อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต – ตอนที่ 20 ซิกม่า

อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต

ตอนที่ 22 ซิกม่า

 

ฉันคือสิ่งมีชีวิตที่ถูกสร้างขึ้นมา

 

หาใช่กำเนิดมาจากท้องผู้เป็นแม่

 

ไม่ได้เติบโตขึ้นมาตั้งแต่ 0 ตามอายุขัย แต่เป็นสิ่งผิดแปลกที่ไม่สามารถเรียกได้ว่าสัตว์ประหลาดหรือมนุษย์

 

ฉันที่เกิดมาเป็นแบบนั้น….

 

 

 

『แกไม่ใช่อัลฟ่า』

 

 

 

『แกไม่สามารถเป็นอัลฟ่าได้』

 

 

 

『แกเป็นเพียงเศษขยะที่ไม่สามารถใช้งานได้』

 

 

 

『อย่ามาให้พวกข้าเห็นหน้าอีก』

 

 

โอเมก้าผู้เป็นพ่อเรียกฉันว่าความล้มเหลว

 

ใช่แล้วเหมือนกับอัลฟ่า

 

ฉันคือสิ่งมีชีวิตที่โอเมก้าสร้างขึ้น

 

ตัวของเธอเรียกตัวเองว่าอัลฟ่าเฉกเช่นเดียวกับผู้เป็นแม่ พลังของเธอสามารถเปลี่ยนการรับรู้ของสิ่งมีชีวิตทั้งหมดได้ หากเธอต้องการมนุษยชาติสามารถล่มสลายได้ทันที

 

 

 

 

『ซิกม่าคือความล้มเหลว สิ่งที่ชั้นต่ำกว่าอัลฟ่า นี่คือชื่อที่เหมาะสมสำหรับแก』

 

 

ตัวของฉันได้ถูกสร้างขึ้นมาก่อนการต่อสู้ครั้งสุดท้าย

 

ไม่ได้ถูกนำมาใช้งานหรือคาดหวังใดๆ สิ่งเดียวที่ฉันทำคือการเฝ้าดู โอเมก้าผู้เป็นพ่อพ่ายแพ้ให้กับจัสติสครูเซเดอร์และอัศวินดำ

 

 

เดิมทีพ่อของฉันควรจะเป็นอมตะฆ่าไม่ตาย

 

เพราะเขาคือสัตว์ประหลาดแห่งชีวิต

 

พลังในการจัดการวิญญาณของตนและวิญญาณของสิ่งมีชีวิตทั้งมวล

 

ห้องต้องการเขาสามารถดึงวิญญาณของสิ่งมีชีวิตทุกชีวิตที่มองเห็นเพื่อสังหารได้ในทันที

 

อย่างไรก็ตามเหตุผลที่เขาไม่เลือกทำเช่นนั้นเป็นเพราะอัลฟ่า ซึ่งแฝงตัวอยู่กับคนพวกนั้น

 

 

พ่อของฉันกลัวตัวตนของอัลฟ่า

 

เขารู้ว่าเด็กคนนั้นคือจุดอ่อนของเขา

 

หากถูกเปลี่ยนประสาทการรับรู้ ก็จะไม่สามารถควบคุมพลังได้

 

หากมองไม่เห็นก็จะไม่สามารถใช้ความสามารถได้

 

สุดท้ายพ่อของฉันก็ถูกจัดการลงโดยยังไม่ได้แสดงพลังที่แท้จริงออกมา

 

จะบอกว่าเศร้าไหมก็คงยากจะอธิบาย

 

แม้จะเป็นสิ่งมีชีวิตที่ถูกสร้างขึ้นมา แต่พวกเขาก็ยังเป็นพ่อแม่ฉัน

 

ส่วนถ้าถามว่าต้องแก้แค้นให้ไหม….อันนี้ก็บอกตามตรงว่าไม่อยู่ในหัว

 

ถามว่าเกลียดจัสติสครูเซเดอร์ไหม

 

เกลียดอัศวินดำ

 

หรือเกลียดพี่สาวตัวเองไหม

 

ฉันก็ไม่สามารถบอกได้จริงๆ

 

 

 

『ฮัวคัว ชิราคาวะค่ะ เอ่อ…ฝากตัวด้วยนะคะ』

 

 

สมองของฉัมมีความฉลาดจากการได้ยีนของสัตว์ประหลาด

 

ความรู้ส่วนใหญ่ก็เรียนรู้มาจากเน็ตและห้องสมุด

 

 

 

โชคดีที่ฉันยังมีเศษเสี้ยวพลังของอัลฟ่าในการเปลี่ยนแปลงการรับรู้เล็กน้อย ฉันจึงใช้มันในการชักจูงผู้คนเพิ่มความชอบและความน่าเชื่อถือภายในสังคม ใช้ปลอมแปลงเอกสารที่จำเป็น ก่อนจะส่งไปยังสำนักงานใหญ่ของจัสติสครูเซเดอร์ ราวกับต้องการแทรกซึม

 

ตั้งแต่นั้นมาก็เกิดเรื่องราวมากมายขึ้นกับฉัน

 

ได้เรียนรู้วิถีชีวิตของพวกมนุษย์และศึกษาการเติบโตของพวกเขา

 

ทั้งของเหล่าสาวๆ จัสติสครูเซเดอร์

 

อัศวินดำหรือคัตสึมิ โฮมุระที่คอยปกป้องผู้คนแม้จะต้องแบกรับอดีตอันน่าเจ็บปวด

 

นอกจากนี้ก็มีประธานที่ออกตัวว่าตัวเองเป็นมนุษย์ต่างดาว แต่ก็ดันไม่ได้สนใจหรือสงสัยในตัวฉันเลย…ไม่สิพูดให้ถูกคือไอ้หมอนี่มันประหลาดกว่าใครเพื่อนเลยเดาใจไม่ถูก

 

ในระหว่างที่ฉันสานสัมพันธ์กับพวกเขา ฉันก็รู้สึกว่าตัวเองได้เปลี่ยนแปลงไปจริงๆ

 

 

 

 

「นี่ คัตซึน」

 

 

ชายที่นอนอยู่ตรงหน้าของฉันตอนนี้คือคัตสึมิ โฮมุระ

 

ฉันไม่สามารถพาเขาไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลได้

 

ก็ไม่แน่ใจว่าทำไมฉันตัดสินใจแบบนั้น ทว่าสุดท้ายก็ไปยืมเอาพวกอุปกรณ์การแพทย์มารักษาเขาที่บ้าน

 

 

 

「ฉันต้องเช่าห้องใหญ่ขึ้นเพราะนายเลยนะ」

 

 

สำหรับอพาร์ตเมนต์สำหรับอาศัยแล้วถือว่าเป็นห้องที่ใหญ่

 

ฉันถอนหายใจขณะเฝ้ามองเขาที่ยังไม่ได้สติมาหลายวัน

 

แน่นอนว่ายังไม่ได้แจ้งเรื่องนี้ให้ทางสำนักงานใหญ่รู้

 

ทั้งที่เป็นสิ่งที่ฉันควรทำ แต่ฉันกลับไม่อยากจะทำแบบนั้นเฉยเลย

 

ยังไงฉันก็ไม่มีความเกี่ยวข้องกับที่นั่นอีกแล้ว จึงไม่มีความจำเป็นต้องบอกนี่เนอะ

 

 

 

『โฮก』

 

「หืม? อยู่ดีๆ ทำไมถึง…อ้อ ต้องเปลี่ยนผ้าพันแผลแล้วสินะ เอาละๆ 」

 

 

ระหว่างที่ฉันกำลังจ้องมองใบหน้าของเขา หมาป่าตัวน้อยก็กระโดดขึ้นมาบนหัวฉันก่อนจะใช้กรงเล็บของมันเฉาะเข้ามา

 

เจ้าหมาน้อยสีดำนี่มันตัวติดกับคัตซึนไม่ยอมไปไหนเลย แต่ทำไมถึงได้ปฏิบัติตัวกับฉันแบบนี้กันนะ!!

 

ฉันทำการตรวจสอบสภาพแผลของเขาโดยการนำผ้าพันแผลออก

 

 

 

「ฟื้นตัวได้เร็วจริงๆ …นี่สินะพลังแกสินะ? 」

 

『โฮก!』

 

 

คงจะใช่

 

เพราะบางครั้งมันก็ปล่อยพลังงานบางอย่างออกมา

 

ที่น่าจะมีส่วนช่วยในการรักษาบาดแผล

 

 

 

「….ฉันละสงสัยจริงๆ ว่าเขาไปสู้กับตัวอะไรมา…? 」

 

 

สามวันเกิดฉันพบเขาในป่า

 

ร่องรอยบาดแผลบนร่างกายของคัตซึนมันหนักกว่าที่ได้ยินมาจากพวกสาวๆ เสียอีก

 

นอกจากนี้ก็ยังมีร่องรอยสลักรูปทรงเหมือนหมัดอยู่บนร่างอีก

 

แม้ตอนนี้บาดแผลจะทำการฟื้นตัวแล้ว แต่ตอนนี้ยังแอบคิดอยู่เลยว่าจะรอดไหม

 

 

 

「……」

 

 

ฉันค่อยๆ เอื้อมมือทั้งสองไปแตะที่คอของเขา

 

ค่อยๆ เพิ่มแรงบีบลงไป

 

ศัตรูของพ่อ

 

เมื่อฉันได้สติ ฉันก็คลายแรงลง ก่อนจะยิ้มออกมาแล้วดึงมือกลับ

 

 

 

「คิดบ้าอะไรของเราอยู่」

 

 

พวกเราไม่ได้มีความแค้นต่อกันแล้ว

 

เรื่องที่เขาทำฉันก็ยกโทษให้ทั้งหมด

 

 

 

 

『โฮกกกกก……』

 

「ด เดี๋ยวสิ ทำไมถึงมากัดกันเล่า? 」

 

 

น้องหมาคุงเหมือนจะรู้สึกตัว แล้วเล็งเป้ามาทางฉันทันที

 

พอคิดได้แบบนี้ก็เรียกว่าโชคดีจริงๆ ที่ดึงมือออกทัน ไม่งั้นคงได้ถูกเขี้ยวเหล็กของมันกระชากไปแน่ๆ

 

 

 

「———อุ」

 

「!」

 

『!』

 

 

เขาตื่นขึ้นมาแล้ว

 

ฉันรีบหันเก้าอี้ไปทางเข้าแล้วนั่งรอให้เขาฟื้นทันที

 

ดวงตาของเขาค่อยๆ เปิดออกทีละน้อย จากนั้นเขาก็พยายามพยุงร่างกายส่วนบนของตัวเองขึ้นแล้วใช้มือบังแสงสว่างที่ลอดหน้าต่างเขามา

 

ฉันที่เห็นแบบนั้นก็เขาไปช่วยประคองเขา และถามอาการ

 

 

 

「นายตื่นแล้วสินะ เป็นยังไงบ้าง? 」

 

「……」

 

 

คัตซึนดูจะตกใจเมื่อเห็นหน้าของฉันก่อนเอียงคอสงสัย

 

 

 

「เธอเป็นใครกัน? 」

 

「……หะ? หือ? 」

 

 

เดี๋ยวก่อนนะพ่อหนุ่ม ถึงวันก่อนฉันจะดูหนังเกี่ยวกับคนความจำเสื่อมไป แต่นี่แค่หยอกกันเล่นใช่ไหม?

 

 

 

「ฟุฟุ ฉันก็เป็นคนรักของนายไง」

 

「……หะ!? งั้นเหรอ……ขอโทษนะ……」

 

「……เอ๋? 」

 

 

ปฏิกิริยาแตกต่างไปจากที่ฉันคาด

 

เขาแสดงสีหน้าหม่นหมองออกมาราวกับเกลียดตัวเองที่นึกอะไรไม่ออกเลยสักนิด

 

 

 

「ฉัน เป็นใครกัน……? 」

 

「นี่ จะล้อกันเล่นแรงไปไหม มากกว่านี้ถึงเป็นฉันก็ขำไม่ออกนะ? 」

 

「ไม่ได้ล้อเล่นสักหน่อย….ชื่อของฉัน คัตซึนเหรอถ้าตามที่เธอเรียก? 」

 

 

ถามจริง นี่นายจะลืมทั้งหมดแม้กระทั่งชื่อตัวเองเนี่ยนะ

 

แม้จะยังพอมีสามัญสำนึกอะไรอยู่บ้าง แต่มันจะหลงเหลือขนาดไหนกันน้อ สภาพนี้

 

 

 

「ไม่น่าเชื่อเลยจริงๆ ว่าฉันจะมีคนรักเป็นเธอได้….ฉันต้องแย่ขนาดไหนกันนะที่ลืมผู้หญิงแบบเธอไป….」

 

「โถ่ ล้อเล่นน่า! ล้อเล่นๆ!! ที่ฉันบอกไปเมื่อกี้โกหกจ้า!!」

 

「ง-งั้นเหรอ……」

 

 

คัตซึนดูจะผิดหวังขึ้นมาซะงั้น

 

โอ้ย ทำไมถึงมาทำให้ฉันปวดหัวขนาดนี้นะ!

 

ฉันยังเป็นแค่เด็กน้อยที่เกิดมา 6 เดือนเองนะ

 

อย่ามาบังคับให้เด็กน้อยแบบฉันต้องปวดหัวขนาดนี้สิ!!

 

 

 

「อึก!? 」

 

「เป็นอะไรไป? 」

 

อยู่ดีๆ เขาก็กอดไหล่ตัวสั่น ฉันจึงวิ่งเข้าไปหาเขาแล้วลูบหลังเบาๆ

 

แผลใจในวัยเด็กกลับมาเหรอ?!

 

 

 

「ไม่รู้เหมือนกัน….อยู่ดีๆ ภาพของหญิงสาวผิวสีฟ้าที่ให้ฉันนอนหนุนตัก ในขณะที่ขยับตัวไปไหนไม่ได้มัน…..……」

 

「เป็นความปรารถนาลึกๆ ในใจเฉยๆ หรือเปล่า? 」

 

「ไม่เข้าใจ ทั้งที่รู้สึกปลอดภัยมากๆ แต่กลับกันก็…..กลัว」

 

 

ดูท่าจะเป็นอาการภายในจิตใจที่โหยหาอะไรบางอย่างหรือเปล่านะ?

 

 

 

 

「ไม่จริงน่า…หรือนั่นจะเป็น แม่ของฉัน? 」

 

「เรื่องนั้นเป็นไปไม่ได้หรอกนะเออ หยุดคิดถึงเรื่องวุ่นๆ ในหัวแล้วมามองความจริงกันดีกว่า…เอ้าดื่มน้ำแล้วสงบสติก่อน」

 

「ขอบคุณ…นั่นสินะ รู้สึกคอแห้งแล้วก็หิวข้าวจริงๆ ….……」

 

 

ฉันค่อยๆ เทน้ำลงในแก้วแล้วยื่นให้เขา

 

เขาดื่มมันจนหมดในรวดเดียว ก่อนจะแสดงอาการเจ็บปวดออกมา

 

ก็แหงสิ

 

ถึงเขาจะได้รับน้ำเกลือเข้าร่างไป แต่เขาก็ยังไม่ได้กินอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย อยู่ดีๆ มายัดรวดเดียวจะเหลือเร้อ

 

จากนั้นหมาป่าจักรกลก็กระโดดโหยงๆ รอบตัวเขาอย่างสนุกสนาน

 

 

 

「โห เด็กคนนี้เป็นตัวอะไรกัน ฮ่าๆ น่ารักชะมัด」

 

『หงิง』

 

 

ไอ้เจ้าปีศาจนี่ เข้าหาเขาเหมือนกับลูกหมาน้อยแล้วทำท่าไร้เดียงสาใส่เชียวนะ

 

ไหงฉันที่เป็นเจ้าของบ้านถึงได้รู้สึกว่าตัวเองอยู่ลำดับล่างสุดของที่นี่กัน?

 

 

 

 

「….ว่าแต่เธอไปใครกันแน่? สรุปเรื่องที่บอกว่าคนรักนั่นล้อเล่นจริงๆ ใช่ไหม? 」

 

「ฉัน คือ……」

 

 

จะบอกไปว่าอะไรดี

 

คุณหมอ? คนรู้จัก?

 

 

 

「ฮาคัว ชิราคาวะ」

 

「ฮาคัว ชิราคาวะ……」

 

 

ฉันพูดโกหกออกไป

 

ชื่อจริงของฉันคือซิกม่า

 

ของมีตำหนิที่พยายามสร้างเลียนแบบอัลฟ่า

 

สิ่งที่ไม่สามารถเรียกได้ว่าสัตว์ประหลาดหรือมนุษย์

 

 

 

「แล้วเธอ……。……เป็น」

 

 

 

―――จะดีจริงหรือเปล่านะหากฉันจะฟื้นความทรงจำของเขา?

 

 

เขาเสี่ยงชีวิตเอาตัวเข้าแลกเพื่อทำลายยานแม่ของเอเลี่ยน

 

แม้ไม่กี่เดือนที่ผ่านมาชีวิตของเขาจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

 

แต่ในกรณีนี้หากความทรงจำของเขากลับมาอีก เขาจะสามารถกลับไปใช้ชีวิตอย่างคนปกติได้เหรอ?

 

 

「ฉันเป็นอะไรกับนายน่ะเหรอ? 」

 

 

ฉันควรจะตอบอะไรออกไปดีฦ

 

จะบอกว่าเป็นคนรู้จักเขา ส่วนเขาคืออัศวินดำงั้นเหรอ?

 

ไม่สิมันจะเชื่อได้ลงเหรอ

 

ในระหว่างที่เขารอคำตอบ หุ่นหมาป่าในอ้อมแขนของเขาก็เริ่มมีแสงสว่างออกมาจากดวงตาของมัน

 

ราวกับว่ามันต้องการให้ฉันตอบคำถามผู้เป็นนายมันสักที―――

 

 

 

 

「ฉันเป็นพี่สาวของนาย……」

 

 

ฉันพูดออกไปโดยไม่ทันคิด

 

 

……。

 

เดี๋ยวนี่ฉันพูดบ้าอะไรออกไป?!

 

พูดออกไปแบบนั้นเขาจะเชื่อเหรอ?!

 

เด็ก 6 เดือนแบบฉันเนี่ยนะ?!

 

ทำไมถึงต้องบอกว่าเป็นพี่สาวกันล่ะ?!

 

 

 

「พี่สาว สินะ? อื้อ…จากความรู้สึกมันก็บอกประมาณนั้นเหมือนกัน」

 

ทำไมถึงทำหน้าสบายใจขนาดนั้นล่ะ

 

อย่าบอกว่าเชื่อจริง?

 

ไม่เอาน่า อย่ามองฉันด้วยสายตาที่เหมือนลูกนกมองพ่อแม่ตัวเองสิยะ!

 

 

 

 

「ขอโทษนะพี่ที่ทำให้เป็นห่วง」

 

「……」

 

「พี่? เป็นอะไรไปเหรอ? ……ทำไมถึงหน้าแดงขนาดนั้นล่ะ……พี่ฮาคัว? 」

 

 

ฉันรู้สึกแปลกๆ อย่างบอกไม่ถูกเมื่อถูกเรียกว่า พี่ ซ้ำๆ

 

ความรู้สึกนี้มันอะไรกันนะ ความรู้สึกที่ทั้งชีวิตนี้ (6เดือน) ไม่เคยสัมผัสมาก่อน

 

 

 

「อื้อ จากนี้ก็สบายใจได้เดี๋ยวมันก็ดีขึ้นเอง」

 

 

เมื่ออายุได้ 6 เดือนฉันก็ได้เดินทางมาถึงทางแยกของชีวิต และสุดท้ายฉันก็ตัดสินใจทำตามที่ใจตัวเองอยาก

 

ยังไงฉันก็ถูกสร้างขึ้นมาเลียนแบบอัลฟ่า

 

บางทีอาจจะเป็นสัญชาตญาณที่ต้องเข้าหาโอเมก้าด้วยก็ได้ นั่นสินะต้องแบบนั้นแน่ๆ ดังนั้น

 

จัสติสครูเซเดอร์

 

พี่สาว….

 

ขอโทษนะ!! แต่ฉันคงจะส่งเขากลับไปหาพวกเธอไม่ได้แล้วจริงๆ ..!!

 

—————

Note 1 : ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ  และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code

อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต

อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต

Status: Ongoing
คัตสึมิ โฮมุระ วายร้ายที่รู้จักกันในนาม อัศวินดำ ชายผู้คิดว่าตัวเองคือวายร้ายแสนโฉดชั่ว เมื่อพ่ายแพ้ให้กับฝั่งฮีโร่เขาก็ถูกจับตัวไป ทว่าสิ่งที่รอเขาอยู่กลับไม่ใช่คุกหรือพวกตำรวจ แต่กลับเป็นขุมนรกที่ตัวเขาเกินจะคาดฝันแทนซะอย่างงั้น โลกที่ขบวนการเซ็นไตมีอยู่จริง เรื่องราวของอัศวินดำจอมวายร้ายที่มีสามัญสำนึกผิดแปกและถูกคนธรรมดาเข้าใจผิดมาโดยเสมอ บัดนี้เขากำลังจะถูกลากเข้าขบวนการเซ็นไตเสียแล้ว ※ผลงานชิ้นนี้กาวล้วนๆไม่มีเกลือผสม

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท