Love Comedy Manga ni Haitte​ shimatta node, Oshi no Make Heroine wo Zenryoku de Shiawase ni Suru – ตอนที่ 9

Love Comedy Manga ni Haitte​ shimatta node, Oshi no Make Heroine wo Zenryoku de Shiawase ni Suru

***เปลี่ยนชื่อตัวละครจาก​ ฮิซามูระ รินเกะ​ เป็น​ ฮิซามูระ ริเอะ​ (凛恵りえ)​ เเทนครับ​***

***เปลี่ยนคําเรียกจาก​ โอนี่จัง​ ไปเป็น​ พี่​ เเต่อาจใช้​ โอนี่จัง​ เป็นบางครั้ง***

 

หลังจากนั้น​ ชั้นก็ออกจากบ้านมาพร้อมกับริเอะเเละเเน่นอนว่าต้องไม่ลืมที่จะล็อคกุญแจ​บ้าน

ระยะทางระหว่างบ้านของพวกเราไปยังโรงเรียนอยู่ในระยะที่สามารถไปได้โดยที่ไม่จําเป็นต้องใช้รถไฟในการเดินทาง

 

ถึงอย่างนั้นถ้าเดินไปตามปกติก็ต้องใช้เวลาขั้นตํ่าสี่สิบนาทีเลยทีเดียว​ ปกติชั้นเลยจะปั่นจักรยาน​ไปตลอด

 

“พี่ วันนี้หนูก็ขอซ้อนท้าย​ไปด้วยนะ”

“อา​ เเน่นอนว่าพี่ไม่มีปัญหาหรอก..”

“หืม? เป็นอะไรไปเหรอ?”

 

ไม่คิดเลยนะว่าวันที่ชั้นให้เด็กผู้หญิงซ้อนท้ายจักรยานจะมาถึงเนี่ย

ถึงเด็กผู้หญิงที่ว่าจะเป็นน้องสาวของชั้นก็เถอะ

 

เเต่จะว่าไปมันถูกกฎหมายหรอ?

มันก็มีเรื่องเเบบนี้ในพวกมังงะเลิฟคอมเมดี้หรือนิยายอยู่หรอก​ พวกที่เเสดงถึงการขี่จักรยานซ้อนท้ายน่ะ เเต่ถ้าเป็นในโลกเเห่งความจริงคงมีปัญหา​ด้านกฎหมายหลายๆอย่างตามมาเเน่ๆ

 

อืม พอมาลองคิดดู

โลก​ “โอโจ้วจามะ” เเห่งนี้ก็เป็นโลกมังงะเลิฟคอมเมดี้เหมือนกันบางทีเรื่องกฎหมายคงไม่มีปัญหาหรอก

 

“คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง.. ริเอะ​ ขึ้นนั่งดีๆรึยัง? พี่จะไปเเล้วนะ”

“อืม ไม่มีปัญหา”

 

 

เอาล่ะ​ งั้นออกเดินทางกันเลย!

 

ดูเหมือนตอนขยับครั้งเเรกจะรู้สึกหนักกว่าตอนปั่นคนเดียวอยู่หรอก​ เเต่หลังจากปั่นไปสักพักก็รู้สึกว่าจะไม่มีปัญหาอะไรเเฮะ

 

ถึงจะรู้สึกเหนื่อยทุกครั้งที่ต้องหยุดตามไฟจราจร​ก็เถอะ​ เเต่ถ้าเพื่อน้องสาวสุดเเสนจะน่ารักเเล้วมันก็เเค่ของกล้วยๆล่ะนะ

 

เเล้วชั้นก็ปั่นไปโรงเรียนทั้งอย่างนั้น​ จนมาถึงที่ประจําของชั้น

ไม่สิ​ ถึงจะบอกว่าที่ประจําเเต่ก็เเค่ของ​ ฮิซามูระ​ สึคาสะ​ ในโลกนี้เท่านั้นเเหละ​ ชั้นพึ่งเคยมาที่นี่เป็นครั้งเเรกเลย

 

ก่อนที่จะถึงโรงเรียน​ ชั้นจะมาส่งริเอะตรงจุดนี้ตลอด

 

เพราะงั้นริเอะถึงเร่งให้ชั้นรีบไปก่อนตลอด​ เพราะถ้าชั้นไม่รีบอาจทําให้ส่งเธอช้า​เเละเธออาจจะ​ไปสายได้

 

“งั้นหนูไปล่ะ​ ขอบใจนะ พี่”

“ถึงจะบอกมาตลอดก็เถอะ​ เเต่พี่ไปส่งให้ถึงโรงเรียนเลยก็ได้นะ​ ไม่รู้สึกเหนื่อยเลยด้วย”

“ไม่เป็นไรหรอก​ เดี๋ยวหนูเดินไปจากตรงนี้เอง​ พี่ปั่นจักรยานไปก่อนเลยก็ได้”

 

อย่างที่คิดริเอะคงไม่อยากให้ใครรู้สินะว่าเธอซ้อนจักรยานมากับพี่ชายของเธอน่ะ

 

“อืม เข้าใจเเล้ว​ล่ะ​ เเต่นานๆทีไปโรงเรียนด้วยกันก็ได้นะ​ เเบบนั้นน่าสนุกกว่าใช่ไหม​ล่ะ?”

“ไม่หนิ..​ บางครั้งตอนเดินไปโรงเรียนหนูก็เจอเพื่อนด้วย”

“ย.. อย่างงั้นหรอ..”

 

มันก็ต้องเป็นเเบบนั้นสินะ​ ถ้าเดินทางไปด้วยจักรยานอย่างเดียว​ ช่วงเวลาวัยรุ่นที่ได้เดินไปโรงเรียนด้วยกันกับเพื่อนคงจะหายไปหมดสินะ

 

ในโลกเดิมหลังจากเดินทางด้วยรถไฟเสร็จชั้นก็เดินไปโรงเรียนเหมือนกัน​ เพราะงั้นความสนุกที่ได้พบกับเพื่อนระหว่างทางเดินไปโรงเรียนชั้นรู้ดีเลยล่ะ

 

ชั้นเองก็ลองเดินไปโรงเรียนในโลกนี้บ้างดูดีไหมนะ

เเต่มันทั้งไกลเเถมยังมีริเอะอยู่ด้วยนี่นะ…

 

“ถ.. ถ้านานๆทีก็คงไม่เป็นไรหรอก”

 

ไม่รู้ว่าเพราะกังวลที่เห็นชั้นรู้สึกซึมรึเปล่า​ ริเอะเบี่ยงสายตาอย่างอายๆเเละพูดออกมาเเบบนั้น

 

“..ริเอะ!​ ขอบใจนะ!”

 

ชั้นดีใจมากจนเผลอลูบหัวของริเอะไปอีกครั้ง

 

“ทําอะไรน่ะ.. ต..ตาพี่บ้า! อย่ามาลูบหัวในที่เเบบนี้สิ!”

“โทษทีนะ​ งั้นพี่ไปก่อนล่ะ​ อย่าไปสายนะ ริเอะ”

 

ชั้นรีบขึ้นขี่จักรยาน​ ก่อนที่จะโดนเธอทุบอีกรอบ

 

“อ๊ะ​ โถ่ว.. ตาพี่บ้า..”

 

เสียงเช่นนั้นดังมาถึงหูของชั้น​ ถึงจะถูกบอกว่าบ้าก็เถอะเเต่วิธีการพูดของเธอมันน่ารักเกินไป​ จนทําให้ชั้นไม่รู้สึกโกรธขึ้นมาเลย​

 

หลังจากปั่นจักรยานไปไม่กี่นาทีชั้นก็เจอกับคนรู้จักที่กําลังเดินอยู่ข้างหน้า

ถึงจะบอกว่าคนรู้จักก็เถอะ​ หมอนั่นมัน..

 

“โอ้ย! ยูอิจิ!”

“หืม? โอ้​ สึคาสะ​ หรอ”

 

หมอนี่เเหละคือ​ ชิเกโมโตะ​ ยูอิจิ​ ตัวเอกจากมังงะเรื่อง​ “เพราะมีลูกคุณหนูที่เป็นเพื่อนสมัยเด็กขัดขวางอยู่​ เลิฟคอมธรรมดาๆคงเป็นไปไม่ได้”

เขามีผมสีดําสั้นเเละยังมีใบหน้าที่ดูสะอาดสดใสพูดสั้นๆก็พวกหล่อนั่นเเหละ

 

เรื่องส่วนสูงเพราะอยู่ในชมรมบาสเกตบอล​เลยค่อนข้างสูงอยู่เเล้ว​ เห็นว่าสูงกว่า​ 180​ เซ็นเลยทีเดียว

ชั้นปั่นไปข้างๆยูอิจิก่อนจะลงจากจักรยานเเละค่อยๆเดินเคียงข้างเขา

 

“โย่ว! ไม่มีฝึกช่วงเช้าของชมรมบาสหรอ?”

“อา​ วันนี้ไม่มีหรอก​ เพราะอย่างนั้นชั้นเลยหลับได้เต็มอิ่มเลย​ดีจริงๆ”

“งั้นเหรอ​ อย่างที่คิดเเม้เเต่เอสของชมรมบาสก็ยังต้องพักในวันหยุดเหมือนกันสินะ”

“ก็ต้องเป็นอย่างนั้นอยู่เเล้ว​สิ​ การพักก็เป็นส่วนหนึ่งของการฝึกเหมือนกันนะ”

 

ยูอิจิเป็นพวกที่มีทักษะทางกีฬาสูง​ เห็นว่าได้เป็นเอสของชมรมบาสตั้งเเต่ยังอยู่ปีหนึ่งเลยล่ะ

 

เเถมยังมีใบหน้าที่หล่ออีก​ เเน่นอนอยู่เเล้วว่าหมอนี่จะเนื้อหอม

เรื่องนิสัยในฐานะที่เป็นเพื่อน​ชั้นรู้ดีว่าหมอนี่ก็เป็นคนนิสัยดีทั่วๆไป

 

ยูอิจิมีส่วนประกอบ​ที่ทําให้เนื้อหอมตั้งหลายอย่าง​ เเต่หมอนี่กลับเข้าใจผิดว่าตัวเองไม่เนื้อหอมซะงั้น

 

สาเหตุที่ทําให้หมอนี่เข้าใจผิดไปเเบบนั้นก็เป็นเพราะเพื่อนสมัยเด็กของเขา​ โทโจวอิน​ คาโอริ​

เพราะยูอิจิถูกโทโจวอินชอบมาตั้งเเต่สมัยอนุบาลเเล้ว​ ทําให้เธอใช้อํานาจกดดันผู้หญิงรอบๆตัวไม่ให้เข้าใกล้เขา

 

ทั้งๆที่หมอนี่เท่ขนาดที่สามารถมีเเฟนคลับของตัวเองได้เลยเเท้ๆ​ เเต่ปัจจุบันหมอนี่ก็ยังคิดว่าตัวเองไม่เท่เเละไม่เนื้อหอมอยู่

 

ถึงมันจะเป็นความผิดของโทโจวอิน​ก็เถอะ จะบอกว่ามันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ก็คงได้ล่ะนะ

 

เเต่ว่ายูอิจิที่เป็นเเบบนั้น​พอขึ้น​ ม.ปลาย​ ก็มีคนที่ชอบขึ้นมา

เธอคนนั้นคือ​นางเอกอีกคนนึง​ ฟุจิเสะ​ ชิโฮะ​

 

“จะว่าไป​ ยูอิจิ​ ชั้นได้ยินเรื่องเเล้ว​นะ​ ในที่สุดนายก็ชวนฟุจิเสะไปเดทสักทีสินะ”

“ห๊ะ!? น.. นายไปได้ยินเรื่องนั้นมาจากไหนน่ะ!?”

“เเน่นอนว่าเป็นเเค่ข่าวลือลอยๆเฉยๆ”

“ย.. อย่าบอกนะว่านาย​ปลุกพลังเเห่งลมที่อยู่ในตัวนายขึ้นมางั้นเหรอ!?”

“หึ.. ถ้าชั้นเเกว่งเเขนล่ะก็​ กระโปรงของเหล่าเด็กสาวจะ… คงพูดมากกว่านี้ไม่ได้เเฮะ”

“เอ๊ะ​ เอาจริงดิ?​ มี​ JK​ อยู่รอบๆตั้งเยอะด้วย​ ทํามันเลยสิ” [ JK​ = เด็กสาวม.ปลาย ]​

“นายนี่นะ​ อย่าเรียกเด็กหนุ่มม.ปลาย​ว่า​ JK​ สิฟะ”

 

พวกเรารู้สึกสนุกไปกับการคุยอย่างร่าเริงที่เหมือนกับเด็กผู้ชายม.ปลาย​ทั่วๆไปเช่นนั้น

ถึงอย่างนั้นก็เถอะชั้นไม่เคยคิดมาก่อนเลยนะว่าจะได้เข้ามาในโลกของ “โอโจ้วจามะ” เเละยังมาคุยเรื่องไร้สาระกับตัวเอกได้เเบบนี้เนี่ย

 

ถึงจะไม่รู้สึกดีเท่ากับตอนที่ได้คุยกับเซย์จังก็เถอะ​ เเต่ถ้าพูดตามตรงในฐานะโอตาคุชั้นรู้สึกดีใจมากๆเลยล่ะ

 

“เเล้วจริงๆนายได้ยินมาจากใครล่ะ?”

“เเน่นอนว่าจากฟุจิเสะ.. ก็อยากจะพูดเเบบนั้นอยู่หรอก​ เเต่ชั้นเเค่บังเอิญไปได้ยินฟุจิเสะคุยกับเซ.. ชิมาดะเฉยๆน่ะ”

“เอาจริงดิ.. เเล้วพวกเธอคุยเรื่องอะไรกันล่ะ?”

“เเน่นอนว่าต้องเป็น​ [ฉันถูกชิเกโมโตะคุงชวนไปเดทล่ะ​ เเต่มันรู้สึกน่าขยะเเขยงเกินไปน่ะ​]​ คุยกันเรื่องนั้นเเหละ”

“อุก..!? น.. นี่นายล้อกันเล่นใช่มั้ยล่ะ..?”

“ฮ่าๆๆ​ ก็ล้อเล่นน่ะสิ”

“ถึงจะล้อเล่น เเต่มันจะติดอยู่ในใจ​ชั้นไป​ตลอดนะ​ ช่วยหยุดทีเถอะ”

“ถ้าเป็นเเบบนั้นคงเเย่เเฮะ”

 

ถึงจริงๆเธอจะพูดเรื่องน่ารักสุดๆอย่าง​ ​”ฉันควรจะสารภาพรักกับชิเกโมโตะคุงดีไหมนะ” ก็เถอะ​ เเต่ว่าเรื่องนั้นคงเป็นเรื่องที่ชั้นไม่สมควรพูดออกมาสินะ

 

“วันที่จะไปเดตนี่วันไหนล่ะ​วันพรุ่งนี้หรือวันมะรืนนี้​หรอ?”

 

วันนี้เป็นวันศุกร์​ เพราะฉะนั้นวันพรุ่งนี้อีกสองวันจะเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์​

 

“วันอาทิตย์น่ะ​ วันนั้นชมรมบาสไม่มีฝึกซ้อมเเถมดูเหมือนฝั่งชมรมเทนนิสเองก็จะไม่มีซ้อมเหมือนกันล่ะ”

“งั้นเหรอ​ ถึงชั้นจะช่วยอะไรนายไม่ได้ก็เถอะ​ เเต่พยายามเข้าละกัน”

“อา​ เเน่นอนอยู่เเล้ว..”

“เเหม~ ดูเหมือนจะกําลังพูดเรื่องสนุกกันอยู่เลยสินะคะ ยูอิจิ”

 

ขณะที่ยูอิจิกําลังจะพยักหน้าอย่างเเข็งขัน​นั้น ชั้นก็ได้ยินเสียงของผู้หญิงมาจากด้านหลัง

 

พวกเราตัวเเข็งทื่อไปทั้งๆที่ยังอ้าปากค้างอยู่อย่างนั้น

 

กะ.. โกหกน่า.. ความคิดเช่นนั้นเเล่นเข้ามาในสมองพวกเราอย่างพร้อมเพรียงกัน

พวกเราขยับเหมือนกับหุ่นยนต์​ ก่อนจะหันกลับไปด้านหลัง..

 

“อรุณสวัสดิ์​นะคะ ยูอิจิ​ ฮิซามูระคุง”

“อะ.. อรุณสวัสดิ์​นะ​ คาโอริ..”

“..อรุณสวัสดิ์ โทโจวอินซัง”

 

ตรงนั้นมีนางเอกหลักอีกคน​นึง โทโจวอิน​ คาโอริ​ ที่มีสีหน้าสุดเเสนจะน่ากลัวอยู่

 

ผมสีทองของเธอซี่งส่องประกายอย่างงดงาม​ยาวไปถึงหลังเเละปลิวไสวไปตามสายลม

 

มันเป็นผมที่สวยถึงขนาดสามารถเเสดงความงดงามของเธอ​ออกมาได้อย่างเต็มที่เลยทีเดียว

เธอใส่เครื่องเเบบนักเรียนอยู่ เเต่ทั้งที่เป็นเครื่องเเบบนักเรียนปกติที่นักเรียนคนอื่นๆก็ใส่เหมือนกันเเท้ๆ​ เเต่ไม่รู้ทําไมเวลาใส่มันเธอถึงดูสง่างามกว่าคนอื่นๆ

 

ใบหน้าของเธอเองก็งดงามมากๆ​เช่นกัน​ เป็นความสวยงามที่ไม่ได้มาจากญี่ปุ่นเพียงอย่างเดียว

 

ถ้าจําไม่ผิดรู้สึกว่าเธอจะเป็นลูกเสี้ยวหรืออะไรสักอย่างนี่เเหละ​เเละดูเหมือนปู่ของเธอจะเป็นคนยุโรปอีกด้วย​

 

“เเล้ว..​ ยูอิจิ​ ดูเหมือนจะคุยกันอย่างสนุกสนานตั้งเเต่เช้าเลยนะคะ​ ถ้าไม่ว่าอะไรให้ดิฉันเข้าร่วมด้วยคนได้รึเปล่าคะ?”

“ไม่สิ​ คือว่า.. มันเป็นเรื่องที่มีเเค่ชั้นกับสึคาสะคุยกันได้น่ะ​ นั่นไงพวกเรื่องที่ผู้ชายเขาคุยกัน! เนอะ สึคาสะ?”

“จะ.. จริงด้วยสินะ​ ชั้นว่าโทโจวอินซังเองก็คงไม่อยากได้ยินหรอกใช่มั้ยล่ะ? เรื่องที่ยูอิจิสั่งให้ชั้นไปไล่เปิดกระโปรง​ JK​ เเถวๆนี้น่ะ”

“ชั้นไปพูดเรื่องเเบบนั้นตอนไหนฟะ!?”

 

ยูอิจิตบมุขของชั้นกลับมาด้วยพลังอันเปี่ยมล้น​

ใจเย็นๆสิยูอิจิ​ ก่อนอื่นพวกเราต้องพยายามเปลี่ยนเรื่องให้ได้ก่อนนะ

 

“เเหม~ ถ้างั้นคุยกันเรื่องไหนเหรอ​ ยูอิจิ?”

“มะ.. ไม่ใช่ว่าชั้นสั่งหมอนี่ให้ไปไล่เปิดกระโปรง​ชาวบ้านหรอกนะ​ คือว่าสึคาสะอยู่ๆก็พึมพําออกมาน่ะสิว่า​ [เห้อ~ ถ้าพลังตาทิพย์​ของชั้นตื่นขึ้น​ จะมองเห็นร่างเปลือยของเหล่า​เด็กสาวม.ปลายไหมนะ]​ พึมพําออกมาเเบบนั้นเลยนะ?”

“ชั้นไปพูดเรื่องเเบบนั้นตอนไหนฟะ!?”

 

คราวนี้เป็นฝั่งชั้นที่ต้องตบมุขออกมา

 

“ตายจริง~ ฮิซามูระคุงจะเผยเเพร่ความปรารถนา​ของตัวเองไปทั่วไม่ได้นะคะ ถ้าจะทําก็ควรทําในที่เงียบๆ​คนเดียวซะนะคะ”

“โทโจวอินซัง​ นี่มีความทนทานกับเรื่องพวกนี้เยอะกว่าที่คิดอีกนะ”

“ดิฉันศึกษาไว้ตลอด​ เผื่อวันที่ยูอิจิจะรุกเข้ามาเสมอนั่นเเหละค่ะ”

“ดีจังเลยนะยูอิจิ​ คราวนี้อนาคตของนายในฐานะประธานของโทโจวอินกรุ๊ปก็ถูกตัดสินเเล้วล่ะ”

“รอก่อนสิ! นายทรยศชั้นเหรอ!”

 

หุบปากเฟ้ย​ ใครกันเเน่ที่เป็นคนทรยศก่อน​ ก็ชั้นเองนี่นะ

เเต่ว่าเเค่นี้ก็สามารถเปลี่ยนเรื่องคุยได้เเล้ว..

 

“เเล้ว..​ ยูอิจิ​ วันอาทิตย์นี้มีเเผนจะทําอะไรรึเปล่าคะ?”

 

โอ๊ะ​ ดูเหมือนจะวนกลับมาเรื่องเดิมอีกเเล้ว​เเฮะ

 

“คะ.. คือว่ามีกิจกรรมชมรมน่ะ”

“รู้สึกว่าตามกําหนดการวันอาทิตย์​ชมรมวอลเลย์จะเป็นคนใช้ยิมนะคะ”

“ทําไมคาโอริถึงรู้ล่ะ​ ทั้งๆที่ไม่ได้อยู่ชมรมวอลเลย์เลยเเท้ๆ?”

“เพราะเป็นดิฉันไงล่ะคะ”

“สมกับเป็นโทโจวอินซัง​ที่เป็นลูกสาวของคนที่ก่อตั้งโรงเรียนโทโจวอินขึ้นมาเลยเเฮะ”

 

ถึงบางทีมันจะไม่เกี่ยวกันเลยก็เถอะ​ เเต่ตอนนี้ชั้นชมไปก่อนละกัน

 

“ขอบคุณนะคะ ฮิซามูระคุง​ เเล้วมีเเผนอะไรสําหรับวันอาทิตย์ล่ะคะ? ถ้าไม่มีเเผนล่ะก็ทําไมไม่มาปาร์ตี้ที่บ้านดิฉันล่ะ? พวกเราสามารถเช่าเรือสําราญเเละจัดปาร์ตี้​ที่นั่นเลยก็ได้นะคะ”

“เธอนี่มีเรือสําราญอยู่เยอะจริงๆเลยนะ”

 

จํานวนเงินที่เธอใช้ไปไม่ปกติสุดๆ

 

“ยะ.. ยังไงก็เถอะถึงชั้นจะไม่มีเเผนในวันอาทิตย์​ เเต่ชั้นอยากจะพักน่ะ! ปกติชั้นต้องซ้อมบาสจนถึงเที่ยงเลยนี่นะ!”

“เอ๊ะ​ เป็นงั้นหรอกเหรอ​คะ ทั้งๆที่เมื่อวานชมรมบาสหยุดเเต่นายกลับพูดออกมาว่า​ [รีบๆซ้อมกันสักทีสิ วันหยุดอะไรนั่นชั้นไม่ต้องการหรอก]​ อยู่เเท้ๆเชียว​ เเต่จริงๆเเล้วคงอยากจะหยุดสินะ”

“ระ.. รอก่อนนะ​ เธอไปได้ยินเรื่องนั้นมาจากไหนน่ะ!? ถ้าจําไม่ผิดชั้นพูดเรื่องนั้นออกมาตอนกลางดึกของเมื่อวานนะ!?”

 

โอ๊ะ​ ยูอิจิชั้นว่านายไม่ถามไปมากกว่านั้นจะดีกับตัวนายเองมากกว่านะ

 

ด้านมืดของ​ โทโจวอิน​ คาโอริ​ นางเอกเพื่อนสมัยเด็ก​ที่มีความเป็นไปได้ที่จะมีองค์ประกอบ​ของยันเดเระน่ะ​ ยังเร็วเกินไปสําหรับนาย

 

“เข้าใจเเล้วค่ะ ถ้ายูอิจิไม่คิดจะพูดล่ะก็.. ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ดิฉันเองก็มีความคิดดีๆอยู่​ ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่ดิฉันต้องไปโรงเรียนเเล้ว​ด้วย​ ลาก่อนนะคะ ฮิซามูระคุง”

“ละ.. ลาก่อน”

 

หลังจากพูดเเบบนั้นออกมา​ โทโจวอิน​ ก็เดินไปสู่โรงเรียนในขณะที่สะบัดผมของเธอให้ปลิวไสวไปตามสายลม

ยูอิจิกับชั้นพวกเราตัวเเข็งทื่ออยู่ตรงนั้นไปสักพัก

 

“…สึคาสะ​ ถึงเมื่อกี้นายจะบอกว่าช่วยอะไรชั้นไม่ได้ก็เถอะ​ เเต่ดูเหมือนชั้นจะมีเรื่องเล็กๆให้นายช่วยหน่อยน่ะ”

“อืม ถึงชั้นจะจินตนาการออกว่านายจะขออะไรบ้าๆออกมาก็เถอะ​ เเต่ลองพูดออกมาหน่อยสิ?”

“ช่วยยับยั้ง​ โทโจวอิน​ คาโอริ​ ให้ทีสิ!”

“มันก็ต้องเป็นไปไม่ได้อยู่เเล้วสิฟะ​ ลองคิดโดยใช้สามัญสํานึกดูสิ เเล้วเอ็งก็ระเบิดไปซร้าา!”

“ไหงเป็นงั้นล่ะ!?”

 

เอาล่ะ.. จะทํายังไงดีนะ

 

ว่าไปเเล้วการเดินเรื่องเเบบนี้​ มันมีในต้นฉบับด้วยเหรอ?

 

ติดตามเพจผู้เเปลได้ที่​ Ao2Sides​

Love Comedy Manga ni Haitte​ shimatta node, Oshi no Make Heroine wo Zenryoku de Shiawase ni Suru

Love Comedy Manga ni Haitte​ shimatta node, Oshi no Make Heroine wo Zenryoku de Shiawase ni Suru

Status: Ongoing

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท