บทที่ 587 คนที่ผมเป็นห่วงไม่ใช่เสี่ยวเฉิน
การแข่งขันใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แล้ว!
คนใหญ่คนโตหลายคนในมณฑลตัดสินใจมาพบกันเพื่อหารือรายละเอียดการแข่งขัน
ในฐานะประธานสมาคมศัลยกรรมหัวใจแห่งมณฑลตงหยาง ฉินเย่วหมิงเชิญหัวหน้าแผนกของแต่ละโรงพยาบาลอย่างเถามี่ ซย่าเกาเฟิงมาพบ
ความจริงโรงพยาบาลหลอดเลือดหัวใจแห่งมณฑลตงหยางติดอันดับประเทศแล้ว โดยปกติย่อมติดในยี่สิบอันดับแรกได้
อืม!
ยี่สิบอันดับแรก…ก็เก่งมากแล้ว
ในการจัดอันดับของปีที่แล้ว สถาบันแพทย์แผนจีนสังกัดโรงพยาบาลฟู่ว่าย ซึ่งก็คือโรงเรียนของจิ่งหรานเป็นแผนกศัลยกรรมหัวใจที่เก่งที่สุด จากนั้นเป็นโรงพยาบาลอันเจิน โรงพยาบาลประชาชนมณฑลกวางตุ้ง โรงพยาบาลฟูตันในเครือโรงพยาบาลจงซานเป็นต้น…
การที่แผนกศัลยกรรมหัวใจโรงพยาบาลหลอดเลือดหัวใจแห่งมณฑลตงหยางถูกจัดอยู่ในยี่สิบอันดับแรกได้ถือว่าเก่งมากแล้ว
ส่วนฉินเย่วหมิงในฐานะหัวหน้าแผนกศัลยกรรมหัวใจ ฐานะทางสังคมแน่นอนว่าไม่ต้องพูดถึง
สำหรับการแข่งขันของปีที่แล้ว สิบอันดับแรกของประเทศ ไม่มีจากมณฑลตงหยางแม้แต่ที่เดียว แน่นอนว่าฉินเย่วหมิงไม่พอใจกับเรื่องนี้
การประชุมดำเนินอยู่หนึ่งชั่วโมงกว่า โดยทั่วไปได้สรุปรายละเอียดการประชุมที่ควรหารือทั้งหมดแล้ว
การแข่งขันดำเนินโดยการจับฉลากแบ่งกลุ่ม!
ผู้สมัครในแต่ละมณฑลรวมทั้งหมดหนึ่งร้อยยี่สิบคน แบ่งเป็นสามกลุ่ม กลุ่มละสี่สิบคน
หลังจากจับฉลาก แข่งกันเป็นคู่ ผู้ชนะเข้าสู่รอบต่อไป!
หลังจากถึงรอบที่สาม จะมีฉลากเข้ารอบพิเศษ จนกระทั่งถึงรอบชิงชนะเลิศของแต่ละกลุ่มเล็ก จะได้อันดับหนึ่งของกลุ่มเล็กในที่สุด
อันดับหนึ่งของแต่ละกลุ่มเล็กจึงจะเป็นตัวแทนของมณฑลตงหยางในการเข้าร่วมการแข่งขันได้
เพราะฉะนั้น ดวงก็มีส่วนเป็นอย่างมาก
ถึงอย่างไร หนึ่งกลุ่มเล็กส่งตัวแทนได้แค่คนเดียวเท่านั้น
ถ้าตัวเต็งรวมตัวกันคงแย่
มักมีพวกดวงดีได้ฉลากเข้ารอบพิเศษสองรอบติด เจอรายการแข่งขันที่ตนถนัดพอดี ได้อันดับหนึ่งไป เป็นตัวแทนของมณฑลตงหยางในการเข้าร่วมการแข่งขันระดับประเทศ สุดท้าย…ตกรอบตั้งแต่รอบแรก!
เห็นได้ชัดมากว่าแบบนี้น่าเสียดายมาก…
จากการประชุมครั้งนี้เห็น ได้ชัดว่าการแข่งขันรอบนี้ต้องการให้คนที่มีศักยภาพสามคนแบ่งไปอยู่คนละกลุ่ม อย่าให้ตกรอบตั้งแต่การแข่งขันในกลุ่มเล็กจะดีที่สุด
แน่นอนว่าฉินเย่วหมิงไม่ได้เป็นห่วงเรื่องนี้ เพราะสำหรับเขา กัวอวิ๋นเฟยลูกศิษย์ของตนไม่เคยต้องคำนึงถึงความสามารถของคู่ต่อสู้
ปีที่แล้วถ้าไม่ใช่เพราะเจออันดับที่ 2 อย่างซือคงตั้งแต่การแข่งขันกลุ่มเล็กระดับประเทศ ก็คงเข้ารอบสิบคนสุดท้ายแล้ว
ดร.ซือคงจบจากสถาบันคาโรลินสกาประเทศสวีเดน หลังจากมาโรงพยาบาลอันเจิน ก็รับตำแหน่งรองหัวหน้าแผนกศัลยกรรมหัวใจโดยตรง เขาเข้าร่วมการแข่งขันปีที่แล้วเป็นครั้งแรก ได้รับผลลัพธ์อย่างโดดเด่นในอันดับที่สอง!
และอันดับที่หนึ่งคือหัวหน้าแผนกศัลยกรรมหัวใจคนปัจจุบันของโรงพยาบาลฟู่ว่ายที่อายุสามสิบห้าปีแล้ว
เพราะแบบนี้ ปีนี้ซือคงจึงกลายเป็นตัวเต็งในการคว้ารางวัลชนะเลิศ และได้รับความชื่นชมอย่างมาก
อย่าดูถูกการแข่งขันทักษะผ่าตัดแผนกศัลยกรรมหัวใจระดับประเทศเชียว การแข่งขันมีความสำคัญมากในวงการแผนกศัลยกรรมหัวใจ คนที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ ปกติแล้วก็คือการปูทางพัฒนาอย่างแน่นอน
ไม่เพียงแค่รางวัลชนะเลิศอันดับหนึ่ง โดยพื้นฐานแล้ว สิบอันดับแรกล้วนถูกโรงพยาบาลใหญ่ๆ ทั่วประเทศแย่งตัว ขอเพียงแค่เข้าร่วมก็จะได้รับผลประโยชน์ หนทางพัฒนาสดใส อนาคตไร้ขีดจำกัด
นี่นับว่าเป็นเวทีแข่งขันสำหรับคนรุ่นใหม่!
ฉินเย่วหมิงมองทุกคน ยิ้มพูดว่า “ปีนี้ทุกคนมีใครนำเสนอไหมครับ”
เพราะผู้เข้าร่วมการแข่งขันจะต้องมีอายุน้อยกว่าสามสิบห้าปี จึงมักจะมีคนหน้าใหม่ๆ เข้ามาเพื่อยกระดับความนิยมในสาขาของตนเอง แต่ละโรงพยาบาลมักจะแนะนำผู้มีความสามารถเข้ามา
ถึงอย่างไรก็ลองคิดดูว่า คนของโรงพยาบาลคุณได้รับรางวัลชนะเลิศ โรงพยาบาลก็เป็นหนึ่งในเบื้องหลังความภาคภูมิใจด้วย
อย่างเช่นตอนที่กัวอวิ๋นเฟยได้รับรางวัลชนะเลิศ คำประกาศเป็นแบบนี้!
‘ขอแสดงความยินดีกับกัวอวิ๋นเฟยจากโรงพยาบาลหลอดเลือดหัวใจแห่งมณฑลตงหยางที่ได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับหนึ่ง!’
ในงานล้วนเป็นหัวหน้าแผนกศัลยกรรมหัวใจของแต่ละโรงพยาบาลในมณฑล
จู่ๆ ซย่าเกาเฟิงก็พูดว่า “เมิ่งซี หัวหน้าเสี่ยวเมิ่งของเราก็ไม่เลวนะครับ ผมคิดว่ามีความสามารถในการแข่งขันสูงมาก จัดอยู่ในกลุ่มหนึ่งเลยดีไหมครับ”
คนรอบข้างได้ยินแล้วต่างพยักหน้า
สำหรับเมิ่งซี ทุกคนรู้จักเป็นอย่างดี ความจริงเธอเข้าร่วมการแข่งขันได้ตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่เมิ่งซียุ่งอยู่กับเรื่องของโครงการธรรมชาติแห่งชาติจึงไม่ได้เข้าร่วม สำหรับเธอ ทุกคนไม่มีคำค้านเลย
ฉินเย่วหมิงเองก็พยักหน้า “อืม เสี่ยวเมิ่งก็ใช้ได้ ผมเคยเจอหลายครั้ง ที่สำคัญคืออายุยังน้อย ผมคิดว่าถ้าไปแข่งระดับประเทศได้ก็เป็นเรื่องที่ดี”
“ทุกคนยังมีตัวเลือกอีกไหมครับ”
แม้หัวหน้าเหล่านี้ล้วนมีความคิดเห็นแก่ตัว อยากให้สมาชิกที่โดดเด่นของแผนกตนไปเข้าร่วมการแข่งขันระดับประเทศ
แต่เมื่อเทียบกับความคิดเห็นแก่ตัว ทุกคนต่างรู้ว่าเมื่อเข้าสู่การแข่งขันระดับประเทศ หากตกรอบแรกขึ้นมา จะน่าอายแค่ไหน!
เพราะฉะนั้นทุกคนจึงค่อนข้างรอบคอบ
ตอนนี้เอง จู่ๆ เถามี่ก็พูดว่า “โรงพยาบาลของเรามีคนหนุ่มคนหนึ่งใช้ได้เลย ชื่อว่าเฉินชาง แต่ไม่ได้อยู่ในแผนกศัลยกรรมหัวใจ เป็นหมอแผนกแผนกฉุกเฉิน การผ่าตัดศัลยกรรมหลอดเลือดหัวใจของเขาไม่เลวเลย ผมคิดว่าให้โอกาสเขาได้!”
ซย่าเกาเฟิงพยักหน้าเสริม “อืม เสี่ยวเฉินเป็นหมอที่มีพรสวรรค์ที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็น ตอนนี้อายุแค่ยี่สิบเจ็ดปี มีโอกาสเติบโตอีกมาก”
ฉินเย่วหมิงได้ยินแบบนี้ ก็พลันถามอย่างประหลาด “เฉินชางเหรอครับ มีประวัติส่วนตัวไหม”
ทุกคนในนั้นทั้งไม่คุ้นเคยและสงสัยกับชื่อเฉินชาง
ถึงอย่างไรมณฑลตงหยางใหญ่แค่นี้ แผนกศัลยกรรมหัวใจมีคนอยู่แค่นั้น ไม่ว่าใครที่พอมีความสามารถสักหน่อย ทุกคนล้วนรู้ถึงเบื้องลึกเบื้องหลัง อาจจะไม่รู้จัก แต่ก็รู้ว่าเป็นใคร
แต่สำหรับชื่อเฉินชาง ทุกคนไม่เคยได้ยินจริงๆ
เถามี่ส่ายหน้า “ประวัติส่วนตัวผมคิดว่าดูคร่าวๆ ก็พอแล้ว เสี่ยวเฉินจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยการแพทย์แห่งมณฑลตงหยาง จากนั้นก็สังกัดแผนกฉุกเฉินโรงพยาบาลอันดับสอง แต่…มีความสามารถมาก!”
หลังจากทุกคนได้ยินแล้วก็อดขำไม่ได้
ไม่ได้ดูถูกนะ แต่รู้สึกว่า เถามี่ลึกลับเกินไปแล้ว คนหนุ่มคนหนึ่งจะเก่งแค่ไหนเชียว
อายุยี่สิบเจ็ดปี…
จากการแข่งขันหลายปีที่ผ่านมา เคยมีคนที่อายุต่ำกว่าสามสิบปีได้สามอันดับแรกเสียที่ไหน
ไม่มีเลย
เพราะประสบการณ์วินิจฉัยโรคไม่เพียงพอเลยจริงๆ
ตอนนี้เอง หัวหน้าโรงพยาบาลประชาชนพูดพร้อมรอยยิ้ม “ผมคิดว่าหนิงเฮ่าเซินแผนกผมก็มีโอกาส การแข่งขันกลุ่มเล็กเมื่อปีที่แล้วเพราะเจอกัวอวิ๋นเฟย จึงเสียเปรียบในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ ปีนี้เขาอายุสามสิบห้าปีแล้ว ปีสุดท้ายแล้ว ให้โอกาสเขาดีไหมครับ ปีนี้ถือว่าพัฒนาขึ้นมากเลย”
หัวหน้าแผนกศัลยกรรมหัวใจโรงพยาบาลตงต้าสาขาสองก็เริ่มแสดงความคิดเห็น “เรา…”
……
ตัวเลือกในตอนท้ายยังคงต้องใช้การโหวต
เถามี่และซย่าเกาเฟิงถอนหายใจ แบบนี้ก็จนปัญญา
แสดงความคิดเห็นก็ส่วนแสดงความคิดเห็น แต่…สุดท้ายก็ยังต้องให้ทุกคนตัดสินใจ
การตัดสินใจในตอนท้ายคือกัวอวิ๋นเฟย เมิ่งซี หนิงเฮ่าเซินแบ่งไปอยู่สามกลุ่ม
ส่วนคนอื่นๆ ยังคงต้องจับฉลาก
ออกจากห้องทำงาน ซย่าเกาเฟิงเห็นเถามี่อารมณ์ไม่ดี อดให้กำลังใจไม่ได้ “เหล่าเถา เอาเถอะ ไม่ต้องกังวลแล้ว ท้ายที่สุดแล้วการแข่งขันก็เป็นไปอย่างยุติธรรม ถ้าเสี่ยวเฉินมีความสามารถ ไม่ต้องแนะนำก็เข้าสู่การแข่งขันระดับประเทศได้! อีกอย่างเสี่ยวเฉินอายุยังน้อย มีโอกาสอีกมาก เข้าร่วมการแข่งขันปีแรก คนเก่งก็ถือว่าเยอะ เราจะเสี่ยงไม่ได้! ไม่แน่ว่าปีนี้เสี่ยวเฉินโดดเด่นในการแข่งขันระดับมณฑล ปีหน้าก็มีโอกาสแล้วไม่ใช่เหรอ! ถึงอย่างไรทุกคนก็ยังไม่รู้จักเขา!”
เถามี่ถอนหายใจ “เฮ้อ…ผมไม่ได้หมายความแบบนั้นครับ! ผมแค่เป็นห่วงนิดหน่อยครับ…”
ซย่าเกาเฟิงชะงัก “เป็นห่วงเหรอครับ คุณหมายความว่า…”
เถามี่พูด “เฮ้อ…คนที่ผมเป็นห่วงไม่ใช่เสี่ยวเฉิน แต่กังวลว่าเสี่ยวเฉินจะได้อยู่กลุ่มเดียวกับเมิ่งซีและกัวอวิ๋นเฟย ทำให้ทั้งสองตกรอบ! ถึงอย่างไร…ทั้งสองก็พยายามมามาก”
ประโยคนี้ ทำให้ซย่าเกาเฟิงอึ้งไป…
เป็นความจริงที่ว่า ตอนนี้เถามี่ชื่นชมการซ่อมหลอดเลือดของเฉินชางจริงๆ…