ชายผู้สูญเสียความทรงจำ
ดูเหมือนว่าความทรงจำของฉันจะหายไป
เรื่องราวในอดีตไม่หลงเหลือในหัวเลย
อย่างน้อยก็โชคดีที่ว่าสามัญสำนึกของฉันยังทำงานได้ดี จึงสามารถเข้าใจได้ว่าอะไรเป็นเรื่องควรหรือไม่ควรทำ
「คัตซึน หิวแล้วอ้า」
「พี่ฮาคัวเนี่ยน้า รีบไปเปลี่ยนชุดได้แล้ว」
เสียงดังนั้นมาจากห้องนั่งเล่น
คัตสึกิ ชิราคาว่า
นั่นคือชื่อของฉัน
พี่ฮาคัวทำงานเป็นพยาบาลที่โรงพยาบาลใกล้บ้านของพวกเรา โดยเธอเป็นผู้ช่วยชีวิตของฉันในอุบัติเหตุจนสูญเสียความทรงจำเอาไว้
เธอคือผู้มีพระคุณและครอบครัวเพียงหนึ่งเดียวของฉัน
「พี่ฮาคัว ทำตัวเป็นเด็ก 3 ขวบไปได้นะ 」
「อึก…ก็เอาจริงๆ อายุยังไม่ถึง 1 ขวบเลยด้วยซ้ำ ดังนั้นไม่เป็นไรๆ 」
「เฮ้อ ช่วยไม่ได้สินะ」
ฉันวางข้าวกล่องที่ห่อไว้ด้วยผ้าใกล้กับจุดที่พี่สาวของฉันอยู่ ก่อนจะค่อยๆ เดินไปยังโต๊ะที่เตรียมอาหารเช้าไว้แล้ว
「นี่ครับ ข้าวกล่อง ถึงจะไม่ใช่ของทำเองทั้งหมดก็เถอะ」
「อื้อ ไม่เป็นไรหรอก…ว่าแต่ข้างในมีอะไรบ้างน้อ? 」
ฉันเริ่มเรียนวิธีทำอาหารเมื่อเดือนก่อน
ให้พูดกันตามตรงฝีมือของฉันก็ยังไม่ได้ดีอะไรมากหรอก ครึ่งหนึ่งในนั้นก็เลยเป็นอาหารแช่แข็งเอามาอุ่นเฉยๆ
แม้จะยังไม่เท่าก่อนเสียความทรงจำไป แต่นับจากนี้แหละ ฉันจะค่อยๆ พัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ
「สุดยอดความภูมิใจ ฮิโนมารุ เบนโตะยังไงล่ะ」
「ถามจริงมีแค่ข้าวกับบ๊วยเนี่ยนะ!? 」
「ฮ่าๆๆ ล้อเล่นน่าพี่ ไม่ได้หนักขนาดนั้น มากินข้าวเช้ากันเถอะ」
ฉันต้องรีบกินข้าวแล้วไปทำงานำพาร์ทไทม์ด้วย
ถ้าไม่ได้พี่มาช่วยหางานใหม่ให้ฉัน ฉันคงติดอยู่แต่ในบ้านนี้แน่ๆ ซึ่งแน่นอนว่าฉันไม่ต้องการเป็นภาระแบบนั้น ก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงหาได้เร็วขนาดนั้นแต่มันเป็นงานที่ค่อนข้างดีฉันเลยไม่คิดอะไรมาก
「ขอบคุณสำหรับอาหาร」
「ขอบคุณสำหรับอาหาร」
หลังทานอาหารเช้าเสร็จ ฉันกับพี่ก็เตรียมตัวไปทำงาน
「นี่ คัตซึน」
「หือ? 」
「ตอนนี้นายสนุกหรือเปล่า? 」
ขณะที่ฉันกำลังเตรียมตัวไปทำงาน อยู่ดีๆ พี่ก็ถามขึ้น
บางทีเธออาจจะเป็นห่วงที่ฉันเสียความทรงจำในอดีตไป
แต่นั่นไม่ใช่เรื่องที่กังวลหรอก
「ฮ่าๆ พี่นี่ก็ถามแปลก อื้อผมสนุกกับการใช้ชีวิตดี ถึงแม้จะจำอะไรไม่ได้เลยก็เถอะ!」
「……โอะ อื้อ ถ้าเป็นแบบนั้น…ก็ดีแล้ว…ดีแล้ว」
สีหน้าของพี่ดูเศร้าๆ ไป
พอเห็นแบบนี้ใจฉันก็อยากจะรีบฟื้นความทรงจำให้เร็วละสิ
ฉันทำการหยิบกระเป๋าออกไปทำงานด้วยความมุ่งมั่นนั้น
「เอาละ ขอตัวไปทำงานก่อนนะครับ」
『โฮก!』
「โอ๊ะ เกือบลืมนายไปเลยชิโระ」
สิ่งที่แอบมุดเข้ามาในกระเป๋าของฉันก็คือสุนัขจักรกล ชิโระ
ส่วนชื่อก็มาจากร่างกายที่เป็นสีขาวของมัน เหนือสิ่งใดมันน่ารักและเป็นมิตร
แต่ฉันก็รู้ดีว่าเด็กคนนี้ไม่ใช่หุ่นยนต์ธรรมดาหรอก ฉันจึงบอกเขาว่าอย่าให้คนอื่นเห็นตัว
「ไปดีมาดีล่ะ」
「ไปละนะครับ」
ฉันตอบพี่แล้วออกประตูบ้าน
ผ่านมาสามเดือนแล้วตั้งแต่ที่ฉันเสียความทรงจำ
ถึงจะจำอะไรไม่ได้เลย แต่ฉันก็มั่นใจว่านี่คือวิถีชีวิตของฉันที่เคยใช้มาในอดีตแน่นอน
—
สถานที่ที่ฉันทำงานคือร้านกาแฟที่ไม่ไกลจากอพาร์ตเมนต์ที่ฉันอาศัยอยู่
ร้านดูเป็นสไตล์คลาสสิกเรียบง่ายที่เสิร์ฟเพียงกาแฟทั่วไปและของหวานปกติที่หาได้ในร้านกาแฟ ทว่ามันก็ดึงดูดลูกค้าเข้าร้านได้มากพอสมควร
「ยินดีต้อนรับครับ คุณลูกค้ามากันกี่ท่านครับ? 」
「2 ค่ะ」
「2 คนสินะครับ เชิญทางนี้เลยครับ ผมจะพาไปที่โต๊ะ」
หลังจากพา 2 สาวไปยังโต๊ะแล้ว ฉันก็นำเมนูไปให้พวกเธอดูและรอออเดอร์จากลูกค้าโดยการทำนั่นนี่ไปก่อน
บรรยากาศภายในร้านค่อนข้างสบายๆ ไม่ดูวุ่นวาย ระหว่างนั้นลูกค้าทั้งสองก็คุยกันระหว่างดูเมนู
「ดูเหมือนว่าจะยังหาตัวอัศวินดำคุงกันไม่เจอเลย」
「เขาเป็นเพียงแค่เด็กมอปลายเองใช่ไหมล่ะ? พอเห็นแบบนี้แล้วก็น่าสงสารจริงๆ 」
「ถ้าพวกเอเลี่ยนมันบุกมาอีกจะยังไงกันดีน้า……」
อัศวินดำเหรอ
ฉันหยุดเช็ดโต๊ะทันที
ดูเหมือนว่าจะเกิดเรื่องเลวร้ายขึ้นก่อนที่ฉันจะได้สติ แต่ก็ได้คนที่ถูกเรียกว่าอัศวินดำจัดการไปแล้ว
จากที่ได้ยินหลังเหตุการณ์นั้นเขาได้สูญเสียความทรงจำไปและหายสาบสูญ เอาเถอะฉันก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเขา ก็ได้แค่หวังว่าจะยังมีชีวิตอยู่นะ
「ขอโทษนะคะ」
「ครับ」
พอได้ยินเสียงเรียกของลูกค้า
ฉันก็มุ่งหน้าไปยังโต๊ะทันที
ในฐานะคนทำงานแล้วก็ต้องตั้งใจเสียหน่อย
ช่วงค่ำนั้นจะต่างจากตอนกลางวันตรงแทบไม่มีลูกค้าเลย
พอทำงานเสร็จฉันก็มาเช็ดจาน
「ตอนแรกฉันก็ไม่คิดจะจ้างนายหรอกนะ」
อยู่ดีๆ มาสเตอร์ผู้เจ้าของร้านก็เดินมาพูดกับฉัน
ฉันจึงหยุดมือแล้วหันไปมองเขาที่กำลังยืนสูบบุหรี่อยู่ใกล้กับพัดลมระบายอากาศ
「ปกติเค้าพูดกันตรงๆ แบบนี้เหรอครับ」
「ก็ตอนแรก คนมันคิดแบบนั้นจริงนี่ เจ้าเด็กนี่」
มาสเตอร์สวมเสื้อผ้าสีดำและมีผ้าโพกหัวกำลังพ่นควันบุหรี่ออกมาระหว่างคุย
「เหมือนกับผมเลยที่รู้สึกว่ามาสเตอร์นี่เป็นมาสเตอร์จังนะ ก็เพราะบุหรี่ที่คุณสูบนี่แหละ」
「ไอ้เด็กบ้า แค่บุหรี่มันจำไปทำกาแฟดีๆ ได้ที่ไหนเห้ย ฝีมือกาแฟของฉันมันก็ต้องดีด้วยสิ ไม่งั้นคนมันจะมาเข้าร้านหรือไง」
「ครับๆ รู้แล้วครับ」
ฉันยิ้มออกมาแล้วก็กลับไปขยับมือต่อ
「…ตอนคุณพี่สาวชิราคาวะมา สภาพของแกเหมือนเด็กน้อยที่ตัวติดกับพี่สาวจนห่างกันไปได้เลยนี่นะ สภาพตอนนั้นฉันมองยังไงแกก็ไม่น่ารอดได้ เลยกะว่าจะเอารับมาทำงานแล้วเนี่ย」
「คนมันรู้สึกกังวลเพราะเสียความทรงจำนี่ครับ」
อันที่จริงฉันกลัวการที่ต้องออกไปข้างนอกด้วย
กลัวการเจอใครสักคน
ถ้ามีคนที่รู้จักฉันมาทักจำทำยังไงดี
สิ่งเหล่านี้มันน่ากลัวเหลือเกิน
「สูญเสียความทรงจำสิน้า…นึกภาพไม่ออกเลยวุ้ยว่ามันรู้สึกยังไง」
「ผมเองก็อธิบายไม่ถูก แต่ว่า…มันเหมือนมีช่องว่างภายในใจที่ปิดไม่ได้สักที」
แม้จะทำอะไรกับมันไม่ได้ แต่ก็ต้องพยายามกัน่ตอไป
「แม้จะต้องพยายามนึกอะไรให้ออก แต่ก็ไม่รู้ว่าต้องนึกเรื่องอะไรดีหรือเพราะอะไรถึงจำอะไรไม่ได้เลย มันเหมือนกับมีเมฆหมอกคอยปกคลุมให้ความทรงจำมันคลุมเครือตลอดเวลาครับ」
「……รู้สึกลำบากใจไหม? 」
「ไม่หรอกครับ เพราะพี่ฮาคัวกับมาสเตอร์คอยดูแลเป็นอย่างดีนี่นา」
「ฮ่าๆ ทำไงได้ก็แกมันเป็นคนความจำเสื่อมที่มีฝีมือ」
มาสเตอร์ยิ้มออกมาก่อนจะดับบุหรี่ในมือ
จากนั้นก็เดินไปนั่งเก้าอี้ที่เคาน์เตอร์แล้วคุยกับฉันต่อ
「ประหลาดใจกับคนแบบแกจริงๆ …แต่เอาเถอะ หากว่าจำอดีตไม่ได้ก็แค่ปล่อยมันให้เป็นอดีตต่อไปเถอะ」
「……ครับ? 」
ฉันเอียงคอสงสัย
「แกก็คือแกนั่นแหละ เอ้าบอกมาสิแกชื่ออะไร? 」
「เอ๋? 」
「ถามก็ตอบมาสิ」
มาสเตอร์จี้ฉัน
ชื่อของฉันเหรอ
จากที่พี่บอกชื่อของฉันคือ
「คัตสึกิ ชิราคาวะ」
「ใช่ไหมล่ะ มันก็แค่นั้นเอง ไม่จำเป็นต้องไปฝืนนึกถึงอดีตหรอก แกก็เป็นตัวของแกเองเท่านั้นก็เพียงพอแล้ว」
แบบนั้นก็ได้สินะ
นั่นสิ หากทำได้คงดี
ฉันนึกภาพพี่ที่กังวลได้มา
「แต่จะให้พี่ฮาคัวมากังวลเกี่ยวกับผมตลอดก็คงไม่ดี….」
「งั้นเหรอ? แต่จากที่ฉันเห็นความทรงจำของนายน่าจะกลับ…ไม่สิ ช่างมันเถอะ」
「? 」
หลังเขาพูดอะไรบางอย่างคนเดียว เขาก็ยืนขึ้นราวกับบอกว่าหมดเวลาคุยแล้ว
ฉันก็เช็ดจานเสร็จพอดี จึงเตรียมตัวจะกลับ ก็พบว่ามาสเตอร์กำลังหยิบอาหารออกมาจากตู้เย็น
「เอ้า รับไปสิ แล้วก็เอาไปฝากคุณพี่สาวชิราคาวะด้วย」
「เอ๋ จะดีเหรอครับ? 」
เอาอาหารเย็นมาให้กันแบบนี้?!
