“หากคุณไม่ไปรุกรานมนุษย์ จากนี้ผมก็ไม่คิดจะตามติดคุณหรอก”
อาร์ทโชว์พูดเพื่อตัวของเฟ็นรีส์
แต่เฟ็นรีส์ส่ายหัวกับคำพูดของเขา
“สำหรับเราที่เป็นเผ่าหมาป่าเขี้ยว ต้องมีชีวิตอยู่กับคนที่ตนยอมรับได้เท่านั้น… ถ้าไม่เช่นนั้นเราก็มีชีวิตอยู่ไม่ได้แล้วจะตาย “
เพราะเช่นนั้นทำให้เธอต้องตามติดเขา
เดิมเธอรับใช้พี่ชายที่ปฏิญาณว่าจะภักดีต่อจอมมาร เธอยอมรับว่าเฟ็นการ์ลเป็นปีศาจที่เป็นเจ้านาย แต่ในเมื่อตอนนี้เธอแพ้อาร์ทโชว์ เธอจึงต้องยอมรับเขาในฐานะเจ้านายใหม่
อาร์ทโชว์ถูกอัญเชิญมายังโลกนี้แต่ไม่ได้อะไรรู้เลย จึงตัดสินใจจะออกเดินทางไปกับเธอ
“ขอฝากตัวด้วยครับ”
“ขอฝากตัวด้วยค่ะ นายท่าน”
“เอ่อ ไม่มีวิธีเรียกแบบอื่นแล้วเหรอครับ มันแบบ.. “
“เอ่อ นายท่านก็คือนายท่านใช่มั้ยล่ะคะ เรียกแบบนี้ไม่เห็นมีปัญหาตรงไหนนี้คะ”
คำพูดของเฟ็นรีส์ทำให้อาร์ทโชว์ได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ
ทั้งสองตัดสินใจจะตั้งแคมป์กันวันนี้ที่ส่วนนึงของป่าและพรุ่งนี้ถึงจะกลับเข้าเมือง
เพราะหากจู่ๆ กลับไปที่เมืองอาจจะมีปัญหาตามมาได้เพราะกลุ่มอัศวินหญิงพวกนั้น
คืนนั้น
อาร์ทโชว์นั่งเป็นเวรยามให้แล้วนั่งลงข้างๆ กองไฟ
แล้วเฟ็นรีส์ที่นอนหลับก็ลุกขึ้นอย่างช้าๆ
แล้วถอดเสื้อผ้าออกทั้งหมดแล้วกอดอาร์ทโชว์ด้วยสภาพที่เปลือยเปล่า
…. ร่างกายของมนุษย์นี้จะทำให้เธอมีความสุขได้มั้ยนะ? ถ้าหากไม่ล่ะก็ ผมคงเศร้าตายแน่
เธอจูบไปที่ริมผีปากของอาร์ทโชว์ แล้วใช้ลิ้นเลีย
นี่มันคือเวทย์เสน่ห์ – กระตุ้นอารมณ์แน่ๆ จากนั้นอาร์ทโชว์ก็ปลดเวทย์นี้ออก
เพล้ง
…เอ๊ะ?
แล้วตอนนั้นเฟ็นรีส์ก็อัดเวทย์ทุกอย่างใส่เขา แต่เวทย์ทุกอย่างนั้นไร้ผล มีเพียงเสียงที่บอกว่าเวทย์ล้มเหลวดังเพล้งๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ตอนนี้อาร์ทโชว์คิดว่าหากปฏิเสธเธอ ในเมื่อเธอโชว์ร่างเปลือยให้เห็นแล้ว อาจจะทำให้เธอเสียหน้า และที่จริงเขาก็รู้สึกชอบพอกับเธอไม่มากก็น้อย เพราะเธอนั้นสวยมาก
-เชื่อฟังความปรารถนา- อาร์ทโชว์ใช้เวทย์ชั้นสูงที่ปลดปล่อยความต้องการทางเพศกับเฟ็นรีส์ เพราะพลังอันยิ่งใหญ่เธอจึงไม่อาจต่อกรได้ จากนั้น
“ไม่นะ นี่มัน.. แค่.. ครั้งเดียวนะ”
แล้วสีหน้าของเธอก็กลายเป็นสีแดงกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด ร่างกายเฟ็นรีส์กระสับกระส่าย
แล้วเธอก็ถูกอาร์ทโชว์กอดเบาๆ
….
…
..
.
เช้าวันรุ่งขึ้น
เฟ็นรีส์ยังไม่ตื่นเต็มที่กำลังนอนอยู่ข้างๆ อาร์ทโชว์
เมื่อคืนเธอโดนอาร์ทโชว์ทำไปหลายครั้งจนสลบ ซึ่งเธอเองก็จำไม่ได้ว่าทำไปกี่ครั้ง แต่ที่เธอรู้คือเธอไม่อยากแยกจากอาร์ทโชว์อีกต่อไปแล้ว…
แล้วเฟ็นรีส์กอดแขนของอาร์ทโชว์แล้วผล็อยหลับไปอีกครั้ง
หลังจากนอนจนเต็มตื่น ก็เที่ยงแล้ว อาร์ทโชว์ใช้เวทย์เทเลพอร์ตกลับไปที่เมือง
ช่วงที่พวกเขากลับไปยังเมืองนั้นกำลังจะมีกลุ่มทหารขนาดใหญ่ออกเดินทางพอดี
“… ท่านอาร์ทโชว์?”
เขาได้ยินเสียงคุ้นเคยจากคนใดคนนึงในกลุ่มทหาร จึงหันหน้าไป
นั่นคือเสียงของอัศวินหญิงกับกลุ่มในปาร์ตี้ของเธอที่อาร์ทโชว์เทเลพอร์ตกลับให้พวกเธอกลับไปนั้นเอง
ดูเหมือนเธอจะเข้าร่วมกองกำลังทหาร
พอเห็นอาร์ทโชว์พวกเธอก็วิ่งมาหาด้วยความดีใจ
“ฉันไม่คิดเลยว่าคุณจะยังรอดมาได้ แม้จะเจอสัตว์ประหลาดแบบนั้น… “
เธอคว้ามือของอัศวินเพื่อขอบคุณเรื่องเมื่อวานแล้วร้องห่มร้องไห้
แต่พอเธอเห็นเฟ็นรีส์ที่อยู่ข้างหลังก็เกร็งจนตัวแข็งไปเลย
“เธอได้สติแล้วนะ ตอนนั้นเธอโดนลูกน้องของราชาปีศาจควบคุมจิตใจแต่มันหนีไปแล้วครับ ตอนนี้เธอก็แค่มนุษย์ธรรมดาคนนึงเท่านั้นเอง” พวกเธอดูเหมือนจะเชื่อคำพูดของอาร์ทโชว์ จึงจับมือของเฟ็นรีส์แล้วพูดว่า ”ดีจังค่ะ ที่คุณไม่เป็นไร”
“แล้วจะว่าไปกองทหารพวกนี้คืออะไรเหรอครับ เพราะดูเหมือนท่านอัศวินหญิงจะเข้าร่วมด้วยสิ”
“เพราะท่านผู้กล้าเพิ่งกลับมาจากทางใต้ เราเลยคิดจะไปจัดการปีศาจเมื่อวานกันนะคะ”
หลังจากนั้นพอมองดูข้างหลังของทหารก็เห็นผู้กล้าผมบลอนด์ที่เคยเจอเมื่อวันก่อนกำลังขี่ม้าสีขาวอยู่
ตอนนี้หน้าตาของอาร์ทโชว์เปลี่ยนไปด้วยเวทมนตร์ ความคงไม่แตก แต่ดูตอนนี้ไม่ใช่สถานการณ์ที่น่าจะสบายใจได้นัก
“แต่มอนสเตอร์นั้นมันหนีไปแล้ว ผมไม่คิดว่ามันจะอยู่ในป่าอีกแล้วนะครับ”
“ฉันไม่ใช่ว่าฉันไม่เชื่อในคำพูดของคุณนะคะ แต่ว่า… ถ้ามันยังไม่ตายก็อาจจะแอบซ่อนตัวอยู่แถวๆ นั้นก็ได้ หรืออาจจะมีมอนสเตอร์เหลืออยู่ที่นั้น เราจึงต้องออกเดินทางไปจัดการค่ะ”
อัศวินหญิงขอโทษแล้วก้มหน้า
“ถ้าเป็นไปได้ ท่านอาร์ทโชว์จะเข้าร่วมด้วยมั้ยคะ ถ้าคุณมาด้วย เราคงหายห่วงได้เลยค่ะ”
เขาเองก็รู้สึกผิดต่ออัศวินหญิงที่ต้องปฏิเสธเธอหรอก แต่ว่า
“ขอบคุณสำหรับข้อเสนอครับ แต่การต่อสู้ครั้งก่อนทำให้ผมต้องใช้พลังเวทย์ไปมาก ตอนนี้เลย… “
เขาตอบไปเช่นนั้น แล้วตัดสินใจว่าจะค่อยกลับไปที่โรงแรมจากนี้
หลังจากได้รับคำขอบคุณจากอัศวินหญิงที่ช่วยเธอไว้อีกครั้ง
หลังจากเดินจากอัศวินหญิงมา จู่ๆ เฟ็นรีส์ก็กอดแขนของอาร์ทโชว์ แล้วจ้องเขม็งขู่ไปทางอัศวิน
“มีอะไรเหรอ ทำไมจู่ๆ ถึงกอดแขนผมแบบนี้ล่ะ?”
“ผู้หญิงคนนั้นยิ้มยั่วยวนให้นายท่าน… แย่ที่สุด”
เธอพูดด้วยเสียงโทนต่ำๆ อาร์ทโชว์ได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ ตอบรับ
หลังจากนั้นการต่อสู้เพียง 5 วัน ผู้กล้าก็ล่าถอย
ไม่ใช่เพราะคนของจอมมารแต่เป็นเพราะพวกเขาถูกหมีคลั่งขนาดใหญ่จู่โจม
ทางเหนือนอกจากลูกสมุนของจอมมารแล้วยังมีหมีคลั่งอยู่ในป่าแห่งนี้ด้วย
ตอนที่อยู่ทางใต้ ผู้กล้าได้เลเวลอัพขึ้นแล้วซึ่งจะเรียกว่าผู้กล้าว่าเป็นสัตว์ประหลาดเลยก็ว่าได้ แต่ตอนนี้กลับโดนหมีคลั่งแค่เพียงไม่กี่ตัวทำร้าย ทำให้ไม่สามารถรักษาขวัญกำลังใจของเหล่าทหารได้
“ฉันไม่ใช่คนที่จะมาตายในที่แบบนี้”
เขาพูดแบบนั้นแล้วล่าถอยจากสนามรบอย่างรวดเร็ว แล้วกลับเมืองทันที ความจริงข้อนี้ทั้งเหล่าทหารและผู้เข้าร่วมเท่านั้นที่รู้
ความจริงระหว่างท่ผู้กล้ายังอยู่ที่ทางใต้
– เขาไม่เคยปราบมอนสเตอร์แข็งแกร่งกว่าตัวเองเลย เอาแต่ปราบพวกมอนสเตอร์ที่อ่อนแอกว่าตัวเองทั้งนั้น
– ละทิ้งสนามรบทันทีที่เห็นว่าอันตราย แม้จะเพียงแค่นิดเดียว
– แค่เริ่มออกเดินทางก็บอกว่าเหนื่อยแล้วอยากพักที่โรงแรมทันที
และอื่นๆ อีกมากมาย แต่ไม่สามารถลงโทษคนที่ได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้กล้าของโลกนี้ได้ เหล่าคนใหญ่คนโตของประเทศจึงได้แต่เก็บความขุ่นเคืองนี้เอาไว้