บทที่ 844 ยอดฝีมือหลังฉากบันดาลโทสะ พวกเขาถูกหลี่จิ่วเต้าปั่นหัวกันหมดเลยหรือ?
แสงกระบี่สาดส่องนภา คงเพราะกระบี่ฉุนจวินรับรู้ถึงความน่าพรั่นพรึงของหลี่จิ่วเต้า พลังที่ปะทุออกมาจึงยิ่งทวีความน่ากลัว!
สิ่งมีชีวิตหลังฉากทุกคนมีทีท่าราวกับรอดูเรื่องขำขัน รอให้หลี่จิ่วเต้าถูกแสงกระบี่ที่สาดออกมาสังหาร
ทว่าต่อมา เรื่องเหนือความคาดหมายพวกเขาก็บังเกิดขึ้น!
แสงกระบี่ที่ปะทุออกจากตัวกระบี่ฉุนจวินพังทลาย กระบี่ฉุนจวินก็สูญเสียความมั่นคง ส่ายโอนเอนอยู่ตรงนั้น!
“เกิดอันใดขึ้น?!”
หลี่จิ่วเต้าตั้งตัวไม่ทันแม้แต่น้อย
เดิมทีเขาตั้งใจใช้ใบหญ้าและต้นสัตตะวิเศษเข้าต่อกรกับแสงกระบี่ฉุนจวิน แต่สุดท้าย แสงกระบี่เหล่านี้กลับมลายไปจนสิ้น!
ไม่นานนัก เขาก็ตระหนักได้ว่าคงเกิดปัญหาบางอย่างกับกระบี่ฉุนจวิน!
มิฉะนั้น แสงกระบี่ที่ปะทุออกจากกระบี่ฉุนจวินย่อมไม่มีทางพังทลายกะทันหันเช่นนี้!
“อย่างที่คิด! กระบี่ฉุนจวินเจอปัญหาบางอย่าง มิฉะนั้น มีหรือมันจะปรากฏออกมาในใต้หล้านี้?!”
ว่านเซวียนตาลุกวาว ไฉนเลยจะไม่เข้าใจอีก
กระบี่ฉุนจวินมิเคยปรากฏออกมาในใต้หล้ามาก่อน บัดนี้กลับมาอยู่ที่นี่ นางคาดการณ์ไว้แต่แรกว่าต้องมีสาเหตุบางอย่างที่ทำให้กระบี่ฉุนจวินโผล่ออกมา
บัดนี้ดูแล้ว นางคิดถูก กระบี่ฉุนจวินพบเจอปัญหาบางอย่างจริง ๆ!
นางมิได้ลังเล บุกเข้าไปหมายจะชิงกระบี่ฉุนจวินมา
ยามนี้เกิดปัญหากับกระบี่ฉุนจวิน นับเป็นโอกาสอันดีที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย หากพลาดครั้งนี้ไป น่ากลัวว่าคงไม่มีโอกาสเช่นนี้อีกแล้ว!
“ฆ่า!”
มารกระดูกและโลงโลหิตเคลื่อนไหว สร้างเหตุนองเลือดครั้งใหญ่ พวกมันผนึกกำลังเพื่อชิงกระบี่ฉุนจวิน
อสูรยักษ์ จ้าวอสนีบาต ข่งอวิ๋น และยอดฝีมือหลังฉากทั้งหลายพากันออกโรงกันหมด พริบตาเดียว การต่อสู้อันดุเดือดก็อุบัติขึ้นในที่แห่งนี้ ยอดฝีมือทั้งหลายต่างสู้สุดชีวิต มิมีผู้ใดยอมถอย
เซียนปีศาจเก้าหางเย้ายวนพราวเสน่ห์ สายลมหอมฟุ้งโชยชายออกมาจากตัวนาง ทั้งงดงาม ทั้งแข็งแกร่ง นางฟาดฝ่ามือออกไปเบา ๆ หนึ่งครั้ง ยอดฝีมือหลังฉากตนหนึ่งก็กระเด็นออกไป กระอักเลือดออกมาไม่หยุด!
ตาเฒ่าขี้เมายิ่งดุดันเข้าไปใหญ่ ราวกับกำลังร่ายรำหมัดเมาอย่างนั้น ร่างโซเซของเขาแฝงไว้ซึ่งพลังมหาศาล ฉับพลันนั้น ยอดฝีมือหลังฉากหลายตนต้องล่าถอยเพราะเขา โลหิตสาดกระเซ็นเต็มพื้น
ศึกอันยุ่งเหยิงปะทุ น่าครั่นคร้ามเป็นที่สุด ทว่ามิมีผู้ใดสนใจหลี่จิ่วเต้า ชายหนุ่มขี่อยู่บนหลังกิเลนไฟในพื้นที่อันเงียบสงบ
เพราะมิมียอดฝีมือหลังฉากตนใดมองว่าหลี่จิ่วเต้าเป็นภัย ทุกคนต่างมองข้ามเขา จดจ่ออยู่กับยอดฝีมือหลังฉากตนอื่น
“เช่นนั้น…พวกเจ้าสู้กันไป ข้า…ไปเก็บของวิเศษก่อน”
หลี่จิ่วเต้าขี่กิเลนไฟบินไปยังยอดเขา มือข้างหนึ่งของเขาจับกระบี่ฉุนจวินก็แล้ว ยังไม่มียอดฝีมือหลังฉากตนใดสนใจเขา
จะสนใจได้อย่างไรเล่า
ในสายตายอดฝีมือหลังฉากเหล่านี้ หลี่จิ่วเต้าเป็นเพียงแมลงต้อยต่ำตัวหนึ่งเท่านั้น ต่อให้เขาได้กระบี่ฉุนจวินไปแล้วอย่างไร ทันทีที่พวกเขาผละจากตรงนี้ได้ ก็จัดการหลี่จิ่วเต้าได้ตามต้องการ
เสียงดังฟึ่บ ชายหนุ่มดึงกระบี่ฉุนจวินออกจากยอดเขา
กระบี่ฉุนจวินมีปฏิกิริยาต่อต้านรุนแรง ราวกับทนมิได้ที่ต้องอยู่ในมือของหลี่จิ่วเต้า เริ่มมีพลังหลอมรวมอยู่ภายใน หมายจะสังหารชายหนุ่ม
ทว่าในไม่ช้า มันก็ตกตะลึง สัมผัสถึงภยันตรายถึงชีวิตอันรุนแรง มือข้างนั้นของหลี่จิ่วเต้าราวกับเป็นมือที่สยดสยองที่สุดในใต้หล้านี้ มันไม่อาจเกิดความคิดต่อต้านขึ้นมาได้เลย!
สุดท้าย มันว่านอนสอนง่ายลง หดพลังทั้งหมดกลับเข้าไป
“ดีมาก”
หลี่จิ่วเต้าพึงพอใจมาก ยกมือเก็บกระบี่ฉุนจวินเข้าแหวนบรรจุ
อาจเกิดปัญหาบางอย่างกับกระบี่ฉุนจวินจริง ทว่าความทรงพลังของมันนั้นไม่จำเป็นต้องกังขา ก่อนนี้พวกมารกระดูกผนึกกำลังต่อสู้ยังมิไหว ถูกอัดจนหนีอุตลุด ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่คือยอดศาสตราชิ้นหนึ่ง
“ฝันที่อยากเป็นผู้ฝึกกระบี่ใกล้เป็นจริงแล้ว!”
เขาปลื้มปีติอย่างยิ่ง ราวกับมองเห็นชีวิตที่ได้ท่องยุทธภพในอนาคตแล้ว ตั้งหน้าตั้งตารอสุด ๆ
ศึกชุลมุนที่นั่นยังคงดำเนินต่อ ยอดฝีมือหลังฉากทั้งหลายเห็นแต่แรกว่าหลี่จิ่วเต้าเก็บกระบี่ฉุนจวินไปแล้ว กระนั้นพวกเขายังไม่คิดใส่ใจ
ศัตรูของพวกเขาคือยอดฝีมือหลังฉากเหล่านั้น หาใช่หลี่จิ่วเต้า
หลี่จิ่วเต้ายังไม่มีสิทธิ์เป็นศัตรูของพวกเขา
“ยังมิมีผู้ใดสนใจข้าอีกหรือ?”
หลี่จิ่วเต้าควบกิเลนไฟไปรวมตัวกับพวกลั่วสุ่ยก็แล้ว ยังมิมีสิ่งมีชีวิตหลังฉากตนใดสนใจเขา
“ไปกันเถิด”
เขาบอกกับพวกลั่วสุ่ย และไปจากที่นี่
ไม่สนใจเขายิ่งดี ถึงอย่างไร เขาก็ได้กระบี่ฉุนจวินมาแล้ว
ไม่นานนัก พวกเขาก็ไปไกลจากที่นั่น มิมีสิ่งมีชีวิตหลังฉากตนใดไล่ตามมา
“ยกนี้หรือ…ยกนี้เรียกว่าความประมาทเป็นหนทางแห่งการสูญเสีย!”
หลี่จิ่วเต้าเอ่ยยิ้ม ๆ
สิ่งมีชีวิตหลังฉากเหล่านั้นหยิ่งยโสเกินไป แต่ละตนล้วนไม่เห็นเขาในสายตา มองว่าเขานั้นไม่เป็นภัย กลับเป็นผลให้เขาได้กระบี่ฉุนจวินมาครอบครองง่าย ๆ
เขาก็พอเข้าใจได้ คนเหล่านั้นล้วนเป็นผู้ฝึกตนกล้าแกร่ง ก่อนเขาใช้ยอดศาสตราอย่างใบหน้า เขาเป็นเพียงปุถุชนผู้หนึ่งที่เหินมิได้ด้วยซ้ำ ต้องคอยพึ่งกิเลนไฟ ผู้ฝึกตนเหล่านี้ไฉนเลยจะเห็นเขาในสายตาเล่า
ขณะเดียวกัน ศึกชุลมุนดุเดือดรุนแรงยิ่งขึ้น ยอดฝีมือหลังฉากแต่ละตนราวกับคลุ้มคลั่ง สำแดงอิทธิฤทธิ์ทั้งหมดที่มี!
พวกเขามิได้เก็บหลี่จิ่วเต้ามาใส่ใจจริง ๆ ต่อให้รู้แล้วว่าอีกฝ่ายนำกระบี่ฉุนจวินไปจากที่นี่แล้ว พวกเขาก็ไม่สนใจ
ด้วยพลังของพวกเขา เพียงคลี่แผ่จิตสัมผัสออกไปก็พบร่องรอยของหลี่จิ่วเต้าได้ทันที
หลี่จิ่วเต้าหนีไปได้จริงหรือ?
ไม่ได้
เขาอยู่ห่างออกไปไกลโพ้นก็ไม่ต่างจากอยู่ที่นี่
สถานที่แห่งนี้ระเบิดแหลกลาญไปหมดแล้ว โลหิตกระเซ็นไปทั่ว สิ่งมีชีวิตจากจักรวาลโกลาหลอื่น ๆ หนีไปนานแล้ว มิฉะนั้นพวกเขาต้องตายอยู่ที่นี่กันหมด
ก่อนนี้มารกระดูกตั้งใจจะฆ่าพวกเขา ต่อมาได้ตาเฒ่าขี้เมาห้ามไว้ พวกเขาก็ไปจากที่นี่ทันที มิกล้ารั้งอยู่ต่อแม้แต่น้อย
“เกิดอันใดขึ้น ข้าสัมผัสถึงการดำรงตนของคนผู้นั้นมิได้เลย!”
เวลานั้นเอง จู่ ๆ มารกระดูกก็ร้องเสียงหลงขึ้นมา
มันคิดจะแอบชิ่งออกไปจากศึกชุลมุนนี้ ตรงไปสังหารหลี่จิ่วเต้าแล้วแย่งกระบี่ฉุนจวินมา
ทว่าหลังมันคลี่แผ่จิตสัมผัสออกไปก็ตื่นตระหนก ไม่สามารถจับสัมผัสตำแหน่งของหลี่จิ่วเต้าได้เลย!
“ข้าก็ด้วย!”
“เขาหายไปอย่างไร้ร่องรอย!”
ยอดฝีมือหลังฉากตนอื่นสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมหันต์ แต่ละตนหน้าตาย่ำแย่ หลังพวกหลี่จิ่วเต้าหายไปจากที่นี่ก็หายไปอย่างสิ้นเชิง พวกเขาจับร่องรอยหลี่จิ่วเต้ามิได้เลย!
“พวกเราถูกหลอกแล้ว! คนผู้นั้นซ่อนเร้นพลังที่แท้จริง มิได้ธรรมดาเช่นนั้น!”
จ้าวอสนีบาตคำรามเสียงต่ำ เรื่องอะไรกันนี่ กระบี่ฉุนจวินถูกหลี่จิ่วเต้าเอาไปด้วยง่าย ๆ เช่นนี้เชียวหรือ?
“พวกเราดูถูกเขา มองว่าเขาไม่เป็นภัย สุดท้ายเขากลับแสร้งเป็นหมูเพื่อหลอกกินเสือ นำกระบี่ฉุนจวินไปต่อหน้าต่อตาเรา แล้วเรายังสู้กันวุ่นวายประหนึ่งคนโง่”
ข่งอวิ๋นถลึงตา รู้สึกแย่เป็นที่สุด โกรธจนจมูกเบี้ยว!
ยอดฝีมือหลังฉากตนอื่นก็เช่นกัน โทสะอัดแน่นอยู่เต็มอก เคียดแค้นจนอยากจับหลี่จิ่วเต้ามาถลกหนัง โมโหจนอกแทบระเบิด!
หลี่จิ่วเต้าหลอกปั่นหัวพวกเขามาตั้งแต่แรก!
เซียนปีศาจเก้าหางเผยสีหน้าเย็นชาอย่างมิเคยเห็นมาก่อน แต่ไหนแต่ไร นางปั้นหน้ายิ้มแย้มอยู่เสมอ มิเคยมีสีหน้าเยียบเย็นเช่นนี้แม้แต่นิด
“ใช้ได้นี่! ข้าเป็นฝ่ายปั่นหัวบุรุษมาเสมอ วันนี้ข้ากลับถูกบุรุษปั่นหัวแทน!”
นางมีสีหน้าเย็นยะเยือก ไม่อาจยอมรับผลลัพธ์เช่นนี้ได้
“บุรุษเอ๋ย…เจ้ากำลังเล่นกับไฟ!”
แววตาของนางหนาวสะท้าน เรื่องในคราวนี้สร้างความรู้สึกพ่ายแพ้ให้กับนางอย่างมหันต์ ตลอดเวลาที่ผ่านมา เป้าหมายของนางคือการกำราบว่านเซวียน ทำให้ว่านเซวียนต้องกลายมาเป็นสาวใช้ของนาง
บัดนี้ นางเปลี่ยนเป้าหมายแล้ว
นางจักกำราบหลี่จิ่วเต้า ให้เขาเป็นทาสของนาง คุกเข่าอยู่แทบเท้านาง!
“นี่หรือคือจุดจบของการยโสโอหัง”
ดวงหน้างามหมดจดของว่านเซวียนทอประกายเย้ยหยันตนเอง พวกเขาทั้งหมดทะนงเกินไปและต้องชดใช้ให้กับเรื่องนั้น
“น่าสนใจดีนี่ คนผู้นี้ไม่เลวเลย!”
ตาเฒ่าขี้เมาเหยียดยิ้ม เผยให้เห็นฟันเหลืองเต็มปาก
เขาซ่อมน้ำเต้าเสร็จแล้ว ซดไปอีกหลายอึกใหญ่ นึกสนใจในตัวหลี่จิ่วเต้าขึ้นมาอย่างมาก รู้สึกว่าถูกชะตากับหลี่จิ่วเต้ายิ่งนัก
ปั่นหัวยอดฝีมือหลังฉากไปตั้งมากมาย หลี่จิ่วเต้าผู้นี้ใจกล้าไม่น้อยเลย!
“ยังดีที่เกิดปัญหากับกระบี่ฉุนจวิน มิฉะนั้นเขาคงกลายเป็นภัยคุกคามที่มิอาจต่อกรด้วยได้!”
สิ่งมีชีวิตในโลงโลหิตเอ่ยเสียงเย็น
เห็นได้ชัดว่าหลี่จิ่วเต้านั้นไม่ธรรมดา พลังมิได้อ่อนแอ หากว่ากระบี่ฉุนจวินมิได้เป็นปัญหาอันใด หลี่จิ่วเต้าผู้มีกระบี่ฉุนจวินในครอบครองย่อมมิใช่ผู้ที่พวกเขาต่อกรด้วยได้เลย
“พวกเราไปกันเถิด ลากคอเขาออกมา! ไม่มีทางที่เขาจะหนีไปได้!”
เสียงเย็นยะเยือกของมารกระดูกดังขึ้น ไปจากที่แห่งนี้พร้อมกับโลงโลหิต ตามหาร่องรอยของหลี่จิ่วเต้า
ยอดฝีมือหลังฉากตนอื่นก็พากันไปจากที่นี่เพื่อตามหาหลี่จิ่วเต้า
“เขาคือผู้บรรลุใหม่หรือ บรรลุขอบเขตนิรันดร์ในอาณาจักรนี้อย่างนั้นหรือ ไม่เคยเห็นเขาที่หลังฉากมาก่อนเลย!”
ว่านเซวียนเอ่ยเสียงเบา
ที่ก่อนนี้พวกเขามิได้สนใจหลี่จิ่วเต้ามากนักก็เพราะไม่เคยเห็นหลี่จิ่วเต้าที่โลกหลังฉากมาก่อน มองว่าชายหนุ่มเป็นสิ่งมีชีวิตในโลกหน้าฉาก
พวกเขาปิดผนึกโลกหน้าฉากไปนานแล้ว ไม่มีทางมีสิ่งมีชีวิตตนใดทลายเพดานของขอบเขตนิรันดร์ขึ้นมาได้ เพราะเหตุนี้ พวกเขาจึงมิเคยให้ความสำคัญกับหลี่จิ่วเต้า
‘ปฐพีเปลี่ยนแปลง สสารระดับสูงพวยพุ่งไม่หยุด ความจริงในหน้าฉากค่อย ๆ เผยออกมา ดูท่า เขาคงทลายเพดานได้ในสถานการณ์เช่นนี้ ถึงยืนตระหง่านอยู่เหนือความเป็นนิรันดร์ได้’
ว่านเซวียนครุ่นคิด
‘ในเมื่อเป็นสิ่งมีชีวิตหน้าฉาก ก็ง่ายขึ้นเยอะ!’
นางคิดต่อ
การที่จับร่องรอยหลี่จิ่วเต้าไม่ได้มิใช่ปัญหา นางแน่ใจว่าหลี่จิ่วเต้าคือสิ่งมีชีวิตหน้าฉากแล้ว ก็ตามหาได้ไม่ยาก ยังสามารถสืบเสาะหาเขาในโลกหน้าฉากจากผู้อื่นได้
หลี่จิ่วเต้าผู้อาศัยอยู่ในโลกหน้าฉาก ไม่มีทางที่จะไม่ทิ้งร่องรอย ย่อมต้องพบเบาะแสบ้าง จวบจนยืนยันพิกัดของหลี่จิ่วเต้าได้!
“เริ่มจากอาณาจักรนี้ก่อนแล้วกัน!”
จากนั้นนางก็ไปจากที่นี่ เริ่มการสืบสวนเรื่องราวของหลี่จิ่วเต้า
หากว่าสืบไม่พบข้อมูลของหลี่จิ่วเต้าในอาณาจักรนี้ นางจะไปสืบที่อาณาจักรอื่น
มิใช่แค่นางที่คิดได้ ยอดฝีมือหลังฉากคิดได้กันหมด
พวกเขาเองก็พากันออกตามหา สืบเสาะข้อมูลของหลี่จิ่วเต้าตามสถานที่ต่าง ๆ ในอาณาจักรนี้
หลี่จิ่วเต้ามิใช่พวกปลายแถวไร้นามอย่างอดีตอีกแล้ว บัดนี้ ชื่อเสียงของเขาระบือนามแซ่ซ้อง ยอดฝีมือหลังฉากเหล่านี้สืบเจอข้อมูลของหลี่จิ่วเต้าได้ในเวลาไม่นาน
“ไม่ธรรมดาจริง ๆ แม้แต่สองกองกำลังใหญ่อย่างปรโลกและปริภูมิเวลายังต้องล่าถอยเพราะเขา!”
“โดนเขาหลอกแล้วจริง ๆ!”
สิ่งมีชีวิตหลังฉากเหล่านั้นต่างสะท้านใจ สองกองกำลังใหญ่อย่างปรโลกและปริภูมิเวลานั้นไม่ธรรมดา น่าครั่นคร้ามอย่างยิ่งในโลกหลังฉาก ทั้งยังวางหมากไว้ในโลกหน้าฉากล่วงหน้า มิอาจสบประมาทได้เลย
ชั่วขณะนั้น สิ่งมีชีวิตมากมายในหมู่พวกเขาเริ่มปอดแหก กลัวว่าจะสู้หลี่จิ่วเต้ามิไหว
ทว่ายังมียอดฝีมือหลังฉากอีกไม่น้อยที่มิได้ถอดใจ ต้องการลุยต่อ
“เฮอะ ๆ บุรุษผู้ชอบเล่นกับไฟ รอก่อนเถิด ไฟอย่างข้ากำลังไปหาเจ้าแล้ว เจ้าจะต้านทานไฟอย่างข้าไหวหรือไม่นะ”
เซียนปีศาจเก้าหางเผยรอยยิ้มยวนใจ
บุรุษนามหลี่จิ่วเต้าผู้นี้ นางต้องกินให้ได้!