ศึกยุทธ์ใต้ขุนเขาเงาจันทรา – บทที่ 43 กระบี่ไร้ใจ ดาบตัดสัมพันธ์-2

ศึกยุทธ์ใต้ขุนเขาเงาจันทรา

บทที่ 43 กระบี่ไร้ใจ ดาบตัดสัมพันธ์-2

บนโลกมนุษย์ ทำให้นางเกิดความอาลัยอาวรณ์หลายอย่าง รู้สึกเหมือนฉินเส้อที่บรรเลงอยู่ในใจพลันเงียบสงัด

“หืม?!”

เจ้าหมิงหมิงลุกขึ้นกำลังจะปิดหน้าต่าง สัมผัสไอสังหารได้อีกครั้ง เหมือนเคยรู้จักกันมาก่อน

นางเป็นอสูรเผ่าจิ้งจอก ร่างเดิมเป็นจิ้งจอกหูเงินหิมะทอง จึงไวต่อการเปลี่ยนแปลงมากที่สุด

เหตุการณ์เดียวกันเกิดขึ้นติดต่อกันสองครั้งในวันเดียว เจ้าหมิงหมิงกลับรู้สึกโกรธเคือง กระโดดลงจากหน้าต่าง

“ท่านเป็นใครยังไม่ปรากฏตัวอีก”

เจ้าหมิงหมิงเอ่ยพลางมองไปรอบๆ

คืนนี้ไม่มีแสงจันทร์ แต่ไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อนาง

“ตึก…ตึก…ตึก…”

เสียงฝีเท้าดังติดต่อกันมาจากไม่ไกล ทุกย่างก้าวเว้นช่วงห่างกันนานมาก ราวกับว่าการเดินเป็นเรื่องที่ยุ่งยากลำบากเรื่องหนึ่ง

เจ้าหมิงหมิงมองเห็นผู้มาเยือนชัดเจนแล้ว พบว่าเป็นบุคคลที่มีลักษณะประหลาดเหมือนที่เกาลัดคั่วน้ำตาลเล่าให้ฟังไม่ผิดเพี้ยน

“ท่าน…”

ไม่รอให้เจ้าหมิงหมิงพูดจบ แสงแห่งดาบของผู้ตัดสัมพันธ์มาถึง ด้านหน้าเกิดสีแดงชาดไปทั่ว

เจ้าหมิงหมิงรีบปล่อยพลังฝ่ามือกลางอากาศสองครั้ง ให้กายหลบได้ทัน ลอบรับมืออย่างระมัดระวัง

พลังโจมตีก่อนหน้ายังไม่จางหาย พลังโจมตีใหม่ปะทะเข้ามาอีกครั้ง

เจ้าหมิงหมิงปลดผนึกกลายร่างบางส่วนในพริบตา โผล่หางจิ้งจอกออกมา รัดเสาหินร้านข้างๆ อาศัยแรงดึงเพื่อให้กายหลบได้อีกครั้ง

“เผ่าจิ้งจอกจริงด้วย!”

ผู้ตัดสัมพันธ์เค้นเสียงพูดหนึ่งประโยคออกจากลำคอ

“ข้าคือเจ้าหมิงหมิงองค์หญิงเก้าแห่งเผ่าจิ้งจอกหูเงินหิมะทอง ไม่ทราบว่าท่านทำเช่นนี้เพื่ออะไร”

ใครจะรู้ว่าเมื่อผู้ตัดสัมพันธ์ได้ยินชื่อนี้แล้วแต่ยังไม่ยอมรามือ กลับยิ่งโกรธมากกว่าเดิม

ที่แท้ ผู้ที่แอบปะปนเข้าไปในสำนักปากสอบในคืนวันวิวาห์ ก็คือเผ่าจิ้งจอกหูเงินหิมะทองนั่นเอง

เมื่อศัตรูเจอหน้ากัน จึงยิ่งเคียดแค้นเป็นพิเศษ

ผู้ตัดสัมพันธ์มือขวาถือดาบวางไว้ตรงหน้าอก แล้วพุ่งเข้ามาเพื่อฆ่าอีกครั้ง

ชั่วเวลาเดียว ผู้ตัดสัมพันธ์รวดเร็วดั่งสายลม ตั้งรับและโจมตีเจ้าหมิงหมิงที่ไม่ทันตั้งตัว

ถึงแม้นางจะอยู่ขั้นเฉิงตันแล้ว พลังการฝึกอยู่เหนือขั้นสุดยอดของปรมบุคคล ทว่าประสบการณ์การต่อสู้จริงกลับน้อยกว่าผู้ตัดสัมพันธ์อยู่มากโข…จึงเป็นฝ่ายเสียเปรียบอย่างเลี่ยงไม่ได้

เจ้าหมิงหมิงแปลกใจอย่างยิ่ง ตนมีพรสวรรค์ของเผ่าจิ้งจอก เมื่อครู่รู้สึกได้ถึงอันตรายที่อยู่ในความมืด หลบดาบตัดสัมพันธ์ ทว่าผู้ตัดสัมพันธ์ใช้ดาบฟันเข้ามาที่ตนอย่างแม่นยำได้อย่างไร

ไม่รอให้ครุ่นคิดอย่างละเอียด ผู้ตัดสัมพันธ์ฟาดฟันดาบเข้ามาอีกครั้ง

ดูเหมือนจะเป็นเพียงหนึ่งดาบ แต่ความจริงนั้นมีดาบฟันเข้ามาหกสิบสี่ครั้งติดต่อกันในชั่วพริบตาเดียว สกัดทางล่าถอยทุกช่องทางของเจ้าหมิงหมิง

“หลบไม่พ้นแล้ว…”

เจ้าหมิงหมิงขบฟันแน่น จากนั้นอ้าปากคายกระบี่ยาวออกมาเล่มหนึ่ง

และไม่รู้ว่าเป็นเพราะความบังเอิญหรือโชคชะตา

กระบี่เล่มนี้ นามว่ากระบี่ไร้ใจ

เมื่อกระบี่ไร้ใจปรากฏ เจ้าหมิงหมิงจึงโคจรพลังเฉิงตันภายในร่างกาย กระโดดไปข้างหน้า แล้วฟาดกระบี่ลงไป

กระบี่นี้ ภูเขาและคลื่นสะเทือนเลือนลั่น คละคลุ้งไปด้วยพลังอสูรในทันใด

ย้อนกลับมาดูที่ผู้ตัดสัมพันธ์ กลับไม่สนใจใยดีสักนิด

ยามที่ปราณกระบี่มาอยู่ตรงหน้า ทันใดนั้นจึงใช้ปากกัดดาบตัดสัมพันธ์ จากนั้นจับชายผ้ามุมหนึ่งห่อตัวด้วยมือเดียว แล้วดึงออกจากร่าง หมุนขึ้นเหมือนกังหันลม

เมื่อเจ้าหมิงหมิงปล่อยท่ากระบี่อันดุเดือดนี้ออกไป กลับถูกผ้าห่มหงส์คู่มังกรตัวสกปรกดูดซับพลังจนหมดสิ้น

ผู้ตัดสัมพันธ์ใช้มือขวารับดาบตัดสัมพันธ์ แล้วยืนนิ่งไม่ขยับ

ทันใดนั้น ดาบตัดสัมพันธ์ในมือเขาเกิดแสงวาบขนาดใหญ่ในทันใด ตัวดาบตัดสัมพันธ์ปรากฏอัสนีทมิฬเจ็ดสีดังสนั่นโครมคราม

“ดาบพิฆาตอสูรวงล้ออัสนี!”

เมื่อเห็นว่ากำลังจะเข้าสู่การโรมรัน ผู้ตัดสัมพันธ์ยิ่งโกรธ เงยหน้าตะโกนขึ้นฟ้า ปล่อยแสงโลหิตออกมา

ในใจเจ้าหมิงหมิงรู้สึกผิดปกติ ตนเป็นหนึ่งในสมาชิกเผ่าจิ้งจอกหูเงินหิมะทอง ในบรรดาของพลังห้าธาตุนั้นนางกลัวเพียงสิ่งเดียวคือพลังของธาตุไฟ และอัสนีทมิฬเจ็ดสีที่อยู่ในดาบพิฆาตอสูรวงล้ออัสนีนี้ยิ่งเป็นตัวขยายพลังแห่งไฟ สามารถควบคุมตนได้พอดี

ผู้ตัดสัมพันธ์ไม่ให้เวลานางได้หายใจ อัสนีทมิฬเจ็ดสีตอบสนองกับดาบขึ้นมา สายฟ้าสีเหลืองฟาดลงมาตรงๆ

เจ้าหมิงหมิงไร้ทางเลือกอื่น จำต้องใช้หางจิ้งจอกหนาใหญ่ของตนปกปิดร่างและต้านอัสนีทมิฬสีเหลืองไว้

นางไม่อยากใช้พลังมากเกินไป กลัวว่าหากปล่อยพลังอสูรของตนเยอะเกินไป จะทำให้คนสังเกตเห็น แต่ตอนนี้ยากที่จะทำตัวใจดี

“อา!”

ได้ยินเสียงดังสนั่นกลางอากาศในทันใด ตามด้วยเสียงคำรามของเจ้าหมิงหมิง ช่วงเวลาที่ขึ้นลงก็หมุนตัวกลับด้วยหนึ่งกระบี่

“วิญญาณนับหมื่นรวมตัว ตัดใจและธรรมทิ้งแล้วเกิดใหม่!”

เจ้าหมิงหมิงใช้พลังปลุกเสกของบรรพบุรุษจิ้งจอก รวบรวมพลังอสูรจากทุกทิศ ด้านหลังปรากฏป้ายวิญญาณบรรพบุรุษตระกูลจิ้งจอกหูเงินหิมะทอง จากนั้นเงาของจิ้งจอกจำนวนมากมายนับไม่ถ้วนลอยออกมาจากแถวแรกทันที รวมตัวอยู่ที่เฉิงตันภายในร่างกายของเจ้าหมิงหมิง อยู่บนกระบี่ไร้ใจ

ชั่วพริบตาเดียวประหนึ่งจิ้งจอกนับร้อยคำราม เสียงแหลมดังระงมไปทั่ว

ผู้ตัดสัมพันธ์ยังคงนิ่งเหมือนเดิม เพียงแต่แอบเคลื่อนพลังเล็กน้อย

เขาดันอัสนีทมิฬเจ็ดสีที่อยู่บนดาบตัดสัมพันธ์จนถึงขีดสุด แขนขวาเนื่องจากใช้พลังการควบคุมที่มากเกินไปจึงสั่นเล็กน้อย

“ฮึบ!”

ดาบตัดสัมพันธ์ กระบี่ไร้ใจ ดาบกระบี่ปะทะกัน!

เจ้าหมิงหมิงที่ยืมพลังนับร้อยปีกลับสลายหายไปภายใต้อัสนีทมิฬเจ็ดสี และแสงดาบของดาบตัดสัมพันธ์เริ่มหม่นลงเพราะการเผาผลาญดังกล่าว

ทั้งสองคนยากที่จะแยกว่าใครดีหรือแย่กว่ากัน

ผู้ตัดสัมพันธ์เห็นดังนั้น จึงกัดด้ามของดาบตัดสัมพันธ์อีกครั้ง คาบดาบตัดสัมพันธ์ไว้ในปาก

เจ้าหมิงหมิงคิดว่าเขาจะใช้ผ้าห่มหงส์คู่มังกรบนเตียงนั่นห่อหุ้มร่างกาย ดังนั้นจึงรีบถอยหลัง เพื่อเว้นระยะห่าง

แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ ผู้ตัดสัมพันธ์ปลดผ้าห่มหงส์คู่มังกร แล้วเริ่มร่ายรำอย่างรวดเร็วไปในทิศทางตรงกันข้ามกับครั้งที่แล้ว

เจ้าหมิงหมิงรู้สึกถึงพลังดึงดูดมหาศาลอย่างหนึ่ง จึงต้องปักดาบลงไปใต้ดินอย่างช่วยไม่ได้ เพื่อรักษาความสมดุล

จากนั้น นางใช้หางของตนสะบัดไปด้านข้าง เหมือนกับแส้เส้นหนึ่ง หวดไปที่เอวของผู้ตัดสัมพันธ์

ผู้ตัดสัมพันธ์เห็นหางจิ้งจอกโจมตีเข้ามา มือขวาที่กำลังร่ายรำผ้าห่มหงส์คู่มังกรกลับไม่หยุดแม้แต่นิดเดียว เพียงก้มหน้าไปที่หางจิ้งจอก จากนั้นเชิดคางขึ้นมา

ดาบตัดสัมพันธ์ในปาก สกัดหางจิ้งจอกที่บุกโจมตีเข้ามาได้อยู่หมัด

เจ้าหมิงหมิงเห็นว่าแส้หางกำลังจะหลุดมือก็รีบหมุนตัว ใช้หางจิ้งจอกพันกระบี่ไร้ใจที่ปักอยู่ใต้ดิน จึงสามารถยึดร่างได้มั่นคง สองมือเผยกรงเล็บออกมา

ศัตรูตัวฉกาจอยู่ตรงหน้า เจ้าหมิงหมิงจึงเปิดเผยตัวตนโดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น จำต้องใช้กระบวนท่าซึ่งเป็นพรสวรรค์แห่งเผ่าจิ้งจอกของนางออกมาต่อสู้

“กรงเล็บจิ้งจอกผีเสื้อระบำ!”

เจ้าหมิงหมิงเค้นพลังเฉิงตันทั้งหมดภายในร่างกายมายังกรงเล็บทั้งสองของตน เคลื่อนตัวซ้ายขวา ทะยานขึ้นลง ประหนึ่งผีเสื้อที่มาเก็บน้ำผึ้งยามดอกไม้บานสะพรั่ง เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา แฝงไปด้วยโอกาสในการสังหาร

ผู้ตัดสัมพันธ์เห็นเจ้าหมิงหมิงเปลี่ยนกระบวนท่าจึงเก็บผ้าห่มหงส์คู่มังกร มือขวาจับดาบตัดสัมพันธ์อีกครั้ง อ้าแขนกว้าง สกัดกั้นกรงเล็บทั้งหมดของเจ้าหมิงหมิง

เจ้าหมิงหมิงไม่กลายร่าง เปลี่ยนจากกรงเล็บเป็นกำปั้น

ถึงแม้ความเร็วจะลดลง แต่พลังหมัดดุดันกว่ากรงเล็บ

พลังแห่งหูเงินหิมะทองสิงร่าง เจ้าหมิงหมิงใช้หมัดสู้กับดาบตัดสัมพันธ์โดยไม่ด้อยกว่าแม้แต่น้อย

เวลานี้ พรสวรรค์ด้านสัญชาตญาณที่เป็นอสูรของเจ้าหมิงหมิงได้เปรียบอย่างเห็นได้ชัด

ถึงแม้ความสามารถของการต่อสู้ของนางจะไม่มากเท่าผู้ตัดสัมพันธ์ ทว่าตั้งแต่ประมือกันมาจนถึงตอนนี้ ตอนแรกนางเป็นฝ่ายเสียเปรียบแต่ตอนนี้กลับพลิกผันทั้งสองฝ่ายมีฝีมือพอๆ กัน เป็นเพราะนางจำทุกกระบวนท่าแต่ละครั้งของผู้ตัดสัมพันธ์ได้ รวมทั้งองศา ความแรง ความเร็วของกระบวนท่า ประกอบกับพรสวรรค์ของการับรู้ที่มีจำเพาะในเผ่าจิ้งจอกของนาง ตอนนี้จึงค่อยๆ สร้างความกดดันให้ผู้ตัดสัมพันธ์อยู่บ้าง

แม้พลังแห่งหูเงินหิมะทองจะถูกยับยั้งด้วยอัสนีทมิฬเจ็ดสี ทว่าพลังการฝึกตนของทั้งสองฝ่ายก็พอๆ กัน เจ้าหมิงหมิงพอกัดฟันยืนหยัดได้

ทว่านางรู้อยู่แก่ใจว่าไม่ใช่แผนในระยะยาว ดังนั้นจึงเค้นเฉิงตันภายในร่างมาที่ลำคอ เริ่มแอบสะสมพลังอสูร

“อู้…อา!”

เจ้าหมิงหมิงอ้าปากคำรามเสียงยาวใส่ผู้ตัดสัมพันธ์ พลังของการสังเวยเลือดที่เข้มข้นกลายเป็นจิ้งจอกแดงพุ่งไปยังด้านหน้าของผู้ตัดสัมพันธ์อย่างรวดเร็ว

“จิ้งจอกคำรามสังเวยสวรรค์”

ผู้ตัดสัมพันธ์ข้อมือสั่น ตัวดาบอัสนีทมิฬไร้สีหายวับไปทันที

“ดาบวายุไร้ขอบเขต!”

ลมกระโชกแรงพุ่งออกมาจากใต้ดาบตัดสัมพันธ์ ประหนึ่งระลอกคลื่นบนผิวน้ำ ทำให้รู้สึกไร้ขอบเขต ไม่มีจุดสิ้นสุด

เสียงจิ้งจอกคำรามของเจ้าหมิงหมิงค่อยๆ หายไปตามดาบวายุ เหมือนอยู่นอกโลกที่ไร้จุดสิ้นสุด…

“ฆ่า!”

ผู้ตัดสัมพันธ์พูดเสียงต่ำ

ผู้ตัดสัมพันธ์โจมตีด้วยลมแรงอีกครั้ง และแฝงไปด้วยพลังอาฆาตที่รุนแรง

เจ้าหมิงหมิงเพิ่งเข้าใจ เหตุใดถึงรู้สึกว่าไอสังหารก่อนหน้านี้มีความแตกต่างกัน ที่แท้ก็เป็นเพราะเหตุนี้

ผู้ตัดสัมพันธ์มองการแก้แค้นเป็นเพียงสิ่งเดียวของการมีชีวิตอยู่ของตน หากพูดจากความหมายอื่น ตัวเขาที่แท้จริง ตัวเขาคนเดิมนั้น ตายไปแล้ว

เหมือนตอนที่เขาพูดกับบัณฑิตจาง ขณะที่อยู่บนถนนเมืองติ้งซีอ๋อง

หัวใจของเขาตายไปแล้ว ดังนั้นจึงตัดสัมพันธ์

ร่างกายของเขายังมีชีวิตอยู่ เพื่อแก้แค้น

“เจ้าเก่งมาก…แต่ไม่สามารถขวางข้าได้มากพอ! เจ้า เป็นแค่จุดเริ่มต้นของการทำลายเขาเรียงรันเท่านั้น!”

ผู้ตัดสัมพันธ์เอ่ย

ทันใดนั้นก็หมุนดาบออกไป พุ่งตรงไปยังหัวใจของเจ้าหมิงหมิง!

เจ้าหมิงหมิงหลบไม่ทันจึงต้องชักมือทั้งสองข้างกลับมา ปกป้องหัวใจ

“อ้า!”

ผ่านปลายดาบ เลือดสดไหลออกมา…

หลังมือทั้งสองข้างมีรอยดาบปรากฏเป็นทาง

นี่คือการได้รับบาดเจ็บครั้งแรกของนาง…

มองรอยแผลและเลือดสดบนหลังมือ เจ้าหมิงหมิงรู้สึกเหม่ออยู่บ้าง

เหมือนว่าความดุร้ายที่ซ่อนอยู่ในสายเลือดถูกปลุกให้ตื่นขึ้นเพราะเลือดสดและความเจ็บปวดนี้ เจ้าหมิงหมิงค้อมตัวลง สองมือยันพื้น แสยะยิ้มมุมปาก ฟันเริ่มแหลมคมขึ้น

เหมือนว่าวินาทีถัดมา ร่างเดิมได้ฟื้นฟูกลับมาอย่างสมบูรณ์

ผู้ตัดสัมพันธ์เห็นดังนั้นจึงไม่รอช้า

กลายร่างเป็นอสูร หลังจากฟื้นฟูร่างเดิมแล้ว ถึงจะเป็นตอนที่มีพลังต่อสู้ได้อย่างเต็มที่

พลังรอบตัวเขาเริ่มเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง ไอสังหารก่อนหน้านั้นยิ่งเข้มข้นขึ้น เพิ่มระดับการฝึกตนถึงจุดสูงสุดเหมือนจะบรรลุขั้นปรมบุคคล ห่างจากขั้นบรมภูมิอีกนิดเดียว

“นี่คือวิชาดาบที่ข้าตื่นรู้ในคืนวันวิวาห์…วันนี้ มันเพิ่งได้ปรากฏตัวครั้งแรก ในเมื่อเจ้าคืนร่างเดิมแล้ว เช่นนั้นจะใช้ดาบนี้ฆ่าเจ้าได้พอดี!”

ผู้ตัดสัมพันธ์นำพลังพิฆาตทั้งร่างส่งไปที่แขนขวา จากแขนขวาไหลเข้าสู่ดาบตัดสัมพันธ์

เมื่อสูญเสียความรู้สึก แต่ยังมีความคิดถึง และเมื่อสูญเสียวิญญาณ ทุกอย่างจึงสิ้นสุดลง…

“ดาบผนึกวิญญาณซ่อนวิญญาณ!”

ผู้ตัดสัมพันธ์ฟันดาบใส่เจ้าหมิงหมิง

เขาไร้ความลังเลใดๆ ในดวงตาเต็มไปด้วยความเด็ดเดี่ยวรวมทั้ง…รอยยิ้มเล็กๆ

นั่นคือความรู้สึกสะใจและมีความสุข

เหมือนภูเขาลูกหนึ่งที่ทับหัวใจ วันนี้ได้ย้ายก้อนหินยักษ์ออกจากภูเขาแล้ว ถึงแม้จะไม่หมดสิ้น แต่ก็ดีกว่าเมื่อก่อน

“ห้ามทำร้ายคุณหนูของข้า!”

เสียงนุ่มๆ ดังผ่ากลางอากาศ ส่งเข้ามาในหูของผู้ตัดสัมพันธ์

เกาลัดคั่วน้ำตาลกระโดดลงมาจากกลางอากาศ กางแขนสองข้างอย่างมั่นคงยืนอยู่ตรงหน้าเจ้าหมิงหมิงโดยใช้ร่างบังดาบ

พร้อมกับความเด็ดเดี่ยวในแววตาเช่นกันรวมทั้ง…รอยยิ้มเล็กๆ

นางดีใจในที่สุดตนได้ช่วยคุณหนูแล้ว

แม้นางจะไม่ค่อยเข้าใจว่าหากดาบนี้แทงเข้าไปแล้ว นางต้องตาย

แต่นางรู้สึกว่าตนสมควรทำเช่นนี้

ไม่มีเหตุผล ไม่ถามผลลัพธ์

แม้จะรู้ว่าหลังจากตายแล้วจะไม่ได้กินเกาลัดคั่วน้ำตาลอีก นางก็ยอม

ต่อให้นางเลือกใหม่อีกหนึ่งร้อยครั้ง ผลสุดท้ายก็เป็นเช่นนี้

นางแค่นึกเสียใจ ทำไมวันนี้ตอนกลางวันไม่กินเกาลัดคั่วน้ำตาลสักสองถุง…

“ดูเหมือนดาบนี้จะสุดยอดมาก…ข้าน่าจะรับได้กระมัง…”

เกาลัดคั่วน้ำตาลหลับตา

ใช่ว่านางจะไม่กลัว เพียงแต่นางกลัวว่าคุณหนูของตนจะกลัวมากกว่า

นางไม่อาจทนเห็นคุณหนูได้รับบาดเจ็บใดๆ และไม่สามารถยอมรับช่วงเวลาที่คุณหนูไม่อยู่ได้อีก…หากเป็นเช่นนี้ตนขอตายก่อน จะได้ไม่เหงาขนาดนั้น

“คุณหนู…อย่าลืมนำข้ากลับไปที่ฝังที่เขาเรียงรันนะเจ้าคะ ข้าไม่อยากตายแล้วถูกคนประณาม…และ…อย่าลืมต้องไปเยี่ยมข้าบ่อยๆ เอาเกาลัดคั่วน้ำตาลมาให้ข้าด้วย…ข้าต้องการของหลี่จี้ที่หัวเมืองรัฐติง ถึงแม้จะอยู่ห่างจากเขาเรียงรันบ้าง แต่มันอร่อยจริงๆ! คุณหนูท่านอย่ารู้สึกรำคาญนะเจ้าคะ อย่าซื้อจากที่อื่นมาหลอกข้า…เฮ้อ ช่างเถอะ ตายแล้วคงกินไม่รู้รสชาติหรอก ที่ไหนก็เหมือนกัน อย่างนั้นคุณหนูไม่ต้องวิ่งไปซื้อไกลขนาดนั้นแล้ว อันตรายเกินไป หาจากที่อื่นก็พอแล้ว ไม่ต้องคั่วน้ำตาลก็ได้ เกาลัดดิบก็ได้เจ้าค่ะ”

เกาลัดคั่วน้ำตาลหลับตา พูดกับตัวเองเป็นกอง

ผ่านไปสักพัก ในใจของนางรู้สึกผิดปกติ

เหตุใดไม่มีความรู้สึก หรือว่าตายกับอยู่ก็เหมือนกัน ไม่แตกต่างอะไรมาก เช่นนั้นตนยังสามารถกินเกาลัดคั่วน้ำตาลของหลี่จี้ได้ใช่หรือไม่!

“เหตุใดถึงเก็บดาบ”

เจ้าหมิงหมิงย้อนกลับสภาพเดิมพลางถาม

“นางไม่ใช่เผ่าจิ้งจอก ข้าไม่ฆ่าคนที่ไม่เกี่ยวข้อง”

ผู้ตัดสัมพันธ์กล่าว

พลังสุดยอดที่รวมตัวอยู่ในร่างกายมลายหายไปในชั่วพริบตา จากนั้นจึงเดินซอยเท้าหายเข้าไปในความมืด

หลังจากหมุนตัวแล้ว เขาหันกลับมาเหลือบตามองเกาลัดคั่วน้ำตาลเล็กน้อย

……………………………………………………………………….

ศึกยุทธ์ใต้ขุนเขาเงาจันทรา

ศึกยุทธ์ใต้ขุนเขาเงาจันทรา

Status: Ongoing
ด้วยภารกิจสำคัญที่ได้รับมา เขาจึงมุ่งหน้าสู่แดนพายัพ โดยไม่รู้เลยว่านั่นคือจุดเริ่มต้นของการก้าวเข้าสู่วิถีแห่งเซียนและการต่อสู้!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน