“ไง โกซารุยินดีต้อนรับ”
นี่เป็นครั้งที่สี่แล้ว ที่จอมมารกลูที่บ้านของอาร์ทโชว์ อาร์ทโชว์เองก็ยิ้มตอนรับด้วยรอยยิ้มสดใส
แล้วเพื่อจอมมารกลู เขาเลยไปปรับแต่งเขตแดนป้องกันให้กลูเข้าออกได้ตามสะดวกเลยด้วย
หลังจากจอมารกลูมาที่นี่ครั้งนึงตอนนั้นแล้วก็ยังมาอีกบ่อยๆ
เหตุผลที่แท้จริงที่เขามาก็คือมาพบอัศวินหญิงวาลิซซ่า แต่เพราะวาลิซซ่ามารู้ทีหลังว่าโกซารุคือจอมมาร จึง…
“วันนี้ฉันจะไปซักผ้าแถวแม่น้ำหน่อยนะคะ…”
“เอ่อ คือ วันนี้ฉันต้องไปหาฟืนบนเขาค่ะ…”
เธอหาข้ออ้างต่างๆ นาๆ เพื่อเลี่ยงจากกลู
….แต่ล่ะวันเป็นไปอย่างยากเย็น
แต่ทัศนคติที่กลูมีต่อวาลิซซ่ากลับดีขึ้นทุกวี่ทุกวัน
และเดี๋ยวนี้จอมมารกลูก็ชอบคุยเรื่องสัพเพเหระหลายๆ เรื่องกับอาร์ทโชว์ด้วย
ซึ่งทั้งอาร์ทโชว์และลิซต่างก็ถือว่าเขาเป็นแขก จึงคุยกันอย่างสนุกสนาน ส่วนจอมมารกลูเองก็รู้สึกสงบเมื่ออยู่ในบ้านหลังนี้
“ท่านจอมมาร การไปที่บ้านชายผู้คนนั้นมันอันตรายเกินไปนะคะเนี๊ยว”
แม้แม่มดยูรินัสจะห้ามเขาแล้ว
“คนที่มีพลังแข็งแกร่ง การใช้วิธีประนีประนอมไม่ถือว่าเป็นการดีที่สุดรึไง”
เขาตอบเธอ
“ท่านช่างคิดแผนล่วงหน้าไปไกลจริงๆ ค่ะ” เหล่าลูกน้องของเขายิ่งชื่นชมเขามากกว่าเดิมซะงั้น
แต่อย่างไรก็ตาม คำตอบของลิซก็ยังเป็น
“วันนี้เหล่าลูกน้องของฉันก็เอะอะเสียงดังอีกแล้ว ช่วยหยุดมาเที่ยวเล่นที่นี่สักทีเถอะค่ะ…”
“พวกเขาบอกว่าข้ารบกวนงั้นรึ”
แต่ทว่าเหมือนจะมีข่าวลือว่าจอมมารเข้าออกบ้านของอาร์ทโชว์บ่อยๆ กระจายไปทั่วปราสาทเลยทีเดียว
อาร์ทโชว์ได้รับคำเชิญจากปราสาทให้มาร่วมงานเลี้ยงของผู้กล้าผมบลอนด์หลายต่อหลายครั้ง เพราอาร์ทโชว์ถือครองพลังมหาศาลซึ่งทำให้ทางปราสาทต้องจับตาดูอย่างต่อเนื่อง
พอพระราชาได้ยินเข้าก็ตื่นเต้นปกสับสน
ตรงกันข้ามกับปฏิกิริยาต่อผู้กล้าผมบลอนด์ลิบลับ เพราะทุกวันเขาเอาแต่หมดตัวอยู่ในปราสาท
ผู้กล้าผมบลอนด์ที่ได้ข่าวลือเรื่องอาร์ทโชว์ก็อยากได้เขามาเป็นลูกน้องใต้บัญชาเลยทีเดียว แต่ถึงแม้จะส่งคำเชิญไปกี่ครั้ง ต่อกี่ครั้ง แต่ก็โดนปฏิเสธจนทำให้เขารู้สึกแทบบ้า
เขาจึงคิดจะใช้แผนสานสัมพันธ์กับอาร์ทโชว์แทน ซึ่งเป็นไปได้ก็อาจจะต้องใช้แผนขู่
วันรุ่งขึ้นผู้กล้าผมบลอนด์ก็นำกองทัพมาที่บ้านของอาร์ทโชว์
“เจ้าของบ้านหลังนี้ จงฟังให้ดี! เราได้รับข่าวมาว่ามีคนของเผ่าปีศาจเข้าออกบ้านของเจ้า แต่ข้าจะให้โอกาสเจ้า จงมาเป็นลูกน้องของข้าแล้วร่วมต่อสู้กับจอมมารด้วยกันกับข้าซะ ไม่เช่นนั้นจะถือว่าเจ้ามีความผิด แต่ถ้ายอมมาเป็นลูกน้องแต่โดยดีจะมีรางวัลให้มากมาย และเจ้ากับคนในครอบครัวจะได้หลุดพ้นจากโทษด้วย!”
สมบูรณ์แบบ…
แสดงละครได้สมบูรณ์แบบสุดๆ เลยตัวฉัน
(เจ้าผู้กล้าผมบลอนด์หลงตัวเองเป็นคนพูดนะครับ)
ผู้กล้าผมบลอนด์รู้สึกปลื้มกับคำพูดที่แสนสง่างามของตัวเอง
แค่นี้อาร์ทโชว์ก็จะกลายเป็นลูกน้องของฉันแล้วต่อจากนั้นฉันก็จะไปปราบจอมมารแล้วกลายเป็นผู้กล้าในตำนานของประเทศนี้ตัวจริงสักที…
“หา เผด็จการเกินไปแล้วค่ะ ท่านผู้กล้า!” (วาลิซซ่า)
“คิดถึงทุกข์สุขของคนอื่นบ้างสิค๊า” (โบลแซม)
“มะ ไม่เข้าใจค่ะ.. อุว๊าว๊า”(บิลลี่)
“…คิ(ทำท่าทางประท้วง)” (เบลาโน่)
วาลิซซ่าและคนในปาร์ตี้ของเธอตะโกนเสียงท้วงผู้กล้าผมบลอนด์ ส่วนอาร์ทโชว์ก็ยิ้มตอบรับผู้กล้าผมบลอนด์
“งั้นเหรอ ออกจะน่ารำคาญ แต่ผมคิดว่าเราย้ายหนีกันดีกว่า”
แล้วอาร์ทโชว์ก็ใช้กระเป๋าเวทมนตร์บนเอวดูดสวนของโบลแซมและบ้าน
“สถานการณ์ฉุกเฉิน แต่เราพร้อมจะไปกันรึยังลิซ?”
“ค่ะ ฉันพร้อมจะติดตามท่านสามีไปจนวันตายค่ะ”
แล้วลิซก็กอดแขนของอาร์ทโชว์
“นะ นายท่าน กรุณาพาวาลิซซ่าผู้นี้ไปด้วยสิค่ะ!”
“โบลแซมก็จะไปด้วยค่ะ ให้ฉันไปทำสวนเถอะนะคะ!”
“อุว๊าว๊า.. บิ บิลลี่ก็จะติดตามไปด้วยค่ะ”
“..ฉันด้วย”
“โบฟู!”
ซาแบร์และคนอื่นๆ ขอร้องให้พาพวกเขาไปด้วย
“ถ้างั้นเราไปด้วยกันทุกคนเลย ไปยังที่สำหรับบ้านใหม่ของเรา”
แล้วเขาก็ใช้เวทมนตร์เทเลพอร์ทหายตัวไปในพริบตา
…
หลังจากวันนั้น
ผู้กล้าผมบลอนด์ไม่รู้เลยว่าอาร์ทโชว์หายตัวไปแล้ว ขณะที่กำลังคิดถึงจินตนาการสวยหรูในหัว แต่เขาก็ต้องผิดหวังหลังรู้ว่าอาร์ทโชว์เลือกตัวเลือก “หนี!”
หลังจากวันนั้นที่เขากลับมาที่ปราสาท เขาก็สั่งให้ราชาค้นหาอาร์โชว์ ส่วนตัวเขาก็กลับไปหมกตัวในห้องเป็นฮิคิโคโมริต่อ
จอมมารกลูหลังทราบข่าวก็โกรธมาก
เขาสั่งให้กองทัพเดินทางผ่านป่าเดลาเบซ่าแล้วไปค้นหาให้ทั่วทางเหนือของปราสาทให้ทั่ว
เพราะการส่งปีศาจไปยังสถานที่ใกล้เมืองทำให้เมืองแถวนั้นตกอยู่ในความสับสนวุ่นวายอย่างมาก
…แกกล้าทำลายงานอดิเรกใหม่ของฉัน
ไม่สำคัญว่าจอมมารจะพูดออกมาหรือไม่ แต่เขาก็ออกคำสั่งให้ค้นหาตัวอาร์ทโชว์อยู่ดี