แถมยังมีส่วนของพี่อีก ใจดีจริงๆ!!
「……ทำหน้ามีความสุขเชียวนะ」
「ครับ!! อาหารที่บ้านก็จะหมดแล้วด้วย! เพราะพี่ฮาคัวเขากินเยอะมากเลย!!」
「ไอ้เด็กนี่พูดยังกับจะบอกให้ให้ฉันขึ้นเงินเดือนให้แกมากกว่านี้เลยนะ!!」
ฉันรับอาหารมาและขอบคุณเขาที่เตรียมอาหารมาให้กับฉัน
แม้จะเริ่มทำงานมาได้แค่ 2 เดือนแต่ฉันก็สัมผัสได้ว่าสถานที่แห่งนี้เหมาะกับฉันจริงๆ
—
「พี่ฮาคัวคงชอบน่าดู」
หลังทำงานเสร็จ ฉันก็เดินไปตามท้องถนนที่มืดมิด
ไม่มีใครอยู่รอบๆ นี้เลยในขณะที่เดินไปตามแสงไฟอันน้อยนิด โดยปลายทางคืออพาร์ตเมนต์ที่พี่สาวของฉันกำลังรออยู่
「ฉันก็คือฉันเหรอ」
ฉันนึกถึงสิ่งที่มาสเตอร์บอก
ยังไงตัวฉันตอนนี้ก็ยังมีชีวิตอยู่
ถึงจะจำเรื่องก่อนหน้านี้ไม่ได้ และไม่รู้ว่าความทรงจำจะกลับมาเมื่อไหร่
แต่จะให้กังวลต่อไปก็คงไม่มีประโยชน์
「……เอาละ พรุ่งนี้ก็มาพยายามกันต่อ!」
ฉันรู้สึกมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก
มีเจ้านายที่ใส่ใจ มีพี่สาวที่รักและคอยดูแลเป็นครอบครัวที่ดี
การใช้ชีวิตของฉันก็สงบสุข
「เอ๋? 」
มีใครอยู่ตรงหน้าฉันกันนะ?
ฉันสังเกตเห็นหญิงสาวคนหนึ่งอยู่ใต้แสงไฟของเสาตรงถนน ที่กะพริบไปมาราวกับจะพังแหล่มิพังแหล่
หากสังเกตให้ดีๆ แล้ว เธอกำลังสวมชุดอะไรบางอย่างที่คลุมปิดทั้งตัวและหัวเอาไว้ เป็นสาวคอสเพลเหรอ?
จากนั้นสิ่งที่ดูเหมือนนาฬิกาสีทองบนข้อมือของเธอก็เริ่มเกิดความผิดปกติขึ้น
「———หึ กำลังหาตัวอยู่พอดี」
หญิงสาวคนนั้นคงเข้าใจผิดว่าฉันเป็นคนรู้จักและโบกมือให้กับฉัน
ทุกคนผิด?
อย่างน้อยเท่าที่จำได้ฉันไม่เคยเจอเธอมาก่อน หรือจะเป็นคนรู้จักของฉันก่อนเสียความทรงจำ
「ค -คุณเป็นใครเหรอครับ? 」
「……ลืมกันซะแล้วเหรอ? ฉันคนนี้อ่ะน่ะ? ทั้งที่ทำลายทุกสิ่งทุกอย่างของฉันไปแท้ๆ? 」
「ทำลาย เอ๋!? 」
ดะดะดะเดี๋ยวก่อนนะ นี่ฉันเคยไปทำอะไรแย่ๆ กับเธอไว้เหรอ?!
อยู่ดีๆ เธอคนนั้นก็พูดอย่างหัวเสียออกมา ก่อนจะหัวเราะแล้วถอดหน้ากากที่คลุมทั้งหัวออก
「เอา ฉันไง แอ็กซ์จังผู้นี้นี่เอง! แกลืมใบหน้าที่เคยเจอเมื่อ 3 เดือนก่อนไปแล้วหรือไง」
ใบหน้าของภายหน้ากากนั้น ชวนให้รู้สึกขนลุก
คำวาตุ๊กตาที่มีชีวิตดูจะเหมาะสมกับการอธิบายตัวเธอในตอนนี้ เธอจ้องฉันโดยไม่กะพริบตาด้วยซ้ำ
แม้บรรยากาศจะทำตัวสบายๆ แต่ดวงตาและท่าทางที่แสดงออกมาฉันรู้สึกว่าเธอเป็นตัวอันตราย
「หือ? ที่เค้าบอกว่าแกสูญเสียความทรงจำไป เป็นเรื่องจริงเหรอ? 」
「เอ่อ ขอโทษด้วยนะครับ แต่ผมเสียความทรงจำไปจริงๆ ถ้าไม่รังเกียจช่วยเล่าให้ฟังทีได้ไหมว่าผม―――」
ก่อนที่ฉันจะพูดพบ ก็มีบางอย่างผ่านหน้าฉันไป
ข้าวกล่องที่เต็มไปด้วยอาหารซึ่งมาสเตอร์ให้มา ถูกผ่าออกเป็นสองส่วนและตกลงกับพื้น
「ยกโทษให้ไม่ได้ ยกโทษให้แกไม่ได้เด็ดขาด ลืมไปแล้วงั้นเหรอ? อย่างมาล้อกันเล่น….」
น้ำเสียงของเธอเปลี่ยนไป
อะไรกัน? เสียงนั่น แต่ฉันรู้แล้วว่ามันไม่ปกติแล้ว!
ในขณะที่ฉันเตรียมตัวจะวิ่งหนี หญิงสาวที่เรียกตัวเองว่าแอ็กซ์ก็เงยหน้าขึ้น
「แกกล้าใช้ชีวิตอย่างสงบสุขทั้งที่ทำกับฉันแบบนี้ได้ยังไงกัน!!」
หลังตะโกนออกมาภาพโฮโลแกรมที่ปกคลุมร่างของเธอเอาไว้ก็หายไปเผยให้เห็นถึงอวัยวะภายในของเธอ
ใบหน้าครึ่งหนึ่งของเธอไม่หลงเหลือผิวหนังอยู่และถูกแทนด้วยเครื่องจักร ส่วนท้องก็เหมือนกับการนำเศษชิ้นส่วนต่างๆ เข้ามาประกอบกัน ความกลัวได้แล่นเข้ามาในใจฉันทันที
「โฮโลแกรมหายไปแล้วงั้นเหรอ หึช่างหัวมันเถอะ ยังไงฉันก็ไม่จำเป็นต้องทนอีกต่อไป!!」
「คึก」
「ฉันจะฆ่าแก ฆ่าแกให้ได้」
『INVASION START!!』
ดวงตาจักรกลของเธอจ้องมายังฉัน ก่อนจะเอามือไปสัมผัสกับนาฬิกาตรงมือซ้ายของเธอ
ทันใดนั้นร่างของเธอก็เปลี่ยนไป――สูทสีทองได้ปกคลุมร่างของเธอ
ทว่ามันกลับยิ่งน่าขนลุกกว่าเดิมเพราะชิ้นส่วนต่างๆ ของสูทได้ยื่นออกมาอย่างผิดรูปร่าง ดวงตาของเธอก็ไม่ได้ถูกหน้ากากปิดเอาไว้ ฉันจึงมองเห็นสายตาที่เต็มไปด้วยเจตนาฆ่าของเธอชัดเจน
สัตว์ประหลาด
แม้รูปร่างจะเหมือนพวกเซ็นไต แต่ยังไงก็เป็นสัตว์ประหลาดวายร้ายแน่นอน
「ตายซ้าาาาาา!!」
มีบางอย่างพุ่งออกมาจากมือของสัตว์ประหลาดร่างทอง
เมื่อฉันตกใจจนก้าวขาไม่ออก ชิโระก็กระโดดออกมาจากกระเป๋าเพื่อปกป้องฉัน
「ช-ชิโระ!」
『โฮก!!』
「ตะ ต้องหนี!!」
「แกจะหนีไปหนายยยยย」
ฉันวิ่งโดยมีชิโระอยู่ในอ้อมแขน ทว่าแขนอีกข้างของฉันก็โดนคว้าเอาไว้
ก่อนที่แขนของฉันจะถูกแรงบีบบนขยี้ ร่างกายของฉันก็ตอบสนองกลับไปเอง
「ย้ากกกก!!」
ฉันเตะเข่าของเธอให้เสียการทรงตัว ก่อนจะใช้เข่ากระแทกเข้าที่หน้าอีกที
มือของเธอหลุดออกจากแขนฉัน ในระหว่างที่เธอกำลังร้องเสียงหลงออกมา ฉันก็รีบวิ่งหนีทันที
「ทั้งที่ไม่เคยต่อยตีกับใครมาก่อนแท้ๆ …ได้ยังไงกัน!」
ฉันวิ่งหนีต่อด้วยความประหลาดใจกับการเคลื่อนไหวของตัวเอง
เส้นทางที่ฉันหนีไปไม่ใช่อพาร์ตเมนต์ของพี่สาวตัวเอง
ทางที่ฉันเลือกคือสวนสาธารณะที่คนไม่ค่อยผ่านและน่าจะมีที่ซ่อน แถมไม่ไกลจากตรงนั้นมีป้อมตำรวจ ดังนั้นคงต้องหาที่หลบดีๆ ในนั้นเสียก่อน
「แฮก แฮก แฮก」
『โฮก』
「ไม่เป็นไร..ฉันไม่เป็นไร……」
ฉันนั่งพักหายในในเครื่องเล่นตรงสนามเด็กเล่น
แม้จะว่าด้วยความเร็วสุดแรงเกิด แต่แปลกใจที่ฉันไม่ได้เหนื่อยเท่าที่คิดไว้
「ว่าแต่ไอนั่นมันตัวอะไรกัน…สัตว์ประหลาดงั้นเหรอ? 」
ทำไมเธอถึงเล็งฉันกันล่ะ
ไม่เข้าใจเลยสักนิด
「ทำไมกัน……」
――จงสู้
「หา!? 」
――จงสู้
อยู่ดีๆ ฉันก็ได้ยินเสียงบางอย่าง
พอหันไปรอบๆ ก็ไม่มีใครอยู่
มันคือเสียงที่ดังก้องในหัวของฉัน
「ค-ใครกัน……」
「เจอตัวแล้ว」
「คึก!? 」
ในระหว่างที่ฉันได้ยินเสียงแปลกๆ อีกฝ่ายก็เจอตัวฉันแล้ว ฉันถูกคว้าหน้าอกแล้วโยนไปที่กลางสวน
ในขณะที่ฉันถูกแรงกระแทกซัดเข้าที่ร่าง อีกฝ่ายก็เอามือจับคอของฉันยกให้ลอยขึ้น
「อุก……」
「เกิดอะไรขึ้นกับแกที่สูญเสียความทรงจำไปกันนะ? ทำไมช่างดูกระจอกงอกง่อยขนาดนี้!!!!」
『โฮกกก!!』
ชิโระพยายามกระโดดใส่อีกฝ่ายเพื่อช่วยฉันที่ถูกจับเอาไว้ แต่มันก็ถูกฟาดจนร่วงลงกับพื้น
「คิดจริงเหรอว่าอุปกรณ์ชีวมวลจะเอาชนะฉันที่แปลงร่างแล้วได้? 」
「ชิโระ……!」
「เอาละ จากนี้จะขอเอาคืนทบต้นดอกให้สาแก่ใจสักที!!」
ฉันถูกฟาดลงกับพื้นอีกครั้ง
ฉันจะมาตายแบบนี้ไม่ได้เด็ดขาด
สายตาที่พร่ามัวของฉันเห็นชิโระที่พยายามเข้ามาช่วยฉัน
แม้ว่าร่างของมันจะเกิดประกายไฟและมีรอยแตกร้าวขึ้น มันก็ยังเป็นห่วงฉัน…
「จะปล่อยให้สูญเสียอะไรไปแล้วอีกไม่ได้เด็ดขาด」
―――ใช่แล้ว
เสียงนั้นดังก้องขึ้นในหัวของฉันอีกครั้ง
และราวกับมันเป็นพลังให้ฉันลุกขึ้นยืนได้อีก
―――จงสู้
「เออ ถึงไม่บอกก็จะทำอยู่แล้ว」
―――ตะโกนมันออกมา
「ฉันจะสู้!!」
ฉันตะโกนสุดเสียงใส่สัตว์ประหลาดที่ใกล้เข้ามา
ทันใดชิโระก็ตอบสนองต่อเสียงตะโกนของฉันและคำรามออกมา
ดวงตาของมันเปล่งประกายแสงสีเหลืองออกมา แล้วแสงนั้นก็ส่องมายังเอวของฉันแล้วกลายเป็นสายเข็มขัด ร่างของชิโระได้เปลี่ยนไปกลายเป็นอุปกรณ์บางอย่างที่พอดีมือ
―――สำหรับแกน่ะ แบบนี้ดีแล้ว
ฉันมองดูชิโระในมือสลับกับสัตว์ประหลาด
ด้วยเหตุผลบางอย่างฉันเข้าใจได้ทันทีว่าต้องทำอะไรต่อ
ความสงสัยในสิ่งที่เกิดขึ้นพลันหายไปทั้งหมด
「…ก็ไม่รู้หรอกนะว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมเธอถึงมุ่งเป้ามายังฉัน หรืออยากจะฆ่าฉัน!!」
「หึ ป่านนี้แล้วยังจะมาพูด―――」
「แต่ว่า―――」
ฉันนำชิโระไปประกบกับหัวเข็มขัดเบาๆ ก่อนจะกดปุ่มที่อยู่ข้างๆ
「ฉันก็รู้แล้วว่าต้องทำยังไงกับเธอดี!!」
『AWAKENING!!』
เมื่อเสียงนั้นดังขึ้นฉันทำการปัดหัวเข็มขัดไปทางด้านซ้ายทันที
สนามพลังงานลึกลับก่อตัวขึ้นรอบๆ หัวเข็มขัด
『DUST→→→LUPUS DRIVER!!!!』
ร่างกายของฉันขยับราวกับรู้ว่าต้องทำอย่างไรต่อ ฉันแตะส่วนด้านบนของหัวเข็มขัดอีกที
「แปลงร่าง!!」
『FIGHT FOR RIGHT!!』
ทันใดนั้นนสูทสีดำก็ปกคลุมร่างกายตั้งแต่ส่วนคอของฉันลงไป ก่อนที่ชุดเกราะสีขาวจะก่อตัวขึ้นในสนามพลังงาน
มันค่อยๆ เข้ามาประกบร่างของฉันทีละชิ้นๆ จนสุดท้ายก็มีหน้ากากที่สามารถปิดทั้งหัวของฉันได้มาประกอบที่หัว
『SAVE FORM!!! COMPLETE……』
เสียงนั้นบอกราวกับเป็นสัญญาณแห่งการสิ้นสุดการแปลงร่างแล้ว
ไรเดอร์ชุดเกราะสีขาวพร้อมเผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดสีทองแล้ว
***
Dust Driver ถูกเปลี่ยนเป็น Lupus Driver เนื่องจากความผูกพันและเจตจำนงแห่งการต่อสู้ที่เกิดขึ้นในตอนต่อสู้กับเวก้านั้นมันได้หายไป ตัวเขาตอนนี้ไม่ได้มีพวกเรดอยู่เคียงข้าง พลังที่สามารถดึงออกมาได้จึงไม่เต็มร้อย อีกทั้งความทรงจำของเขาก็หายไปอีกด้วย
—————
Note 1 : ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code