงิด​มากขึ้น​เท่านั้น​ และ​เขา​ก็​จ้องมอง​ลง​ไป​บน​เวที​อย่าง​เคืองขุ่น​ ไม่น่าแปลกใจ​เลย​ที่​สหาย​เหล่านั้น​จะเงียบฉี่​กัน​แบบนี้​…เซินปู้​เป็น​ถึงผู้บัญชาการ​กรม​ทหาร​! ก็​นะ​ จริงๆ​ แล้ว​จ้าว​มณีสวรรค์​ระดับ​มณี 6 ชุด​ก็​มีพลัง​เพียงพอ​จะอยู่​ใน​ตำแหน่ง​นี้​จริงๆ​ นั่นแหละ​ เฮ้อ​…ทำไม​ก่อนหน้านี้​ข้า​ถึงคิด​ไม่ได้​นะ​? หลังจาก​ตระหนัก​ได้​ทุกอย่าง​ก็​สาย​เกินไป​แล้ว​…

เซินปู้​ก็​สูด​หายใจเข้า​ลึก​หลาย​ๆ ครั้ง​เพื่อ​บังคับ​ให้​ตัวเอง​สงบ​ลง​ ในที่สุด​หญิงสาว​ก็​ชี้ไป​ที่​โจว​เหว่​ย​ชิงและ​พูดว่า​ “ทหาร​ พา​เขา​ไป​ที่​กองบัญชาการ​ใหญ่​ การแข่งขัน​วันนี้​ อ้วน​น้อย​โจว​ได้รับ​ชัยชนะ​ ข้า​จะมอบ​ตำแหน่ง​ใหม่​ให้​กับ​เขา​เป็นการ​ส่วนตัว​”

เช่นเดียวกับ​ที่​โจว​เหว่​ย​ชิงคิด​ ต่อหน้า​ทหาร​เหล่านี้​ เซินปู้​จะไม่มีวัน​ทำผิด​กฎ​ มิฉะนั้น​เธอ​จะต้อง​สูญเสีย​ความน่าเชื่อถือ​ใน​ฐานะ​ผู้บัญชาการ​กรม​ทหาร​ไป​แน่นอน​

ขณะที่​พวกเขา​ออกจาก​โดม​ท้า​ประลอง​ ดวงอาทิตย์​ก็​คล้อย​ต่ำ​บน​ท้องฟ้า​แล้ว​ และ​ท่ามกลาง​แสงตะวัน​ที่​กำลังจะ​ลับ​ขอบฟ้า​ โจว​เหว่​ย​ชิงก็​สามารถ​มองเห็น​นัยน์ตา​ที่​กำลัง​ฉายแวว​โกรธเกรี้ยว​ของ​เซินปู้​ได้​อย่าง​ชัดเจน​ เขา​อด​ไม่ได้​ที่จะ​รู้สึก​ประหม่า​ใน​ใจ นาง​จะจัดการ​กับ​พวก​ข้า​ยังไง​นะ​? โจว​เหว่​ย​ชิงไม่แน่ใจ​เลย​ด้วยซ้ำ​ โชคดี​ที่​เขา​ได้​ตำแหน่ง​ผู้บัญชาการ​กองพัน​ เซินปู้​ไม่น่าจะ​ส่งเขา​ไป​อยู่​ใน​หน่วย​เสบียง​หรือ​หน่วย​ที่​เธอ​ต้องการ​ใช่ไหม​? หน่วย​พวก​นั้น​คง​ไม่มีตำแหน่ง​ที่สูง​ขนาด​นี้​…ดังนั้น​เขา​จึงทำได้​เพียงแค่​อธิษฐาน​และ​หวัง​ว่า​จะได้​พบ​เจอ​แต่​สิ่งดี​ๆ แน่นอน​ โจว​เหว่​ย​ชิงย่อม​ต้อง​หวัง​ว่า​เธอ​จะมีศีลธรรม​บ้าง​ สถานการณ์​ที่​เข้าท่า​ที่สุด​คือ​เธอ​ไม่สนใจ​ที่​ถูก​เขา​ทำให้​เสียหน้า​และ​มอบ​ตำแหน่ง​ดี​ๆ ให้​แก่​เขา​ อนิจจา​ เมื่อ​มอง​ไป​ที่​ดวงตา​ของ​เธอ​แม้แต่​โจว​เหว่​ย​ชิงเอง​ก็​ยัง​ทำใจ​ให้​เชื่อ​ยา​กว่า​ความหวัง​ของ​เขา​จะเป็นจริง​

ภายใต้​ ‘การ​คุ้มกัน​’ จาก​ทหาร​ส่วนตัว​ของ​ผู้บัญชาการ​กรม​ทหาร​ทั้ง​ 10 นาย​ โจว​เหว่​ย​ชิงและ​ซ่างกวน​เฟยเอ๋อร์​จึงถูก​นำ​ตัว​ไป​ยัง​ที่ตั้ง​ค่ายทหาร​ที่​ 16

ภายใน​ค่าย​ ตอนนี้​เป็นเวลา​เตรียม​อาหารเย็น​จึงมีควัน​พวยพุ่ง​ออกมา​ทุกที่​ และ​พวกเขา​ก็​สามารถ​ได้​กลิ่นหอม​ของ​อาหาร​ที่​ถูก​ปรุง​ได้​อย่าง​ง่ายดาย​ โจว​เหว่​ย​ชิงไม่ได้​กิน​อาหาร​มาเกือบ​หนึ่ง​วัน​แล้ว​ และ​ความอยาก​อาหาร​ของ​เขา​ก็​ประท้วง​ขึ้น​มาเพราะ​สงสัย​ว่า​จะได้รับ​อาหาร​อะไร​ในไม่ช้า​นี้​

“อ้วน​น้อย​โจว​ โชค​ของ​เจ้าไม่เลว​เลย​! พอ​เข้าสู่​กองทัพ​ได้​ เจ้าก็​เอาชนะ​ผู้บัญชาการ​กรม​ทหาร​แล้ว​ เจ้ามีความสามารถ​อย่าง​แท้จริง​!” ซ่างกวน​เฟยเอ๋อร์​เดิน​ไป​ข้าง​โจว​เหว่​ย​ชิงและ​หัวเราะ​เบา​ๆ

โจว​เหว่​ย​ชิงกล่าว​อย่าง​โกรธเคือง​ “อย่า​ลืม​ว่า​ตอนนี้​เจ้าร่วมหัว​จมท้าย​กับ​ข้า​แล้ว​ ถ้าข้า​มีปัญหา​ เข้า​ก็​แย่​ไม่แพ้​กัน​หรอก​”

เมื่อ​ได้ยิน​คำ​ว่า​ ‘ร่วมหัว​จมท้าย​กับ​ข้า​’ ซ่างกวน​เฟยเอ๋อร์​ก็​หน้าแดง​และ​พึมพำ​ว่า​ “ใคร​เข้า​ร่วมกับ​เจ้ากัน​?” อย่างไรก็ตาม​ หลังจาก​พึมพำ​เสร็จ​ เธอ​กลับ​ไม่ได้​แกล้ง​เขา​ต่อ​

ทั้งสอง​ถูก​นำ​ตัว​ไป​ที่​กองบัญชาการ​ใหญ่​ของ​กรม​ทหาร​ที่​ 16 โดยตรง​ และ​ก็​เห็นได้ชัด​ว่า​ทหาร​รักษาการณ์​ 10 คน​ซึ่งยืน​อยู่​บริเวณ​ทางเข้า​ประตู​ไม่มีความตั้งใจ​จะปล่อย​พวกเขา​จากไป​ง่ายๆ​

โจว​เหว่​ย​ชิงยืน​อยู่​ตรงกลาง​กระโจม​กองบัญชาการ​ใหญ่​ สอดส่อง​สายตา​ตรวจสอบ​ภายใน​อย่าง​ถี่ถ้วน​

กระโจม​กองบัญชาการ​ใหญ่​ระดับ​กรม​ทหาร​ถูก​สร้าง​ขึ้น​จาก​หนัง​วัว​ทั้ง​ผืน​ โดย​โครง​ด้านใน​ทำ​จาก​โลหะผสม​ที่​แข็งแรง​ นุ่ม​และ​ทนทาน​ มัน​ถูก​ตรึง​ไว้​ด้วย​หมุด​โลหะ​ยาว​ 1 ฉื่อ​ เต็นท์​ทั้งหมด​มีขนาด​ประมาณ​ 200 ตารางเมตร​ ซึ่งถือว่า​เป็น​ขนาดที่​ใหญ่​มาก​ ข้างใน​มีที่นั่ง​ขนาดใหญ่​ปู​ด้วย​ขนสัตว์​สีขาว​ อาจจะ​เป็น​หนัง​หมี​หรือ​อะไร​เทือก​ๆ นั้น​

ซ่างกวน​เฟยเอ๋อร์​สะกิด​เขา​และ​พูดว่า​ “ตอนนี้​เรา​จะทำ​ยังไง​กัน​ล่ะ​? ผู้บัญชาการ​กรม​ทหาร​คน​นั้น​ไม่พอใจ​เจ้าอย่าง​แน่นอน​ เจ้าคิด​ว่า​นาง​จะทำ​อะไร​กับ​เรา​?”

Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา

Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา

Status: Ongoing
นี่คือโลกใบใหม่ที่ไม่คุ้นเคย ระบบพลังใหม่ สุดยอดศาสตราวุธ และตัวเอกที่ไม่เหมือนใคร อัปเดตวันละ 2 ตอนในโลกที่ความแข็งแกร่งคือทุกสิ่งทุกอย่าง ผู้มีพลังเหยียบย่ำผู้อ่อนแอมีเด็กผู้ชายผู้หนึ่งเกิดมาเพื่อหวังจะก้าวขึ้นเป็นราชาจ้าวมณีสวรรค์ในอาณาจักรเล็กๆ ที่ยังต้องดิ้นรนในสงครามซึ่งรายล้อม ตัวเขาในฐานะที่เกิดในตระกูลแม่ทัพจึงจำเป็นต้องมุ่งมั่นทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ทว่าสวรรค์กลับไม่เป็นใจ เด็กชายเกิดมาพร้อมลมปราณอุดตัน ฝึกวิชาใดๆ ก็ไร้ผล ท้ายที่สุดก็กลายเป็นเศษสวะไร้ค่าในสายตาผู้อื่น!?ทำลายความภาคภูมิใจของบิดา… กลายเป็นความอัปยศอดสูของคู่หมั้น…หากแต่เขากลับใช้ชีวิตอย่างปกติสุข เที่ยวเล่นจับปลาไปวันๆ โดยไร้ความละอาย!ทว่า…เมื่อพลาดพลั้งถูกฆ่าและทิ้งให้ตาย ท้ายที่สุดสวรรค์ก็เมตตาไข่มุกรัตติกาลจากต่างมิติถูกดึงดูดด้วยแรงดิ้นรนอยากมีชีวิตอยู่ของเขามันมอบพลังที่เปลี่ยนให้เขากลายเป็นจ้าวมณีสวรรค์ที่หายากที่สุด!สิ่งนั้นปลุกศักยภาพของเขาขึ้นมา… แท้จริงแล้วเขาไม่ได้ไร้ค่า…แต่นั่นจะเป็นของขวัญจากสวรรค์ที่มาเปลี่ยนชะตาของเขาได้จริงหรือ?ร่วมผจญภัยไปกับ ‘โจวเหว่ยชิง’ ตัวเอกผู้ไร้ยางอายที่ใช้เล่ห์กลทุกอย่างในการเอาตัวรอดเพื่อมุ่งไปสู่จุดสูงสุดของโลกการฝึกวิชา สร้างยอดกองทัพ ปกป้องคนที่เขารักและขยายอาณาจักรเล็กๆ ให้ยิ่งใหญ่เกรียงไกร!นี่คือโลกใบที่ไม่คุ้นเคย พบกับระบบพลังใหม่ สุดยอดศาสตราวุธ และตัวเอกที่ไม่เหมือนใครมาร่วมหัวเราะและร้องไห้ไปกับผลงานชิ้นใหม่ของ Tang Jia San Shao ผู้เขียน ตำนานจอมยุทธ์ภูตถังซาน

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท