ต่างโลกซึ่งมีดาบ เวทมนตร์ อมนุษย์และมีปีศาจ โลกแบบนั้นถูกเรียกว่าในโลกจินตนาการ
เมืองพัลม่า
หนึ่งในย่านเมืองหลวงปราสาทพัลม่า ที่บริษัทรับส่งกระเป๋าเดินทาง ตอนนี้บานาซ่กำลังโหลดกระเป๋าเดินทางใส่รถเข็นอยู่
“คุณบานาซ่า ยังมีกระเป๋าที่อยากจะโหลดขึ้นอีกกี่ใบเหรอครับ”
“อืมมม เพราะตัวเมืองค่อนข้างห่างไกลจากแบทคอมพ์ มันเลยต้องใช้รถเข็นนะครับ … ช่วยกรุณาโหลดกระเป๋าอีกสามใบนะครับ”
บานาซ่าแนะนำขณะที่เทียบเอกสารในมือกับรายการของในรถเข็น
ถึงแม้บานาซ่าจะยังหนุ่ม แต่ก็ต้องทำงานหนัก
เขาจ้องมองรถเข็น กระเป๋า และเอกสาร พร้อมกับเจรจาธุรกิจจนเวลาล่วงเลยไป
ถึงจะงานยุ่งๆ แต่บานาซ่าก็ชอบทำงานเกี่ยวกับตัวเลขและการค้ามาก ดังนั้นถึงมันจะเสียเวลาหลายวันแต่เขาก็ไม่มีท่าทีไม่พอใจเลย
“เอาล่ะ สำหรับช่วงเช้านี้น่าจะเป็นใบสุดท้ายแล้ว”
หลังเสร็จตรวจสอบเอกสารเสร็จและเห็นว่าการโหลดกระเป๋าทำเวลาได้ดีเลยทีเดียว
อืม บานาซ่าพยักน่าราวกับว่าพึงพอใจ
“เอาล่ะ เที่ยงพอดี ไปทานมื้อเที่ยงแล้วค่อยมาตรวจสอบกระเป๋ารอบบ่ายดีกว่า”
ขณะที่บานาซ่ากำลังเงยหน้าจากเอกสารทันใดนั้น
“การอัญเชิญผู้สมัครผู้กล้าคนที่ 198 ประสบความสำเร็จ”
อ้าว เอ๊ะ?
สภาพแวดล้อมเปลี่ยนไปผิดกับเมื่อกี้อย่างชัดเจน จนถึงเมื่อกี้เขาควรจะอยู่ที่บริษัท
บานาซ่าจึงได้แต่ยืนตะลึง
“ท่านผู้สมัครผู้กล้า ขอเชิญทางนี้ครับ”
หญิงสาวซึ่งแต่งตัวเหมือนมิโกะบอกให้เขาตามไป แต่ตอนนี้บานาซ่าไม่เข้าใจสถานการณ์สักนิดว่าเกิดอะไรขึ้น
ที่ซึ่งเขาได้เดินตามไปนั้นดูเหมือนมีแท่นบูชาอยู่ตรงกลางและมีบาปหลวงกับนักเวทย์อยู่รายล้อมกำลังสวดมนต์หรือคาถาอะไรสักอย่างอยู่
แท่นบูชานี้ดูเหมือนจะอยู่ในอาคารขนาดใหญ่ และรอบข้างมองไม่เห็นอะไรเลย มีเพียงแสงลอดผ่านเพียงเล็กน้อยจากกระจกสีเข้ามาเท่านั้น
“ท่านผู้สมัครผู้กล้า คุณจะถูกเรียกคนต่อไปแล้วนะคะ โปรดเร่งฝีเท้าหน่อยค่ะ”
คุณมิโกะบอกกับบานาซ่าแล้วจับมือของบานาซ่าแล้วพาไปยังวงเวทย์ เพราะมีคนอยู่รายล้อมมากมายทำให้เขาสับสน
จากนั้นบานาซ่าก็ถูกทิ้งไว้กลางวงเวทย์ และคุณมิโกะก็หันหน้าไปทางเขาแล้วคุกเข่าลง
“ท่านผู้สมัครผู้กล้า ขอบคุณที่ตอบรับการอัญเชิญจากอาณาจักรไคน์โร้จของเรา อาจจะกระทันหันเกินไป แต่เราอยากวัดความสามารถของท่านผู้สมัครผู้กล้าก่อนค่ะ”
อัญเชิญ? ตอบรับ? ผมน่ะเหรอ?
เพราะคำพูดของมิโกะทำให้บานาซ่าสับสนมากขึ้น
“ดูเหมือนว่าจะกระทันหันเกินไปคุณเลยสับสนสินะคะ เช่นนั้นฉันจะขออธิบายสั้นๆ ให้ฟังเองค่ะ”
หลังจากนั้นมิโกะก็เริ่มอธิบายเรื่องราวให้บานาซ่าฟัง
จากคำอธิบายของคุณมิโกะ
ที่นี่เหมือนจะเป็นอาณาจักรเวทมนตร์ที่ชื่อไคน์โร้จ หนึ่งในประเทศที่อยู่ในต่างโลก
ไคน์โร้จเป็นประเทศขนาดใหญ่ที่มีดินแดนใหญ่ที่สุดในโลกและเป็นผู้นำในการปกครองประเทศอื่นๆ อยู่เป็นจำนวนมาก
ในโลกนี้มีสิ่งที่เรียกว่าราชาของพวกปีศาจชื่อว่าจอมมารอยู่ และเพราะไคน์โร้จรู้สึกถึงการรุกรานของกองทัพจอมมารจึงได้ตัดสินใจอัญเชิญผู้มากำราบจอมมารซึ่งเป็นผู้กล้าจากต่างโลกมา
เหตุผลที่ต้องอัญเชิญคนที่ต่างโลกก็เพราะผู้ที่มาจากต่างโลกจะมีได้รับการคุ้มครองจากพระเจ้าบนสรวงสวรรค์
และเพราะมีพระเจ้าคุ้มครองจึงทำให้ส่วนมาก คนจากต่างโลกแข็งแกร่งมาก ดังนั้นแทนที่จะให้คนทีเก่งๆ ของโลกนี้เป็นผู้กล้า การอัญเชิญผู้กล้าจากต่างโลกจะได้ผู้กล้าที่เก่งกว่า
“ท่านผู้กล้ารู้ไหมคะ ว่าคนที่ถูกอัญเชิญมาเมื่อ 100 ปีก่อนน่ะ ถึงจะแค่เลเวล1 แต่ก็มีพลังโจมตี พลังป้องกัน ความเร็ว พลังเวทย์ และ HP 999 หมดเลยนะคะ”
ในโลกนี้มาตรฐานของคนทั่วไปอยู่ที่หลัก 10 และเพิ่มขึ้นไปตามเลเวล หากค่าทั้งหมดเป็น 999 ทั้งที่เลเวลแค่ 1 ก็ถือว่าอยู่บนจุดสูงสุดแล้ว คงเรียกอย่างอื่นไม่ได้นอกจากคำว่ามหัศจรรย์
ถ้าเลเวลสูงขึ้น ค่าตัวเลขพวกนั้นก็จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่สำหรับคนที่มีค่าตัวเลขพลังสูงตอนเริ่มต้นอยู่แล้วจะมีการเหลื่อมล้ำกันบ้าง
…เพราะแบบนั้นผมถึงได้ถูกอัญเชิญมาเหรอ?
ในโลกเดิม บานาซ่านั้นเป็นนักธุรกิจเรียบๆ แต่เพราะสถานการณ์มันแปลกเกินไป เขาจึงได้เอียงหัว
“พลังที่อยู่ในตัวมักจะซ่อนอยู่โดยที่เจ้าตัวไม่รู้ค่ะ โปรดวางมือบนคริสตัลนี้ด้วยค่ะ”
จากนั้นคุณมิโกะก็ชี้ไปยังฐานที่มีระดับความสูงราวๆ สะโพกของบานาซ่า ที่อยู่ตรงนั้นมีลูกแก้วสีฟ้าใสส่องแสงครึ่มๆ อยู่
บานาซ่าเอามือไปวางไว้บนคริสตัลามที่เธอบอก จากนั้นมิดกะก็ก้มตัวแล้วจ้องมองเข้าไปในลูกแก้ว
“…นี่มัน?”
มิโกะกระพริบตาด้วยความประหลาดใจพลาง ลูบตาสองข้างแล้วจ้องไปในลูกแก้วอีกครั้ง
“… มันหมายความว่ายังไงเหรอ..”
ขณะที่รู้ฟังคำตอบของมิโกะ บานาซ่าคิดว่าน่าจะรู้ความหมายแล้ว
บานาซ่าเห็นตัวเลขลอยขึ้นมาในลูกแก้ว แต่ว่ามัน
เลเวล ・・・ 1
STR・・・ 9
DEF・・・ 8
SPD・・・ 6
MP・・・ 1
HP・・・10
จากสิ่งที่มิโกะอธิบายให้ฟังมา นี่มันค่าตัวเลขเกือบๆ จะเหมือนกับคนธรรมดาบนโลกนี้เลย
“ไม่มีร่องรอยการคุ้มครองจากพระเจ้า.. นี่มัน… เป็นครั้งแรกเลย.. “
ดูเหมือนนักเวทย์ที่อยู่รอบๆ จะสังเกตเห็นว่าคุณมิโกะกำลังสับสน คนเหล่านั้นพอเห็นตัวเลขของบานาซ่าเองก็สับสนทำนองเดียวกัน แล้วกระซิบกัน
และตอนนั้นเอง
“โอ้ ช่างวิเศษนัก พลังของผู้กล้าในตำนานหวนกลับมาอีกครั้งแล้ว!”
ก่อนที่ส่งตัวลอยขึ้นแตกต่างจากบานาซ่า คุณมิโกะฮู้เร่ด้วยความดีใจทั้งน้ำตา
ภายในลูกแก้วปรากฏตัวเลขเป็น
Lv・・・ 1
STR・・・999
Def・・・999
SPD・・・999
MP・・・999
HP・・・999
ตัวเลขนี้เรียงรายอยู่ในลูกแก้ว
จากที่คุณมิโกะอธิบายให้ฟังเหมือนนี่จะเป็นพลังที่เท่ากับผู้กล้าเมื่อร้อยปีก่อน ทั้งที่ยังเลเวล 1
ชายที่อยู่หน้าลูกแก้วสวมชุดเกราะท่าทางแข็งแกร่ง บางทีเขาอาจจะเป็นอัศวินของประเทศไหนสักแห่งก็ได้
ดวงตาอัลมอนด์และผมยาวสีทอง ผู้ชายคนนั้นมีเสน่ห์ขนาดที่ทำให้ผู้ชายด้วยกันหลงใหลได้ทีเดียว
“ก็หมายความว่า.. ฉันได้รับเลือกให้เป็นผู้กล้าสินะ แล้วยังไงต่อล่ะ”
“ท่านผู้กล้า โปรดช่วยพวกเราด้วย!”
ก่อนที่เขาจะรู้ตัว คุณมิโกะด้านหน้าบานาซ่าก็วิ่งไปหาอัศวินผมบลอนด์ซะแล้ว ทำเอาบานาซ่าได้แต่ยืนงง
*************
จากนั้นก็มีงานเลี้ยงเฉลิมฉลองการกำเนิดของผู้กล้า งานเลี้ยงถูกจัดขึ้นโดยใช้ปราสาททั้งหลังเพื่อประกาศอย่างเป็นทางการของการกำเนิดผู้กล้าคนใหม่ของโลกนี้
บานาซ่าที่ไม่ได้รับเชิญและไม่ได้ถูกสั่งให้ไปไหน ก็มุ่งหน้าไปยังงานเลี้ยงแล้วตักอาหารเข้าปากแบบเงียบๆ
เขาพยายามถามสถานการณ์กับคนอื่นแต่ว่า
“ฉันยุ่งกับการเตรียมพิธีฉลองของท่านผู้กล้าอยู่!”
“ฉันต้องไปคุยกับท่านผู้กล้า อย่ามาเกะกะ”
เป็นแบบนี้เรื่อยไป ไม่มีคนที่ฟังคำพูดของบานาซ่าเลย
หลังจากนั้นงานเลี้ยงเฉลิมฉลองก็จัดกันไปถึง 3 วัน 3 คืน เพราะบานาซ่าไม่ได้เข้าร่วมด้วย จึงใช้เวลานอนหลับอยู่บนโซฟามุมหนึ่งแทน
และแล้วในที่สุดงานเฉลิมฉลองก็จบลง
บานาซ่าพบกับมิโกะที่เคยอธิบายเรื่องราวต่างๆ ให้เขาฟัง แต่พอเธอเห็นหน้าของบานาซ่าก็ทำท่างงๆ แล้วความทรงจำของครั้งแรกที่ถูกเธอพูดว่า “แอ๊ะ!” ก็หวนกลับมาในหัวเขา
“ทำไมคุณถึงยังอยู่ที่นี่ล่ะ?”
พอได้ฟังคุณมิโกะพูด บานาซีดถึงกับหน้าถอดสี