ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80 – ตอนที่ 368 ชื่อของหล่อน มาจากสกุลของคุณ

ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80

ตอนที่ 368 ชื่อของหล่อน มาจากสกุลของคุณ

ตอนที่ 368 ชื่อของหล่อน มาจากสกุลของคุณ

เซี่ยเหลยมองหลิวกุ้ยอิงด้วยสีหน้าเจ็บปวดและสับสน “ในความฝันของผม ผมมักจะฝันถึงผู้หญิงคนหนี่งที่ถักเปียสองข้าง หล่อนคนนั้นอารมณ์ร้ายมาก หลายครั้งหล่อนมีปากเสียงทะเลาะกับผม แต่บางครั้งหล่อนก็วิ่งนำหน้าและตะโกนเรียกเสียงดัง หล่อนยังเอาเหล้ามาให้ผมด้วย หล่อนในความฝันมักจะสวมผ้าพันคอไหมพรมสีแดงเสมอ ตอนที่หล่อนวิ่งอยู่ตรงหน้า ชายผ้าพันคอไหมพรมสีแดงจะพลิ้วไปตามแรงลม ดูสะดุดตาเป็นพิเศษ

ผมพยายามไล่ตามหล่อนไปเรื่อย ๆ แต่ก็คว้าตัวหล่อนไว้ไม่ได้สักที เห็นหน้าได้ไม่ชัดเจน ทุกครั้งที่หล่อนหันมองย้อนกลับมา ภาพนั้นจะตัดหายไปเสียดื้อ ๆ”

หลังจากที่เซี่ยเหลยพูดจบ แววตาของเขาเต็มไปด้วยความโหยหาและความคาดหวัง เขารวบรวมความกล้า มองไปที่หลิวกุ้ยอิงและถามว่า “ผู้หญิงคนนั้นใช่คุณหรือเปล่า? ฉากที่ผมฝันเห็น เคยเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเราสองคนใช่ไหม?”

หลิวกุ้ยอิงมองเขาด้วยความตกใจ

หล่อนไม่คาดคิดว่าจิตใต้สำนึกของเซี่ยเหลยจะยังคงมีภาพความทรงจำในอดีตระหว่างพวกเขาเสมอมา

เพียงแต่มันปรากฏให้เห็นอย่างคลุมเครือ เพราะความทรงจำเหล่านั้นยังไม่ถูกปลุกให้ตื่น

ใช่แล้ว ทุกอย่างที่เขาสาธยายมา เป็นเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นระหว่างพวกเขาจริง ๆ

เด็กสาวที่สวมผ้าพันคอไหมพรมสีแดงและถักผมเปียสองข้างก็คือหล่อน

เมื่อก่อนหล่อนชอบผ้าพันคอสีแดงผืนนั้นยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด

ครั้งหนึ่งเซี่ยเหลยเคยมอบผ้าพันคอให้หล่อนเป็นของขวัญ แต่เขากลับเอาแต่ทำตัวเย็นชาและเคอะเขิน เขาเข้าไปทำธุระในเมืองก็เลยซื้อผ้าพันคอสีแดงมาฝาก แต่กลับไม่ยอมบอกตรง ๆ ว่าเขาซื้อมาด้วยตัวเอง อ้างว่าเก็บมาได้จากข้างทาง

เมื่อเซี่ยเหลยเห็นว่าหลิวกุ้ยอิงนิ่งเงียบ เขาก็ไม่ให้โอกาสหล่อนได้หลบเลี่ยง ถามย้ำอีกครั้งว่า “ทุกอย่างเป็นความจริงใช่ไหม?”

หลิวกุ้ยอิงเริ่มน้ำตาไหลพราก

หล่อนพูดอะไรไม่ออกสักคำ อารมณ์ต่าง ๆ ปะปนกันไปหมด ทุกครั้งที่เศร้า หล่อนก็ไม่อยากทำอะไรเลยนอกจากร้องไห้

เซี่ยเหลยจับมือเธอไว้ ท่าทางเต็มไปด้วยความตื่นเต้น “อิงจื่อ เมื่อก่อนเราสองคนเคยรักกันหรือเปล่า?”

“อิงจื่อ บอกผมสิ!”

หลิวกุ้ยอิงยังคงร้องไห้ไม่หยุด หลังจากนั้นไม่นาน หล่อนก็ยอมพยักหน้า “อืม”

เมื่อเซี่ยเหลยได้ยินสิ่งนี้ แสงสว่างก็พลันวาบขึ้นมาบนใบหน้าที่ตึงเครียดของเขา ยังคงซักไซ้ไล่เลียงต่อไป “เซี่ยเซี่ย เป็นลูกสาวของผมสินะ?”

หลิวกุ้ยอิงเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยความตกใจ ราวกับไม่คิดว่าเขาจะถามถึงเรื่องนี้

แน่นอน เขายังคงฉลาดเหมือนเดิม

หลิวกุ้ยอิงมองหน้าเขา อารมณ์ของหล่อนผันผวนอย่างรุนแรง ทันใดนั้นหล่อนก็สะอึกสะอื้นจนพูดไม่ออก

เซี่ยเหลยมองหล่อนแล้วพูดว่า “ผมหวังว่าคุณจะให้คำตอบกับผมได้ ผมสูญเสียความทรงจำไปก็จริง แต่ผมไม่ได้โง่

เซี่ยเซี่ยเป็นลูกสาวแท้ ๆ ของผมใช่ไหม? แม่ของผม เสี่ยวไห่ และคนอื่น ๆ ต่างก็รู้ความจริงทุกอย่างหมดแล้วใช่หรือเปล่า?”

หัวใจของเซี่ยเหลยในเวลานี้ก็มีอารมณ์ปั่นป่วนเช่นเดียวกัน

หลิวกุ้ยอิงยอมรับว่าพวกเขาเคยรักกันมาก่อน เขาเองก็รู้ด้วยว่าหลินเซี่ยไม่ใช่ลูกสาวทางสายเลือดของสหายหลินต้าฝู พ่อผู้ให้กำเนิดของเธอเป็นคนอื่น ดังนั้นผู้ชายคนนั้นก็ควรเป็นเขา

อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างเป็นเพียงการคาดเดาฝ่ายเดียวของเขาเท่านั้น แต่จะยืนยันได้ก็ต่อเมื่อหลิวกุ้ยอิงซึ่งเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรงยอมรับ

“หลิวกุ้ยอิง ตอบผมสิ!”

เซี่ยเหลยกระตือรือร้นมากเพราะอยากได้คำตอบ คำพูดสุดท้ายที่เขาตะโกนออกมาแทบจะเป็นการวิงวอน

หลินเซี่ยถือผลการระบุตัวตนติดมือมาด้วย ทันทีที่เธอ เซี่ยไห่ และคนอื่น ๆ มาถึงหน้าประตูร้านอาหาร พวกเขาก็ได้ยินเสียงตะโกนสะเทือนอารมณ์ของเซี่ยเหลย

เซี่ยไห่เปิดม่านหน้าประตู รีบเดินเข้าไปแล้วถามพวกเขาว่า “พี่ใหญ่ พี่อิงจื่อ พวกคุณมีเรื่องอะไรกันหรือเปล่า?”

หลินเซี่ยเดินตามเข้าไป เห็นว่าบนโต๊ะมีเครื่องเคียงและสุราดอกกุ้ยฮวาวางอยู่

พวกเขาสองคนเมาหรือเปล่า?

เมื่อเซี่ยเหลยเห็นพวกเขา เขาก็รีบปรับอารมณ์ทันทีและถามว่า

“ทำไมทุกคนถึงมาที่นี่กันดึกขนาดนี้?”

“แม่ เซี่ยเซี่ย มาที่นี่ทำไมกัน?”

เมื่อเซี่ยเหลยเห็นหลินเซี่ยในตอนนี้ อารมณ์ของเขาก็แตกต่างไปจากปกติอย่างสิ้นเชิง

ก่อนหน้านี้เขาเคยคาดเดาไปเองฝ่ายเดียว แต่เขาก็มีวุฒิภาวะพอที่จะไม่ปล่อยให้อารมณ์มารบกวนชีวิตประจำวัน อย่างไรก็ตามตอนนี้หลิวกุ้ยอิงยอมรับความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาทั้งสองแล้ว ทำให้เขาเข้าใกล้ความจริงที่ตัวเองสันนิษฐานมาอีกหน่อย

หลินเซี่ยเห็นหลิวกุ้ยอิงร้องไห้ จึงรีบเดินเข้าไปจับมือเธอ “แม่คะ ร้องไห้ทำไม?”

หลิวกุ้ยอิงยังคงนิ่งเงียบ

หลินเซี่ยรู้จักนิสัยของหลิวกุ้ยอิงดี หล่อนมักจะเป็นแบบนี้ทุกครั้งที่มีเรื่องสะเทือนใจเกิดขึ้น และไม่สามารถตอบคำถามใด ๆ ได้เลย

ดังนั้น หลินเซี่ยจึงมองไปที่เซี่ยเหลย ราวกับต้องการจะถามเขาว่าเกิดอะไรขึ้น

เซี่ยเหลยก็มองไปที่หลินเซี่ยเช่นกัน และสบตากับเธออย่างตรงไปตรงมา

เซี่ยเหลยไม่รอให้หลินเซี่ยอ้าปากถาม เขามองเธอด้วยอารมณ์สับสนที่หลินเซี่ยเองก็ไม่เข้าใจ “เมื่อกี้นี้ฉันถามแม่เธอว่าใครเป็นพ่อที่แท้จริงของเธอกันแน่?”

เมื่อเซี่ยเหลยพูดแบบนี้ ไม่เพียงแต่หลินเซี่ยเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเซี่ยไห่และคุณแม่เซี่ยด้วยที่รู้สึกประหลาดใจ

พี่ใหญ่จำอะไรบางอย่างได้ หรือว่าเขาแค่อาศัยความรู้สึกและการคาดเดา?

แต่ไม่ว่าอย่างไรเรื่องนี้ก็บรรลุเป้าหมายแล้ว พวกเขาหวังมาตลอดว่าเซี่ยเหลยและหลิวกุ้ยอิงจะค่อย ๆ เกิดความผูกพันบางอย่างจากการติดต่อใกล้ชิด เพื่อที่พวกเขาจะได้เตรียมใจยอมรับสถานะใหม่หลังจากได้รับเอกสารการทดสอบความเป็นพ่อ

เมื่อเห็นว่าทุกคนต่างตกตะลึง เซี่ยเหลยก็หันไปที่หลิวกุ้ยอิงอีกครั้ง “อิงจื่อ บอกผมมาตรง ๆ เถอะ เซี่ยเซี่ยเป็นลูกสาวของผมใช่ไหม”

“เสี่ยวเหลย ลูก…”

“แม่ครับ เซี่ยเซี่ยหน้าเหมือนเสี่ยวอวี่มากขนาดนั้น การคาดเดาของผมคงไม่มากเกินไปหรอกใช่ไหม?”

เซี่ยเหลยมองพวกเขาด้วยสีหน้าจริงจัง “พวกคุณทุกคนกำลังปิดบังอะไรบางอย่างจากผมอยู่ใช่ไหม?”

“ทำไมทุกคนถึงพยายามปิดบังเรื่องนี้จากผม? คิดว่าผมโง่มากหรือไง? ผมมีสิทธิ์ที่จะรู้ความจริงทุกอย่าง”

เซี่ยเหลยรู้สึกโกรธขึ้นมาอีกครั้ง

เซี่ยไห่รีบปลอบใจเขา

“พี่ใหญ่ พวกเราแค่กลัวว่าพี่จะยอมรับความจริงไม่ได้ นอกจากนี้ เรายังไม่มีหลักฐานที่สามารถพิสูจน์ได้อย่างชัดเจน เรากลัวว่าบอกไปแล้วพี่จะไม่เชื่อท่าเดียว”

เซี่ยไห่ขอเอกสารผลการทดสอบความเป็นพ่อจากหลินเซี่ย แล้วยื่นให้เซี่ยเหลยอ่าน “ผลการตรวจสอบออกมาพอดี วันนี้เราก็เลยมาที่นี่เพื่อบอกความจริงกับพี่เกี่ยวกับเรื่องนี้”

เซี่ยเหลยจ้องมองไปที่เอกสารซึ่งเซี่ยไห่ยื่นให้ ถามด้วยความสับสนว่า “นี่คืออะไร?”

“ผลการทดสอบความเป็นพ่อระหว่างพี่กับเซี่ยเซี่ยไงล่ะ”

เซี่ยไห่หยิบเอกสารอีกผ่านหนึ่งออกมาจากแฟ้ม “ส่วนนี่คือผลการทดสอบความเป็นแม่ลูกของเซี่ยเซี่ยกับพี่อิงจื่อ นี่เป็นเทคโนโลยีขั้นสูงที่เพิ่งเปิดตัวในประเทศช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้เอง เส้นผมของพี่ถูกนำมาใช้ในการทดสอบความคล้ายคลึงทางพันธุกรรมด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ มีความแม่นยำสูงมาก ตระกูลเสิ่นใช้วิธีเดียวกันนี้ในการระบุตัวตน พวกเขาถึงรู้ว่าเซี่ยเซี่ยไม่ใช่ลูกสาวของตระกูลเสิ่น”

บนหน้าเอกสารมีคำศัพท์ทางวิชาการมากมายเกินไปจนเซี่ยเหลยอ่านไม่เข้าใจ

เซี่ยไห่จึงช่วยบอกวิธีง่าย ๆ แก่เขา “พี่ใหญ่ เราอ่านดูเฉพาะผลลัพธ์ที่ออกมาก็พอ เห็นไหมว่าดีเอ็นเอของพวกคุณสองคนมีความคล้ายคลึงกันเก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์ พูดง่าย ๆ ก็คือ…พี่กับเซี่ยเซี่ยเป็นคนในสายเลือดเดียวกัน มีความสัมพันธ์เป็นพ่อกับลูกกัน ส่วนเซี่ยเซี่ยและพี่อิงจื่อเป็นแม่กับลูก”

คุณแม่เซี่ยร้องไห้อีกครั้งจากด้านข้าง นางดึงหลินเซี่ยให้เดินไปหาเซี่ยเหลยและหลิวกุ้ยอิง ก่อนจะมองพวกเขาด้วยสายตาโล่งใจพลางพูดว่า “พวกเธอทั้งสามคือครอบครัวที่แท้จริง”

เซี่ยเหลยอ่านผลการทดสอบความเป็นพ่อ จากนั้นก็มองไปที่หลิวกุ้ยอิงและหลินเซี่ย

“กุ้ยอิง นี่เป็นเรื่องจริงเหรอ?” เขาไม่เข้าใจเอกสารที่ได้มาจากเทคโนโลยีขั้นสูง เขาแค่อยากได้ยินคำยอมรับจากปากหลิวกุ้ยอิงด้วยตัวเอง

เขาจะเชื่อก็ต่อเมื่อหล่อนซึ่งเป็นคนรักเก่าบอกความจริงทั้งหมดให้เขาฟังเท่านั้น

หลิวกุ้ยอิงสงบสติอารมณ์ลงได้แล้ว หล่อนมองไปที่เซี่ยเหลยและพูดอย่างเคร่งขรึมว่า “ใช่ เซี่ยเซี่ยเป็นลูกสาวของคุณ ชื่อของหล่อนก็มาจากสกุลของคุณ และชื่อนี้ก็ถูกตั้งเพื่อให้เป็นที่ระลึกถึงพ่อของหล่อนเช่นกัน”

………………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

พี่เหลยเริ่มจำอดีตได้แล้ว ฮืออ ดีใจจังเลยค่ะ

ไหหม่า(海馬)

ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80

ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80

Status: Ongoing
เมื่อสวรรค์ได้ให้โอกาสเธอย้อนกลับมาแก้ขในสิ่งที่ผิดพลาด เธอจะใช้โอกาสนี้เป็นช่างเสริมสวยยอดฝีมือให้ได้ตามฝันอย่างไรกันนะ?เรื่องย่อ : ในชาติก่อน หลินเ เป็นสไตสต์คนโง่ผู้ร้ความคิดป็นของตัวเอง จึงถูกดาราดาวรุ่งผู้เป็นเพื่อนสนิทวางแผนทำลายชีวิตจนพังพินาศ ไร้ซึ่งเครดิต ไร้ซึ่งอำนาจ และหน้ามืดตามัวทิ้งสามีพ่อม่ายลูกติดที่คอยสนับสนุนมาตลอดได้ลงค แต่เหมือนสวรรค์ยังคงเห็นใจต่ชะตาชีวิตอันรันทดของเธอ จึงทำให้เธอได้ย้อนกลับมาเกิดใหม่ในปี 1988 อันเป็นปีที่ทุกอย่างยังไม่สายเกินกว่าแก้ หลินเชี่ยจะใช้โอกาสที่ได้มีชีวิตครั้งที่สองเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของตัวเองอย่างไรบ้าง?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท