ฉันไม่พอใจมาก
เดิมที่แล้วฉันไม่ได้ถูกจัดตารางให้มาปรากฏตัวในงานวันนี้
อ่อ งานนี้คืองานคอมมิกเก็ตย่อมาจากคอมมิกมาร์กเก็ตที่จัดที่นี้ ยังไงก็ตามวีทูปเบอร์ทำงานจากห้องอีกห้องที่สาขาโตเกียวของเรา
ฉันว่างแผนว่าจะไปที่งานวันนี้ที่เป็นวันหยุดของฉัน
ทั้งๆที่ยูกะจังแล้วก็คนอื่นๆมีบูทในวันแรกแท้ๆ
บริษัทของเรา อิมานาจิ ร่วมมือจัดกิจกรรมกับบูทที่เป็นคู้ค้ากันขายสินค้าและแจกตั๋วสำหรับเข้ารวมกิจกรรมพิเศษโดยการจับฉลากจากคนที่ลงทะเบียนไว้
กิจกรรมพิเศษนั้นคือกิจกรรมจับมือแบบเวิลชวล
ถึงมันจะเป็นเหมือนแค่บริการที่คุณสามารถพูดคุยกับวีทูปเบอร์ได้ประมาณสามนาทีก็เถอะ
พวกคุณจะเลือกใช้สิทธิของคุณได้จากวีทูปเบอร์จากบริษัทที่จะวนมาวันละ 10 คน
แต่ไปที่บูทนั้นในวันที่วีทูปเบอร์ของคุณมาและพบเจอกับพวกเขา
มันเปิดอยู่แค่ช่วงเวลาเดียวเท่านั้นเพราะงั้นอย่าลืมไปจะดีกว่านะ
ตอนแรกฉันถูกจัดตารางไว้ในวันที่สอง
แต่! ฉันก็! มาอยู่! ตรงนี้!
“ทำไมอยู่ๆฉันก็ถูกจัดมาอยู่วันแรก?!”
“ฉันต้องขอโทษจริงๆนะ!”
ผู้จัดการขอโทษอย่างสิ้นหวัง แต่การที่ไม่มีโอกาสได้ซื้อหนังสือและคลิปเสียงของยูกะจังที่บูทมันโหดร้ายเกินไปแล้ว!
“ฉันอุสาสำรวจเส้นทางตั้งหลายรอบ….”
ฉันอยากร้องไห้
“ฉันหาทางจัดหาหนังสือชุดใหม่และโค๊ดสำหรับคลิปเสียงให้ตามที่เธอต้อง! ฉันขอร้องหละ!”
“แล้วทำไมตารางวันจับมือของฉันถึงไม่เหมือนกับวันที่คุณบอกฉันหลาาาา? ….อีกสองวันฉันว่างใช่ไหม?”
“แน่นอน สาบานเลย!”
“ถ้างั้นช่วยทำยังไงก็ได้เอาชุดหนังสือนั้นมาให้ฉัน… แต่ต้องไม่ซื้อจากพวกที่เอามาขายต่อนะ ฉันอยากจะซื่อตรงกับเรื่องนั้น ถ้าคุณหามันไม่ได้ ฉันจะเคืองมากๆเลย!”
“ฉันรู้จักคนที่ได้ไปงาน ฉันจะลองถามพวกเขาดู…”
“ฉันคาดหวังกับคุณนะผู้จัดการ! ถ้างั้นฉันไปหละ….”
“ฉันขอโทษจริงๆนะ!!!!”
“ฉันจะไม่ลืมเรื่องนี้เลย!!! …แต่ฉันไม่ทำให้งานมันแย่หรอกนะ ฉันนะเป็นวีทูปเบอร์ที่มีชื่อเสียงนะ”
แล้วฉันก็เข้าไปในห้องที่เตรียมเอาไว้ให้ฉันทั้งแบบนั้น
*****************
ใช้โอกาศจากการที่ได้หยุดช่วงโอบ้ง ฉันตัดสินใจที่จะมางานคอมมิกเก็ตเป็นครั้งแรก
แน่นอนว่าฉันตั้งใจจะมาเพื่อซื้อหนังสือของยูกะจังและคลิปเสียง ASMR ของเธอ ซึ่งฉันอดใจรอไม่ไหวแล้วหละ!
จะทำยังไงดีนะถ้าฉันไม่ได้ซื้อมัน?!
แต่ว่านะฉันบอกพ่อแม่ของฉันว่าฉันต้องมาถ่ายแบบที่โตเกียว
ฉันมีงานจริงๆนะ แต่มันเป็นวันพรุ่งนี้!
ใช่! ฉันไม่ได้โกหกพวกเขา!
ฉันแค่มาเร็วไปนิดหน่อยเอง!
แต่หลังจากดูข้อมูลในอินเตอร์เน็ตล้วงหน้า ฉันก็ต้องอึ่งจบขยับตัวไม่ได้
จำนวนผู้เข้ารวมงานในครั้งนี้ถูกคาดเดาไว้ว่าจะมาเป็นล้านคน
ฉันไม่รู้เลยว่ามีเยอะขนาดนี้มางานคอมมิกเก็ต
แต่ฉันไม่ยอมแพ้หรอกนะ!
ฉันจะต้องเอาหนังสือของยูกะจังมาให้ได้!
“เห้อ…ร้อน..มาก…”
พวกคุณคิดว่าตอนนี้ฉันอยู่ไหน?
หืม? โตเกียวบิ๊กไซท์? (ผู้แปล : ที่จัดงานคอมมิกเก็ต)
ผิดแล้ว
ฉันอยู่ในนรก
นรกฝูงคนใต้พระอาทิตย์ที่แผดเผา
“ฉันไม่น่าใส่ชุดแบบนี้มาเพราะไม่อยากถูกแดดเผาเลย…”
ใช่แล้วสำหรับนางแบบแล้วการถูกแดดเผา เป็นอะไรที่ยอมไม่ได้เลย
แม้อากาศจะเป็นแบบนี้ ฉันก็ใส่เสื้อแขนยาวและกระโปรงยาว
แน่นอนว่าฉันทาครีมกันแดดที่แขนและหน้าของเป็นการป้องกันอีกขั้นหนึ่ง
“ฉันคิดถึงที่มาแต่เช้าแต่ว่าฉันจะรอดไหมเนี้ยสิ”
ฉันจะต้องรออยู่ในนรกนี้จนกว่างานจะเริ่ม
หลังจากรอมาหลายชั่วโมง ฉันชื่มชมตัวเองที่ทำเอาเครื่องดื่มมาเยอะเพื่อไม่ให้เป็นลมแดด
ทำไมนะหรอ?
เพราะว่าคนรอบๆฉันที่ไม่ได้เตรียมตัวมาเริ่มจะเป็นลมแดดกันแล้วยังไงหละ
พอเห็นแบบนั้นฉันถึงเข้าใจว่าการเตรียมตัวที่เหมาะสมสำคัญแค่ไหน
แล้วฉันก็ต้องกลั่นหายใจเมื่อได้เห็นอุณหภูมิตอนนี้
38 องศาเซลเซียส? มันร้อนยิ่งกว่าอุณหภูมิตัวฉันอีก
ตอนที่ฉันกำลังคุยกับตัวเองอยู่นั้น เสียงตบมือก็ตังขึ้นรอบๆ
ฉันไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่ฉันก็ตบมือไปด้วย
ตอนนั้นเองแถวก็เริ่มขยับไปข้างหน้า
ในที่สุดฉันก็เข้าไปในงานได้!
แต่ฉันไม่อยากให้คนเห็นฉันที่ตัวเปียกไปด้วยเหงื่อ…
หลังจากผ่านไป 1 ชั่วโมง ฉันก็มาถึงบูทของอาจารย์ยูรุ
มีคนรออยู่เยอะมาก ฉันกังวลมากว่าพวกเขาจะขายหมดก่อน แต่มันคงไม่เป็นแบบนั้นหรอก ละมั้ง
แถวขยับเร็วกว่าที่ฉันคิด แค่ 30 นาที่ มันถึงคิวของฉัน
ฉันไม่รู้จักเด็กสาวที่อยู่ตรงหน้าฉัน
เธอไม่น่าจะใช่อาจารย์ยูรุ เธอเป็นใครกันนะ?
อาจจะเป็นผู้ช่วยของพวกเขาละมั้ง?
“ขอหนังสือรุ่นจำกัดจำนวน 1 ชุดค่ะ!”
“ได้เลย! หนังสือรุ่นจำกัดจำนวน 1 ชุด! เป็น 1500 เยนค่ะ!”
ฉันส่งเงิน 1500 เยนที่เตรียมไว้ให้ไป
“ขอบคุณที่อุดหนุน!”
“ขอบคุณ!”
ฉันออกมาจากงานอย่างร่าเริง
ฉันอยากจะเจอยูกะจังเหมือนกัน แต่ถ้าฉันฝืนอยู่ในงานต่อฉันไม่น่ารอด…
ฉันแอบถ่ายรูปตอนที่เธอยืนอยู่ที่ตรงนั้น แต่ฉันก็อยากจะถ่ายแบบใกล้ๆด้วย
กลับมาที่โรงแรม ฉันอาบน้ำแล้วนั่งลงเปิดคลิปเสียงฟัง
ฉันฟังโดยชาร์ตโทรศัพท์ของฉันไว้ด้วยบนเตียง มันจะได้ไม่มีปัญหาอะไรถ้าฉันเผลอหลับไป
หัวใจของฉันเต้นรัวด้วยความตื่นเต้น
แล้วฉันก็กดปุ่มเริ่ม…
[โอเน่จัง วันนี้ทำได้ดีมากเลยน้า]
ฉันได้ยินเสียงของยูกะจัง
[พี่ดูเหนื่อยมากเลย พี่โอเคไหม?]
[หืม พี่อยากนอนด้วยกันหรอ? ผมไม่แน่ใจแล้วว่าใครกันแน่ที่เป็นโอเน่จัง]
ยูกะจังหัวเราะคิดคัก
ฉันรู้สึกเหมือนว่ากำลังจะเป็นลม
[โอเค มานี้สิ!]
ฉันได้ยินเสียงฟู่ดังคลุกคลัก
มันเหมือนกับว่ายูกะจังอยู่ข้างๆฉันๆ
[ขอบคุณที่ทำงานหนักมาตลอดนะ โอเน่จัง]
[ผมขอโทษที่ผมทำได้แค่ปลอบพี่แบบนี้นะ]
[หยุดเลยนะโอเน่จัง! มันจักจี้!]
ตัวฉันในคลอปเสียงกำลังทำอะไรอยู่เนี้ย?!
[พี่ไม่ได้จักจี้ผม? ถ้าพี่พูดแบบนั้น…]
ฉันได้ยินเสียงเหมือนมีคนกำลังลูบผม
[ทำไมอยู่ๆก็มาลูบหัวผมแบบนั้นหละ โอเน่จัง ฮิฮิ]
มันคงเป็นเสียงฉันลูบหัวเธอ
[แต่ก็ขอบคุณน้า รักโอเน่จังที่สุดเลย!]
อ่าาาา ฉันทนไม่ไหวแล้ว
[อะเอาหละ ฝันดีน้า โอเน่จัง!!!]
ฉันได้ยินเสียงเหมือนใครดึงผ้าห่มไปแล้วเสียงลมหายใจของยูจังก็ดังขึ้นเบาๆ
[ฟี้…ฟี้…]
“ฟี้…ฟี้…”
ก่อนจะรู้ตัวฉันก็หลับไปแล้ว เสียงลมหายใจของฉันผสานเป็นจังหวะเดียวกันกับยูกะจัง
**************
หลังๆคนเขียนไม่ได้ใส่แล้วว่าเป็นมุมมองของใคร แต่ก็เดาไม่ยากเท่าไหรนะครับ
ใครที่สนใจยังสามารถกดติดตามเพจได้นะครับ ผมเริ่มประกาศลงนิยายตอนใหม่ที่ทางนั้นแล้วครับ
-A Cup of Owls