[ฮัลโหล มีอะไรรึ? คาโอริ]
เสียงของบิดาดังมาจากอีกฟากของปลายสาย
ฉันเร่งรีบนําโทรศัพท์มาทาบหูเเละตอบกลับในทันทีทันใด
“ทะ.. ท่านพ่อ ขออภัยค่ะที่จู่ๆก็โทรมากะทันหันเเบบนี้”
[อื้อ ตกใจมากเลยล่ะ]
“ทั้งๆที่น่าจะยุ่งอยู่เเท้ๆ อุตส่าห์รับสายโทรศัพท์ของหนูจะดีเหรอคะ…?”
[หืม? พ่อบ้านไหนเขาไม่รับโทรศัพท์ลูกตัวเองล่ะ?]
“…”
เมื่อได้ฟังคําพูดเหล่านั้น ฉันเเทบจะพูดไม่ออก
เพียงไม่กี่สิบวินาทีก็มีผลกระทบต่อตารางงานได้ กระทั่งการสนทนาไม่กี่วินาทีนี้อาจทําให้ต้องชะลองานไปพอสมควรเลยทีเดียว
ทั้งอย่างนั้น… ไม่คิดมาก่อนเลยว่าบิดาของตัวเองจะคิดถึงตนมากขนาดนี้
[เเล้วมีธุระอะไรรึเปล่า?]
“เอ่อ คือว่า…”
จริงด้วย สาเหตุในการโทรครั้งนี้… ฉันเหลือบมองไปทางฮิซามูระครู่นึง
เพราะไม่นึกไม่ฝันว่าจะโทรติดจึงไม่ได้นึกไว้เลยว่าจะได้ฟังเรื่องน่าอายเช่นนี้
ถึงอย่างนั้นจะขโมยเวลาอันเเสนมีค่าของท่านพ่อก็ใช่เรื่อง ฉันจึงรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มีเเละไถ่ถามออกไป
“ยะ.. อยากถามน่ะค่ะ วะ.. ว่าท่านพ่อรักหนูไหม…”
[…เป็นอย่างนั้นเองเรอะ]
“…”
ฉันพูดอะไรไม่ออก เพียงเเต่คราวนี้เป็นเหตุผลที่ต่างจากเมื่อกี้โดยสิ้นเชิง
กะเเล้วอย่างท่านพ่อคงไม่ได้คิดอะไรกับฉันหรอก–
[ต้องรักอยู่เเล้วสิ]
“…เอ๊ะ?”
[ฟังไม่ชัดเหรอ? สัญญาณเเถวนี้มันห่วยจังเลยนะ นี่! ช่วยรีบเปลี่ยนสัญญาณของตึกนี่เดี๋ยวนี้เลย!]
เสียงของท่านพ่อที่กําลังให้คําสั่งบุคคลใกล้ตัวลอยมาถึงหูของฉันอย่างชัดเจนเเจ่มเเจ้ง
“มะ.. ไม่ใช่ค่ะ! หนูได้ยินเเล้ว เต็มสองหูเลย…”
[งั้นเหรอ? หากเป็นอย่างนั้นก็ดีไป]
“ระ.. รักหนูจริงๆเหรอคะ…?”
[การที่คนเป็นพ่อจะรักลูกสาว มันเป็นเรื่องเเน่นอนอยู่เเล้ว]
“…!”
คําพูดเหล่านั้นทําเอานํ้าตาของฉันไหลพรากโดยไม่รู้ตัว
ฉันคิดมาตลอดว่าตัวเองไม่เคยถูกรักเเม้เเต่ครั้งเดียว
ก็ท่านพ่อไม่เคยเเสดงให้เห็นสักครั้งเลยนี่ เเถมยังไม่เคยถูกพูดใส่เเบบนั้นอีก
คนที่ฉันคุยอยู่ด้วยตอนนี้เป็นท่านพ่อเเน่เหรอ
มิใช่ของปลอม เเต่เป็นของจริง… ความรักนั่นเป็นของเเท้งั้นเหรอ
“ทะ.. ท่านพ่อ…”
[หืม? มะ.. มีอะไรรึ? คาโอริ ทําไมถึงต้องร้องไห้ด้วยล่ะ?]
“อึก… อะ… ขอโทษค่ะ…”
[พะ.. พ่อได้ทําอะไรลงไปรึเปล่า? หรือลูกเข้าไปพัวพันกับปัญหาบางอย่าง? ไม่ต้องห่วงนะ เดี๋ยวพ่อจะรีบพุ่งไปหาทันทีเลย!]
“เอ๊ะ?”
[เห้ย! รีบยกเลิกตารางงานต่อจากนี้ทั้งหมดเลย! มื้ออาหารเย็นกับประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาเหรอ? ช่างหัวมันสิ เอาไว้ทีหลังก็ได้]
“ระ.. รอก่อนสิคะ! หนูสบายดีค่ะท่านพ่อ!”
[เเน่ใจนะ? คงไม่ได้ฝืนตัวเองใช่ไหม?]
“ค่ะ… ไม่เป็นไรค่ะ”
ไม่ยักนึกยักฝันว่าท่านพ่อจะนึกถึงความรู้สึกของตนเพียงนี้
ฉันนึกว่าตัวเองถูกมองอย่างไม่เเยเเสมาโดยตลอดเสียอีก
เเต่ว่าทั้งหมดนั่น… มีเเค่ฉันที่เข้าใจผิดไปเองสินะ?
[…งั้นก็ดี จะว่าไปเเล้วเกี่ยวกับเรื่องมื้อคํ่าวันเสาร์หน้าน่ะ อยากกินอะไรเหรอ?]
“อ๊ะ…”
พอท่านพ่อกล่าวขึ้นมาถึงนึกขึ้นได้… ไม่สิ คงเพราะฉันพยายามหลีกหน้าหนีจากมันเองล่ะมั้ง เสาร์หน้าคือวันที่ฉันกับท่านพ่อจะได้ทานอาหารคํ่าด้วยกันเเค่เดือนล่ะครั้ง
ทุกทีพวกเราจะทานอาหารด้วยกันที่ร้านอาหารอันเเสนเลิศหรูอยู่เสมอ เเต่ดูเหมือนทุกครั้งปู่จะพูดไว้ด้วยว่า [นายท่านต้องการทราบว่าคุณหนูอยากทานอะไรน่ะครับ]
เเล้วทุกรอบฉันก็จะตอบว่า [อะไรก็ได้ค่ะ]
อย่างไรก็ตามนี่เป็นครั้งเเรกที่ฉันถูกถามตรงๆเเบบนี้
“เอ่อ… ขอได้ทุกอย่างเหรอคะ”
[อา อะไรก็ได้เลย ไม่มีสิ่งใดที่พ่อตระเตรียมไม่ได้หรอก]
เขาเป็นถึงประธานของบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างโทโจวอินกรุ๊ปเลยนี่นะ คงไม่มีวัตถุดิบไหนบนโลกจริงๆนั่นเเหละที่เขาเตรียมการมาไม่ได้
เเต่… คาโอรินั้นไม่ได้ต้องการอะไรพิเศษพิโส
ในฐานะลูกสาวเธอต้องการเพียง…
“เเบบว่า… อยากลองรับประทานอาหารทํามือของท่านพ่อดูค่ะ”
[…อาหารทํามือของพ่อรึ?]
“คะ.. ค่ะ”
[เเค่นั้นจะดีเรอะ? ความจริงจะเป็นร้านอาหารหรูที่ไหนก็ได้ทั้งนั้นนะ]
“ไม่จําเป็นหรอกค่ะ… หนูก็เเค่อยากกินอาหารที่ท่านพ่อทําเท่านั้นเอง”
สมัยยังเป็นเด็ก… เเม้จะจดจําไม่ได้ว่าอายุเท่าไหร่
ตอนนั้นเป็นเวลาที่บริษัทรวมถึงบ้านยังไม่ใหญ่โตมากนัก
ในเวลานั้นฉันจําได้ว่าตนเองเคยกินอาหารทํามือของท่านพ่อ
ถึงจะลืมเลือนไปว่าเป็นอาหารชนิดไหน… เเต่มีสิ่งนึงที่จดจําได้เป็นอย่างดี นั่นคือมันอร่อยอย่างยิ่งยวด
ต่อให้ได้ทานอาหารเอร็ดอร่อยในร้านที่ดูหรูหรามามากเพียงใด ฉันก็ยังไม่ลืมอาหารจานนั้นที่ท่านพ่อทําให้อยู่ดี
ฉันอยากจะกินอาหารเมื่อตอนนั้น
อย่างไรสถานการณ์ ณ ปัจจุบันกับเเต่ก่อนนั้นต่างกันลิบลับ
ดังที่ได้กล่าวไปข้างต้น ท่านพ่อในตอนนี้จําเป็นต้องจัดการกับตารางงานของตัวเองด้วยเวลาเพียงไม่กี่สิบวินาทีด้วยซํ้า
ระหว่างที่งานยุ่งเหยิงขนาดนั้น เขาคงไม่มีเวลามาทําอาหารเพื่อฉันเพียงผู้เดียวหรอก
[อื้ม งั้นเหรอ… เข้าใจเเล้ว พ่อเองก็ไม่ได้ทําอาหารมานานเเล้วด้วย จะออกมาดีรึเปล่าก็ไม่รู้เหมือนกัน เเต่พ่อจะทําให้เอง]
“เอ๋… จะดีเหรอคะ?”
[เเน่นอนอยู่เเล้ว เเต่นั่นสินะ… พ่อเองก็มีคําขออย่างนึงเหมือนกัน ช่วยรับฟังหน่อยได้ไหม?]
“คะ.. ค่ะ คําขอที่ว่าคืออะไรเหรอคะ?”
เท่าที่ฉันจําได้เเทบจะไม่มีสักครั้งที่ท่านพ่อมาขอร้องเเบบนี้
เขาจะขอเรื่องอะไรกันนะ ขณะที่ฉันพลางไตร่ตรองในหัวเช่นนั้น…
[พ่อเองก็อยากกินอาหารทํามือของคาโอริเหมือนกัน… จะเป็นไรไหม?]
“อ๊ะ… ดะ.. ได้เเน่นอนค่ะ! ถ้าท่านพ่อยอมทานหนูจะดีใจมากค่ะ!”
[…งั้นเหรอ ขอบใจนะ พ่อจะตั้งตารอเลยล่ะ]
“คะ.. ค่ะ หนูเองก็ด้วย…”
[…โทษทีนะ พอดีเลขาเขามองมาทางนี้ด้วยเเววตาอาฆาตเเล้วน่ะ คงต้องวางสายกันเท่านี้]
“อะ… นั่นสินะคะ ขอโทษค่ะที่โทรมากะทันหันเเบบนี้…”
[ไม่ต้องกังวลหรอก]
ก่อนจะจากกันคาโอริมีคําพูดสุดท้ายที่อยากจะบอก
“เอิ่ม… ท่านพ่อ”
[มีอะไรรึ?]
“…หนูเองก็รักท่านพ่อเหมือนกันค่ะ”
[…งั้นรึ ขอบใจมากนะ]
“คะ.. ค่ะ …เดี๋ยวไว้เจอกันตอนมื้อคํ่านะคะ”
[อื้ม ตั้งหน้าตั้งตารอได้เลย]
หลังจากนั้นสายโทรศัพท์ก็ถูกตัดลง
ติดตามเพจผู้เเปลได้ที่ Ao2Sides