ฉันก็แค่อยากตาย แต่ไหงต้องมาเกิดใหม่ด้วยล่ะ! – ตอนที่ 19 โนอา ลอติอุสและสัมผัสบางอย่างที่ลึกลับ

ฉันก็แค่อยากตาย แต่ไหงต้องมาเกิดใหม่ด้วยล่ะ!

แม้ว่าตอนแรกเอมิลจะทำท่าทีไม่พอใจสักเท่าไหร่นักกับการที่ต้องมาขอโทษเธอ แต่พอเห็นสายตาดุดันจากพ่อของตัวเองเขาก็รีบกล่าวขอโทษอย่างไม่เต็มใจนัก

เขาไม่เคยรู้สึกกลัวพ่อขนาดนี้มาก่อนเลย

“ข ขอโทษแล้วกัน ชิ”

“เอมิล!”

“โอเค โอเค! ผมขอโทษ ผมผิดเอง ผมไม่ควรทำแบบนั้นใส่เธอเลย”

“แล้ว?”

“…และผมก็ไม่ควรไปขออะไรอย่างการ ‘ให้เธอกลับไปที่บ้านกับฉันซะ’ ด้วย ผมขอโทษจริงๆ”

อย่างน้อยไอ้เด็กนี่ก็รู้ความผิดของตัวเองอยู่บ้าง ยูริครุ่นคิดในใจขณะที่กล่าวด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

“ไม่เป็นไรหรอกเอมิล ไม่ต้องขอโทษต่อแล้วล่ะ”

เธอจงใจสร้างภาพลักษณ์ของเด็กสาวผู้มีจิตใจเมตตาและให้อภัยได้แม้แต่คนที่ทำร้ายเธอ นั่นก็เพื่อสร้างภาพลวงตาหลอกลวงผู้ใหญ่ที่กำลังเฝ้ามองอยู่รอบๆ

ถ้าทำแบบนี้คะแนนทางสังคมของเธอก็จะเพิ่มขึ้น ส่วนคะแนนทางสังคมของพวกเอมิลก็จะลดลงยังไงล่ะ คำถามว่าทำไมต้องทำแบบนี้น่ะเหรอ? นั่นก็เพื่อพี่สาวยังไงล่ะ

เธออยากให้ผู้คนต่างเล่าลือกันว่าฮันน่าเลี้ยงน้องสาวออกมาได้ดีมากที่ทำให้เธอมีจิตใจโอบอ้อมอารีแบบนี้ ผู้คนจะชื่นชอบฮันน่ามากขึ้นและมีโอกาสที่จะทำให้พี่สาวหางานได้ง่ายขึ้น

คิดซะว่าเป็นการตอบแทนหลังจากที่ช่วยดูแลเธอมานานแล้วกัน

“จริงเหรอ? ง งั้นเธอก็ให้อภัยฉันแล้วใช่ไหม?”

เอมิลทำสีหน้าเปี่ยมไปด้วยความหวัง

“อืม ประมาณนั้น แต่เธอต้องเรียกฉันว่าพี่สาวด้วยนะ เพราะฉันอายุมากกว่าเธอสองปียังไงล่ะ!”

ฮันน่าถึงกับหลุดขำออกมาเลยทีเดียว ยูริรู้ว่าอีกฝ่ายคิดอะไรอยู่ ฮันน่าคงจะคิดประมาณว่า ‘ยูริจังอยากเป็นพี่สาวหรอกเหรอเนี่ย’ หรืออะไรทำนองนั้น

เอาเถอะ ก็ต้องการให้คิดแบบนั้น ภาพลักษณ์น้องสาวผู้อ่อนโยนและมีมุมที่อยากเป็นพี่สาวคนจะได้สลักลึกเข้าไปในใจของ

ฮันน่ายังไงล่ะ

“ง งั้นก็…”

เอมิลพูดตะกุกตะกัก ยูริรู้ว่าเอมิลเข้ามาทักเธอในตอนแรกเพราะชื่นชอบในรูปร่างหน้าตาของเธอ ดังนั้นเพื่อผลประโยชน์ในอนาคต เธอจะหว่านเสน่ห์พอประมาณ

เธอคิดว่าครอบครัวของเอมิลค่อนข้างร่ำรวยเลยทีเดียวเมื่อพิจารณาจากการเลี้ยงลูกของอีกฝ่าย หากเป็นชนชั้นกลางธรรมดาๆ ย่อมไม่มีทางที่พวกนี้จะตามใจเอมิลมากขนาดนี้แน่นอน

ดังนั้นเธออาจจะใช้ประโยชน์จากพวกเขาในอนาคต ดังนั้นการเป็นพันธมิตรเอาไว้น่าจะดีกว่า แม้ว่าตอนแรกความสัมพันธ์ของเธอกับเอมิลจะเริ่มต้นแบบติดลบไปหน่อยก็เถอะ

ใช่ว่าเธอจะชอบหรอก แต่เพื่อแผนการเอาชนะพระเจ้าก็จำเป็นต้องทำ

พอหมดประโยชน์ค่อยเขี่ยทิ้งก็ได้ ยังไงซะเธอก็เกลียดยัยป้านั่นและไอ้เด็กเวรนี่อยู่แล้ว

อย่าคิดว่าเรียกฉันว่าพี่สาวนิดๆ หน่อยๆ แล้วจะให้อภัยได้นะ ฉันไม่ลืมหรอกนะว่าแกต้องการพาฮันน่ากลับไปบ้านเพราะ ‘หน้าอกนุ่มนิ่ม’ น่ะ

แต่ยังไงซะ ตอนนี้มันยังไม่ถึงเวลาที่เธอจะทำให้พวกเขาฉิบหาย

ไม่ ยังไม่ใช่ตอนนี้

“พ พี่สาว”

“เก่งมาก เด็กดีๆ”

เธอเข้าไปลูบหัวของเอมิล นั่นทำให้ท่าทีแข็งกร้าวของเขาในตอนแรกสงบลงได้มากเลยทีเดียว

ดูไปดูมาก็เหมือนลูกหมาเลยแฮะ แต่เธอไม่ชอบหมา เธอชอบแมวมากกว่า

บางทีเธออาจจะชอบค้างคาวมากกว่าด้วยซ้ำ

ว่าแล้วก็แอบเหลือบมองไปยังฮันน่าที่กำลังทำสีหน้ามีความสุขราวกับกำลังเก็บภาพความทรงจำนี้เอาไว้ในหัวของตัวเอง

ค้างคาวก็ไม่เลวเหมือนกันนะ

 

“เจ็บๆๆ พี่คะ เบาๆ หน่อยค่ะ โอ้ย!”

“ทนเอาไว้ยูริจัง รอยช้ำขนาดนี้แล้วจะให้พี่ปล่อยไปได้ยังไงล่ะ? ทนอีกหน่อยนะ เดี๋ยวก็เสร็จแล้ว”

ณ บริเวณใดบริเวณหนึ่งอันเงียบสงบของป่ากรีน

สองพี่น้องคู่หนึ่งนั่งทำแผลบริเวณม้านั่งแถวๆ นั้น ภายใต้ร่มเงาของต้นไม้สูงใหญ่ ฮันน่า สมิธ กำลังทำสีหน้าคร่ำเคร่งขณะที่ใช้ยาและอุปกรณ์หลากหลายชนิดเพื่อรักษารอยฟกช้ำของน้องสาวของตน

“เขียวเลยแฮะ เด็กนั่นกระชากแขนของยูริจังแรงขนาดไหนเนี่ย?”

ด้วยใบหน้าที่ค่อนข้างไม่พอใจ ฮันน่าลูบแขนของน้องสาวเบาๆ อย่างอ่อนโยน

“ไม่ต้องกังวลนะยูริจัง อีกเดี๋ยวก็หายแล้ว เชื่อมั่นในพลังของแวมไพร์ได้เลย!”

จากนั้นฮันน่าก็เป่าลมเบาๆ ใส่แขนของอีกฝ่าย ราวกับพยายามรักษารอยฟกช้ำนั่นด้วยลมหายใจของเธอยังไงยังงั้น

ตอนแรกยูริคิดว่าอีกฝ่ายใส่พลังเวทเอาไว้ในลมหายใจนั่น แต่คิดอีกที บางทีฮันน่าอาจจะแค่ใช้ ‘คาถา’ บางอย่างในการรักษารอยฟกช้ำของเธอซะมากกว่า

คาถาที่ว่าหมายถึงสิ่งที่พวกผู้ใหญ่จะทำเวลาลูกหลานของตนได้รับบาดเจ็บ พวกนั้นจะเป่าลมหายใจของตัวเองใส่แผลจากนั้นก็พูดคำประหลาดๆ อย่าง ‘โอมเพี้ยง’ หรืออะไรแบบนั้น

มันเป็นวิธีการรักษาที่ไม่มีผลอะไรเลยในทางการแพทย์ แต่ผู้ใหญ่มักจะทำกันแบบนั้นเพื่อทำให้เด็กๆ สบายใจและใจเย็นลง

ก็นะ ได้ยินมาแบบนั้นแหละ แต่เธอก็ไม่เข้าใจวิธีการรักษาแบบนั้นหรอก เพราะในโลกเก่ามันไม่มีใครมาคอย ‘โอมเพี้ยง หายไวๆ นะ’ แบบนี้หรอก

นับว่าเป็นครั้งแรกเลยที่ได้รับการเอาใจใส่ขนาดนี้ ในโลกเก่าเธอต้องหาทางรักษาด้วยตัวเองเวลาได้รับบาดเจ็บเล็กๆ น้อยๆ

ว่าแต่เมื่อกี้พี่สาวใช้หลักการ ‘โอมเพี้ยง’ แบบนั้นกับเธองั้นเหรอ? ทำไมกันล่ะ? เธอไม่ใช่เด็กสักหน่อย

ยูริลืมไปเสียสนิทว่าภายนอกเธอดูเหมือนเด็กเจ็ดขวบเท่านั้น

“ว่าแต่นอกจากเรื่องกระชากแขนแล้ว ไอ้เด็กเว—หมายถึง

เอมิลน่ะ เขาไม่ได้ทำอะไรอย่างอื่นอีกใช่ไหม?”

ขณะที่ถามด้วยใบหน้าเป็นกังวล ฮันน่าก็ตรวจเช็คดูอาการบาดเจ็บของเธอเป็นครั้งสุดท้าย

“ไม่ค่ะ นอกจากที่กระชากแขนแล้วเขาก็ไม่ได้ทำอะไรอีก เพราะหนูชิงตบหน้าไปก่อน”

ไม่ได้รู้สึกผิดเลยสักนิด แน่นอน เธอไม่ผิดจึงไม่มีเหตุผลอะไรให้รู้สึกผิดนี่น่า

ยูริพูดคำนั้นด้วยใบหน้าเรียบเฉย นั่นทำให้ฮันน่าทำสีหน้าแปลกใจนิดหน่อย

“พี่คงจะไม่ดุหนู…ใช่ไหมคะ?”

ด้วยใบหน้าออดอ้อน ยูริเอียงคอด้วยท่าทางน่ารักน่าเอ็นดู เธอซบไหล่ของแวมไพร์สาวพลางคลอเคลียกับแขนของอีกฝ่ายราวกับเป็นลูกแมวตัวน้อยๆ

แน่นอนว่าเพราะเธอตัวเล็กไปหน่อย มันทำให้เธอไม่สามารถซบไหล่ของอีกฝ่ายได้ เธอจึงทำได้แค่พิงแขนของฮันน่าเท่านั้น

แต่แค่นั้นก็เพียงพอที่จะทำให้แวมไพร์สาวหน้าแดงขึ้นมานิดหน่อยแล้วล่ะ

“ฮะแฮ่ม! ไม่ พี่ไม่ดุหรอก พี่แค่เป็นห่วงว่ายูริจังจะเจ็บตรงไหนอีกรึเปล่า แค่นั้นแหละ ส่วนเรื่องที่ยูริจังตบหน้าอีกฝ่าย—มันก็เป็นแค่การป้องกันตัวนี่น่า”

ตอนแรกฮันน่าแค่แอบแปลกใจนิดหน่อยกับท่าทางไม่รู้สึกผิดของอีกฝ่าย เพราะตอนแรกยูริจังดันไปขอโทษเอมิลซะขนาดนั้นราวกับว่าตัวเองเป็นคนทำผิดจริงๆ มันทำให้เธอแปลกใจกับการกลับท่าทีของอีกฝ่าย

“งั้นเหรอคะ”

ยูริทำสีหน้าแปลกใจบ้าง เธอกระเถิบตัวเข้าไปใกล้ชิดกับฮันน่ามากขึ้นพลางถูไถไปมาเหมือนแมว

เธอไม่รู้เลยว่าตอนนี้ฮันน่ากำลังทำสีหน้าเคลิ้มแบบสุดๆ

ทั้งคู่เงียบงันกันไปราวกับไม่มีอะไรจะพูดอีก

“ยังไงก็ตาม…”

ฮันน่าพูดขึ้นท่ามกลางความเงียบที่แสนสงบสุข น้ำเสียงของเธอดูจริงจัง แต่ขณะเดียวกันก็แฝงไปด้วยความอ่อนโยน

เป็นน้ำเสียงที่ยูริคุ้นเคยเป็นอย่างดี

“…ยูริจังไม่ต้องกังวลเรื่องดุหรือไม่ดุหรอก พี่ไม่มีวันดุยูริจังในเรื่องที่ยูริจังไม่ได้ทำผิดหรอกนะ”

ใช่แล้ว ถึงแม้จะทำรุนแรงไปสักหน่อย แต่ยังไงซะน้องสาวของเธอก็ทำไปเพียงเพื่อป้องกันตัวเพียงเท่านั้น

ไม่มีเหตุผลอะไรให้เธอโทษอีกฝ่ายนี่น่า

“ค่ะ…”

ไม่รู้ทำไม ยูริถึงได้คลอเคลียแขนของฮันน่าหนักกว่าเดิมซะอีก

มุมปากของเด็กสาวยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย ไม่ได้รู้สึกผ่อนคลายแบบนี้มากี่ปีแล้วนะ

ในอดีตเธอต้องใช้ชีวิตอย่างโลดโผน เสี่ยงอันตราย และยังต้องคอยหวาดระแวงทุกวี่วันว่าตัวเองจะทำพลาดตอนไหน เธอจะถูกตำรวจจับได้และถูกประหารชีวิตรึเปล่า

การเป็นฆาตกรต่อเนื่องมันมอบชีวิตแบบนั้นให้กับเธอ และเธอก็ยอมรับมันอย่างเต็มใจเพื่อแลกกับการทำให้ผู้อื่นเจ็บปวด

เธอปรารถนาให้ผู้อื่นเจ็บปวด และนั่นทำให้เธอต้องเจ็บปวดด้วยเช่นกัน

มันคือการแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียมของโลกใบนี้

แต่ตอนนี้เธอไม่ได้อยากทำให้ใครเจ็บปวด

เธอเพียงแค่อยากจะพิงไหล่ของพี่สาวแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ …

 

ฟ้าเริ่มมืดลงทีละนิด ดวงตะวันคล้อยต่ำคลับคล้ายคลับคลาว่าจะตกดิน

เสียงล้อของรถม้าจอดหน้าโรงแรมแห่งหนึ่งที่ติดกับถนน ประตูรถเปิดออกเผยให้เห็นขาของหญิงสาวหนึ่งคู่ที่กำลังจะลงจากรถ

วาคาดะ ซายูริ และฮันน่า สมิธเดินเข้าโรงแรม คราวนี้พนักงานต้อนรับถูกเปลี่ยนเป็นหญิงสาวผมยาวสีดำ ดวงตาสีฟ้าใส

ทั้งสองไม่สนใจอีกฝ่ายมากนัก ก่อนจะเดินไปยังห้องเก็บกุญแจที่โรนาประจำการ เพราะการขึ้นไปยังชั้นสองต้องผ่านห้องนั้น

“หือ?”

ตรงเคาน์เตอร์นั้นโรนาไม่อยู่ หากแต่เป็นผู้ชายที่มีผมสั้นสีดำ หน้าผากกว้าง ดวงตาข้างซ้ายสีน้ำตาล ดวงตาข้างขวามีสีเขียวมรกต

เขาแผ่บรรยากาศและกลิ่นอายของความลึกลับออกมาตลอดเวลา

“สายัณห์สวัสดิ์คุณผู้หญิง”

ชายตรงหน้าทักด้วยรอยยิ้มปริศนา ดวงตาสีน้ำตาลข้างซ้ายให้ความรู้สึกลุ่มลึกและยากจะคาดเดา

“สวัสดีค่ะ” ฮันน่าทักด้วยรอยยิ้ม “ไม่ทราบว่าคุณโรนาหายไปไหนเหรอคะ”

เมื่อเช้าเธอยังเห็นอยู่เลย ตอนนี้อีกฝ่ายไม่มาประจำตรงเคาน์เตอร์แล้วเหรอ?

ด้วยนิสัยใจดีและเป็นมิตรของแวมไพร์สาว ทำให้เธออดเป็นห่วงอีกฝ่ายไม่ได้ เมื่อเช้ายังทำท่าทีอ่อนเพลียมากๆ อยู่เลย

“มิสโรนาป่วยเข้าโรงพยาบาลเมื่อตอนบ่าย”

อีกฝ่ายเอ่ยด้วยเสียงยานคาง ชวนให้รู้สึกง่วงงุน

“ตัวผม โนอา ลอติอุสเลยมาประจำตำแหน่งแทน ไม่ทราบว่าคุณผู้หญิงที่งดงามทั้งสองคนมีธุระอะไรกับเธอหรือ?”

เด็กสาวสัมผัสได้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้ตั้งใจจะหม้อใส่ แต่ลักษณะการพูดของอีกฝ่ายน่าจะเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเขาซะมากกว่า

บรรยากาศลึกลับของชายคนนี้ทำให้เธอรู้สึกราวกับกำลังอ่านเทพนิยายลึกลับสักเรื่อง

“เปล่าค่ะ พวกเราแค่สงสัย ไม่ทราบว่าคุณโรนาป่วยเป็นอะไรเหรอคะ เดี๋ยวเผื่อพวกเราจะส่งของไปเยี่ยมได้”

ฮันน่าพูดด้วยสีหน้าเป็นห่วงจากใจจริง

“เธอทำงานหนักจนอาการทรุด”

โนอาเล่า

“ผู้จัดการโรงแรมให้เธอยืนเฝ้าตรงนี้นานเกินไปหน่อย ล่าสุดเขากำลังถูกสอบสวนอยู่ครับ”

ฮันน่าพยักหน้า สีหน้าเห็นอกเห็นใจ ภายในใจของหญิงสาวกำลังคิดว่าจะซื้อส้มหรือของอะไรก็ตามที่ดีต่อผู้ป่วยไปเยี่ยมดีไหม

สำหรับเธอแล้วโรนาก็คือคนรู้จักคนหนึ่ง ถึงจะรู้จักแค่ผิวเผินก็ตาม

จะว่าโลกสวยหรือแค่เป็นคนดีมากๆ ดีล่ะ แต่พี่ไม่เห็นต้องสนใจทุกคนขนาดนั้นก็ได้มั้ง

ยูริคิดอย่างฉงน ฮันน่า พี่ถูกเลี้ยงดูมายังไงกันแน่ พ่อแม่ของพี่เป็นใครกันถึงได้เลี้ยงลูกออกมาเป็นคนดีได้ขนาดนี้?

หลังจากสอบถามเรื่องต่างๆ ทั้งเรื่องโรงพยาบาลที่โรนาอยู่ ทั้งเรื่องอาการของอีกฝ่ายว่าเป็นตายร้ายดียังไง ฮันน่าก็ตัดสินใจเดินขึ้นไปชั้นสอง หมายจะเข้าห้อง

“นี่เธอ”

โนอาเอ่ยกับยูริที่กำลังจะขึ้นไป

“หยุดตรงนั้นก่อน”

“คะ?”

เด็กสาวฉงน อีกฝ่ายจะหยุดเธอเอาไว้ทำไม หน้าเธอมีอะไรติดงั้นหรือ?

“ผมสัมผัสได้ถึงบางสิ่งจากตัวของเธอ”

โนอา ลอติอุสพูดด้วยน้ำเสียงลึกลับ เขาหรี่ตาลง

“บางสิ่งที่อยู่รอบๆ ตัวคุณ พลังงานบางอย่างที่ผมเองก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร”

“สาวน้อย เธอกำลังถูกใครบางคนชักใย”

ฉันก็แค่อยากตาย แต่ไหงต้องมาเกิดใหม่ด้วยล่ะ!

ฉันก็แค่อยากตาย แต่ไหงต้องมาเกิดใหม่ด้วยล่ะ!

Status: Ongoing
“ฉันก็แค่อยากตาย แต่ไหงต้องมาเกิดใหม่ด้วยล่ะ!” เรื่องราวของหญิงสาวนางหนึ่งที่เป็นฆาตกรต่อเนื่อง เธอถูกตำรวจวิสามัญตายตรงหน้าผา ขณะที่กำลังจะตายนั้นเธอก็ปลงกับตัวเองไปแล้วและอ้าแขนยอมรับจุดจบของตัวเองอย่างเต็มใจ แต่ช้าก่อน! เมื่อตื่นขึ้นมาอีกทีเธอก็พบว่าตัวเองกำลังอยู่ต่อหน้าตัวตนอันยิ่งใหญ่เหนือธรรมชาติ เทพเจ้า! เทพธิดาอโลวีนัสได้ยื่นข้อเสนอให้กับเธอว่าจะมอบชีวิตใหม่ ในโลกใบใหม่ โลกที่เต็มไปด้วยเวทมนตร์และปรากฎการณ์ลึกลับเหนือธรรมชาติ และจะมอบพลังวิเศษที่แข็งแกร่ง หรือที่คนชอบเรียกกันว่าสกิลโกงเอาไว้ให้ “ไม่เอา” ฆาตกรสาวปฏิเสธเสียงแข็ง “ฉันไม่อยากไปเกิดใหม่” “ยังไงเจ้าก็ต้องไปเกิดใหม่” น่าเสียดายที่ท่านเทพของเราเอาแต่ใจไปนิดและไม่ยอมทำตามคำขอของหญิงสาว “ก็ได้ แต่ส่งฉันไปเกิดใหม่ในสภาพไร้พลังซะ” เธอรู้ว่ายังไงก็ไม่อาจฝ่าฝืนพระบัญชาแห่งเทพได้ เลยจะไปเกิดใหม่พร้อมกับปฏิเสธสกิลโกงที่อีกฝ่ายจะมอบให้ทั้งหมด “ทำไม?” ท่านเทพถามด้วยความประหลาดใจ “เพราะฉันจะกลับมาและเอาชนะแกในสักวันหนึ่ง แต่ฉันไม่จำเป็นต้องใช้สกิลโกงอะไรนั่น” “ถ้าเจ้าคิดว่าเจ้าทำได้ก็ทำ” “พนันกันไหมล่ะ?” ด้วยเหตุนั้นเอง เรื่องราวของฆาตรกรต่อเนื่องสาวที่ไปเกิดใหม่โดยมีเป้าหมายเป็นการโค่นทวยเทพทั้งๆที่ตนไร้พลังก็ได้เริ่มต้นขึ้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท