Love Comedy Manga ni Haitte​ shimatta node, Oshi no Make Heroine wo Zenryoku de Shiawase ni Suru – ตอนที่ 39

Love Comedy Manga ni Haitte​ shimatta node, Oshi no Make Heroine wo Zenryoku de Shiawase ni Suru

ต่อจากนั้นผมก็เข้าคาบเรียนตามปกติ​ เวลาล่วงเลยมาจนถึงพักเที่ยง

 

“โย่! ยูอิจิ”

 

ผมเสนอหน้ามาทานข้าวเที่ยงบริเวณริมหน้าต่างกับยูอิจิอีกตามเคย

 

ตัวผมนั่งอยู่เก้าอี้หน้า​ ขณะที่ยูอิจินั่งอยู่เก้าอี้หลัง​ จากนั้นพวกเราก็ลงมือสวาปามอาหารอย่างเอร็ดอร่อย​

 

“อ้อ! เมื่อวานนี้​ขอบใจนะ​ สึคาสะ​ ถึงจะไม่ได้เจอนายสักครั้ง​ เเต่พวกนายคอยเฝ้าระวังเพื่อให้เดตของฉันกับฟุจิเสะเป็นไปอย่างราบรื่นใช่ไหม?”

“อ๋อ~ เกี่ยวกับเรื่องนั้น…”

 

จะว่าไปเราไม่ได้บอกยูอิจิไปนี่หว่าว่าที่โทโจวอินซังโผล่หัวไปที่นั่นเป็นความผิดเรา

 

ผมใช้โอกาสนี้อธิบายเรื่องทั้งหมดให้ยูอิจิฟัง​ระหว่างที่เรากินข้าวอย่างสบายใจ

 

“ห๊ะ? เป็นงั้นหรอกเรอะ”

“อืม ฉันผิดเอง​ สุดท้ายดูเหมือนพวกเราจะไปขัดขวางนายซะมากกว่า”

“ไม่เป็นไรหรอก​ เพราะอย่างนั้นชั้นถึงได้… ทราบความรู้สึกของคาโอริด้วย”

“พวกเอ็งรีบๆระเบิดไปเหอะ”

“จู่ๆพูดอะไรออกมาฟะ!?”

“นายเนี่ยนะ​ ลองวิเคราะห์​สถานการณ์ของตัวเอง​ในตอนนี้ดูดีๆสิ​ ไม่ใช่เเค่ถูกสารภาพรักจากเพื่อนสมัยเด็กลูกคุณหนูอกระเบิด​ กระทั่งสาวน้อยผู้เป็นที่นิยมในหมู่หนุ่มๆยังมาชอบนายอีก… ถ้ามีคนอยู่ในสถานะเเบบเดียวกับนายจะทํายังไงล่ะ?”

“…มีหวังชั้นได้ถือมีดไปเเทงหมอนั่นตอนกลางคืนเเหงๆเลยว่ะ”

“… ก็เข้าใจดีนี่​ ดึกดื่นก็ระวังตัวเข้าไว้ล่ะ”

“รอประเดี๋ยวสิ​ ที่บอกจะเเทงนั่นล้อเล่นเฉยๆเฟ้ย​ เเต่ตามปกติก็ต้องเเอบอิจฉานิดๆอยู่เเล้ว”

“นั่นสินะ​ เพราะเเบบนั้นดึกดื่นนายถึงต้องระวังหลังไว้ให้ดีไง”

“ก็บอกเเล้วไงว่าเมื่อกี้มันเป็นมุขน่ะ!”

“เเหมๆ~ ไม่ต้องห่วงหรอก​ คนเลวๆที่มีความคิดจะเเทงหลังยูอิจิ​ ดิฉันจะทําลายพวกมันให้สิ้นซากเอง​ ช่วงมืดๆก็เชิญเดินเคียงบ่าเคียงไหล่ฉันได้ตามสบาย”

“…”

 

ขณะที่ผมกับยูอิจิกําลังคุยเรื่องไม่เป็นเรื่องกันนั้นเอง​ อยู่ดีๆก็ได้ยินเสียงผู้หญิงลอยมาจากด้านข้าง

 

พอเราเเหงนหน้ามองอย่างพร้อมเพรียง​ โทโจวอิน​ คาโอริ​ ก็ยืนอยู่ตรงนั้นอย่างไม่ต้องสงสัย​

 

“เป็นเช้าที่ดีนะคะ ยูอิจิ​ ฮิซามูระคุง”

“งะ.. ไง! คาโอริ”

“อะ.. อรุณสวัสดิ์​ โทโจวอินซัง”

 

โทโจวอินซังครอบครองสกิลที่สามารถลบกลิ่นอาย​ได้รึไงนะ

 

ก่อนหน้าที่เธอจะส่งเสียงเรียก​ พวกเราไม่เเม้เเต่จะรู้สึกตัวเลยสักนิด

 

ไงดีล่ะเทียบกับเมื่อวานตอนที่เธอตัดสินใจว่าจะไม่ไปขัดขวางการเดต วันนี้เธอดูเปล่งปลั่งมากเลยเเฮะ

 

เเค่เธอก้าวเดินเข้ามาในห้องเรียนนี้​ สายตาส่วนใหญ่ก็มารวมที่พวกเราเเล้ว

 

“ยูอิจิ​ วันนี้ฉันอุตส่าห์ทําข้าวกล่องมาให้โดยเฉพาะเลย​ คงจะยอมทานอยู่เเล้วใช่ไหมคะ?”

“เอ๊ะ? จริงเหรอ? ว่าเเต่คาโอริทําอาหารเป็นด้วย?”

“เเน่นอนค่ะ​ ไม่มีอะไรที่ฉันทําไม่ได้หรอก”

 

ถ้าจําไม่ผิดอาหารที่โทโจวอินซังทําอยู่ในระดับที่ขนาดเชฟมือโปรยังต้องอายจนมุดดินหนี

 

ยูอิจิรับข้าวกล่องจากมือเธอเเละเปิดฝาปิดออก​ ด้านในเต็มไปด้วยอาหารน่ากินทําเอานํ้าลายสอเรียงรายเต็มไปหมด

 

“โห! สุดยอดด!”

“หุหุ~ เริ่มตั้งเเต่พรุ่งนี้จะทํามาให้ทุกวันเลยค่ะ​ เดิมทียูอิจิก็กินจุอยู่เเล้ว​ คงไหวเนอะ?”

“อื้อ! เเค่นี้ของกล้วยๆเลยล่ะ”

“หืม? เเปลว่าพรุ่งนี้โทโจวอินซังก็จะมาห้องนี้เเละกินข้าวกับพวกเราเหรอ?”

“ค่ะ​ ตั้งใจจะทําอย่างนั้น​เเหละ หรือจะเป็นการรบกวน​รึเปล่าคะ?”

“มะ.. ไม่เลยสักนิดครับ​ ผมไม่ว่าอะไร”

 

ไม่อยากเชื่อว่าโทโจวอินซังจะลงทุนถึงขั้นนี้

 

บางทีอาจจะเป็นเเผนมัดใจยูอิจิด้วยสเน่ห์ปลายจวักล่ะมั้ง

 

อีกมุมนึงผู้ลงสมัครเป็นเเฟนสาวของยูอิจิอีกคนเองก็…

 

“ทะ.. ทําไงดีอ่าา​ เซย์จัง​ ฉันทําข้าวกล่องให้เขาด้วยดีไหม…?”

“ไม่สิ.. กรณีของชิโฮะ​ ต้องเริ่มจากฝึกก่อนไม่ใช่เหรอ”

 

ฟุจิเสะสอดส่องมาทางนี้ด้วยท่าทางกระวนกระวายใจ อีกด้านนึงสีหน้าของเซย์จังดูซีดเซียว​ลงเล็กน้อย

 

ใช่เเล้ว​ ฟุจิเสะเป็น… นางเอกสุดน่ารัก​ที่ทําอาหารได้โคตรบรมห่วยตามสูตรสําเร็จเป๊ะๆ!

 

พวกคุณเคยเห็นใช่ไหม? นางเอกในมังงะเลิฟคอมที่ตั้งใจจะทําอาหาร เเต่ดันสร้างสสารมืดออกมาเป็นว่าเล่นน่ะ

 

อยากรู้จริงๆว่าหล่อนสร้างของน่าสะอิดสะเอียน​เเบบนั้นได้ยังไง? ใส่ส่วนผสมลับลงไปเรอะ?

 

ทั้งๆที่ปกติไม่ค่อยทําตัวซุ่มซ่ามเงอะงะให้เห็นเเท้ๆ​ ไหงเวลาทําอาหารถึงพลาดอะไรเด็กๆอย่างจําเกลือผิดเป็นนํ้าตาลได้ล่ะ

 

ผลลัพธ์ที่ได้หลังจากยําเครื่องปรุงทุกอย่างลงไป… คือไวท์สตูว์​ที่ไม่ได้ไวท์ตามชื่อเเต่ดําปิ๊ดปี๋เลยนี่สิ!

 

กลับกันเซย์จังที่ชอบเเสดงด้านบ้งๆให้เห็นบ่อยๆ​ ดันทําอาหารรสเลิศได้อย่างไร้ที่ติซะงั้น…. อิงตามต้นฉบับอะนะ

 

คาใจสุดๆ… ก็จริงที่ผมเเอบคาใจเรื่องอาหารสุดห่วยที่ฟุจิเสะทําอยู่นิดๆ​ เเต่ยิ่งกว่านั้นคือความรู้สึกอยากกินข้าวกล่องทํามือของเซย์จังจนใจจะขาด

 

อาหารมื้อสุดท้ายก่อนตาย​ ยังไงก็ต้องเป็นรสมือของเซย์จังนี่เเหละดีสุด

 

“เซย์จัง​ ไว้คราวหน้าช่วยสอนฉันทีสิ?”

“ดะ.. ได้อยู่เเล้ว​ เเต่เเค่เรื่องทําอาหารเท่านั้น​ ช่วยทําตามที่ฉันสั่งทุกขั้นตอนเถอะนะ​ ขอร้องล่ะ”

“อื้ม! ขอบใจจ๊ะ!”

 

…อีกฟากสนทนากันเเบบนั้น​ เป็นห่วงสุดๆเลยเรา

 

สกิลทําอาหารของฟุจิเสะเเย่ถึงขั้นที่เซย์จังยังไม่กล้าที่จะรับปากเดี๋ยวนั้นเลยทีเดียว

 

เซย์จังที่เอาใจใส่เพื่อนระดับที่ยอมดั้นด้น​ไปเฝ้าเดตให้โดยไม่ลังเลคนนั้นเลยนะ

 

อาหารธรรมดาๆที่ฟุจิเสะทํามันน่าสยดสยองถึงขนาดทําให้เธอสองจิตสองใจ​อยู่พักนึงเลยล่ะ

 

“ยูอิจิ​ ฮิซามูระคุง​ ขอนั่งตรงนี้ได้ไหมเอ่ย?”

“อา​ ได้สิ”

“เชิญตามสบายเลยครับ”

 

โทโจวอินซังล้มตัวลงนั่งใกล้กับเก้าอี้ของพวกเราเเละดึงฝาข้าวกล่องของตัวเองออก

 

ดูเหมือนกับข้าวด้านในจะเป็นเเบบเดียวกับยูอิจิเปี๊ยบๆ

 

“หุหุ~ พอเห็นข้าวกล่องเเบบเดียวกันวางตระหง่าน​อยู่ตรงหน้าเเบบนี้​ เหมือนพวกเราได้เป็นครอบครัวเดียวกันเลยเนอะ ยูอิจิ”

“…คะ​ คิดงั้นเหรอ”

“ใช่ค่ะ ดิฉันเป็นภรรยาข้าวใหม่​ปลามัน​ ส่วนยูอิจิเป็นสามีฝึกหัดผู้ไร้ประสบการณ์​… ในวันเกิดปีหน้าของยูอิจิ​ ทุกอย่างที่พูดอาจกลายเป็นจริงก็ได้”

“….นะ​ นั่นสิน้า~ ใครจะไปรู้~”

 

…รุกไม่บันยะบันยัง​เลยนี่หว่า​ โทโจวอินซัง

 

ถึงจะเป็นช่วงพักเที่ยง​ เเต่พวกเรายังอยู่ในห้องเรียนนะโว้ย

 

นักเรียนคนอื่นๆที่เดินผ่านไปผ่านมาไม่อยู่ในสายตาเลยรึไง?

 

ตั้งเเต่ที่โทโจวอินซังยํ่าก้าวเข้ามาในห้อง ทุกคนก็ดักฟังกันใหญ่เลยนะ รู้ไหม?

 

“ดะ.. ได้ยินที่พวกนั้นพูดไหม…?”

“ตามที่ข่าวลือบอกเลย​ สองคนนั้นหมั้นกันเเล้วจริงด้วย…”

 

เสียงซุบซิบของนักเรียนรอบข้างดังกระฉ่อน​

 

…พวกเอ็งเรื่องพวกนี้ควรพูดตอนเจ้าตัวไม่อยู่​ไม่ใช่เรอะ หรืออย่างน้อยก็กระซิบกันเบาๆไม่ให้คนอื่นได้ยินหน่อยสิ?

 

ทางนี้ได้ยินเต็มสองหูเลยนะเฟ้ย

 

“ต๊ายตาย พวกเรายังไม่ได้หมั้นกันหรอกนะคะ”

 

เเน่นอนว่าโทโจวอินซังก็ย่อมได้ยินเสียงนินทาทั้งหลายเเหล่เช่นกัน เเต่การที่เธอเเสดงท่าทีตอบกลับดูจะผิดคาดไปหน่อย​ ผมกับนักเรียนที่เหลือจึงตะลึงเล็กน้อย

 

“อ๊ะ.. ปะ.. เป็นเเบบนั้นนี่เอง”

 

หนึ่งในนักเรียนชายคนนึงที่อยู่ใกล้ๆเอ่ยทําทีเข้าใจ

 

“ค่ะ​ ถูกต้องเเล้ว ถึงอย่างนั้น… ตะกี้ที่ฉันบอกว่าอยากเเต่งงานกับยูอิจิเป็นความจริงค่ะ”

“เอ๋!!???”

 

ด้วยความที่โทโจวอินซังกล่าวออกมาโดยไม่คิดจะปิดบัง จึงไม่ใช่เเค่หนุ่มๆที่ช็อค​ กระทั่งนักเรียนรอบสารทิศ​ก็ต่างอุทานด้วยความตกใจตามไปด้วย

 

ในหมู่นักเรียนหญิงบางคนถึงขนาดตะโกนเอาใจช่วยด้วยซํ้า

 

“ดะ.. เดี๋ยวสิ! คาโอริ! เล่นมาประกาศ​ในที่เเบบนี้…!”

“ตายจริง​~ ยูอิจิเป็นฝ่ายผิดเองนะคะ ที่ไม่เข้าใจความรู้สึกของฉันมาโดยตลอดน่ะ?”

“ระ.. เรื่องนั้นต้องขออภัย​อย่างสุดซึ้งด้วยครับ…!”

 

โทโจวอินซังเเข็งเเกร่งชะมัด

 

ถ้ายังเป็นเเบบนี้ต่อไปข่าวลือหนาหูต้องเเพร่สะพัดไปทั่วรั้วโรงเรียนไม่ผิดเเน่

 

เนื้อหาต้องเป็นงี้เเหงๆ [โทโจวอิน​ คาโอริ​ รัก​ ชิเกโมโตะ​ ยูอิจิ​ มว๊ากๆหวังถึงขั้นเเต่งงานกับเขา]​

 

หนําซํ้าข่าวฉาวรอบนี้ไม่ใช่เรื่องใส่สีตีไข่เหมือนรอบก่อน​ เเต่เป็นเรื่องจริงเสียงจริงที่มีสักขีพยาน​อยู่หลายคน

 

มาอีหรอบนี้จะกระจายไปไวกว่ารอบก่อนก็ไม่ใช่เรื่องเเปลก

 

ขืนเป็นงั้น… ก็ไม่มีช่องว่างให้ฟุจิเสะเข้ามาเเทรกกันพอดี

 

“ระ.. รอเดี๋ยวสิ…!”

 

ขณะที่หัวพลางคิดเรื่องนั้นอยู่​ จู่ๆก็มีเสียงกรีดร้องดังกังวานขึ้นชะงักความสับสนวุ่นวายในห้องเรียนเอาไว้

 

พอมองไปทางต้นกําเนิดเสียง​ ฟุจิเสะ​ ชิโฮะ​ ที่นั่งห่างๆจนถึงเมื่อกี้ก็ยืนขึ้นเเละค่อยๆเดินมาทางนี้

 

ท่ามกลางสายตาของนักเรียนจากทุกมุมห้องที่พุ่งเข้าหา เธอขึ้นเสียงเเละลั่นออกมาเเบบนั้นด้วยใบหน้าอันเเดงเเจ๋

 

“ฉะ.. ฉันเองก็…! ฉันเองก็ชอบยูอิจิคุงเหมือนกัน! ไม่คิดจะเเพ้คนอย่างโทโจวอินซังหรอก!”

 

ความเงียบงันปกคลุมทั่วทั้งห้องอยู่ครู่หนึ่ง​ ก่อนที่ห้องเรียนจะอัดอั้น​ไปด้วยเสียงโหวกเหวก​เเสบหู

 

“หาาาาา!?”

“ฟะ.. ฟุจิเสะซังก็ชอบชิเกโมโตะกับเขาด้วยคน!?”

“โกหกกันช่ายยม้ายย!? สองสาวสุดน่ารักประจําโรงเรียน​ ชอบไอ้ชิเกโมโตะมันทั้งคู่เลยเร้อ!?”

“จะนองเลือดกันเเล้ว! ซัดกันเลย! โคตรชอบเลยโว้ย!”

 

โหวกเหวก​กันหนวกหูฉิบเป๋ง

 

พวกผู้ชายยิ่งเเล้วใหญ่ก่นด่าด้วยความอิจฉาตาร้อนจนสติเเตกไปเเล้ว

 

อืมๆ ชั้นเข้าใจหัวอกพวกนายดี

 

ถ้าเราไม่มีเซย์จัง ป่านนี้คงไปรวมหัวกับพวกนั้นเเล้ว

 

“ดะ.. เดี๋ยวเถอะ… ฟุจิเสะด้วย… ทําไมต้องตอนนี้…!”

“กะ.. ก็ถ้าตอนนี้ไม่พูดอะไร​ เดี๋ยวข่าวลือว่าชิเกโมโตะคุงกับโทโจวอินซังเป็นคู่หมั้นกันจะกลับมาเเพร่อีก…!”

“หุหุ~ ใจกล้าไม่เบานี่​ ฟุจิเสะซัง​ ค่อยสมเป็นคู่เเข่งฟ้าประทาน​ของดิฉันขึ้นมาหน่อย”

 

รู้ตัวอีกทีโทโจวอินซังก็ยืนขึ้นมาเเล้ว​ ทั้งคู่จ้องกันตาไม่กะพริบเเละฉีกยิ้มใส่กันอย่างหน้าขนลุก

 

“ถึงจะรู้สึกผิดกับฟุจิเสะซัง​ เเต่ตั้งเเต่เกิดมาบนโลกใบนี้​ ฉันไม่เคยเเพ้ใครมาก่อนเลยนะ”

“งั้นก็ดีใจด้วยจ๊ะ​ที่จะได้ลิ้มรสความพ่ายเเพ้เป็นครั้งเเรกน่ะ น่าจะทําให้เเกร่งขึ้นโขเลย”

“ต่อให้เเพ้สักครั้งสองครั้ง​ ยังไงก็ไม่ใช่ที่นี่หรอกค่ะ”

“เรื่องนั้นจะเป็นยังไงน้า~ ชีวิตมันไม่เเน่นอน~ อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้นเเหละ~”

 

…เถียงกันสายฟ้าเเลบเลยนี่ ยัยสองคนนี้

 

เมื่อได้ฟังการโต้วาที​อันสุดกู่ของทั้งคู่​ ห้องเรียนที่ปกคลุมไปด้วยเสียงโวยวายจนถึงเมื่อกี้ก็เงียบสงัด​ลงในทันที

 

“ชิเกโมโตะคุง​ ฮิซามูระคุง​ ขอฉันทานตรงนี้ด้วยคนสิจ๊ะ?”

“อึก.. อืม… ตามสบายเลย”

“ถ้ายูอิจิว่างั้น​ ผมก็ไม่มีสิทธิบ่นหรอกงับ”

“ขอบใจน้าา~”

“อุ๊ยตาย~ ไม่ขอความเห็นจากดิฉันสักคําหน่อยเหรอ?”

“เอ๋~ โทษทีจ้า~ ลืมไปเลยว่ามีโทโจวอินซังอยู่ด้วย​ ให้ฉันนั่งได้ไหมน้า~?”

“…หึหึ​ เเล้วเเต่เธอสิ”

 

น่ากลั๊วน่ากลัว​ คนอะไรจะน่ากลัวขนาดนี้

 

อ่าว​ อย่าบอกนะว่านับเเต่นี้เป็นต้นไปตรูต้องมานั่งกินข้าวกลางดงตรีนสามหน่อนี่น่ะ

 

“ยูอิจิ​ ตั้งเเต่พรุ่งนี้​ชั้นขอไปกินข้าวที่โรงอาหารเเทนได้ปะ?”

“อย่านะเฟ้ย​ กราบล่ะอยู่ที่นี่เป็นเพื่อนฉันเถอะ”

“…”

“อย่าเงียบเป็นเป่าสาก​เเละพูดอะไรออกมาหน่อยเซ่”

 

ควรทํายังไงดีเนี่ยเรา​ ทิ้งยูอิจิมันไปเลยดีไหม

 

“อ๊ะ! เซย์จัง! เซย์จังก็มานั่งกินกับพวกเราสิ!”

“…ชิโฮะ​ ดีใจอยู่หรอกที่ยังไม่ลืมฉัน​ เเต่หัดดูเวลาซะบ้าง?”

“อื้มๆ​ มากินด้วยกันเถอะ!”

“…เห้อ~ ค่าๆ”

 

ห๊ะ? เซย์จังจะเข้าร่วมกลุ่มนี้เหรอ?

 

เเปลว่าถ้าเราเลือกอยู่ที่นี่​ พวกเราจะตัวติดกันตลอด…

 

“ยูอิจิเพื่อนรัก​ ชั้นจะไปทิ้งเเกได้ไงกันห๊าา~ มากินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากันเถอะพวก”

“เอ็งนี่มันเพื่อนชั่วจริงๆเลยว่ะ”

 

ชั่วช้าบ้าบอคอเเตกอะไร​ ไอเราก็อุตส่าห์เห็นดีเห็นงามกับยูอิจิเลยคิดจะอยู่ช่วยมันเเท้ๆ

 

ด้วยเหตุนี้นี่เอง​พวกเราห้าคนจึงตัดสินใจนั่งโต๊ะอาหารเดียวกัน​เเละปรับเปลี่ยนที่นั่งกันเล็กน้อย

 

ดันโต๊ะกับเก้าอี้บริเวณใกล้ๆเข้าหากัน

 

ยูอิจินั่งฝั่งตรงข้าม​ ตามด้วยโทโจวอินซังกับฟุจิเสะนั่งขนาบข้างหมอนั่นเเบบเเนบชิดเเนบเนื้อ

 

ส่วนคนที่นั่งติดกับผมคือ… เซย์จัง

 

“ฝากตัวด้วย​นะ​ เซย์จ- อะเเฮ่ม… ชิมาดะ”

“อะ.. อาา​ ฝากตัวด้วย”

 

ยังมีนักเรียนพลุกพล่านชุกชุมอยู่เเท้ๆ​ ​เกือบเผลอหลุดเรียกเซย์จังต่อหน้าพวกนั้นเเล้วไง

 

เซย์จังที่เเก้มเเดงนิดๆมองมาทางนี้ใหญ่เลย​ ขอประทานโทษเป็นอย่างสูงครับ

 

“ยูอิจิ​ ข้าวกล่องที่ฉันทํา​อร่อยไหมเอ่ย?”

“หือ? อ้อ! อร่อยสิ”

“เหะๆ~ โล่งอกไปที”

“ชิเกโมโตะคุง​ ไว้คราวหน้าเดี๋ยวฉันทํามาบ้าง​ ชิมให้หน่อยนะ?”

“เเหงอยู่เเล้ว​ ตั้งหน้าตั้งตารอเลย”

 

ดูท่ายูอิจิจะไม่รู้ว่าฟุจิเสะทําอาหารไม่เป็นเเฮะ

 

หมอนี่อาจจะตั้งความหวังจริงๆก็ได้​ จะไหวไหมเนี่ย

 

“…เห้อ”

 

เซย์จังซึ่งเอียงหูฟังเรื่องที่สามคนนั้นคุยกัน ได้เเต่ถอนหายใจเบาๆไม่ให้ใครได้ยิน

 

อืมๆ​ ซี้เเหงเเก๋เเบบนี้

 

ลําพังเซย์จังคนเดียวคงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะสอนฟุจิเสะทําอาหารสินะ…

 

ผมเอาหน้าเข้าไปใกล้เซย์จัง​ ก่อนจะกระซิบที่หูเบาๆ

 

“เซย์จัง”

“มะ.. มีอะไรเหรอ…?”

 

ไม่รู้เพราะตกใจที่จู่ๆก็ไปกระซิบข้างหูหรือยังไง​ เซย์จังสะดุ้งตัวขึ้นมา

 

“เธอบอกว่าจะสอนฟุจิเสะใช่ไหมล่ะ​ ชั้นขอช่วยอีกเเรง”

“ระ.. รู้ด้วยเหรอว่า… อาหารที่ชิโฮะสร้างมีพลังทําลายล้างขนาดไหน”

“เเค่ดูจากสีหน้าของเซย์จัง​ ก็พอเดาออกเเล้วล่ะ”

 

ถึงความจริงจะเป็นเพราะมีความรู้เกี่ยวกับต้นฉบับจากชาติก่อนก็เถอะนะ

 

“ระ.. เหรอ… เเต่ถ้ามาช่วยจะดีมากเลย​ รอบก่อนเราตั้งใจจะทําเค้กกันอะนะ… ทําไมช็อตเค้กถึงดําสนิทเเบบนั้น​ กระทั่งตอนนี้ก็ยังหาคําตอบไม่ได้”

“…ไม่รู้หรอกว่าตัวเองเก่งพอที่จะเเก้ปัญหาระดับนั้นไหม​ เเต่จะลองพยายามดูละกัน”

 

ไม่รอดเเน่​เรา อย่างน้อยๆมาสวดภาวนาว่าอย่าให้ตายดีกว่า

 

เบื้องหน้าผมกับเซย์จังคือยูอิจิที่ดิ้นไปมาเพราะถูกโทโจวอินซังกับฟุจิเสะปิดล้อมจากด้านข้าง

 

ให้ตายสิ​ ชีวิตรักของพ่อหนุ่มเนื้อหอม​นี่ดูลําบากลําบนจังเลยนะ​ เเถมสายตาของเหล่าชายฉกรรจ์​ที่พุ่งมาจากรอบด้านยังโคตรน่ากลัวอีกต่างหาก

 

อยากให้หมอนี่ระวังตัวเวลาเดินเล่นตอนกลางคืนมากกว่านี้ชะมัด

 

ในอนาคตข้างหน้าทั้งสามคนคงดําเนินเรื่องราวเลิฟคอมเมดี้เฮฮาปาร์ตี้​ของพวกเขาต่อไป

 

ส่วนผมที่เป็นทั้งเพื่อนซี้ของยูอิจิเเละเเฟนตัวยงของมังงะเรื่องนี้​ ก็ตั้งใจที่จะคอยสอดส่องเรื่องราวพวกนั้นด้วยเช่นกัน

 

เเละที่ขาดไม่ได้… เซย์จังที่นั่งข้างผม​พร้อมเฝ้ามองทั้งสามคนอย่างอบอุ่น มุมปากของเธอยกขึ้นเล็กน้อย

 

เดิมทีเธอเป็นเพียงหนึ่งในนางรองที่ตกหลุมรักยูอิจิเเละควรอยู่ฝั่งเดียวกับทั้งสามคนด้วยซํ้า

 

เเต่ผมได้เปลี่ยนโชคชะตาพรรค์นั้นไปเเล้ว

 

ผมจะพยายามสุดกําลังเพื่อให้เเฟนสาวที่ไม่สมหวังมีความสุข

 

“…หืม?​ มะ.. มีอะไรรึเปล่า​ จ้องหน้าฉันซะขนาดนั้น”

“เปล่า… ไม่มีอะไรหรอก”

“จริงนะ?”

“จริงสิ​ เเค่อยากมองเท่านั้นเเหละ”

“ยะ.. อย่าพูดอะไรน่าอายในที่เเบบนี้นักสิ”

“ฮ่าๆ โทษทีๆ”

 

อา กะเเล้ว… เรานี่รัก​ ชิมาดะ​ เซย์​ จนโงหัวไม่ขึ้นจริงๆ

 

ชีวิตในรั้วโรงเรียนต่อจากนี้​ ชีวิตประจําวันที่จะได้ใช้ร่วมกันกับเธอ​ เเค่คิดก็​ตื่นเต้นจนตัวสั่นเเล้ว

 

ติดตามเพจผู้เเปลได้ที่​ Ao2Sides​

Love Comedy Manga ni Haitte​ shimatta node, Oshi no Make Heroine wo Zenryoku de Shiawase ni Suru

Love Comedy Manga ni Haitte​ shimatta node, Oshi no Make Heroine wo Zenryoku de Shiawase ni Suru

Status: Ongoing

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท