Love Comedy Manga ni Haitte​ shimatta node, Oshi no Make Heroine wo Zenryoku de Shiawase ni Suru – ตอนที่ 30

Love Comedy Manga ni Haitte​ shimatta node, Oshi no Make Heroine wo Zenryoku de Shiawase ni Suru

เด็กสาวผู้มีนามว่า​ โทโจวอิน​ คาโอริ​ ได้รับการยอมรับในฐานะลูกคุณหนูจากผู้คนโดยรอบ​

 

กระทั่งตัวเธอเองก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน

 

เธออาศัย​ในคฤหาสน์​ใหญ่โต​มโหฬาร​ระดับที่ปถุชนคนธรรมดา​คงจินตนาการไม่ออก​ ได้รับการดูเเลเเละถูกห้อมล้อมไปด้วยเหล่า​เมดกับพ่อบ้านอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน

 

รูปร่างหน้าตาของเธอทั้งสวยสง่าน่ารักน่าเอ็นดู​ ครอบครองมันสมองอันฉลาดหลักเเหลม​ ทักษะทางกีฬา​ก็โดดเด่นไม่เเพ้ใคร

 

มนุษย์​ที่พระเจ้าประทาน​พร​มาให้เเทบทุกอย่าง​ตั้งเเต่เกิด​ นั่นล่ะคือ​ โทโจวอิน​ คาโอริ

 

เพียงเเต่… พระเจ้าองค์นั้น​ได้พรากบุคคลผู้เป็นมารดาจากเธอไปด้วย

 

ชั่ววินาทีนับเเต่เธอถือกําเนิดมา​เเม่ของเธอก็ได้จากไปเสียเเล้ว​ เธอจึงเติบโตโดยที่ไม่เคยเห็น​ใบหน้าของผู้เป็นเเม่เเม้สักครั้ง

 

เเน่นอนว่ามีรูปถ่ายหรือวิดีโอเก็บไว้อยู่​ เเต่ด้วยความที่เเม่ของเธอเสียไปก่อนที่เธอจะจําความได้ เธอเลย​ไม่มีความทรงจําเกี่ยวกับมารดา​เเม้เเต่น้อย

 

อย่างไรก็ตาม​ดูเหมือนเธอจะ​ไม่ได้โดดเดี่ยวขนาดนั้น​เสียทีเดียว​ ส่วนนึงคงเป็นเพราะ​เหล่าเมดกับพ่อบ้านทั้งหลายที่คอยดูเเลเอาใจใส่เธออย่างอ่อนโยนเเละทําหน้าที่เเทนมารดาของเธอ

 

ถึงอย่างนั้น… เธอก็ไม่เคยรู้จักกับความอบอุ่นหรือ​ความรักอันไร้เงื่อนไขของเเม่อยู่ดี

 

เเม้เมดกับพ่อบ้านจะปฏิบัติกับเธออย่างใจดีก็จริง เเต่ถึงพูดให้ดูสวยหรูเพียงใดพวกเขาก็เป็นเเค่คนรับใช้ที่ตระกูล​โทโจวอินจ้างมาเท่านั้น

 

อะไรอย่างการได้กินข้าวกล่องทํามือ​กับครอบครัวในงานเเข่งขันกีฬา​ระดับประถมน่ะ​ เธอไม่เคยประสบมันสักครั้ง

 

ระหว่างที่เด็กคนอื่นต่างรับประทานอาหารกับครอบครัวอย่าง​สนุกสนาน​ เธอได้เเต่​นั่ง​ตัวคนเดียวบนผ้าปูปิคนิค​อันกว้างขวาง​พร้อมรับประทานข้าวกล่องสุดหรูหรา​ที่เหล่าเมดเตรียมไว้ให้ ในขณะที่มีคุณปู่พ่อบ้าน​คอยดูเเล​อยู่ห่างๆไปด้วย

 

ในเวลาเเบบนั้น– บุคคลเดียวที่มักจะ​คอยทานอาหารร่วมกันกับเธอ​คือ ชิเกโมโตะ​ ยูอิจิ​

 

[สุดยอด! น่ากินจัง! นี่ๆให้ชั้นกินด้วยคนได้ไหม!]​

[คะ.. ค่ะ​ ดะ.. ได้อยู่เเล้ว! จงรับประทานด้วยความทราบซึ้ง​ซะเถอะ]​

[ขอบใจนะ! จะทานเเล้วนะคร้าบ!]​

 

เธอชอบเขาที่เป็นเเบบนั้น​ยิ่งกว่าใคร

 

อย่างยูอิจิคงจะพูดว่าสิ่งที่เขาทําไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร​ เเต่เหนือสิ่งอื่นใด​สําหรับคาโอริเธอรู้สึกว่าตัวเองได้รับความรัก​

 

อย่างไรคาโอริก็รู้สึกภูมิใจที่ตัวเอง​ได้รับพรอยู่ดี

 

เธอเเทบจะมีทุกอย่างในครอบครองยกเว้นมารดาของตนเพียงผู้เดียว

 

ถึงอย่างนั้น… ความจริงที่ว่า​ความสัมพันธ์​ของเธอกับผู้เป็นพ่อไปได้ไม่สวยนักคือสิ่งที่ทําให้เธอกังวลมากที่สุดในตอนนี้

 

พวกเขาไม่เชิงว่าไม่สนิทกัน

 

ไม่สิ… ในทางกลับกันหากพวกเขาไม่สนิทกันอาจจะดีกว่าก็ได้

 

ทุกๆเดือนเธอจะมีโอกาส​ได้ทานอาหารกับบิดาเเค่เดือนล่ะครั้ง

 

รับประทานอาหารกับพ่อซึ่งเป็นถึงประธานของโทโจวอินกรุ๊ปตามลําพังในร้านอาหารอันเเสนหรูหรา

 

สําหรับตัวคาโอริ​คงไม่มีเวลาไหนที่ทําให้ประหม่าเฉกเช่นเวลานี้อีกเเล้ว

 

ตอนนั้นเธอ​ได้สนทนากับพ่ออยู่บ้าง… เเต่พ่อของเธอกลับไม่เคยปฏิบัติกับเธอเหมือนพ่อลูกเลย​สักครั้ง

 

ไม่เเยเเส​ คํานั้นเเค่คําเดียวสามารถสรุปได้ทั้งหมด

 

ไม่ใช่ขั้วตรงข้ามของความรักอย่างความรู้สึกเกลียดชังหรอก​ เเต่เป็นการไม่เเยเเสต่างหาก

 

พ่อไม่ได้ทั้งรักหรือเกลียดเธอด้วยซํ้า

 

นั่นคงจะเป็น​ปมด้อยดั่งคําสาปร้ายที่ฝังรากลงลึกในหัวใจของเธอ

 

◇ ◇ ◇

 

วันนั้น​คาโอริ​ได้มายังสถานที่ซึ่งเป็นจุดเดทของ​ ชิเกโมโตะ​ ยูอิจิ​ บุคคลอันเป็นที่รัก

 

เเม้จะเป็นจุดเดท​เเต่คนที่ไปเดทกับยูอิจิกลับไม่ใช่เธอเเต่อย่างใด

 

มันคือสถานที่ซึ่งยูอิจิจะไปเดท​กับคนที่เขารัก​ ฟุจิเสะ​ ชิโฮะ​ ต่างหาก

 

◇ ◇ ◇

 

<มุมมองของ​ โทโจวอิน​ คาโอริ>

 

เริ่มเเรก​ฉันได้ไปบ้านของเพื่อนยูอิจิ​ ฮิซามูระ​ สึคาสะ​ ในวันเสาร์เลยนึกว่าพอถึงวันอาทิตย์เขาจะไปเที่ยวเล่นด้วยกันกับฮิซามูระทั้งอย่างนั้นซะอีก

 

เเต่ท่าทีของพวกเขาดูเเปลกนิดหน่อย ด้วยความสงสัยฉันเลยสะกดรอยตามไป​ ผลก็ตามที่เห็น

 

ทีเเรกก็คิดจะเข้าไปขัดขวางในทันทีอยู่หรอก

 

เเต่ดูเหมือนฝ่ายชวนจะเป็นยูอิจิ​ ฉันจึงตัดสินใจเฝ้าดูเดทของทั้งคู่ไปก่อนเงียบๆ

 

ยูอิจิเท่จังเลย~

 

จะตอนประถมหรือม.ต้น​ เขาก็เป็นเป้าสนใจของพวกผู้หญิงอยู่ตลอด

 

ทั้งอย่างนั้นสาเหตุที่ยูอิจิคิดว่าตัวเองไม่เนื้อหอมนั้นเป็นเพราะคาโอริคอยปกป้องเขาจากเหล่าสาวๆที่คลั่งไคล้​เขาอยู่เสมอ

 

เเต่ว่าคราวนี้ไม่ได้มีเด็กผู้หญิงมาชอบยูอิจิ​ เเต่เป็นยูอิจิเนี่ยสิที่ตกหลุมรักเด็กผู้หญิงคนนึงเข้า

 

มันเป็นรูปเเบบที่ไม่เคยมีมาก่อน​ส่งผลให้คาโอริหัวเสียเป็นอย่างมาก

 

เช่นนั้น​ฉันก็​ทําทุกอย่างมาถึงตอนนี้ด้วยเเนวคิดที่ว่า​ [ไม่มีผู้หญิงคนไหนเหมาะสมกับยูอิจิยิ่งกว่าดิฉันหรอก]​ มาโดยตลอด

 

เพื่อไม่ให้เด็กสาวคนอื่นเข้าใกล้เขา​ ฉันถึงขนาดปล่อยข่าวลือว่าตัวเองเป็นเพื่อนกับยูอิจิตั้งเเต่สมัยประถมเอย​ คบกันอยู่เเล้วเอย​ จนไปถึงขั้นพวกเราทั้งสองเป็นคู่หมั้นกันเลยทีเดียว

 

เเม้จะรู้สึกอายจนเเทบขาดใจ​ ฉันก็ลงมือทําไปเเล้ว

 

ต่อให้เป็นอย่างนั้นยูอิจิ​ก็มาเดทกับ​ยัยฟุจิเสะ​ ชิโฮะ​ อยู่ดี

 

หากเป็นฉันตามปกติคงจะคิดเเค่​ [ถึงยังไงดิฉันก็รักยูอิจิมากกว่าคุณอยู่ดี!]​ จากนั้นก็เข้าไปขวาง​การเดท​ล่ะมั้ง

 

เเต่ว่า… ฉันนึกถึงเรื่องที่ยูอิจิบอกเมื่อวาน

 

[มันก็ดึกเเล้วด้วย! ป่านนี้ครอบครัวคงจะเป็นห่วงเเล้วใช่ไหมล่ะ!]

 

คําพูดเหล่านั้น​เป็นคําที่นึกเป็นห่วงฉันจึงเอ่ยขึ้นมา

 

เพียงเเต่… ฉันไม่มีพ่อเเม่เเบบนั้นน่ะสิ

 

ทั้งพ่อ​ ทั้งเเม่​ พวกเขาไม่ได้อยู่ในคฤหาสน์​หลังใหญ่​สุดเเสนเปล่าเปลี่ยว​นั่น

 

ท่านพ่องานยุ่งอยู่ตลอดจนเเทบไม่กลับบ้าน​ หรือต่อให้กลับมา​เขาก็จะเอาเเต่ทํางานในออฟฟิซ​ของตัวเองอยู่ดี

 

พวกเราได้เจอหน้ากันที่บ้านเเค่ปีล่ะครั้งเอง

 

กับตัวเองที่เป็นเเบบนี้… คนที่ไม่เคยได้รับความรักจากใครเเบบนี้​ ฉันเริ่มพะวงว่าจริงๆเเล้วตัวเองรัก​ ชิเกโมโตะ​ ยูอิจิ​ เเน่เหรอ?

 

ถ้างั้นความรักที่ฉันมีให้ยูอิจิมันเป็นเเบบไหนกันล่ะ?

 

ตัวฉันเติบโตมาโดยไม่เคยรู้จักความรัก​ด้วยซํ้า​ งั้นความรู้สึกที่โอบกอดเอาไว้นี่​ ความรู้สึกที่มีต่อยูอิจินี่​ มันคืออะไรกันล่ะ? ฉันไม่มั่นใจขึ้นมา

 

ตอนที่ยูอิจิ​ไปเดทกับ​ยัยฟุจิเสะ​ ชิโฮะ​ พวกเขาดูสนุกสนานกันมาก

 

ฉันเกิดสงสัยว่าตัวเองจะสามารถทําให้ยูอิจิยิ้มอย่างน่ารักด้วยความบริสุทธิ์ใจ​เเบบนั้นได้รึเปล่า

 

เพราะไม่​เข้าใจเรื่องนั้น​ ฉันถึงบังคับตัวเองให้ไปขัดขวางพวกเขาไม่ได้

 

ขืนเป็นเเบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ​ยูอิจิ​กับ​ยัยฟุจิเสะ​ ชิโฮะ​ คงคบกัน​ไม่ผิดเเน่

 

เเม้จะเป็นอย่างนั้นก็ตาม…

 

“อาจจะดีก็ได้นะคะ…”

 

ฉันพึมพําอะไรเเบบนั้น​ ก่อนจะช้อนสายตาไปยังที่ที่อยู่ไกลเเสนไกล

 

ฉันเป็นคนขอปู่ให้ขับรถพามาที่นี่​เเละให้เขาอยู่ด้วยกันกับฉันตั้งเเต่เที่ยงวัน

 

กระทั่งตอนนี้ฉันก็บอกให้เขาไปดู​หน่อยว่าสองคนนั้นอยู่ที่ไหนเป็นครั้งสุดท้าย​ ขณะฉันรออยู่ตรงบริเวณ​ที่สามารถทานอาหารได้อย่างสบายใจเฉิบ

 

ถึงจะมืดไปหน่อยเนื่องจากอยู่ข้างนอก​ เเต่เพราะมีหลอดไฟหรือจุดเเสดงไฟติดตั้งอยู่​ ทําให้ไม่ได้มืดมิดไปหมดเสียทีเดียว

 

ท่ามกลางทุกอย่างที่เกิดขึ้น​ คาโอริ​รอคอยปู่คนนั้นกลับมาตามลําพัง

 

เธอได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาจากข้างหลัง​จึงหันไปมอง

 

“ปู่​ช้าจังเลยนะ… ตายจริง​~ ฮิซามูระคุงนี่”

“…สายัณห์​สวัสดิ์​นะ โทโจวอินซัง”

 

นึกว่าปู่จะกลับมาคนเดียวซะอีก… ใครจะไปคิดว่า​ ฮิซามูระ​ สึคาสะ​ จะตามมาด้วย

 

เเน่นอน​คาโอริทราบเป็นอย่างดีว่า​ ฮิซามูระ​ สึคาสะ​ กับ​ ชิมาดะ​ เซย์​ มาสวนสนุกเเห่งนี้เช่นกัน

 

บางทีทั้งคู่คงคิดจะมาหยุดเมื่อตนเข้าไปขวางล่ะมั้ง

 

เเต่ตอนนี้… เหตุผ​ลที่​สองคนนั้น​มาสวนสนุกน่าจะหายไปหมดเเล้ว

 

“สายัณห์​สวัสดิ์ค่ะ​ เเล้วทําไมเธอต้องตามปู่มายังที่ที่ดิฉันอยู่ด้วยล่ะคะ? โอ้! หรือเธอคิดจะมาหยุดฉันเหรอคะ​ หากเป็นเช่นนั้น​ไม่ต้องห่วง​ ฉันไม่คิดจะเข้าไปขัดขวางหรอกค่ะ”

“…ทําไม​ถึงไม่มาขวางล่ะ​ ไม่ใช่ว่าเธอชอบยูอิจิเหรอ?”

“…นั่นสินะคะ ฉันเริ่มไม่เเน่ใจขึ้นมาเเล้วล่ะ”

 

ชอบน่ะชอบอยู่เเล้ว

 

เเต่ไม่เเน่ใจว่าตัวเองได้ชอบเขา​อย่างถูกต้องรึเปล่า

 

น่าสงสัยว่าคนที่ไม่เคยได้รับความรักจากพ่อเลยอย่างฉัน​ จะสามารถมอบความรักอย่างถูกต้องให้ยูอิจิได้ไหม

 

“…ยอมเเพ้ทําไมล่ะ​ ไม่ใช่ว่าเธอชอบเขามาตั้งเเต่เด็กรึไง”

“ค่ะ​ คงงั้น ดิฉันคิดว่าตัวเองชอบเขา เเต่พอลองไตร่ตรอง​ดูดีๆอาจจะไม่ใช่ก็ได้”

“…งั้นเหรอ​ เธอปอดเเหกขึ้นมาสินะ”

“…อาจจะเป็นอย่างนั้นก็ได้ค่ะ”

“ทําไมต้องกลัวด้วยล่ะ? เธอพูดว่าชอบเขาตั้งขนาดนั้นเลยนี่”

“…เเค่ใจเสาะขึ้นมาเท่านั้นล่ะค่ะ​ ทั้งๆที่มีผู้หญิงอย่างฉันอยู่เเล้วเเท้ๆ​ ยูอิจิยังมีหน้าไปชอบผู้หญิงคนอื่นอีก”

“เห​ สรุปคือเธอยอมรับว่าด้านเสน่ห์ของผู้หญิง​ ตัวเองเเพ้ราบคาบเลยสินะ”

“…อย่างนายจะไปเข้าใจอะไรล่ะ”

 

จวบจนบัดนี้คาโอริคุยโดยหันหน้าไปในทิศทางอื่นตลอด​ ก่อนที่เธอจะหันไปมองหน้าของฮิซามูระเป็นครั้งเเรก

 

สีหน้าของฮิซามูระดูจริงจัง​เป็นอย่างยิ่ง​ เขามองมาทางคาโอริด้วยเเววตาเคร่งเครียด

 

“จะไปเข้าใจได้ยังไงล่ะ​ เเค่ต้นกําเนิดของพวกเราก็ต่างกันเเล้ว​ เเถมโทโจวอินยังเป็นลูกสาวของบริษัทยักษ์​ใหญ่​อีกต่างหาก​ ฉันไม่มีทางรู้หรอกว่าการเป็นคนใหญ่คนโตเเบบนั้น​ มันรู้สึกยังไง”

“…ค่ะ​ นั่นสินะคะ”

“เเต่เธอเองก็ไม่เข้าใจความรู้สึกของชั้นเหมือนกันนี่”

“…อยากจะพูดอะไรกันเเน่?”

“อะไรอย่างความรู้สึกของอีกฝ่ายเนี่ย​ ถ้าไม่พูดออกมาให้ชัด​ก็ไม่มีทางรู้หรอก​ ฉะนั้นชั้นถึงบอกเซย์จังอยู่ตลอดไงว่าชอบเธอขนาดไหน​ รวมถึงบอกน้องสาวอย่างริเอะว่าเธอน่ารัก​ด้วย”

“…ไม่เห็นเข้าใจเลยสักนิด​ว่านายจะพูดอะไร”

“เห้อ~ อุตส่าห์ไม่คิดว่าจะต้องพูดถึงขนาดนี้เเท้ๆเชียว”

 

เขาละสายตาจากฉันไปครู่หนึ่ง​จากนั้น​ฮิซามูระ​ก็ก้มหน้าพร้อมถอนหายใจ​ออกมาเฮือกใหญ่

 

“เพราะอย่างงั้นเธอคงไม่เข้าใจความรู้สึกของพ่อตัวเองเลยล่ะสิ”

“หือ!? นายรู้อะไรน่ะ…!”

 

ฉันไม่เคยบอกเรื่องพ่อกับใครทั้งนั้น​

 

กระทั่งกับยูอิจิก็ไม่เคยคุยเรื่องนี้ด้วยกันสักครั้ง

 

“ตอนนี้เรื่องนั้นจะเป็นยังไงก็ช่าง​ เเต่โทโจวอินคงไม่เข้าใจความรู้สึกของพ่อตัวเองสินะ”

“…ใช่เเล้ว​ ไม่เข้าใจเลยล่ะ​ เเต่ต่อให้ไม่ต้องพ่นออกมาเป็นคําพูด​ เเค่ท่าทีก็ทําให้รู้เเล้วล่ะ​ ท่านพ่อน่ะ… คนๆนั้นเขาไม่ได้ชอบหรือเกลียดฉันด้วยซํ้า”

“เหตุผลที่เธอกลัวคงเป็นนั่นล่ะสิ​ เพราะตัวเองไม่เคยได้รับความรักมาก่อน​เลยไม่เเน่ใจว่าความรักที่ตัวเองมอบให้ยูอิจิเป็นความรักจริงๆรึเปล่า”

“…นาย​ทําไมถึง!”

“เรื่องนั้นไว้ทีหลัง​ งั้นมาลองตรวจสอบให้เเน่ใจกันเถอะว่าพ่อของเธอรักเธอรึเปล่า”

“ห๊ะ…?”

 

ตรวจสอบว่าพ่อรักฉันไหมเหรอ?

 

ของพรรค์นั้น​ คําตอบมันออกมานานเป็นสิบปีเเล้ว​

 

ถึงอย่างนั้นก็เถอะจะใช้วิธีไหนตรวจสอบล่ะ

 

“มีโทรศัพท์อยู่กับตัวใช่ไหมล่ะ​ ลองใช้เจ้านั่นโทรหาพ่อเเล้วถามดูสิว่า​ [รัก​หนูไหม]​ น่ะ”

“…นายพูดอะไรของนายห๊ะ”

“เอาเถอะน่า​ ลองทําดูก่อน​ จะได้รู้ไงว่าตัวเองได้รับความรักจริงไหม”

“…เห้อ~ ต่อให้ฉันโทรไปตอนนี้​จริงๆ​ ท่านพ่อก็ไม่มีทางรับสายหรอก​ ไม่เกี่ยวกับว่ารักหรือไม่รัก​ เเต่เขารับสายไม่ได้ต่างหาก​ ท่านพ่อของฉันงานยุ่งมาก​ ตั้งเเต่ตื่นนอนตอนเช้าตรู่จนถึง​เวลาเข้านอน​เขาก็มีงานเข้ามาอยู่ตลอด​ ทุกนาที​ ไม่สิ​ ทุกสิบวินาทีต่างสําคัญสําหรับเขาทั้งสิ้น”

 

ประธานของโทโจวอินกรุ๊ปบริษัทยักษ์​ใหญ่​ระดับโลก

 

บิดาของคาโอริผู้เป็นประธานของบริษัทนั้นยุ่งมากจริงๆ​ เขาคงไม่มีทางรับสายโทรศัพท์​ที่มาจากไหนไม่รู้​ระหว่างทํางานอย่างเเน่นอน

 

เพียงรับสาย​เเค่ไม่กี่นาที​อาจทําให้ต้องชะลอหรือยุติข้อตกลงทางธุรกิจ​ซึ่งน่าจะมีมูลค่าหลายร้อยล้านเยน​เลยทีเดียว

 

“ช่างเถอะ​ ลองดู​สักหน่อยก็ไม่เห็นเป็นไรนี่​ ต่อให้โทรไม่ติดเธอก็อ้างว่า​ [เขางานยุ่ง]​ ได้ด้วย​ เหมาะสมกับโทโจวอิน​ที่​พึ่งพ่ายเเพ้ให้ฟุจิเสะ​ในด้านเสน่ห์จนต้องเเถว่ายูอิจิตาไม่ถึงสุดๆเลยล่ะ”

“…เอาสิ จะเล่นตามนายสักหน่อยละกัน”

 

หากถูกพูดใส่ขนาดนั้นเเล้วยังปฏิเสธ​คงเสียชื่อ​ โทโจวอิน​ คาโอริ​ กันพอดี

 

ฉันหยิบโทรศัพท์​มือถือออกมาจากนั้นจึงเเตะตรงจุดที่เขียนว่​า​ [ท่านพ่อ]​ ในสมุดรายชื่อที่มีอยู่น้อยนิด

 

ถ้าเเตะอีกครั้ง​จะสามารถโทรออกได้ทันที

 

เเต่มันจะดีเเน่เหรอ?

 

ขืนเขาอยู่ในประชุมทางธุรกิจที่สําคัญมากๆล่ะก็​ กระทั่งเสียงโทรศัพท์อันน้อยนิด​ก็น่ารําคาญอยู่ดี

 

เเถมยังกระทัน​หัน​สุดๆอีก​ คงไม่จบเเค่ถูกต่อว่าธรรมดาเเน่ๆ

 

“เป็นอะไรไปล่ะ? หรือที่เเท้​ โทโจวอิน​ คาโอริ​ จะเป็นพวกขี้ขลาดงั้นเหรอ?”

“…โทรติดหรือไม่ติด ฉันก็จะทําให้นายเสียใจอยู่ดี เตรียมใจไว้เถอะ”

 

เมื่อพูดอย่างนั้นจบ​คาโอริ​ก็ได้เเตะลงไปบนหน้าจอมือถืออีกครั้ง

 

เสียงอิเล็กทรอนิกส์ที่เป็นริงโทน​ของโทรศัพท์ดังกึกก้อง

 

ครั้งที่หนึ่ง​ ครั้งที่สอง​ -​-เเละเสียงรับสายก็ดังขึ้น

 

“เอ๊ะ…?”

 

คาโอริพึมพํา​โดยไม่ได้ตั้งใจ​ นึกว่า​หูของตัวเองฝาดไป

 

[ฮัลโหล​ มีอะไรรึ?​ คาโอริ]

 

ฉันได้ยินเสียงของบิดาดังมาจากอีกฟากของปลายสาย

 

ติดตามเพจผู้เเปลได้ที่​ Ao2Sides​

Love Comedy Manga ni Haitte​ shimatta node, Oshi no Make Heroine wo Zenryoku de Shiawase ni Suru

Love Comedy Manga ni Haitte​ shimatta node, Oshi no Make Heroine wo Zenryoku de Shiawase ni Suru

Status: Ongoing

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท