“แนะนำอะไรนะ?”
ระหว่างทานมื้อเช้า คำพูดของวาลิซซ่าทำให้อาร์ทโชว์ถึงกลับทำหน้าลำบากใจ แต่วาลิซซ่าที่เห็นแบบนั้นก็ไม่สนใจแล้วพูดต่ออีกว่า “ค่ะ! พวกเรายังฝีมืออ่อนหัด มันจะเป็นการดีมากค่ะ ถ้าได้พวกคุณมาสั่งสอน จะถือว่าเราเป็นหนี้ชีวิตเลยก็ว่าได้ค่ะ!”
เธอพูดด้วยความคึกคัก
“เราต้องไปล่ามอนสเตอร์จนถึงบ่าย จากนั้นก็… “
อาร์ทโชว์พูดแล้วมองไปที่ลิซ
“ก็ไม่เห็นเป็นไรนี่คะ ท่านสามี แค่ให้พวกเขาตามไปด้วย แล้วสั่งสอนในการต่อสู้จริงก็พอแล้วค่ะ” ลิซยังดีใจที่ได้ยินอาร์ทโชว์เรียกว่าภรรยาอยู่ เธอเลยตอบเขาด้วยรอยยิ้ม
“เราจะไม่ถ่วงแข้งถ่วงขาพวกคุณแน่ค่ะ … ได้โปรดนะคะ”
นักดาบหญิงโบลแซมกับวาลิซซ่าโค้งหัวลง
“ก็ได้ครับ แต่อย่าก่อปัญหาล่ะ”
อาร์ทโชว์ยอมให้ไปด้วย ขณะที่มีความรู้สึกในใจลึกๆ ว่าต้องระวังเอาไว้
…หลายชั่วโมงต่อมา…
อาร์ทโชว์และปาร์ตี้ของวาลิซซ่าเข้าไปในป่าทางใต้ที่พวกเขามักจะล่ากัน
แต่มันจะไม่ดีนัก หากอยู่เกาะกลุ่มจึงแยกเป็นสองฝ่าย
ฝ่ายที่นำโดยอาร์ทโชว์ วาลิซซ่าและโบลแซม เป็นฝ่ายรบด้านหน้า
และอีกฝ่ายที่นำโดยลิซ บิลลี่ เบลาโน่ เป็นฝ่ายสนับสนุน
พวกเขานำทีมแต่ละฝ่ายและออกล่าแต่ว่า…
….ช่วงบ่ายในวันนั้นเอง….
เหมือนกับทุกๆ วัน อาร์ทโชว์และลิซจะนำมอนสเตอร์ไปขึ้นเงินแล้วไปทานมื้อเที่ยงในเมือง โดยให้ซาแบร์เป็นแบกสัมภาระให้แล้วจะทำอาหารประเภทเนื้อให้กินด้วยเวทมนตร์
พอเด็กๆ เห็นเข้าก็มารุมล้อมซาแบร์
“น่ารักอ่ะ!!”
ทุกๆ ครั้งที่ทั้งคู่มาทานมื้อเที่ยง ผู้คนจะหลั่งไหลเข้ามาในร้านเพียงเพราะอยากดูซาแบร์กินอาหาร ดังนั้นจึงมีเจ้าของร้านอาหารหลายๆ แห่งเชิญทั้งคู่ให้ไปร้านของพวกเขาอยู่บ่อยๆ
ลิซถอนหายใจขณะกำลังทานอาหาร เหตุผลก็เพราะการฝึกของบิลลี่และเบลาโน่
อย่างแรกเลยนั้นคือ บิลลี่นั้นจะแอบซุ่มยิงธนูจากในป่าใส่หมีคลั่ง แต่มันกลับไม่ทำให้หมีคลั่งเกิดรอยขีดข่วนเลย ซ้ำร้ายเจ้าหมีนั้นยังไม่รู้สึกตัวว่าโดนยิงเลยสักนิด
ธนูของเธอเป็นธนูแบบสั้นและด้านจับอยู่ต่ำ ทำให้ธนูที่ยิงออกมาเบามาก ซึ่งเบาขนาดนี้คงไม่มีทางเจาะทะลุขนของหมีคลั่ง ที่ทั้งหนาและแข็งได้อยู่แล้ว
เดิมทีลิซคิดว่าเธอคงจะร่ายเวทย์ไว้ที่ลูกศรเพื่อเพิ่มความแรงของลูกธนู แต่น่าเสียดายที่ไม่เป็นไปอย่างที่คิด
เพราะลูกธนูที่ยิงจากธนูสั้นนั้นหากไม่เสริมพลังก็เหมือนกับไร้ประโยชน์ไปเลย ลิซจึงให้เธอลองใช้หน้าไม้ดู แต่ว่า…
“มะ มะ มันหนักเกินไปแล้วค่ะ.. “
บิลลี่ควงธนูหรือยกไม่ได้ด้วยซ้ำ
นักเวทย์เบลาโน่ เธอเก่งกาจด้านเวทมนตร์ ไม่ใช่คนที่มีฝีมืออ่อนหัด แต่ว่า…
เวทย์ที่เธอใช้ได้มีเพียงเวทย์สนับสนุน
-รักษา
-เพิ่มพลังป้องกัน
-ลบล้างสถานะผิดปกติ
และซ้ำร้าย พลังเวทย์ของเธอยังน้อยมาก เพียงแค่เธอใช้เวทย์แค่ 2-3 บท หน้าก็กลายเป็นสีฟ้าจนเป็นลมล้มพลับแล้ว (ยังดีกว่าเมกุมินนะ รายนั้นแค่เอ็กโพชั่นบทเดียวจอด)
เทียบกับตอนที่ลิซปาร์ตี้กับอาร์ทโชว์แล้ว เธอแทบไม่มีปัญหาอะไรเลย
ทางฝั่งอาร์ทโชว์ อย่างแรกเลย อัศวินหญิงวาลิซซ่าเธอเองก็มีพื้นเพมาจากอัศวินดังนั้นฝีมือการใช้ดาบก็ถือว่าไม่เลว แต่ว่า… มีข้อเสียตรงที่ชอบพูดตอนที่กำลังต่อสู้
“ไม่ ไม่น้า … นี่มัน “
เวลาเธอเหวี่ยงดาบทุกครั้ง เธอจะมีการเคลื่อนไหวที่เสียเปล่า
เธอมีนิสัยเคลื่อนไหวให้เท่เหมือนตัวละครในหนังเข้าว่า และฝีมือดาบของเธอเป็นประเภทใช้ในการปกป้องปราสาทอะไรแบบนี้มากกว่าที่จะเป็นเทคนิคสำหรับฆ่า
ด้วยข้อเสียหลายๆ อย่างทำให้เธอทำดาเมทกับหมีคลั่งแทบจะไม่ได้เลย
ส่วนนักดาบหญิง โบสแซม
เธอชั้นเชิงในการต่อสู้และการแก้ปัญหาเวลาเจอศัตรูที่โดดเด่น ใช้ดาบยาวได้อย่างเก่งกาจแต่ทว่า พลังที่เธอใช้โจมตีอยู่ในระดับกลางๆ และทุกครั้งที่โจมตีเสร็จเธอจะต้องใช้เวลาก่อนสักนิดถึงจะโจมตีอีกครั้ง
บวกกับดาบยาวหนักเกินไปทำให้เปลี่ยนทิศทางไปตามการเคลื่อนไหวของหมีคลั่งที่คล่องแคล่วไม่ได้ ทำให้มันหลบดาบเธอได้อย่างง่ายดาย
“นี่อาจจะสาหัสกว่าที่คิดเอาไว้นะเนี่ย”
ลิซที่ได้ยินคำพูดของอาร์ทโชว์ตอบแล้วก้มหน้าลง
“ไม่สาหัสเท่าไหร่หรอกค่ะ ท่านสามี … แต่พวกเขาออกจะไร้ฝีมือเลยล่ะคะ”
ลิซและอาร์ทโชว์ถอนหายใจเฮือกใหญ่
เมื่อเขากลับถึงบ้าน
“ยินดีต้อนรับกลับบ้านค่ะ! นายท่าน คุณผู้หญิง”
วาลิซซ่าออกมาต้อนรับด้วยรอยยิ้มใหญ่
ก่อนที่จะออกเดินไปที่เมือง วาลิซซ่าและเพื่อนๆ อีก 3 คนก็หมดแรงกันไปหมดแล้ว อาร์ทโชว์และลิซจึงต้องทิ้งพวกเขาไว้ที่บ้าน
ตอนนี้วาลิซซ่ากำลังถือไม้ม็อไว้ข้างนึงแล้วทำความสะอาด
“เราอยู่หนี้บุญคุณนายท่าน นี่ถือเป็นเรื่องปกติค่ะ”
พอเธอพูดเสร็จก็กลับไปทำความสะอาดต่อ
ส่วนนักดาบหญิงโบลแซมกำลังพรวนดินที่สนามหลังบ้าน
“เดิมเธอมีพื้นเพมาจากชาวไร่เลยทำไร่เก่งนะคะ”
นักธนูหญิงบิลลี่ดูเหมือนจะหมดแรงเพราะวิดพื้นด้วยสภาพกึ่งตาย
ส่วนนักเวทย์หญิงเบลาโน่กำลังฝึกใช้เวทย์โจมตีโดยอ่านหนังสือเวทมนตร์ประเภทโจมตีทุกเล่ม
ขณะที่พวกเขามองไปทั้งสองคน
“… คิดซะว่าเป็นสหายที่ล่าด้วยกันก็ได้ล่ะมั้ง”
“.. ช่วยไม่ได้นะคะ”
ทั้งสองพยักหน้าด้วยรอยยิ้มแบบเจื่อนๆ แล้วตกลงกันว่าจะดูแลพวกเธอ