ตอนที่ 868 ทิฐิของเฝิงเยว่จู๋
สีหน้าของเฝิงเยว่จู๋หมองหม่นลงทันใด
พ่อไป๋เป็นผู้จัดการสาขาธนาคาร แต่เขาให้เงินรับขวัญเพียง 500 หยวนเท่านั้น!
หลินม่ายน่าเกลียดยิ่งกว่า เธอให้มาเพียง 300 หยวน!
หรือพวกเขากำลังปฏิบัติกับหล่อนเหมือนขอทานและพยายามไล่หล่อนไป?
ภายในห้องนั่งเล่น ไป๋ลู่พูดกับทุกคน “ฉะ… ฉันควรให้เงินรับขวัญแก่เสี่ยวเฝิงสัก 50 หยวนดีกว่า ทุกคนให้หล่อนหมดแล้ว แต่ฉันไม่ให้อยู่คนเดียว มันน่าอายเกินไป”
ไป๋เซียนโบกมือ “เธอยังไม่มีแหล่งรายได้ ต่อให้เธอจะเข้าศึกษาในระดับบัณฑิตศึกษา แต่ก็ยังไม่ได้เริ่มต้นอย่างเป็นทางการ และไม่ได้รับค่าตอบแทนใด ๆ ดังนั้นเธอจะเอาเงินจากที่ไหนมาเป็นของขวัญให้เยว่จู๋ นอกจากนี้เยว่จู๋ไม่ใช่เด็กแล้ว หล่อนคงไม่สนใจสิ่งเหล่านี้หรอก”
ไป๋ลู่กล่าว “ถึงฉันจะยังไม่มีแหล่งรายได้ แต่ฉันก็มีค่าขนมเก็บไว้เล็กน้อย ดังนั้นมอบ 50 หยวนให้ได้” หลังจากพูดจบ หล่อนก็เดินไปที่ห้องเพื่อนำเงินมา
หลังจากนั้นก็กลับมานั่งที่ห้องนั่งเล่น ก่อนเห็นว่าเฝิงเยว่จู๋ที่ไปเข้าห้องน้ำได้กลับมาแล้ว
หล่อนยื่นเงิน 50 หยวนให้แก่เฝิงเยว่จู๋ด้วยความเขินอาย พลางกล่าวอย่างลำบากใจว่า “พี่สะใภ้ นี่เป็นเพียงการแสดงน้ำใจเล็กน้อย ฉันหวังว่าคุณจะไม่ว่าอะไรนะคะ”
เฝิงเยว่จู๋ชำเลืองมองธนบัตร 50 หยวนและรับมันไว้ โดยบอกว่าหล่อนไม่ได้รังเกียจ แต่สีหน้ากลับดูไม่พอใจเล็กน้อย
ไป๋ลู๋เดาได้ว่าอีกฝ่ายคิดว่าเธอให้น้อยเกินไป เธอทั้งอายและรู้สึกร้อนใจ
เฝิงเยว่จู๋ไม่ใช่คนประเภทที่จะแสดงอารมณ์ทางสีหน้า
แต่ในขณะนี้หล่อนจงใจแสดงสีหน้าบ่งบอกว่า “ไม่มีความสุข” บนใบหน้า
วันนี้ก่อนที่จะมาบ้านตระกูลไป๋ แม่เฝิงกำชับกับเฝิงเยว่จู๋ว่า
หากตระกูลไป๋ไม่มอบของขวัญพบปะตามมารยาท นั่นหมายความว่าตระกูลไป๋ไม่เห็นคุณค่าของหล่อนและต้องการให้ออกไป หากเป็นแบบนั้นหล่อนต้องหันหลังออกจากบ้านทันที
แต่หากของขวัญน้อยเกินไป นั่นหมายความว่าพวกเขาไม่ได้จริงจังกับหล่อนและจงใจดูถูกหล่อน หล่อนจะต้องแสดงออกอย่างชัดเจนต่อหน้าตระกูลไป๋ว่าไม่พอใจ
พ่อไป๋และคนอื่น ๆ ต่างก็เห็นสีหน้าไม่พอใจของเฝิงเยว่จู๋ บรรยากาศที่สนุกสนานก่อนหน้ากลายเป็นอึมครึม ดังนั้นทุกคนจึงไม่กล้าพูดอะไรไปชั่วขณะ
เมื่อเห็นดังนี้ ไป๋เซี่ยจึงพาเฝิงเยว่จู๋ไปยังห้องนอนของเขา โดยอ้างว่าให้หล่อนไปเยี่ยมชมห้องของเขา
ไป๋เซี่ยไม่พอใจอย่างมากและต่อว่าหล่อน “ลู่ลู่ยังเรียนอยู่และไม่มีรายได้ ของขวัญที่หล่อนให้คือเงินเก็บจากค่าขนมของหล่อน ลู่ลู่เด็กกว่า และยังไม่มีงานทำ หล่อนไม่จำเป็นต้องมอบของขวัญด้วยซ้ำ แต่หล่อนก็ยังเลือกที่จะให้ คุณกลับแสดงสีหน้าแบบนี้ รู้ไหมว่ามันทำร้ายจิตใจคนอื่นมากแค่ไหน!”
เฝิงเยว่จู๋เป็นคนเจ้าเล่ห์มาก
เมื่อไป๋เซี่ยกล่าวหาหล่อนแบบนี้ หล่อนไม่ได้ตอบโต้เขาตรงๆ แต่พูดด้วยดวงตาที่เริ่มแดงระเรื่อ “พ่อ พี่สาว และน้องสาวของคุณไม่ชอบฉันหรือเปล่า?”
ไป๋เซี่ยรู้สึกสับสนและถามด้วยความประหลาดใจ “คุณหมายความว่าอย่างไร ถ้าพ่อ พี่สาว และน้องสาวของผมไม่ชอบคุณ พวกเขาจะมอบของขวัญต้อนรับมีค่าแบบนี้กับคุณได้อย่างไร?”
เฝิงเยว่จู๋อ้าปากคิดกล่าวคำโต้กลับ
เดิมทีหล่อนต้องการถามไป๋เซี่ยโดยตั้งใจ หากไป๋เซี่ยตอบว่าไม่ หล่อนจะฉวยโอกาสจากสถานการณ์เพื่อถามเขา แต่หากไม่ใช่ หล่อนจะถามว่าทำไมพ่อไป๋และคนอื่น ๆ จึงมอบให้หล่อนน้อยขนาดนี้
แต่ตอนนี้ไป๋เซี่ยกลับพูดออกมาโดยตรงว่า ครอบครัวของเขามอบของขวัญมีค่ามาก แล้วหล่อนจะยอมรับได้อย่างไร?
แต่หลังจากได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีจากแม่เฝิง หล่อนพลันนึกคำพูดที่ฉลาดกว่าได้อย่างรวดเร็ว
หล่อนพูดคำเบา “เงินไม่กี่ร้อยหยวนอาจมากสำหรับครอบครัวทั่วไป แต่ครอบครัวของคุณ… ไม่ใช่ครอบครัวธรรมดา แต่กลับให้ของขวัญต้อนรับเพียงแค่เล็กน้อยแบบนี้ พวกเขาคงจะไม่ชอบฉันจริง ๆ สินะ?”
ในที่สุดหล่อนก็หลั่งน้ำตาออกมาด้วยความโศกเศร้า
ไป๋เซี่ยจ้องมองหญิงสาวด้วยความตกตะลึง ราวกับเห็นแม่ของตัวเอง
เขาคาดไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่าเฝิงเยว่จู๋จะชอบจับผิดคนอื่นและสร้างปัญหาโดยไม่มีเหตุผลเหมือนแม่ของเขา
ตอนที่ทั้งสองเป็นเพื่อนกัน หล่อนทำงานหนักมาก และไม่เคยโลภมากในเงินของเขา ทำให้เขาเข้าใจผิดว่าหล่อนเป็นผู้หญิงที่ดี
แต่ของขวัญที่ให้เมื่อพบหน้ากันครั้งแรกก็เป็นบทพิสูจน์ให้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของหล่อนแล้ว
ภายในห้องนั่งเล่น ไป๋เหยียนพูดด้วยความไม่พอใจ “เซี่ยเซี่ยพาผู้หญิงแบบไหนกลับมากันแน่ ขนาดยังไม่ได้แต่งงานเข้ามาด้วยซ้ำก็กล้าบ่นว่าของขวัญลู่ลู่นั้นน้อยเกินไป หากแต่งงานเข้ามาแล้ว ไม่รู้เลยว่าหล่อนจะกลายเป็นนางปีศาจแบบไหน”
พ่อไป๋ยกถ้วยชาขึ้นจิบและพูดว่า “เซี่ยเซี่ยชอบเด็กคนนั้น คงไม่ดีถ้าบอกพวกเขาให้เลิกรากัน ถ้าพวกลูกไม่ชอบเสี่ยวเฟิง ก็แค่หลีกเลี่ยงไม่ใช้เวลาร่วมกับหล่อน”
หญิงสาวต่างพยักหน้ารับทีละคน
ลูกเขยทั้งสองนั่งเฉย ๆ โดยไม่พูดอะไรตลอดเวลา
ท้ายที่สุดนี่ก็เป็นเรื่องของตระกูลไป๋ มันไม่ใช่เรื่องสมควรที่พวกเขาจะแสดงความคิดเห็น
พ่อไป๋พูดคุยเกี่ยวกับการจัดสรรที่อยู่อาศัยในที่ทำงาน และขอให้หลินม่ายแนะนำช่างฝีมือในการปรับปรุงใหม่ให้เขา
เมื่อเขาปรับปรุงบ้านใหม่ที่ได้รับการจัดสรรจากที่ทำงานเสร็จแล้ว เขาวางแผนที่จะย้ายไปอยู่กับพี่น้องไป๋ลู่ จากนั้นพวกเขาจะสามารถคืนบ้านนี้ให้หลินม่าย
หลินม่ายถาม “ถ้าพี่ชายแต่งงานกับเฝิงเยว่จู๋ในปีนี้ เขาจะไปอาศัยในบ้านใหม่ของพ่อด้วยหรือเปล่า?”
พ่อไป๋พยักหน้า “คงเป็นแบบนั้น ไม่ใช่ว่ามีห้องไม่พอหรอก ที่บ้านมีสองห้องใหญ่และหนึ่งห้องเล็ก พ่ออยู่ห้องใหญ่ห้องหนึ่ง พี่สาวลูกอยู่ห้องเล็ก และอีกห้องหนึ่งก็ให้พี่ชายของลูกอยู่กับภรรยาของเขา”
หลินม่ายครุ่นคิดและพูดว่า “เฝิงเยว่จู๋…ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะเข้ากันได้ มันคงดีกว่าที่พ่อและพี่สาวจะไม่อยู่บ้านเดียวกับหล่อน ให้พี่ชายและเฝิงเยว่จู๋อาศัยอยู่บ้านหลังใหม่เถอะค่ะ ส่วนพ่อและพี่สาวทั้งสองอาศัยอยู่ในบ้านเดิม”
พ่อไป๋โบกมือและกล่าวว่า “ลูกไม่เข้าใจ ถ้าพ่อยกบ้านหลังใหม่ให้พี่ชายและเสี่ยวเฝิง บ้านนั้นจะกลายเป็นของพวกเขา มันอาจกลายเป็นเรื่องยากสำหรับพ่อและพี่สาวทั้งสองที่จะย้ายเข้าไปอยู่ในอนาคต ลูกเข้าใจหรือยัง?”
หลินม่ายพยักหน้า “เข้าใจค่ะ เฝิงเยว่จู๋อาจคิดว่าพ่อและพี่สาวทั้งสองสามารถอาศัยอยู่ในบ้านของฉันได้ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องย้ายเข้าไปอาศัยอยู่กับพวกเขา”
พ่อไป๋พยักหน้า “นั่นคือเหตุผลที่พ่อยกบ้านหลังนั้นให้พวกเขาไม่ได้ ไม่อย่างนั้นพ่อก็ไม่สามารถคืนบ้านหลังนี้ให้ลูกได้เช่นกัน”
หลินม่ายไม่ได้สนใจว่าพ่อไป๋จะคืนบ้านให้เธอหรือไม่ ต่อให้เขาไม่คืนเธอตลอดชั่วชีวิตก็ไม่เป็นไร ตราบใดที่บ้านหลังนี้ยังเป็นของเธออยู่
แต่การที่พ่อไป๋ไม่สามารถอาศัยอยู่ในบ้านของตัวเอง เป็นสิ่งที่หลินม่ายรับไม่ได้ และไม่อยากคัดค้านอีก
ในห้องของไป๋เซี่ย เฝิงเยว่จู๋ร้องไห้เป็นเวลานาน เมื่อเห็นว่าไป๋เซี่ยไม่เข้ามาปลอบโยน หล่อนจึงต้องสงบสติอารมณ์ลงด้วยตัวเอง
หล่อนปาดน้ำตา “ช่างเถอะ ใครบอกให้ฉันชอบคุณกัน ฉันไม่รังเกียจทัศนคติของครอบครัวคุณหรอก”
ไป๋เซี่ยยังคงนิ่งเงียบ ขณะที่ในใจมีความรู้สึกผสมปนเป
เวลาเกือบเที่ยงแล้ว ไป๋เหยียนลุกขึ้นเพื่อไปทำอาหาร หลินม่ายต้องการช่วยเหลือ
หลินม่ายถูกฟางจั๋วหรานสั่งให้พักฟื้นและไม่ให้ทำงานหนัก
แต่เนื่องจากนี่คือบ้านของเธอ เขาจึงไม่สามารถห้ามเธอได้ ดังนั้นเขาจึงแนะนำให้ไปกินอาหารที่ภัตตาคารเก่าแก่มีชื่อเสียงด้วยกันแทน
เหตุผลที่เขาใช้อ้างอย่างหนักแน่นคือ เฝิงเยว่จู๋เป็นแขกผู้มีเกียรติ
พ่อไป๋พยักหน้าเห็นด้วย
แม้ว่าเฝิงเยว่จู๋จะทำตัวไม่น่ารัก แต่เพื่อเห็นแก่ไป๋เซี่ย เขายังต้องรักษาหน้าลูกชายไว้บ้าง
เมื่อเฝิงเยว่จู๋ได้ยินว่าครอบครัวไป๋จะเลี้ยงอาหารหล่อนที่ภัตตาคารมีชื่อเสียง หล่อนพลันรู้สึกดีขึ้นมาทันที
ดูเหมือนว่าคำแนะนำของแม่เฝิงจะถูกต้อง หล่อนแสดงให้ครอบครัวไป๋เห็นว่าหล่อนไม่ชอบใจ และมันก็ได้ผลจริง ๆ พวกเขาเชิญหล่อนไปร่วมรับประทานอาหารที่ภัตตาคารเก่าแก่ชื่อดัง!
ระหว่างมื้อกลางวัน พ่อไป๋และคนอื่น ๆ กระตือรือร้นอย่างมากและคอยเกลี้ยกล่อมเฝิงเยว่จู๋ให้กินอาหารเยอะ ๆ
เฝิงเยว่จู๋ยิ่งมีทิฐิหนักกว่าเดิม โดยคิดว่าการแสดงความไม่พอใจของหล่อนทำให้พ่อไป๋และคนอื่น ๆ กลัวหล่อน
หลังอาหารกลางวัน คนกลุ่มนี้ก็กลับมาที่บ้าน
เฝิงเยว่จู๋นั่งอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็กล่าวคำลาเพื่อกลับบ้าน
ตระกูลไป๋ให้ของขวัญต้อนรับน้อยเกินไป หล่อนจึงไม่ต้องการอยู่นาน และตั้งใจแน่วแน่ที่จะแสดงความไม่พอใจต่อพ่อไป๋และคนอื่น ๆ แบบนี้ต่อไป
ไป๋เซี่ยแอบแตะมือเฝิงเยว่จู๋และใช้สายตาส่งสัญญาณบอกหล่อนว่า จนถึงตอนนี้เฝิงเยว่จู๋ยังไม่ได้มอบซองแดงสำหรับวันปีใหม่ให้กับโต้วโต้ว มันคงไม่สุภาพที่หล่อนจะกลับไปแบบนั้น
ทั้งพ่อและแม่ของเฝิงเยว่จู๋เป็นแค่ลูกจ้าง นอกจากสภาพที่อยู่อาศัยอันย่ำแย่ สภาพการเงินของครอบครัวยังแย่อีกด้วย
แต่แม่เฝิงเป็นคนขี้เหนียวมาก และเลี้ยงดูพี่น้องเฝิงเยว่จู๋มาแบบตระหนี่ถี่เหนียวเป็นพิเศษ
แม้ว่าเฝิงเยว่จู๋จะถูกสายตาไป๋เซี่ยจ้องมอง แต่หล่อนก็แสร้งทำเป็นไม่เห็น และถามหลินม่ายด้วยรอยยิ้มว่าอีกฝ่ายพาหล่อนกลับบ้านได้หรือไม่
หล่อนได้ไต่เต้าขึ้นบันไดทางสังคม และต้องการให้เพื่อนบ้านรู้เรื่องนี้ วิธีการดีที่สุดคือให้หลินม่ายขับรถเบนซ์ไปส่งหล่อนที่บ้าน
หลินม่ายลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็พยักหน้าตอบรับ
ความสุขตลอดชีวิตของไป๋เซี่ยไม่ควรถูกทำลายด้วยน้ำมือผู้หญิงคนนี้
พ่อไป๋นำบุหรี่ ไวน์ และลูกอมจำนวนมากออกจากห้องนอน โดยขอให้หลินม่ายและสามีนำพวกมันไปมอบให้พ่อแม่ของเฝิงเยว่จู๋
บุหรี่ ไวน์ และลูกอมเหล่านี้เขาได้รับมาจากเหล่าลูกน้องในที่ทำงานสำหรับการอวยพรปีใหม่เมื่อวานนี้
เขาไม่สูบบุหรี่ และไม่ดื่มสุรามากนัก นับประสาอะไรกับการกินลูกอม ดังนั้นเขาจึงอยากแบ่งให้บ้านของลูกสะใภ้ในอนาคต
ฟางจั๋วหรานนำของขวัญเหล่านี้ไว้ท้ายรถ เพื่อให้ผู้ใหญ่ทั้งสี่คนมีที่นั่งเพียงพอ
โต้วโต้วนั่งข้างไป๋เซี่ยลุงของหล่อน ขณะที่หลินม่ายกอดเสี่ยวมู่ตงตัวน้อย จากนั้นคนทั้งหกก็นั่งรถออกไป
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
เห็นสัญญาณธงแดงจากยัยคนนี้ชัดมาก ผู้หญิงคนนี้ไม่เหมาะที่จะมาเป็นแฟนอย่างแรงอ่ะไป๋เซี่ย พอรู้ว่าบ้านแฟนรวยนี่คือยกตนข่มเต็มที่เลย เลิกได้รีบเลิกนะ
ไหหม่า(海馬)