(รู้สึกเหมือนถูกห้อมล้อมไปด้วยอะไรบางอย่างที่อบอุ่น)
แม้จะสับสนกับสถานการณ์ในตอนนี้ที่ไม่สามารถพูดและขยับตัวไม่ได้เลย แต่มันก็มีความรู้สึกโล่งใจผุดขึ้นมาจากตรงไหนสักแห่ง
จากนั้นก็ได้ยินเสียงความวุ่นวายอะไรบางอย่าง
แต่พอถึงตรงนั้นฉันก็รู้สึกสงสัยอะไรบางอย่าง
(อะเร๊ะ? จะว่าไปฉันทำอะไรอยู่……)
นึกความทรงจำทั้งก่อนและหลังไม่ออกเลย
「$%&#%$&#%&$|#$&’#」
(อะไรน่ะ? กำลังพูดอะไรอยู่? ลืมตาไม่ได้ด้วยสิ ร่างกายไม่มีแรงเลยแฮะ)
จากนั้นก็รู้สึกหนาวขึ้นมาอย่างกะทันหัน
「$%#$%|#$&$%#!」
(หนาว! เปิดหน้าต่างอยู่งั้นเหรอ? ช่วยปิดทีสิ!)
ฉันวิงวอนอย่างเอาเป็นเอาตายภายในใจต่อบุคคลนั้นที่ไม่รู้ว่ากำลังพูดอะไรอยู่
ถ้าปล่อยไว้แบบนี้ได้หนาวตายแน่
ขณะคิดอย่างนั้นพร้อมทั้งตัวสั่นด้วยความหนาว ดูเหมือนความปรารถนาจะเป็นจริงฉันถูกนำเข้าไปไว้ในสถานที่อบอุ่น
และคงเพราะมีเวลาได้พักหายใจล่ะมั้ง จึงค่อยๆนึกอะไรบางอย่างที่เกิดขึ้นได้
(หือ? งั้นเหรอ…… นึกออกแล้ว ฉันถ้าจำไม่ผิดถูกรถชน…… รอดชีวิตมาได้งั้นเหรอ…… แต่ว่าร่างกายไม่มีแรงลืมตาไม่ได้เลย เพราะไม่มีเงินคงจะไม่มีเงินจ่ายค่ารักษาพยาบาลแน่ ถึงแม้จะอยู่ในสภาพแบบนี้แต่ว่า……)
「$#%$|#¥$」
(จะว่าไปแล้วไม่เข้าใจคำพูดเลยแฮะ…… บางทีสมองอาจจะเสียหายก็ได้)
แต่ว่ามันไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว
ชีวิตมันได้จบลงแล้วไม่ต่างกัน
ป่านนี้แล้วกับอีแค่ไม่เข้าใจคำพูดน่ะจะยังไงก็ช่าง
พอคิดไปถึงขนาดนั้น ก็เริ่มรู้สึกเหมือนสมองเหนื่อยล้าอย่างรวดเร็ว
และถูกโจมตีด้วยความรู้สึกง่วงอย่างกะทันหัน
(แล้วก็ง่วง……มากกว่านี้ไม่ไหว……แล้ว……)
ต้านทานความง่วงที่เข้ามากะทันหันไม่ไหวและในที่สุดก็หลับไปทั้งแบบนั้น
พอตื่นขึ้นมาครั้งต่อไปก็ลืมตาได้เล็กน้อย
(มีรั้วกันรอบๆเพื่อไม่ให้ตกลงไปงั้นเหรอ? ทั้งที่ขยับไม่ได้แท้ๆ…… หือ? มีใครบางคนมาแฮะ)
ได้ยินเสียงฝีเท้าเลยรู้ว่ามีใครบางคนมา
「#$%¥$#」
บุคคลนั้นเข้ามาในห้องและกำลังพูดอะไรบางอย่าง แต่ไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายกำลังพูดอะไรอยู่
บุคคลนั้นเข้ามาใกล้ และในที่สุดก็สามารถยืนยันรูปร่างนั้นได้
(พยาบาลเหรอ? ถ้าเป็นภาษาอังกฤษ จีน เยอรมันฉันเข้าใจได้อยู่แต่มันภาษาอะไรกันนะ? แล้วก็ของที่ดูเหมือนขวดนมนั่นมันอะไร! คนที่อยู่ในสภาพเป็นผักมันไม่มีทางกินได้หรอกใช่ไหมล่ะ! อีกอย่างทั้งที่เป็นพยาบาลแท้ๆแต่ของที่ดูเหมือนกับชุดเมดนั่นมันอะไร! โลกเปลี่ยนแปลงไปขนาดนั้นในระหว่างที่ฉันไม่รู้ตัวเลยงั้นเหรอ? อุฟ! ……อึกอึกอึก……เอิ๊ก)
หลักจากดื่มแล้วก็ถูกตบหลังตุบตุบแล้วทำให้เรอออกมาราวกับเด็กทารก
(อะไรกันยัยนี่!? ทำอย่างกับเป็นเด็กทารก……)
ถึงตรงนั้นฉันก็รู้สึกตัว
ร่างกายของตัวฉันเล็กลงค่อนข้างมาก มือเองก็เล็กและอวบอิ่มราวกับเด็กทารก
(หือ? นี่มันอะไรกัน? นี่คือฉันงั้นเหรอ? ฉันทำไมถึงกลายเป็น……แบบ……นี้……)
ตรงข้ามกับหัวที่กำลังสับสนคงเพราะดื่มนมจนอิ่มล่ะมั้ง ความง่วงอย่างรุนแรงจึงเข้าโจมตีและหลับไปโดยต้านทานไม่ได้ทั้งแบบนั้น
ในที่สุดหลังจากนั้นสถานการณ์ที่ฉันเป็นอยู่ก็ผ่านไปหลายเดือนโดยที่ไม่รู้อะไรเลย
แต่ว่า ก็พอจะรู้อะไรบางอย่างจากสถานการณ์โดยรอบได้ว่าฉันไม่ใช่ฉันคนก่อนอีกต่อไปแล้ว และเข้าใจได้ว่าที่นี่ไม่ใช่ญี่ปุ่น
ฉันเริ่มคิดขึ้นมาว่า ไม่ใช่ว่ามันคือการกลับชาติมาเกิดที่มีในไลท์โนเวลที่ภรรยาเคยอ่านบ่อยๆหรอกหรือ
ฉันไม่ได้สนใจมันเลยแต่แค่เพราะได้ฟังภรรยาพูดคุยด้วยอย่างสนุกสนาน……
จากนั้นไม่กี่เดือนฉันก็เริ่มออกเสียงได้เล็กน้อย
「อา……อา……อู……」
「#$%&#」
พอฉันเริ่มส่งเสียงคนที่ดูเหมือนเมดซึ่งคอยอยู่ใกล้ๆก็พูดอะไรบางอย่างพร้อมกับยิ้มออกมา
แต่ว่า อีกฝ่ายกำลังพูดอะไรอยู่นั้นไม่เข้าใจเลยสักนิด
(ยังไงก็เถอะถ้าหากฉันยังเป็นทารกอยู่แล้วแม่ของฉันกำลังทำอะไรกันนะ ยังไม่เคยเจอเลยสักครั้ง……หรือคนๆนี้จะเป็นแม่ของฉันกันนะ)
ยังไม่เคยเห็นบุคคลที่ดูเหมือนจะเป็นแม่เลย
คนที่อยู่ในขอบเขตการมองเห็นก็มีแค่พวกคนที่ดูเหมือนเมด
(แต่ว่าถ้าหากนี่คือสิ่งที่เรียกว่าการกลับชาติมาเกิดละก็ ครั้งนี้แหละฉันจะไม่ผิดพลาดอีกแล้ว!! ฉันตระหนักได้แล้วว่าไม่ว่าจะมีการศึกษามากแค่ไหนแต่หากไร้ซึ่งพลังอำนาจก็จะถูกกำจัดทิ้งดั่งวัชพืช! ชีวิตนี้จะต้องเอาพลังอำนาจมาครองให้จงได้!! ……จะว่าไปแล้วในเรื่องราวการกลับชาติมาเกิดภรรยาเคยบอกบ่อยๆว่าจะได้พบกับพระเจ้าก่อนและได้รับของโกงๆมาแต่ไม่เห็นจะมีของแบบนั้นเลยแฮะ ก็หมายความว่ามันต่างกับสิ่งที่เล่าล่ะมั้ง ไม่สิ การพึ่งพาพระเจ้ามันผิดตั้งแต่แรกแล้ว ทั้งหมดต้องเอามาครองด้วยตัวเอง จะพึ่งพาคนอื่นไม่ได้แล้ว นอกจากนี้ถึงแม้จะไม่มีของแบบนั้นแต่เรื่องที่ต้องเอาพลังอำนาจมาครองในโลกนี้ก็ไม่เปลี่ยน!)
ถึงจะคิดแบบนั้นและร่างกายขยับไม่ได้ แต่ก็กำมือแน่นพยายามทำสิ่งที่ทำได้ในตอนนี้ แต่ก็ขยับไม่ได้ในทันที
(ไม่ไหว จู่ๆก็เหนื่อยขึ้นมา…… การฝึกฝนคงต้องโต……อีก……สัก……หน่อย……)
ฉันที่ถูกโจมตีด้วยความง่วงจากความเหนื่อยล้าหลับไปทั้งแบบนั้น
――∇∇――
ไม่กี่ปีหลังจากนั้น ฉันอายุสามขวบก็พอจะเข้าใจคำพูดบางอย่างได้
ดูเหมือนว่าชื่อของฉันคืออาโนลด์ ดันเกลโน
และตระกูลดันเกลโนที่ว่าเป็นตระกูลดยุค และฉันดูเหมือนจะเป็นบุตรชายคนที่สามของตระกูลนั้น
หากพูดถึงตระกูลดยุคก็เป็นตำแหน่งที่รองจากราชวงศ์
เพราะได้รับตำแหน่งที่ใกล้เคียงกับจุดที่อยู่เกือบจะจุดสูงสุดตั้งแต่เกิดภายในใจจึงค่อนข้างดีใจ
แต่ว่า การที่ไม่ได้เจอกับพ่อแม่เลยทำให้ค่อนข้างเป็นกังวล
หลังจากนั้น ในช่วงหนึ่งสัปดาห์ก็ได้รับการสั่งสอนหลายๆอย่าง
ภูมิศาสตร์และประวัติศาสตร์ของประเทศนี้ เลขคณิต ภาษาและอีกมากมาย เป็นเนื้อหาที่ไม่คิดว่าจะเอาไว้สอนให้เด็กสามขวบ แต่เพราะเป้าหมายคือได้พลังอำนาจที่จะไม่แพ้ให้กับใครหน้าไหนมาครองมันจึงสะดวกสำหรับฉัน
พลังอำนาจที่จะไม่แพ้ให้กับใครหน้าไหนแน่นอนว่าการเรียนเองก็รวมอยู่ด้วย
ไม่ว่าจะมีตำแหน่งหรือพลังมากแค่ไหนแต่ถ้าหัวไม่ดีละก็ ไม่สิถ้าไม่รู้เรื่องในโลกนี้ละก็คงจะถูกกำจัดทิ้งอย่างวัชพืชได้ง่ายๆ
และจากที่ได้ยินมา ในโลกนี้มีแนวคิดที่เรียกว่าเวทมนตร์กับตัวตนที่เรียกว่าอัศวิน นอกจากนี้ยังมีแม้กระทั่งการคงอยู่ของสัตว์อสูรด้วย
ฉันที่ได้ฟังเรื่องนั้นจึงตัดสินใจว่าแม้แต่พลังทางกายภาพก็จะต้องแข็งแกร่งขึ้นในโลกนี้ให้ได้
เพราะถึงจะมีตำแหน่งแค่ไหนแต่ก็น่าจะยอมศิโรราบต่อหน้าพลังอันท่วมท้น
แล้วก็ รู้สึกขอบคุณที่ได้เกิดในตระกูลดยุคนี้ฉันจึงตั้งเป้าหมายต่อไปได้
1. เอาสติปัญญาที่จะไม่แพ้ให้กับใครหน้าไหนมาครอง
2. เอาพลังรบอันท่วมท้นที่จะได้ไม่ยอมจำนนให้กับใครหน้าไหนมาครอง
ถึงจะยังเป็นเป้าหมายที่คลุมเครือ แต่เพราะไม่อยากมีชีวิตอันน่าสมเพชแบบนั้นอีกเป็นครั้งที่สองในชีวิตนี้จึงไม่คิดที่จะใช้ชีวิตอย่างเอ้อละเหย
เพราะเวลามีจำกัด จึงรู้สึกขอบคุณที่ช่วยมาสอนหนังสือให้นับจากนี้
จากนั้นก็บอกไปตรงๆว่าอยากฝึกเวทมนตร์และวิชาต่อสู้แต่กลับถูกบอกมาด้วยสีหน้าลำบากใจว่าต้องหลังจากอายุครบห้าขวบ
เพราะช่วยไม่ได้เลยเอาแค่ความรู้ก็ได้ จึงไปค้นหาหนังสือเกี่ยวกับเวทมนตร์ในห้องสมุดแต่ไม่มีเลยสักเล่ม
เดิมทีชาติก่อนไม่ได้เก่งเรื่องการเรียนเลยนี่นา คงเพราะความยอดเยี่ยมของร่างนี้หรือไม่ก็เป็นเด็กล่ะมั้งจึงซึมซับได้เร็วเมื่ออายุครบสี่ขวบฉันก็จบการศึกษาระดับประถมแล้ว
และพออายุครบห้าขวบก็จบการศึกษาระดับมัธยมต้น
แต่ว่าฉันคงหลงระเริงไป
จนลืมไปว่าลิ่มที่โผล่ออกมาจะถูกตอกกลับเข้าไป
ทั้งที่ย้ำเตือนตัวเองขนาดนั้นแล้วแท้ๆ……
———————————————-
出る杭は打たれる(ลิ่มที่โผล่ออกมาจะถูกตอกกลับเข้าไป)สำนวนญี่ปุ่น หมายถึงคนที่มีความสามารถล้ำหน้าเหนือคนอื่นจะเป็นที่อิจฉา โดนกลั่นแกล้งและถูกลงโทษ